ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์ – Side Story < A Love Marriage > 3-3

Side Story < A Love Marriage > 3-3

‘ทำไมถึงเป็นแบบนั้นล่ะ’

‘ครับ’

‘เพราะไม่พอใจกับอะไรบางอย่างอีกแล้วคุณถึงได้ดื่มเหล้าแบบนี้’

ปริมาณเหล้าที่ดื่มได้ของอินซอบคือประมาณเบียร์หนึ่งกระป๋อง ถ้าอารมณ์ดีจริงๆ จะอยู่ที่ประมาณสองกระป๋อง และจะไม่ดื่มมากกว่านั้น

‘แค่ดื่มเฉยๆ ครับ’

อินซอบหลุบสายตามองด้านล่างพลางเอ่ยตอบ อีอูยอนเสยผมขึ้นและจับข้อมือของอินซอบ

‘ดึกแล้วครับ รีบนอนเถอะครับ’

‘ดื่มอีกกระป๋องไม่ได้เหรอครับ’

‘อืม ไม่ได้’

อีอูยอนตอบอย่างเด็ดขาด แต่อินซอบกลับไม่ยอมลุกจากที่ง่ายๆ แต่ไม่ว่าเขาจะทำแบบนั้นหรือไม่ อีอูยอนก็อุ้มอินซอบขึ้นมาและลากไปที่ห้องนอนแล้ว

‘…ร้องไห้ทำไมครับ’

อีอูยอนที่ไม่มีทางจะตกใจได้ง่ายๆ เบิกตาพลางเอ่ยถาม อินซอบรีบใช้หลังมือเช็ดตา และบอกว่า ‘ไม่ได้ร้องครับ’ พลางส่ายหน้า อีอูยอนคุกเข่าลงหน้าโซฟาและเชยหน้าของอินซอบขึ้น

‘ร้องไห้ทำไม หืม?’

มือที่ใหญ่โตของอีอูยอนกุมหน้าของอินซอบไว้ อินซอบน้ำตาไหลพลางส่ายหน้า

‘ไม่สบายตรงไหนเหรอครับ’

‘ผมสบายดีครับ’

พออินซอบส่ายหน้า น้ำตาก็ไหลลงมาตามแก้มกลมๆ และหยดลงมา เมื่ออีอูยอนเห็นดังนั้นก็กลั้นหายใจ

‘ถ้าร้องไห้ได้ผมก็อยากร้องนะ’

‘…อย่าร้องนะครับ’

อินซอบจับชายเสื้อของอีอูยอนไว้และพูด อีอูยอนตอบว่า ‘ได้ครับ’ และเช็ดตาของอินซอบให้

‘คุณเองก็อย่าร้องนะ’

อีอูยอนว่าพลางกดจูบลงที่แก้มของอินซอบพลางเอ่ยพูด แม้อินซอบจะกัดริมฝีปากเพื่อหยุดการร้องไห้ แต่น้ำตาที่ไหลทะลักออกมาในเวลานั้นกลับเปียกแก้ม อีอูยอนพึมพำคำสบถว่า “แม่ง ให้ตายสิ” อินซอบสะดุ้งตกใจและห่อไหล่

‘ผมไม่ได้ด่าคุณอินซอบนะ…เฮ้อ เข้าไปก่อนเถอะครับ’

อีอูยอนจับมืออินซอบให้ลุกขึ้น อินซอบส่ายหน้า

‘คุณเมาแล้วครับ ไปนอนเถอะ’

‘ผมไม่เมาครับ’

อินซอบทำตาโตและเอ่ยตอบ ตอนเมา อินซอบจะขี้อ้อนและพูดเก่งขึ้น…และมักจะพูดเยอะด้วย

‘ผมไม่ได้เมาเลยสักนิดครับ’

อินซอบพูดคำเดิมซ้ำๆ ด้วยการออกเสียงที่ไม่ชัดเล็กน้อย

‘ครับ คุณอินซอบที่ไม่เมาเลยสักนิด ไปที่เตียงกันเถอะครับ’

‘ผมไม่ทำนะครับ’

‘ไม่ทำครับ ไม่ต้องห่วงนะครับ เพราะผมเองก็ไม่ได้มีรสนิยมชอบมีเซ็กซ์กับคนเมา’

อีอูยอนอุ้มอินซอบที่ทำตัวขาดสติเวลาเมาและเดินไปที่ห้องนอน เขาวางอินซอบลงบนเตียงและถอดเสื้อผ้าให้ แต่อินซอบกลับเด้งตัวขึ้นมา

‘ผมไม่อยากทำครับ’

‘เมื่อกี้ผมก็บอกไปแล้วไงครับว่าไม่ทำ’

‘ยกเว้นเซ็กซ์ครับ’

‘ว่าไงนะ’

‘…ผมอยากมีเซ็กซ์ครับ’

วินาทีที่เห็นอินซอบที่พูดคำพูดลามกอย่างหน้าตาเฉยด้วยสีหน้าไร้เดียงสา ดวงตาของอีอูยอนก็สั่นไหวอย่างดำมืด

‘ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากทำมันนะ…’

เขาไม่สามารถพูดต่อได้ อีอูยอนจูบอินซอบอย่างรุนแรงราวกับพุ่งเข้าใส่ อินซอบส่ายหน้า อีอูยอนถอดเสื้อของตัวเองโยนไปด้านล่างเตียงและจูบอินซอบไม่ยอมปล่อย

‘มะ ไม่เอาครับ’

‘ไม่เอาอะไรล่ะ คุณบอกว่าอยากมีเซ็กซ์นี่’

อีอูยอนถอดกางเกงของอินซอบและข่มขู่เสียงต่ำ อินซอบที่เมาเหล้าซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเอง ถ้าเกลียดก็จะบอกว่าเกลียด ถ้าชอบก็จะบอกว่าชอบ ถ้ากลัวก็จะบอกว่ากลัว และร้องไห้เก่งด้วย เขามักจะทำตัวให้มีอารมณ์ง่ายขึ้นกว่าปกตินิดหน่อยด้วยคำพูดเดียว

‘บอกมาสิว่าไม่ชอบอะไร ผมจะได้ไม่ทำเรื่องนั้น’

อีอูยอนถูแก้มตัวเองกับกางเกงชั้นในของอินซอบที่นูนขึ้นเล็กน้อยพลางกระซิบ และนั่นคือเรื่องที่อินซอบบอกไม่ให้ทำอยู่ถึงสองสามครั้ง

‘…คุณไปทำงานไม่ได้นะครับ’

‘อะไรนะ?’

อีอูยอนที่กำลังจะถอดกางเกงชั้นในออกเลิกคิ้วข้างหนึ่งพลางเอ่ยถาม เขาคิดว่าอีกฝ่ายจะขอไม่ให้อมข้างล่าง หรือขอไม่ให้พูดคำพูดลามก หรือขอไม่ให้กระแทกแรงๆ แม้เขาจะคิดว่าไม่ว่าอีกฝ่ายจะขอหรือไม่ ตนก็จะอมข้างล่าง พูดคำพูดลามก และกระแทกแรงๆ อยู่ดีก็ตาม

‘เพราะผมเองก็ไปทำงานไม่ได้เหมือนกัน’

นี่มันเรื่องไร้สาระอะไรกัน อีอูยอนเงยหน้ามองอินซอบที่ร้องไห้ฮักๆ และถอนหายใจ เขาเกลียดคนที่เมาและพูดจาเอะอะไร้สาระมาก ถึงขนาดที่กระทั่งตอนที่ไปดื่มเหล้ากับกรรมการผู้จัดการคิม เขาก็มักจะบอกว่าจะไปห้องน้ำและลุกขึ้นในตอนที่กรรมการผู้จัดการคิมที่กำลังเมาพูดเรื่องที่เคยพูดไปแล้วอีกครั้ง และกลับบ้าน

แต่นี่…

‘ขอโทษครับ เพราะผมโลภมากกับเรื่องที่ตัวเองไม่สามารถไปทำงานได้…’

วินาทีที่เห็นอินซอบน้ำตาไหลพรากๆ และขอโทษกับเรื่องที่ไม่แน่ใจว่าจะเรียกว่าความโลภได้ไหม อีอูยอนก็ได้รู้

ว่าไม่ว่าชเวอินซอบจะทำตัวบ้าบอเหมือนคนโง่ขนาดไหน ช่วงเวลาที่เขาเบื่อหน่ายคนคนนี้จะไม่มีวันมาถึงเด็ดขาด

…โธ่เว้ย ทำไมถึงน่ารักแบบนี้นะ

อีอูยอนมองอินซอบที่ร้องไห้ฮักๆ พร้อมกับพูดจาไร้สาระและกลืนน้ำลาย

‘จะไปทำงานทำไมล่ะครับ คุณตัดสินใจแล้วนี่ครับว่าจะไปเรียนต่อปริญญาโท’

อีอูยอนแนะนำให้อินซอบที่กังวลกับการสมัครงานเมื่อการจบการศึกษาใกล้เข้ามาให้เรียนต่อปริญญาโท แม้จะเรียนสาขาวรรณกรรม แต่ไม่มีทางหางานทำได้หลังจากเรียนต่อปริญญาโท แต่เขาก็ไม่อยากเห็นอินซอบที่ทำเป็นพูดว่าจะหาเงิน แต่กลับถูกคนอื่นๆ เกาะแกะ

‘คนเราต้องไปทำงานถึงจะเลิกงานได้ใช่ไหมล่ะครับ’

ดวงตาของอินซอบกลมโต แม้ใบหน้าจะเล็ก แต่ตากลับโตมากจนมองดูไม่สบายใจเล็กน้อย ทุกครั้งที่ดวงตาที่กลมโตและดำสนิทมองเขาตรงๆ อีอูยอนจะรู้สึกคลื่นไส้ เขานับว่ามันเป็นความอึดอัดใจในตอนที่ยังไม่รู้ความรู้สึกของตัวเอง แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคยนั้นคืออะไร

‘ขอโทษครับ คุณอูยอน ผม…’

พอดวงตากลมโตนั้นทำท่าจะร้องไห้ เขาก็ไม่สามารถตั้งสติได้ราวกับพื้นที่อยู่ใต้เท้าทรุดลงไป และเขามักจะทำให้อินซอบงงอย่างไร้สติด้วยวิธีแบบนั้นทุกครั้ง อีอูยอนจูบอินซอบอย่างตะกละตะกลาม เขาเกี่ยวกระหวัดลิ้น ประกบริมฝีปาก โลมเลียเนื้อที่อ่อนนุ่มภายในโพรงปาก และกอดอินซอบไว้ เขาถอดเสื้อของอินซอบและดึงกางเกงชั้นในลง เขาแนบหว่างขาของตัวเองกับผิวเนื้อเปลือยเปล่าและออกแรงบดเบียด เขาชอบมาก และสั่นสะท้านไปทั้งตัวกับสัมผัสที่อินซอบมอบให้

‘อื้อ…ฮึก’

อินซอบร้องไห้ อีอูยอนดูดปากของอินซอบพลางถามว่า ‘ทำไมล่ะ’

‘เพราะผมไม่ชอบการเลิกงานครับ’

อินซอบเอ่ยตอบอย่างยากลำบากด้วยการออกเสียงที่โดนกดไว้จากการลิ้นและริมฝีปากที่ถูกดูดดุน อีอูยอนเข้าใจความหมายของคำที่อินซอบพูดตอนนั้นเอง

‘ผม…ไม่ชอบการเลิกงานครับ ถ้าไม่ทำงาน…ก็ไม่ต้องเลิกงานครับ’

เกิดความใคร่ที่รุนแรงในดวงตาที่งดงามของอีอูยอน อีอูยอนเอาแก่นกายของตัวเองที่เหมือนจะระเบิดตั้งแต่เมื่อกี้ออกมา และสอดใส่เข้าไปในช่วงล่างของอินซอบทั้งๆ แบบนั้น ดวงตากลมโตของอินซอบเบิกโพลง

‘…อึก…’

‘แม่ง’

อีอูยอนจับต้นขาของอินซอบที่สั่นระริกให้อ้าออก เขาดันแก่นกายเข้าไปในช่องทางที่ขยายออกอย่างพอดิบพอดีเต็มแรง อินซอบร้องไห้พร้อมกับจับต้นแขนของอีอูยอนไว้

‘หึงเหรอ’

อินซอบไม่สามารถตอบคำถามของอีอูยอนได้ และทำตัวไม่ถูก

‘ผมถามว่าที่ตอนนี้เป็นแบบนี้…เพราะหึงเหรอ’

อีอูยอนเสยเอวขึ้นพลางเอ่ยถาม อินซอบน้ำตาไหลพรากๆ และพยักหน้าอย่างยากลำบาก

‘ฉิบ ใครกันแน่ที่ต้องหึงตอนนี้’

‘…ครับ?’

อีอูยอนมองอินซอบที่เบิกตาที่กลมโตและถามซ้ำพลางกัดริมฝีปากล่าง

‘ก็คุณเข้าไปดูบัญชีของผู้ชายคนอื่นต่อหน้าผม’

‘แต่นั่นคือกรรมการผู้จัดการ…อึก!’

อินซอบกรีดร้อง เพราะสัมผัสได้ถึงน้ำหนักที่แทงผ่านช่องทางด้านล่างเข้ามาอย่างกะทันหัน ดวงตาของอีอูยอนถูกย้อมไปด้วยความต้องการที่รุนแรง

‘แล้วตั๋วรอบปฐมทัศน์คืออะไร’

‘เรื่องนั้น…ตอนนั้นผมบอกไปแล้วนะครับ…แต่คุณบอกว่าไม่อยากไปเพราะน่าเบื่อ อึก’

‘แล้วคุยอะไรกับผู้หญิงคนนั้นที่นั่นเหรอครับ’

อีอูยอนทำตาวาวโรจน์ด้วยจิตอกุศลและเอ่ยถาม อินซอบสะอื้นพลางตอบว่า ‘คุยเรื่องหนังครับ’

‘หนังที่โคตรน่าเบื่อนั่นมีอะไรให้คุยเหรอ’

อีอูยอนจูบราวกับกลืนกินริมฝีปากของอินซอบ การร้องไห้ของอินซอบถูกกลืนกินเข้าไปผ่านริมฝีปากของอีอูยอน อีอูยอนขยับเอวราวกับเสียสติ เขาต้อนอินซอบให้จนมุมเหมือนคนไม่มีสติราวกับความรู้สึกที่กดเอาไว้ถูกปลดปล่อย

‘รู้ไหม? ว่าเมื่อกี้ผมอยากจะกระแทกเข้าไปในตัวคุณตรงนั้นเลย แค่ถอดกางเกงออกต่อหน้าคนอื่นแบบนั้น แฮ่ก’

แม้จะรู้ความจริงว่าอีกฝ่ายไม่มีทางทำแบบนั้น แต่ความกังวลใจเล็กน้อยก็ทำให้อินซอบก็สะอื้นพลางห้ามอีกฝ่ายว่า ‘ทำแบบนั้นไม่ได้นะครับ’

‘แล้วใครใช้ให้ทำตัวน่ารักขนาดนั้นล่ะ ทำไมคนที่แต่งงานแล้วถึงสวยขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้คนเขาเป็นบ้า’

เป็นความจริงที่เขาคาดหวังว่าความหึงหวงที่ไม่น่าเชื่อของอีอูยอนจะไม่ลดน้อยลงไปหลังจากแต่งงาน แม้จะยังไม่ใช่สามีภรรยากันตามกฎหมาย แต่ก็เป็นความสัมพันธ์ที่ถูกกำหนดไว้แล้ว

แต่ความหึงหวงของอีอูยอนกลับโผล่ออกมาในทิศทางที่ต่างกันออกไป

เช่น ทำไมถึงคุยกับผู้ชายทั้งๆ ที่แต่งงานแล้วล่ะครับ ทำไมคนที่แต่งงานแล้วถึงคุยกับผู้หญิงซะยืดยาวล่ะครับ ทำไมถึงคุยกับคนอื่นต่อหน้าผมทั้งๆ ที่แต่งงานแล้วล่ะครับ ทำไมแต่งงานแล้วยังทำตัวสนิทสนมกับคนอื่นอีกล่ะครับ เป็นต้น

‘รู้ไหมครับว่าคุณสวยขนาดไหนตอนมองจากด้านข้าง’

อินซอบถามกลับอย่างยากลำบากว่า ‘ครับ?’ ในขณะที่ตัวสั่นไหวอย่างไร้สติ

‘ก็นั่งข้างๆ ฉิบ คุยกันไม่ใช่เหรอ ในขณะที่เห็นขนตาทั้งหมด’

อินซอบไม่แน่ใจว่าการเห็นขนตาทั้งหมดหมายความว่าอะไรกันแน่จึงได้แต่กะพริบตา และนั่นก็จุดไฟให้กับความปรารถนาอันดำมืดของอีอูยอน

‘ฉิบ ผมไม่สามารถปล่อยทิ้งไว้ได้จริงๆ’

อีอูยอนจูบแก้ม ริมฝีปาก และเปลือกตาอย่างเผลอไผลพร้อมกับกระซิบ

‘ทำไมคุณอินซอบถึงหึงทั้งๆ มีรูปร่างหน้าตาแบบนั้นล่ะครับ’

อินซอบกัดริมฝีปากล่างเบาๆ ให้กับลักษณะการพูดที่เหมือนกับตำหนิ

‘ก็คุณบอกว่าไม่…นี่ครับ’

‘อะไรนะ’

‘คุณบอกว่าไม่แย่…คุณชินซูยอนน่ะ…’

เกิดรอยยิ้มบิดเบี้ยวราวกับจะบอกว่าไม่น่าเชื่อที่ริมฝีปากของอีอูยอน เพราะคำพูดที่ออกมาจากปากของอินซอบอย่างยากลำบาก

‘กังวลใจกับคำพูดนั้นเหรอครับ’

อินซอบฝังหน้ากับแขนของอีอูยอนและพยักหน้า

‘คุณก็รู้นี่ครับว่าจะเป็นยังไงถ้านักแสดงที่แสดงคู่ด้วยเป็นคนโง่’

ถ้านักแสดงนำโดน NG[1] บ่อยๆ เวลาที่ใช้ในการถ่ายทำก็จะยาวออกไปโดยไม่มีที่สิ้นสุด และเวลาที่ใช้รอก็ยาวนานออกไปด้วย อินซอบที่เคยทำงานด้วยกันในกองถ่ายรู้ความจริงนั้นดีกว่าใคร

‘แต่เด็กนั่นจำบทได้เก่งมาก’

‘อึก…!’

อีอูยอนเสยเอวขึ้นพลางพูดต่อ

‘งานเสร็จเร็ว ผมก็ได้กลับบ้านไว…และมาทำเรื่องแบบนี้กับคุณไง’

อีอูยอนจับคางของอินซอบให้มองตัวเอง เขากดจูบตรงขนตาที่มีน้ำตาเกาะอยู่ และเอ่ยถามราวกับปลอบโยน

‘ทีนี้คุณโอเคแล้วใช่ไหม’

แม้อีอูยอนจะไม่พยายามจัดการความหึงหวงที่ไม่มีต้นสายปลายเหตุของตัวเอง แต่ก็พยายามให้คำตอบกับความหึงหวงของอินซอบทุกอย่าง

พออินซอบพยักหน้าเบาๆ อีอูยอนก็ยิ้มอย่างพอใจ และแสดงความต้องการที่รุนแรงของตัวเองอีกครั้งพลางขยับเอว เสียงผิวเนื้อเปลือยเปล่ากระทบกันดัง ตับๆ อยู่ตรงด้านล่าง อินซอนอ้อนวอนอีอูยอนว่า ‘ทำเบาๆ ครับ’

‘ทำไมครับ’

อีอูยอนถามกลับ ปฏิกิริยาที่ไม่สามารถเข้าใจเหตุผลได้ทำให้อินซอบรู้สึกกลัวขึ้นมาทันที

‘ทำไมถึงขอให้ทำเบาๆ ล่ะ ต้องกระแทกให้เจ็บนิดหน่อยคุณถึงจะรู้สึกได้มากกว่านี่นา ช่วงล่างของคุณก็ตอดรัดจนแน่นเลยด้วย’

ใบหน้าของอินซอบแดงซ่าน รอยยิ้มถูกประดับบนริมฝีปากของอีอูยอน เขาโน้มตัวลงกอดอินซอบราวกับทรุดลงมา และขยับเอวราวกับเสียสติ ส่วนอ่อนไหวที่กดอยู่กับหน้าท้องแกร่งถูกเสียดสีจนเกิดเสียงที่ด้านล่าง สุดท้ายอินซอบก็ร้องไห้ออกมา

‘หยุด…ได้โปรด…คุณอูยอน ฮือ…’

‘กลัวเหรอ’

อินซอบร้องไห้พร้อมกับพยักหน้า

‘งั้นจูบผมสิครับ’’

อีอูยอนกระซิบด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความต้องการที่รุนแรง พออินซอบลังเล อีอูยอนก็พูดต่อด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนและอ่อนหวาน

‘ถ้ามีเซ็กซ์ในขณะที่จูบ คุณจะไม่กลัว นะ?’

[1] NG (No Good) คือ ฉากที่ถ่ายทำไม่ผ่าน หรือยังทำได้ไม่ดีทำให้ต้องถ่ายทำใหม่อีกครั้ง

ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์

ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์

Status: Ongoing

นิยายวายแปลเกาหลี ดารา x ผู้จัดการ วงการบันเทิง นายเอกใสซื่อ พระเอกเจ้าเล่ห์ และ “คลั่ง” รักหนักมาก

ข้อเสียเพียงหนึ่งเดียวของ ‘อีอูยอน’ นักแสดงที่ได้ชื่อว่าเป็นสุภาพบุรุษผู้แสนดี และไม่เคยมีแอนตี้แฟน คือการเปลี่ยนผู้จัดการส่วนตัวบ่อย

หลังจากเปลี่ยนผู้จัดการไปแล้ว 5 คนในปีเดียว ‘ชเวอินซอบ’ แฟนคลับของอีอูยอนก็ได้เข้ามาเป็นผู้จัดการส่วนตัวคนใหม่ และสามารถปรับตัวเข้าได้กับทุกรสนิยมที่จู้จี้จุกจิกของอีอูยอนได้อย่างไร้ที่ติ

ทว่าสำหรับอีอูยอนแล้ว ผู้จัดการส่วนตัวแบบนั้นน่าสงสัยเป็นที่สุด

เขารู้สึกสนใจในการกระทำของอีกฝ่าย ในขณะเดียวกันความรู้สึกบางอย่างก็เริ่มก่อตัวขึ้นโดยไม่รู้ตัว

ทว่าในตอนที่เขารู้สึกดีกับอินซอบมากขึ้นเรื่อยๆ อีกฝ่ายก็ (ลอบ) แทงข้างหลัง (เบาๆ) และพยายามจะหนีไป

“ถ้าผมปล่อยคุณอินซอบไป แล้วผมจะอยู่ยังไงล่ะครับ”

TW : Coercion / Dubious Consent / Dirty talk / Toxic relationship / Violence / Rape

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท