เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค – ตอนที่ 527 ประลองฝีมือ หลูเจิ้งหยางปรากฏตัว (4)

ตอนที่ 527 ประลองฝีมือ หลูเจิ้งหยางปรากฏตัว (4)

ส่วนหนิงเซ่าชิงที่จัดหาที่พักให้มั่วเชียนเสวี่ยเรียบร้อยแล้ว ก็ดูบัญชี ส่งจดหมาย สะสางภาระงานต่างๆ อยู่ในห้องหนังสือ

“หัวหน้าตระกูล มีแขกมาขอรับ!”

เตาหนูที่ยืนปฏิบัติหน้าที่อยู่ข้างนอก ยังเอ่ยไม่ทันจบ ผู้มาเยือนก็บุกเข้าไปในห้องหนังสือของหนิงเซ่าชิงแล้ว เห็นได้ชัดเลยว่า นี่เป็นเรื่องเคยชินของผู้มาเยือน

“เซ่าชิง! ข้ามาถึงเมืองหลวงก็มาหาเจ้าเป็นคนแรก ระยะนี้เป็นอย่างไรบ้าง ดื่มด้วยกันสักจอกไหม”

หนิงเซ่าชิงเอ่ยหน้าขึ้นจากกองเอกสารบัญชี ในตอนที่เห็นผู้มาเยือน ก็ตะลึงไปทันที!

“พี่หลู? ท่านไม่ได้ท่องเที่ยวไปทั่ว ใช้ชีวิตอย่างมีอิสรเสรีในยุทธภพหรอกหรือ ทำไมถึงได้กลับมาเมืองหลวงเร็วขนาดนี้?”

เอ่ยจบ เขาก็ลุกขึ้นจากหลังโต๊ะหนังสือ เร่งฝีเท้าไปตรงหน้าผู้มาเยือน พลางก้าวขึ้นไปกระแทกหมัดเข้ากับทรวงอกของผู้มาเยือน โดยไม่พูดพล่ามทำเพลงใดๆ!

ผู้มาเยือนย่อมเป็นหลูเจิ้งหยาง!

หลูเจิ้งหยางก็กระแทกหมัดใส่หนิงเซ่าชิงไปครั้งหนึ่งเช่นกัน จากนั้นทั้งคู่ก็กอดกัน!

“ฮ่าๆ! ท่องเที่ยวใต้หล้าไม่สนุก ใช้ชีวิตอย่างมีอิสรเสรีในยุทธภพขาดเจ้าไป จึงขาดความสนุกไปเล็กน้อย ข้าคิดถึงเจ้า จึงตรงกลับมาเยี่ยม!”

น้ำเสียงเบิกบานใจ ความห้าวหาญที่มิได้เสแสร้ง สีหน้าท่าทางเช่นนั้นให้ความรู้สึกสนิทสนมยิ่งกว่าพี่น้องแท้ๆ ถึงสามส่วน

หนิงเซ่าชิงยิ้มน้อยๆ เดินไปที่โต๊ะด้านข้างอีกด้านพร้อมกับเขา หลังจากให้หลูเจิ้งหยางนั่งลงแล้ว ถึงได้ถามว่า “กลับมาครั้งนี้ ตั้งใจจะไปอีกเมื่อใดหรือ”

หลูเจิ้งหยางยื่นมือออกมา หยิบกาน้ำชาขึ้นมารินชาให้ตัวเองกับหนิงเซ่าชิงคนละจอก หลังจากเห็นหนิงเซ่าชิงดื่มลงไปแล้ว ถึงได้ดื่มบ้าง

“กลับมาครั้งนี้ อย่างไรก็ต้องรอจนถึงเจ้ากับคุณหนูใหญ่ตระกูลมั่วแต่งงานกันแล้วถึงค่อยไป! งานแต่งงานของพี่น้อง จะพลาดได้เช่นไร เป็นอย่างไร ให้เกียรติเจ้ามากพอแล้วสินะ!”

หนิงเซ่าชิงยิ้ม โดยไม่กล่าววาจาใด และรินชาให้ตนเองอีก

เขาย่อมเห็นการกระทำเล็กๆ น้อยๆ ของหลูเจิ้งหยางอยู่ในสายตา

แต่ก่อน เขาแค่เห็นว่า แม้ว่าเขาจะหยาบกระด้าง แต่กลับเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับมารยาท กระทำเรื่องต่างๆ ด้วยความเกรงใจ จึงให้เขาดื่มก่อน

ตอนนี้ดูแล้ว เขารอบคอบกับทุกเรื่อง ระมัดระวังตลอดเวลา และป้องกันทุกอย่าง

บีบถ้วยชาในมือตนเองแน่นอย่างอดไม่ได้ หลุบนัยน์ตาลงเล็กน้อย

ดูท่า จะไม่แค่มั่วเชียนเสวี่ยที่ถูกอวิ๋นอิ๋งตบตา ตนเองก็ผิดพลาดและสะเพร่า ถึงได้ถูกคนตรงหน้าวางแผนเล่นงานเช่นกัน

จึงเอ่ยนิ่งๆ ว่า “พี่หลูสามารถอยู่ร่วมงานแต่งงานได้ย่อมเป็นเรื่องที่ดียิ่ง”

ทั้งสองคนสนทนากันเหมือนกับพี่น้องแท้ๆ ที่ไม่ได้พบหน้ากันเป็นเวลานาน จวบจนฟ้ามืดโดยไม่รู้ตัว

หลูเจิ้งหยางมองหนิงเซ่าชิงแวบหนึ่งอย่างไม่ทิ้งร่องรอยเอาไว้ ถอนหายใจอย่างไม่ตั้งใจ เพื่อดึงดูดความสนใจของหนิงเซ่าชิง

“พี่หลูเป็นอันใดหรือ เหตุใดถึงได้ท่าทางเหมือนมีเรื่องหนักอกหนักใจ” แสดงความสงสัยและความเป็นห่วงของตนเองออกมาอย่างพอเหมาะ

“เซ่าชิงเจ้ารู้ความเคลื่อนไหวผิดปกติในระยะนี้ของยุทธภพหรือไม่”

ช่วงนี้หนิงเซ่าชิงยุ่งเรื่องพิธีหมั้นหมายกับมั่วเชียนเสวี่ย จึงไม่ค่อยเข้าใจเรื่องราวในยุทธภพเท่าใดนัก จึงส่ายหน้าอย่างซื่อสัตย์

“เช่นนั้นเซ่าชิงต้องไม่รู้แน่นอนว่า ตอนนี้ในยุทธภพมีข่าวลือแพร่สะพัดว่า ดูเหมือนว่าการตายของทูตชายแดนตะวันตกหลายคนนั้น จะเกี่ยวพันกับเรื่องใหญ่และสำคัญมากเรื่องหนึ่ง!”

“เรื่องอะไรหรือ”

หลูเจิ้งหยางมองหนิงเซ่าชิงอย่างมีนัยยะลึกซึ้งแวบหนึ่ง แสร้งทำท่าลึกลับ ขณะเอ่ยว่า “ลือกันว่า สาเหตุที่ทูตจากชายแดนตะวันตกตายอนาถที่ศาลาพักม้า ก็เป็นเพราะว่าในมือของพวกเขา มีป้ายไม้ดำที่เป็นสัญลักษณ์ในการระดมกำลังพลกองทัพสามแสนนายของชายแดนตะวันตก! พวกเขาหาเรื่องใส่ตัว!”

เอ่ยถึงตอนนี้ ก็มีท่าทางเสียดายเล็กน้อยคล้ายกับทอดถอนใจให้กับการตายของทูตชายแดนตะวันตกว่าน่าเสียดายมากเพียงใด

“ท่านเอ่ยว่าอะไรนะ? ป้ายไม้ดำ?”

สำหรับตระกูลขุนนาง ความสัมพันธ์ระหว่างทูตชายแดนตะวันตกกับมั่วเชียนเสวี่ยไม่ใช่ความลับ ดังนั้นตอนนี้ หนิงเซ่าชิงจึงแสร้งมองหลูเจิ้งหยางอย่างตื่นตะลึง

“ใช่แล้ว ตอนนี้ยุทธภพลือว่า ป้ายไม้ดำอยู่ในเมืองหลวง แต่อยู่ไหนนั้นไม่รู้ ดูเหมือนจะบอกว่า ตอนนี้ป้ายไม้ดำตกอยู่ในมือมั่วเชียนเสวี่ย ผู้เป็นคู่หมั้นของเจ้าแล้ว เจ้าต้องระวังนะ เกรงว่าจะมีคนคิดไม่ดีต่อคนในใจของเจ้าแล้ว…”

เอ่ยถึงมั่วเชียนเสวี่ย หลูเจิ้งหยางก็รู้สึกเคียดแค้นอย่างลึกซึ้ง รู้แต่แรกว่าจะเป็นเช่นนี้ เขายังต้องลำบากไปตามหาตระกูลที่หลบซ่อนตัว ไม่ยุ่งเกี่ยวกับโลกภายนอกอะไรนั่น ยั่วยวนอวี้ฉืออวี่เอ๋อร์อะไรนั่นทำไม

ไปตามหามั่วเชียนเสวี่ยให้เจอก็จบแล้ว

หลอกล่อสตรีผู้นั้น นางไร้ญาติขาดมิตร ไม่มีคนให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ทำได้แค่พึ่งพิงเขา จะต้องเชื่อฟังคำเขาแน่นอน ถึงตอนนั้นกำลังทหารของชายแดนตะวันตกย่อมตกอยู่ในมือเขาแน่นอน

หลูเจิ้งหยางเคียดแค้น หนิงเซ่าชิงกลับมีสีหน้าเย็นชา กลิ่นอายทั่วร่างเปลี่ยนไปในเสี้ยวพริบตา!

ท่าทางที่เต็มไปด้วยดุร้ายเช่นนี้ ทำให้หลูเจิ้งหยางหน้าเปลี่ยนสี เจือไปด้วยความตกตะลึงและเหลือเชื่อ แต่ในใจกลับยิ้มเย็น

หนิงเซ่าชิง สุดท้ายก็ถูกจับไว้ในมือของสตรี

แค่ได้ยินว่ามีคนมีเจตนาร้ายต่อมั่วเชียนเสวี่ย เจ้าก็นั่งไม่ติดแล้วแล้ว?!

“เซ่าชิง…เจ้าทำอะไรน่ะ ทุกคนก็แค่คาดเดาว่าอยู่ที่คู่หมั้นของเจ้า แต่ไม่ได้เอ่ยรายละเอียดออกมา! เจ้าต้องรู้ว่า อย่างไรเสียปีนั้นมั่วกั๋วกงมีบุญคุณต่อชายแดนตะวันตก พวกเขาจะมอบป้ายไม้ดำให้กับมั่วเชียนเสวี่ย ก็เป็นเรื่องที่สมควรจะเป็นเช่นนั้น

หลูเจิ้งหยางยังคงเอ่ยเกินจริง

หากเรื่องนี้ใหญ่โตจนทุกคนรู้กันหมด เกรงว่าจะมีคนที่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านจำนวนนับไม่ถ้วนมาหาเรื่องมั่วเชียนเสวี่ยจริงๆ เช่นนี้แล้ว ชีวิตน้อยๆ ของมั่วเชียนเสวี่ยย่อมจบสิ้น

เกิดเรื่องกับมั่วเชียนเสวี่ย หนิงเซ่าชิงย่อมจิตใจว้าวุ่น นั่นก็เป็นช่วงเวลาที่เขาจะลงมือ

หนิงเซ่าชิงมองหลูเจิ้งหยางอย่างเย็นชา และไม่อยากแสดงละครแสร้งทำเป็นนอบน้อมและคล้อยตามกับเขาแล้ว!

ทุกอย่างล้วนทำให้เขารู้สึกสะอิดสะเอียนอย่างยิ่ง!

โดยเฉพาะในตอนนี้ หลูเจิ้งหยางที่ภายนอกมีสีหน้าห่วงใย แต่วาจาแต่ละประโยคล้วนทิ่มแทงใจ

มีใครรู้บ้างว่า ในใจของบุรุษที่มีความทะเยอทะยาน มีอนาคตที่ดีผู้หนึ่งจะโหดเหี้ยมร้ายกาจเช่นนี้

“พี่หลูเรื่องดำเนินมาจนถึงขั้นนี้แล้ว ท่านยังคิดจะแสดงละครฉากนี้ต่อไปอีกหรือ” วางถ้วยชาในมือลงนิ่งๆ หนิงเซ่าชิงมองหลูเจิ้งหยางด้วยสายตาเย็นเยียบ ภายในนั้นปราศจากความรู้สึกระหว่างพี่น้องโดยสิ้นเชิง

ถ้าหากหลูเจิ้งหยางไม่ได้หยิบยกมั่วเชียนเสวี่ยมาข่มขู่กลายๆ อย่างนี้ เช่นนั้นเขาก็ไม่อยากจะแตกหักกับหลูเจิ้งหยางเร็วขนาดนี้!

ถึงอย่างไร ก็เป็นบุรุษที่รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับเขาในปีนั้น ช่วงเวลานั้นได้สร้างมิตรภาพขึ้นมา แม้จะรู้ว่าตอนนี้หลูเจิ้งหยางกำลังแสดงละคร แต่ในความทรงจำของเขา ประสบการณ์ในตอนนั้นกลับจริงแท้และน่าหวงแหนอย่างยิ่ง!

ในเมื่อหลูเจิ้งหยางมาแล้ว ในเมื่อเอ่ยถึงมั่วเชียนเสวี่ย เช่นนั้นก็คิดจะหันดาบใส่เขาแล้ว

ในเมื่อเขาทำให้เขาผิดหวังในมิตรภาพระหว่างพี่น้องนี้ เขาจะไว้หน้าอีกทำไม

หลูเจิ้งหยางกลับแสดงสีหน้าประหลาดใจออกมาอย่างสมบูรณ์แบบต่อวาจาเช่นนี้ของหนิงเซ่าชิง!

“เซ่าชิง เจ้าเอ่ยอันใดน่ะ แสดงละครอะไรกัน เจ้าโดนของหรือ?” แสดงท่าทางเป็นผู้บริสุทธิ์ได้เหมือนจริงมาก! แต่กลับหลอกหนิงเซ่าชิงไม่ได้

หนิงเซ่าชิงเอ่ยวาจาเปิดโปงคำโกหก “หลูเจิ้งหยาง ที่เจ้ามาในวันนี้ ก็เพราะได้ข่าวว่า ป้ายไม้ดำในมือมั่วเชียนเสวี่ยอยู่ในมือข้ามิใช่หรือ!”

เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค

เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค

Status: Ongoing

เพราะสำลักน้ำชาจนขาดอากาศ(?)ทำให้ มั่วเชียนเสวี่ย สาวมั่นหัวการค้าทะลุมิติมาอยู่ในโลกยุคโบราณและในร่างของคนอื่น

แต่นั่นยังไม่น่าตระหนกเท่าการที่ร่างนี้กำลังจะแต่งงานเพื่อแก้เคล็ดให้กับชายหนุ่มที่ป่วยร่อแร่เต็มที!

ในโลกที่หากขาดที่พึ่งผู้หญิงก็สามารถถูกขายเป็นทาสได้ตลอดเวลาสามีคนนี้ของนางนับว่าเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลยทีเดียว

ทั้งมีความรู้ สุภาพและไม่ใช้กำลังแถมหน้าตายังหล่อเหลาอีกด้วย เสียตรงร่างกายอ่อนแอไปหน่อยเท่านั้น

ชีวิตครอบครัวชนบทแสนยากจนของนางจึงเริ่มขึ้นที่ตรงนั้น… แต่อย่างไรนางไม่ยอมงอมืองอเท้ารับชะตากรรมแบบนี้แน่

ในเมื่อนางมีความรู้ความสามารถยังต้องกลัวสร้างกิจการไม่ได้อีกหรือ?!

เส้นทางร่ำรวยสายนี้นางจะบุกเบิกมันขึ้นมาด้วยตนเอง! และหวังว่าทุกอย่างจะราบรื่นด้วยดี

เพราะเหมือน ‘ร่างนี้’ ของนางกับฐานะเดิมของสามีเหมือนจะไม่ค่อยธรรมดาเสียด้วยสิ…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท