ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์ – Side Story < Love Story > 2-2

Side Story < Love Story > 2-2

เขาได้ยินเสียงฝนตก

แทบเป็นไปไม่ได้ที่อากาศจะต่ำกว่าศูนย์องศาในพื้นที่ที่มีภูมิอากาศแบบทะเลทรายแม้จะอยู่ในช่วงฤดูหนาวก็ตาม ดังนั้นการเห็นหิมะจึงเป็นเรื่องที่แทบจะเรียกได้ว่าปาฏิหาริย์ ถึงขนาดที่ได้ยินในโทรทัศน์พูดกันว่าแม้แต่ฝนที่ตกลงมาเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวในปีนี้ก็เป็นภูมิอากาศที่ผิดปกติในรอบหลายสิบปีเช่นกัน

อีอูยอนหลับตาฟังเสียงฝน

ถ้าอากาศเย็น อินซอบมักจะซุกตัวในอ้อมกอดของเขาเสมอ และเขาก็ยินดีกับการออดอ้อนนั้นจนคิดว่าจะทิ้งชายทะเลที่อบอุ่น และย้ายบ้านไปทางฝั่งแคนาดาดีไหม อินซอบที่กอดเขาและถูไถใบหน้าไปมาในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่นนั้นน่ารักจนไม่สามารถบรรยายเป็นคำพูดได้

อีอูยอนพลิกตัวไปทางด้านขวาของเตียงที่อินซอบมักจะนอนเสมอ

‘…อ่านหนังสือให้ฟังหน่อยไม่ได้เหรอครับ’

หากไข้ขึ้น ความขี้อ้อนของอินซอบก็จะเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติเป็นเท่าตัว นี่เป็นช่วงเวลาที่ตนรู้สึกขอบคุณแม่ของอีกฝ่ายที่อ่านหนังสือนิทานให้ฟังก่อนนอนเสมอ ถ้าอินซอบอ้อนให้อ่านหนังสือให้ฟัง อีอูยอนก็จะลุกไปหยิบหนังสือจากห้องอ่านหนังสือกลับมา จากนั้นก็จะอ่านออกเสียงให้อินซอบฟังช้าๆ

เมื่อลมหายใจของอินซอบที่เป็นไข้จนหน้าแดงสม่ำเสมอ อีอูยอนก็ปิดหนังสือและมองอีกฝ่ายจากข้างๆ อยู่สักพัก

นี่เป็นความรู้สึกที่แปลก ไม่ว่าจะเป็นตอนที่อยู่ข้างๆ หรือตอนที่อยู่ด้วยกันโดยไม่มีปัญหาอะไร หากมองอินซอบที่นอนหลัง หัวใจของเขาจะส่งเสียงดังไม่หยุด บางครั้งเขาก็รู้สึกเหมือนพื้นที่ใต้เท้าจะพังทลายลงไป มันต่างกับความรู้สึกวิตกกังวล เขากลัว กลัวว่าวันที่จะเสียอินซอบไปจะมาถึงในสักวัน

คุณอินซอบ

มีบางคืนที่เขานอนไม่หลับและส่งเสียงเรียกอินซอบแบบนั้น ถ้าเขาทำแบบนั้น อินซอบจะตอบสนองกับเสียงเรียกตัวเอง บ้างก็ตื่นอย่างเต็มตามาตอบ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วอีกฝ่ายมักจะสะลึมสะลือตอบสั้นๆ หรือลืมตาครั้งหนึ่งและหลับตาลงอีกครั้ง แค่เท่านั้นก็ทำให้อีอูยอนรู้สึกว่าความกังวลใจที่พุ่งขึ้นมาจนถึงลำคอหายไป

“…คุณอินซอบ”

แม้จะรู้ว่าไม่มีทางที่จะได้รับคำตอบกลับมา แต่เขาก็พยายามเรียกอินซอบ

หมดใจแล้วหรือเปล่า คงไม่ใช่ว่าใช้ยายเป็นข้ออ้างเพื่อที่จะไม่กลับมาหรอกใช่ไหม

ไม่ใช่ว่าเกลียดเรา เพราะเราเป็นขยะที่รำคาญแม้กระทั่งการตายของคนในครอบครัวของคนรักตัวเองหรอกใช่ไหม

อีอูยอนลุกขึ้น ตอนนี้ยังไม่ถึงเที่ยงคืน แต่เขาก็รู้สึกถึงช่วงเช้าได้ลางๆ เขาไม่สามารถนอนหลับได้ถ้าอินซอบไม่อยู่ข้างๆ หมออธิบายว่าเป็นอาการนอนไม่หลับที่เกิดจากความวิตกกังวล หรือหมายความได้ว่าถ้าไม่มีชเวอินซอบ ชีวิตของเขาจะฉิบหายอย่างเต็มที่

เขาไม่สามารถนอนหลับได้มาเกือบหนึ่งสัปดาห์แล้ว บางครั้งเขาก็รู้สึกว่าตัวเองฝันทั้งๆ ที่ยังลืมตา สภาพของเขาค่อยๆ เข้าขั้นวิกฤติขึ้นเรื่อยๆ

เขาหยิบขวดยาและขวดเหล้าออกมาพร้อมกันจากชั้นวาง มันคือยาระงับประสาท เขานึกถึงคำเตือนของหมอที่บอกว่าห้ามใช้ยาแรงคู่กับเหล้าเด็ดขาด และคิดว่าถ้ามีหมอที่พูดจาแบบนั้น ทั้งๆ ที่นอนไม่หลับเกินหนึ่งสัปดาห์ เขาจะฉีกปากมัน

อีอูยอนเอายาเข้าปากและดื่มเหล้าจนหมดขวด จากนั้นก็นอนลงบนเตียง ในขณะที่สติเลือนราง ความกังวลใจและความปรารถนาในตัวอินซอบก็มารวมกันเป็นหนึ่งเดียว

ถ้ามีชีวิตอยู่โดยไม่รู้จักความรู้สึกแบบนี้ตั้งแต่แรกจะสบายกว่าไหมนะ

เขารู้สึกเหมือนอดีตที่ใช้ชีวิตเหลวแหลกตามใจตัวเองเป็นเรื่องราวในชาติก่อน เขากะพริบตาอย่างเชื่องช้า บางครั้งก็ได้ยินเสียงอินซอบ อีอูยอนนึกถึงคำพูดของผู้อำนวยการชเวที่สั่งให้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทันทีหากได้ยินเสียงแว่ว และกระตุกยิ้ม ฉิบหาย เป็นแบบนี้คงถูกขังอยู่ในโรงพยาบาลไปครึ่งปีแน่

แค่เสียงแว่วยังไม่พอ เขาอยากจะเห็นภาพหลอนด้วย ถ้าเห็นภาพหลอนฉันจะจับนายมัดแขนมัดขาให้ไปไหนได้ ข่มขืนนายตลอดหลายวัน และแตกใส่จนช่องทางของนายจนแฉะ

…แม่ง ขนาดนี้แล้วยังไม่หลับอีกเหรอ

อีอูยอนถอนหายใจอย่างเยาะเย้ยตัวเองก่อนจะพลิกตัว ฝนในฤดูหนาวกระทบหน้าต่างไม่หยุด ในขณะที่คิดว่าจะต้องกินยาระงับประสาทเข้าไปอีกกี่เม็ดดี เขาก็ได้ยินเสียงรถ เสียงเครื่องยนต์ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

เพราะแบบนี้เขาถึงห้ามไม่ให้กินปนกับยาสินะ ทำไมถึงมีแสงไฟหน้ารถสลัวๆ ตรงหน้าต่างด้วย…

อีอูยอนรีบลุกขึ้น เขาวิ่งเท้าเปล่าลงบันไดไปและเปิดประตูหน้าบ้านออกจนสุด เมื่ออินซอบที่มีฝนหยดลงมาจากเสื้อเห็นอีอูยอนก็ชะงักราวกับตกใจ ก่อนจะยิ้มราวกับเขินอายในทันที

“ผมเห็นหิมะนิดหน่อยครับ อาจจะเป็นไวท์คริสต์มาสก็ได้”

“…”

“แต่ดูเหมือนประตูโรงจอดรถจะเสียนะครับ เพราะผมใช้มือดันแล้วมันไม่ยอดเปิด…”

อีอูยอนกอดอินซอบทั้งๆ แบบนั้น

หิมะตกที่พาลอสเวอร์เดสซึ่งตั้งอยู่บริเวณชานเมืองลอสแอนเจลิสครั้งสุดท้ายเมื่อหลายสิบปีก่อน ส่วนประตูโรงจอดรถยังเปิดได้ดีอยู่จนถึงเมื่อวาน

“อะ เดี๋ยว…”

อีอูยอนจัดการปิดปากก่อนที่จินตนาการที่ตัวเองสร้างขึ้นจะพูดจาไร้สาระที่ขัดกับความเป็นจริงไปมากกว่านี้ ประตูถูกปิดตามหลัง การจูบที่รุนแรงดำเนินต่อไป เขาวิ่งเข้าใส่ราวกับเป็นสัตว์ที่หิวโซและดุร้ายที่ต้องการจะเติมเต็มความหิวกระหายของตัวเอง เขาถอดผ้าพันคอของอินซอบและเลิกชายเสื้อคลุมขึ้น

“คุณอูยอน เดี๋ยว อ๊ะ…!”

ต่อให้เป็นภาพหลอนที่สมองที่เมายาและเหล้าสร้างขึ้นมาเขาก็ไม่สนใจ เขาต้องการสิ่งนี้ และเขาไม่สามารถทนได้อีกต่อไปแล้ว อีกอย่างเขาไม่อยากจะทนแล้วด้วย

อีอูยอนออกแรงคว้าต้นคอของอินซอบไว้เพื่อที่จะทำให้ขยับไม่ได้ และดึงเข้ามา เขากัดและดูดดุนริมฝีปากที่พยายามจะพูดอะไรบางอย่าง รสชาติของเลือดเค็มๆ ไหลออกมาจากริมฝีปาก เขาชอบมากเสียจนเหมือนจะเป็นบ้า ความรู้สึกต้องการที่จะปลดปล่อยเบียดเสียดกันอยู่ตรงช่วงล่างทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย อีอูยอนจับแก่นกายของตัวเองถูไถกับหว่างขาของอินซอบ ร่างกายผอมบางของอินซอบกระตุกทุกครั้งที่เขาออกแรงดันตัวเองเข้าไป

“คุณอูยอน ทำไมอยู่ๆ ถึง…”

“อยู่เฉยๆ สิวะ”

พออีอูยอนใช้น้ำเสียงทุ้มต่ำข่มขู่ ความกลัวก็ปรากฏในดวงตากลมโตของอินซอบ เขาแสร้งหัวเราะ แม้จะไม่ใช่ความจริง แต่พอเห็นอินซอบกลัวตัวเอง ความโมโหก็พลุ่งพล่านขึ้นมาจนทำให้เวียนหัว

อีอูยอนเอื้อมมือไปดึงสายรัดผ้าม่านที่คล้องอยู่กับราวแขวนผ้าม่าน จากนั้นก็รวบมือของอินซอบและเอาสายรัดมาผูกทิ้งไว้

อินซอบไม่รู้ว่าจะทำตัวอย่างไร และมองอีอูยอนสลับกับมือของตัวเอง อีอูยอนลากอินซอบไปที่โซฟาและจับให้นอนลง จากนั้นเขาก็กอดอินซอบไว้ราวกับทับลงไป ร่างกายที่ผอมลงราวกับน้ำหนักลดลงในช่วงที่ผ่านมากระตุ้นความต้องการของอีอูยอน

“คุณอูยอนเมาเหล้า…”

เขาจูบราวกับจะปิดปากไว้อย่างนั้น แม้จะทำมาแล้วหลายครั้ง แต่การหายใจก็ยังเป็นเรื่องยากสำหรับอินซอบ เพราะเขาไม่รู้วิธีหายใจทางจมูก และในทุกครั้งอีอูยอนจะถอนริมฝีปากออกไปราวกับตกใจ และทำให้เขาหายใจง่ายขึ้นเล็กน้อย

“อึก…อื้อ…แฮ่ก”

อินซอบที่ครวญครางและดิ้นไปมาอยู่ใต้ร่างเพราะหายใจไม่ทันทั้งดูสวยและน่าสงสารในเวลาเดียวกัน อีอูยอนใช้มือข้างหนึ่งดึงกางเกงของอินซอบลง พอล่วงมือเข้าไปในกางเกงชั้นใน ส่วนอ่อนไหวที่มีเลือดไปหล่อเลี้ยงและนุ่มนิ่มก็ถูกจับทันที อีอูยอนจงใจกำส่วนอ่อนไหวนั้นอย่างแรงและเริ่มสาว

“อ๊ะ…ฮึก”

เขาเอื้อมมืออีกข้างหนึ่งไปด้านล่าง และลูบไล้ช่องท่างที่อ่อนนุ่มอย่างแผ่วเบา พอเขาลูบไล้ช่องทางที่ขมิบตัว อินซอบก็ตัวสั่นระริก และส่วนอ่อนไหวที่ไวต่อความรู้สึกก็ตื่นตัว

อีอูยอนดูดดุนริมฝีปากของอินซอบราวกับกำลังเคี้ยวอยู่ก่อนจะยิ้ม

“ชอบขนาดนั้นเลยเหรอครับ”

“…ครับ?”

“ชอบเพราะมีผู้ชายจูบพร้อมกับลูบไล้ช่องทางด้านหลังให้ด้วย ฉิบ…กำลังแตกแล้วนี่ครับ”

คำพูดสุดท้ายที่กระซิบราวกับกัดฟันพูดทำให้ใบหน้าขาวๆ ของอินซอบแดงด้วยความอาย เลือดในตัวไหลไปกองอยู่ที่ส่วนล่างจนส่วนนั้นแทบจะระเบิด เพราะใบหน้าที่เหมือนจะร้องไห้ในไม่ช้า อีอูยอนฝังหน้าลงกับหว่างขาของอินซอบและเริ่มโลมเลีย

“อ๊ะ! เดี๋ยว…”

แม้อินซอบพยายามผลักอีอูยอนออกเพราะตกใจ แต่นอกจากจะถูกมัดมือทั้งสองไว้แล้ว อีกฝ่ายยังเป็นคนที่ไม่สามารถเอาชนะได้ด้วยแรงตั้งแต่แรกด้วย เขาถูกปากดูดดุนส่วนอ่อนไหว และถูกมือสอดใส่เข้าไปในช่องทางที่อ่อนนุ่ม การปลุกเร้าที่มอบให้จากทั้งสองช่องทางทำให้อินซอบหอบหายใจอย่างสุขสมพร้อมกับทำตัวไม่ถูก

เซ็กซ์เป็นกิจกรรมที่ทำเพื่อความสนุก และไม่จำเป็นต้องมีความรู้สึกต่อกัน หากลองตั้งใจทำก็จะถึงจุดสุดยอดได้โดยที่ไม่ทันจะรู้ตัว อีอูยอนชื่นชอบเซ็กซ์ เพราะเป็นการกระทำที่ยุติธรรมสำหรับคนที่ขาดในเรื่องของความรู้สึกอย่างเขา

“แฮ่ก…อึก ดะ เดี๋ยว อ๊า!”

แก้มกลมๆ ที่ดูเด็กเพราะรอยกระกลายเป็นสีแดง ดวงตากลมโตที่เปี่ยมไปด้วยความปรารถนาที่ไม่สามารถควบคุมได้สั่นไหวอย่างว้าวุ่น เสียงลมหายใจที่ไม่เป็นระเบียบ มือทั้งสองข้างที่พยายามตะเกียกตะกายทั้งๆ ที่ถูกมัดไว้ ต้นขาผอมบางที่สั่นระริก ขนตรงส่วนอ่อนไหวสีอ่อน ส่วนอ่อนไหวที่สวยงาม ช่องทางที่ขมิบด้วยความตื่นเต้น และลมหายใจที่ยุ่งเหยิง

เซ็กซ์กับชเวอินซอบเกี่ยวพันกับความรู้สึกไม่น้อย บางครั้งร่างกายของอีอูยอนก็มีอารมณ์กับท่าทางและความรู้สึกที่อินซอบแสดงมากกว่าการปลุกเร้าที่ถูกต้องเสียอีก ชเวอินซอบทำให้เขาเสียอาการทุกครั้ง

“อ๊า!”

ของเหลวอุ่นร้อนถูกฉีดเข้ามาเต็มปาก อีอูยอนจับต้นขาของอินซอบไว้อย่างมั่นคงและโลมเลียส่วนอ่อนไหวของอีกฝ่ายให้แรงขึ้นอีกขั้น อินซอบแอ่นเอวและชักกระตุก จากนั้นน้ำรักก็ถูกพ่นเข้าไปในปากอีกครั้ง ของเหลวที่ไม่สามารถกลืนลงไปได้หมดไหลลงมาตามคางของอูยอน

“แฮ่ก…ฮึก”

เสื้อของอีอูยอนและกางเกงของอินซอบถูกน้ำกามทำให้เสียหาย เมื่อเห็นดังนั้นอินซอบก็ร้องไห้ออกมาเบาๆ เพราะความอายที่รู้สึกได้ช้าเกินไป

ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์

ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์

Status: Ongoing

นิยายวายแปลเกาหลี ดารา x ผู้จัดการ วงการบันเทิง นายเอกใสซื่อ พระเอกเจ้าเล่ห์ และ “คลั่ง” รักหนักมาก

ข้อเสียเพียงหนึ่งเดียวของ ‘อีอูยอน’ นักแสดงที่ได้ชื่อว่าเป็นสุภาพบุรุษผู้แสนดี และไม่เคยมีแอนตี้แฟน คือการเปลี่ยนผู้จัดการส่วนตัวบ่อย

หลังจากเปลี่ยนผู้จัดการไปแล้ว 5 คนในปีเดียว ‘ชเวอินซอบ’ แฟนคลับของอีอูยอนก็ได้เข้ามาเป็นผู้จัดการส่วนตัวคนใหม่ และสามารถปรับตัวเข้าได้กับทุกรสนิยมที่จู้จี้จุกจิกของอีอูยอนได้อย่างไร้ที่ติ

ทว่าสำหรับอีอูยอนแล้ว ผู้จัดการส่วนตัวแบบนั้นน่าสงสัยเป็นที่สุด

เขารู้สึกสนใจในการกระทำของอีกฝ่าย ในขณะเดียวกันความรู้สึกบางอย่างก็เริ่มก่อตัวขึ้นโดยไม่รู้ตัว

ทว่าในตอนที่เขารู้สึกดีกับอินซอบมากขึ้นเรื่อยๆ อีกฝ่ายก็ (ลอบ) แทงข้างหลัง (เบาๆ) และพยายามจะหนีไป

“ถ้าผมปล่อยคุณอินซอบไป แล้วผมจะอยู่ยังไงล่ะครับ”

TW : Coercion / Dubious Consent / Dirty talk / Toxic relationship / Violence / Rape

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท