เพื่อนบ้านผมคือคุณหนูสาวแสนสวย – ตอนที่ 17 คุณหนูสาวได้ยินหมดแหละ

เพื่อนบ้านผมคือคุณหนูสาวแสนสวย

ตอนที่ 17 คุณหนูสาวได้ยินหมดแหละ

 

เธอหอบหายใจเหนื่อยอ่อนเล็กน้อย

 

เนื่องจากเธอกดให้ลิฟต์มันหยุดที่ชั้น 4 ก่อนจะวิ่งขึ้นบันไดแทน เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะปิดประตูไม่ให้เธอเข้าห้อง แน่นอนว่าความกังวลของเธอเป็นจริง พอเธอขึ้นบันไดมาและวิ่งไปที่ห้องของเขา

 

อีกฝ่ายก็เตรียมปิดประตูเรียบร้อยแล้ว ถ้าเธอไม่เรียกเอาไว้ก่อน มีได้เคาะประตูร้องเรียกให้เขาเปิดประตูแน่นอน เผลอ ๆ กว่าเขาจะปล่อยให้เข้าไปอาจได้ยืนรอเป็น 10 นาที

 

คุณหนูสาวนั่งหมอบบนโต๊ะขณะบ่นกล่าว

 

“…”

 

“นะ เหนื่อย”

 

“…”

 

“เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว~”

 

“วันหลังไม่เอาแล้วนะ~”

 

“ไม่เอาแล้ว~”

 

คุณหนูสาวหอบเหนื่อยอ่อน

 

ขณะนอนหมอบอยู่บนโต๊ะ หล่อนยังเหลือบมองเจ้าผู้ชายที่ไม่รู้จักความละเอียดอ่อน ไม่รู้จักเอาอกเอาใจหล่อนที่เป็นสุดยอดสาวงาม เพียงแค่นึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่หล่อนก็เกิดหงุดหงิดอีกครั้ง

 

หงุดหงิดจนอยากจะทำอะไรสักอย่างสร้างความลำบากให้อีกฝ่าย

 

…‘เกิดมาทั้งชีวิต’

 

…‘นี่เป็นครั้งแรกเลยที่โดนแกล้ง’

 

…‘น่าเจ็บใจชะมัด’

 

“…”

 

ขณะที่คุณหนูสาวกำลังจมจ่อมอยู่ในห้วงความคิด

 

ชายหนุ่มร่างสูงก็เดินกลับมาที่โต๊ะที่คุณหนูสาวเมญ่านอนหมอบ แน่นอนว่าเขาไม่ได้มาตัวเปล่า แต่ยังมีแก้วน้ำติดมาด้วย ด้านในบรรจุน้ำชาที่ปลดปล่อยกลิ่นหอมและไอร้อนแผ่วเบา

 

ทราเวียร์ก้มหน้ามองกล่าวถาม

 

“…”

 

“น้ำชาไหมครับ?”

 

“…”

 

แก้วน้ำชาวางเบื้องหน้าของหล่อน

 

หล่อนกะพริบตามองและสูดกลิ่น มันหอมมาก เธอเงยหน้ามองเขาด้วยสายตาแปลกประหลาด มองจนทราเวียร์รู้สึกไม่ชอบใจเป็นที่สุด ด้วยความสงสัยใคร่รู้เขาเลยเปิดปากถาม

 

ถามหล่อนกลับไปว่ามองเพื่ออะไร

 

“มองอะไร?”

 

“…”

 

“คุณ”

 

“…”

 

“ชงชาเป็นด้วยเหรอคะ?”

 

คำถามแย่แล้วใบหน้ายิ่งแล้วใหญ่

 

สีหน้าคุณหนูสาวแสนสวยเบื้องหน้า เหมือนกับว่ากำลังมองสัตว์แปลกประหลาดหายากตามป่าเขา หนังตาชายหนุ่มร่างสูงกระตุกหลายต่อหลายครั้ง เขาแทบจะอดทนอดกลั้นต่อไปไม่ไหว

 

ที่จะใช้ฝ่ามือฟาดเข้ากลางกระบาลของหล่อน

 

…‘ยัยนี้’

 

“…”

 

“ไม่อยากดื่ม”

 

“ก็ไม่ต้องดื่ม”

 

“เอาคืนมา”

 

“…”

 

“อย่านะ!”

 

“แค่ล้อเล่นค่ะ!”

 

“ล้อเล่นนิดหน่อยเอง!”

 

“…”

 

“เอาคืนมา!”

 

ปากมากไม่เข้าเรื่อง

 

ในเมื่อหาเรื่องมากนักก็ไม่ต้องดื่ม ทราเวียร์พยายามพุ่งฝ่ามือเข้าไปคว้าเอาแก้วน้ำชาของตัวเองคืนมา ไอ้เขาก็อุตส่าห์พยายามต้อนรับขับสู้เต็มที่ แต่หล่อนกับหยอกล้อความตั้งใจของเขา

 

มันช่างน่าด่าให้เข็ดหลาบ

 

“…”

 

“กลมกล่อม~”

 

“…”

 

“กลมกล่อมมากค่ะ”

 

“อร่อยมาก”

 

“อย่างที่คิดนี่มันอร่อยจริง ๆ นะ~”

 

“…”

 

“เสแสร้ง”

 

ทราเวียร์ขบริมฝีปากแน่น

 

ท่วงท่าท่าทีที่หญิงสาวแสดงออกมาให้เห็น อย่าว่าแต่มองด้วยสายตาเปล่า มองจากดาวอังคารก็ยังรับรู้ได้เลยว่าช่างกวนประสาทเหลือเกิน คุณหนูสาวเมญ่าหลังจากดื่มเสร็จหล่อนกะพริบตาน่ารัก

 

และเงยหน้ามากล่าวต่อคล้ายเด็กกำลังหลีกเลี่ยงความผิด

 

“…”

 

“คือ”

 

“…”

 

“เตือนด้วยความเป็นห่วงดี”

 

“ทานอาหารไม่ตรงเวลา”

 

“มันไม่ดีต่อสุขภาพนะคะ”

 

“…”

 

“ดิฉันพูดจริงนะ”

 

“…”

 

“ไม่เชื่อเปิดหาดูตามเว็บได้เลย”

 

“…”

 

“กลับไปทำอาหารต่อเถอะค่ะ”

 

รอยยิ้มขี้เล่นยังไม่เลือนหายจากไป

 

ทำเอาชายหนุ่มร่างสูงที่หงุดหงิดเดือดดาลอยู่แล้ว หงุดหงิดหนักหน่วงเพิ่มเติมไปอีกหลายเท่าทวีคูณ แต่ด้วยเพราะทำอะไรไม่ได้เขาเลยจำต้องอดทนอดกลั้นต่อไป อดทนเพื่อรอคอยโอกาส

 

โอกาสหวนคืนเล่นงานคุณหนูสาวให้หน้าหงาย

 

“…”

 

“ปากมาก”

 

“…”

 

แต่กว่าจะถึงตอนนั้น

 

ก็คงต้องยินยอมโอนอ่อนไปตามระเบียบก่อน แน่นอนว่าคุณหนูสาวหาได้หัวสมองโง่งมโง่เขลา หล่อนเองก็รับรู้ห้วงอารมณ์ความรู้สึกที่อัดแน่นอยู่ในใจอีกฝ่าย แต่ถามว่าจะหยุดหยอกล้อไหม

 

ก็คงต้องบอกเต็มปากเต็มคำว่าไม่มีทาง ไม่มีทางแน่นอน

 

…‘ก็ออกจะน่าแกล้งขนาดนั้นนิ~’

 

…‘ใครจะไปอดใจได้ไหว~’

 

…‘ว้าว โดนมองตาขวางใส่อีกแล้ว~’

 

“…”

 

 

ระหว่างรอคอย

 

เมญ่ายิ้มหยิบจับแก้วน้ำชาขึ้นมาดื่มต่อ

 

ก่อนจะเหลือบมองชายหนุ่มที่กำลังต้มข้าวต้ม เธอยิ้มขณะกวาดสายตามองไปโดยรอบ ทุกสิ่งอย่างก็ยังเหมือนเดิม ก่อนสายตาของเธอจะเหลือบไปเห็นกรอบรูป

 

เห็นกรอบรูปที่คว่ำเหมือนครั้งก่อนหน้าที่เธอมา

 

“…”

 

แม้ทุกสิ่งอย่างจะเหมือนเดิม

 

แต่ห้วงอารมณ์ความรู้สึกที่อัดแน่นอยู่ในจิตใจของหล่อนมันไม่เหมือนเดิม ไม่มีเหมือนเดิมเลยแม้แต่น้อย สีหน้ายินดียิ้มร่าเริงในตอนแรก หายไปไม่มีหลงเหลือ

 

ดวงตาของหล่อนกระตุกเล็กน้อยก่อนสีหน้าจะแปรเปลี่ยนกลายเป็นราบเรียบ ทั้งยังมองกรอบรูปค้างอยู่อย่างนั้นค่อนข้างนานนานจนผิดสังเกต มองนานจนใครบางคนต้องกล่าวเตือน

 

เสียงมีดสับลงบนเขียงชักนำดึงสติของหล่อนกลับมา

 

ตึง!

 

“…”

 

“!!!”

 

“…”

 

เธอกะพริบตามองเผยรอยยิ้มแห้ง

 

จังหวะเมื่อครู่ราวกับรู้อยู่แล้วว่าเธอคิดอะไรอยู่ แต่เธอก็เก็บความคิดนั้นไม่มีเปิดเผยอีก และพอเงยหน้ามองแผ่นหลังของเขา มันกับดูให้อารมณ์รู้สึกโดดเดียวเศร้าหมองขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

 

เมญ่ามองนิ่งแข็งค้างอยู่ครู่หนึ่ง

 

“…”

 

ก่อนจะวางแก้วน้ำชาลง

 

และเดินก้าวเท้าเดินเข้าไปหาชายหนุ่มร่างสูงทราเวียร์ เดินเข้าไปกล่าวถามขณะอีกฝ่ายกำลังยุ่งวุ่นวายกับเนื้อในหม้อ เมญ่ากัดปากตัวเองแน่น

 

พร้อมบอกมีอะไรให้ช่วยเหลือไหม

 

“มีอะไรให้ช่วยไหมคะ?”

 

“…”

 

“ดิฉันอยากจะช่วยบ้าง?”

 

“นั่งทำตัวเป็นแขกอย่างเดียว”

 

“มันดูไม่ดีสักเท่าไหร่”

 

“…”

 

“ตะ แต่ถ้าไม่อยากให้ช่วย”

 

หล่อนหลบเลี่ยงสายตาไม่กล้ามอง

 

ส่วนทางด้านทราเวียร์เขาเพียงนิ่งเงียบ และเงียบอย่างเดียวไม่มีตอบสนองเป็นอย่างอื่น ก่อนจะทอดถอนหายใจออกมาแผ่วเบา พลางส่ายหน้าเบื่อหน่ายกับบางสิ่งอย่าง

 

ก่อนจะกล่าวบอกให้หล่อนไปจัดโต๊ะ

 

“จัดโต๊ะให้ผม”

 

“…”

 

“จัดโต๊ะ?”

 

“ครับ แค่จัดโต๊ะอย่างเดียวก็พอ”

 

“ทำได้ใช่ไหม?”

 

“…”

 

“ทะ ทำไมต้องมองดิฉันด้วยสายตาแบบนั้นล่ะ”

 

“…”

 

“ดิฉันทำเป็นนะ”

 

คุณหนูเมญ่าบ่นออกมาไม่มีหยุดหย่อน

 

ขณะฝ่ามือขาวเนียนเริ่มทำการจัดโต๊ะตามที่ชายหนุ่มทราเวียร์สั่งการ แน่นอนว่าในระหว่างที่หล่อนกำลังจัดโต๊ะ ชายหนุ่มร่างสูงกับทอดถอนหายใจด้วยอารมณ์ที่แปลกแยกไปจากที่เคย

 

ก่อนเขาจะเผลอหลุดความในใจของตัวเอง

 

“ห่วงอะไรไม่เข้าเรื่อง”

 

“…”

 

“ไม่ได้ห่วงสักหน่อย”

 

ตลอดเนื้อตัวชายหนุ่มร่างสูงพลันแข็งค้าง

 

บรรยากาศเรียกได้ว่าเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือไปในทันที ดวงตาที่เคยแหลมคมกับกลายเป็นกระอักกระอ่วมทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ อย่างว่าละนะ ใครจะไปคิดละว่าเธอจะได้ยิน

 

สุดท้ายปลายทางทราเวียร์ก็เลือกนิ่งเงียบปล่อยผ่านให้มันผ่านไป

 

…‘เวรกรรมดันได้ยินอีก’

 

…‘ยัยคุณหนูหูผี’

 

…‘ทำสายตาน่าหมั่นไส้ชะมัด’

 

“…”

 

เพื่อนบ้านผมคือคุณหนูสาวแสนสวย

เพื่อนบ้านผมคือคุณหนูสาวแสนสวย

Status: Ongoing

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท