ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์ – ภาค 2 เล่ม 3 ตอนที่ 5-13

ภาค 2 เล่ม 3 ตอนที่ 5-13

“แม่งเอ๊ย อยากจะบ้าตาย”

หัวหน้าทีมชาฮยอนคยูนิ่วหน้าพร้อมกับพ่นควันบุหรี่ออกมาขณะที่ยังกางร่มอยู่

[ดูเหมือนจะเป็น ‘วันนั้น’ เลยครับพี่เขย]

ข้อความที่ได้รับเมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อนทำให้หัวหน้าทีมชารีบใส่เสื้อผ้าและวิ่งออกมาจากบ้าน เขาเป็นคนคัดค้านเรื่องการเอาคิมคังอูมาอยู่ในตำแหน่งนั้นตั้งแต่แรก การสร้างเรื่องเป็นหน้าที่ของกรรมการผู้จัดการคิมเหมือนอย่างที่เป็นมาเสมอ

“ตาแก่โง่เอ๊ย ลองกลับมาก่อนเถอะ”

หัวหน้าทีมชาเคืองกรรมการผู้จัดการคิมที่ไปดูงานที่จีนได้ถูกเวลา และดูดบุหรี่ที่เคราะห์ร้ายไปด้วย

เขาไม่สบายใจเป็นอย่างมากที่คนโง่คนนั้นเรียกน้องชายของอดีตภรรยามาเป็นโร้ดเมเนเจอร์ของอีอูยอน ดังนั้นหัวหน้าทีมชาจึงอ้อนวอนคิมคังอูตั้งแต่ก่อนจะเริ่มงาน

อย่าทำตัวสนิทสนมกับอีอูยอน อย่าทำตัวสนิทกับอินซอบโดยไม่จำเป็นต่อหน้าอีอูยอน อย่าสนใจอีอูยอน หากเกิดปัญหาให้ติดต่อกรรมการผู้จัดการคิมก่อนโดยไม่มีข้อแม้ และอย่าเข้าไปยุ่ง พอเขาเรียบเรียงคำเตือนที่ต้องท่องจำนอกเหนือจากนั้น คิมคังอูก็ถามอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องทำถึงขนาดนั้นด้วย

‘ถ้าไม่เข้าใจก็แค่ท่องจำเอาไว้’

หัวหน้าทีมชาบอกว่าเดี๋ยวจะปริ้นท์คำเตือนมาให้พร้อมกับพูดต่อ

หากวันไหนอีอูยอนด่าพร้อมกับยิ้มไปด้วย ก็ไม่ต้องสงสัยในเหตุผล และให้ติดต่อมาทันที เขาใช้ชื่อลับว่า ‘วันนั้น’ และวันนี้เขาก็ได้รับข้อความนั้น หัวหน้าทีมชาถามว่าจะต้องไปที่ไหนทันทีที่ออกมาข้างนอก ผ่านไปไม่นานเวลาและสถานที่ก็ถูกส่งมาทางข้อความ

“หนาวจะตายอยู่แล้ว หมอนั่นอยู่ที่ไหนกันแน่เนี่ย”

นี่เป็นฝนในช่วงปลายฤดูร้อน หัวหน้าทีมชาตัวสั่นพร้อมกับมองไปรอบๆ แล้วเขาก็เห็นว่าคิมคังอูรีบวิ่งในลักษณะเดินจ้ำเข้ามาหาจากทางโน้น

“นี่! นาย!”

“พี่เขยยย”

คิมคังอูร้องเหมือนแพะและเกาะหัวหน้าทีมชาไว้

“เกิดอะไรขึ้น ไอ้อีอูยอนมันด่านายแล้วยิ้มไปด้วยเหรอ”

“ก็…คล้ายๆ กันมั้งครับ”

คิมคังอูลังเลและพูดพึมพำ

“พูดอะไรน่ะ”

คิมคังอูเหลือบมองด้านหลังก่อนจะลดเสียงลง

“พี่อาจจะคิดว่าผมสติไม่ดีก็ได้นะครับ แต่จะว่ายังไงดีล่ะ วันนี้คุณนักแสดงเขาใช้สายตา…”

“สายตา?”

“…เหมือนจะใช้สายตาด่าน่ะครับ”

“…”

สีหน้าของหัวหน้าทีมชานิ่งค้างเหมือนวุ้นลูกโอ๊คที่ทำไว้นานแล้ว

“ขอโทษครับ ผมอ่อนไหวไปหน่อย เพราะพวกพี่เขยเตือนไว้เยอะน่ะครับ โอ๊ย ทำไมผมถึงเป็นแบบนี้นะ ดูเหมือนผมจะกวนใจให้พี่เขยต้องมาโดยไม่จำเป็นสินะครับ ขอโทษครับ”

คิมคังอูที่เข้าใจความเงียบของหัวหน้าทีมในความหมายที่ต่างไปอย่างสิ้นเชิงเกาหัวอย่างเก้อเขิน

“ไม่หรอก ดีแล้วล่ะ ดีมากเลย”

หัวหน้าทีมชาตบไหล่คิมคังอู มีแค่คนที่เคยเจอเท่านั้นถึงจะเข้าใจได้อย่างชัดเจนว่าการที่อีอูยอนใช้สายตาด่าให้ความรู้สึกแบบไหน

“อีอูยอนอยู่ที่ไหนล่ะ”

“ผมบอกว่าจะไปเอารถเลยออกมาก่อนน่ะครับ คงจะอยู่กับฮยองนิมแหละครับ”

“อยู่กับอินซอบเหรอ”

สีหน้าของหัวหน้าทีมชาเคร่งขรึมขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาคิดว่าอินซอบจะพักถึงวันนี้ เพราะอีอูยอนบอกว่าสภาพร่างกายของอีกฝ่ายไม่ดี

“ครับ ดูเหมือนสองคนนั้นจะทะเลาะกันเลย ไม่สิ อารมณ์ของคุณนักแสดงดูเหมือนโกรธอยู่ฝ่ายเดียวมากกว่าทะเลาะกัน แต่บรรยากาศมันไม่ชอบมาพากลสุดๆ ไปเลยครับ เกิดเรื่องอะไรขึ้นตอนถ่ายแบบหรือเปล่านะ”

หัวหน้าทีมชาถอนหายใจยาว เพราะแบบนี้ถึงได้ห้ามไม่ให้คบกันภายในบริษัทยังไงล่ะ

“เข้าใจแล้ว ขึ้นรถกันก่อนเถอะ ข้อเท้าฉันเย็นหมดแล้ว เพราะดามเหล็กกับกระดูกไว้”

“ขอโทษครับ”

คิมคังอูเปิดประตูรถ หัวหน้าทีมชานั่งตรงที่นั่งข้างคนขับรถก่อนจะนวดข้อเท้า ผ่านไปไม่นานอินซอบก็เปิดประตูฝั่งที่นั่งข้างคนขับ

“หวัดดีคุณอินซอบ”

หัวหน้าทีมชาพยายามทักทายด้วยน้ำเสียงสดใส อินซอบทำตาโต เพราะตกใจกับการปรากฏตัวอย่างไม่คาดคิดของหัวหน้าทีมชาก่อนจะก้มหัวให้

“สวัสดีครับหัวหน้าทีมชา มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ”

“วันนี้ฉันมีธุระแถวนี้ก็เลยแวะมาน่ะ เพราะคังอูบอกว่าอยู่แถวๆ นี้พอดี”

“เท้าหายแล้วเหรอครับ”

“อื้อ ตอนนี้ก็เดินไปไหนมาไหนได้พอสมควรแล้วล่ะ”

“โล่งอกไปทีนะครับ”

อินซอบแสดงความโล่งใจจากใจจริงออกมาในช่วงเวลาสั้นๆ นั้น

จิตใจดีขนาดนั้นได้ยังไงเนี่ย

หัวหน้าทีมชาชื่นชมทุกครั้งที่ได้คุยกับอินซอบ

ในทางกลับกัน

“…”

ก็ยังมีไอ้อีกคนที่ไม่ได้เจอกันนานอยู่ด้วยเช่นกัน แต่อย่าว่าแต่จะถามไถ่สารทุกข์สุกดิบในตอนที่สบตากันเลย มันเข้ามาในรถโดยไม่แกล้งทักทายกันด้วยซ้ำ

“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะอีอูยอน”

“อย่างนั้นเหรอครับ”

อีอูยอนตอบกลับเหมือนรำคาญ

“ไม่เป็นไรจริงๆ เหรอครับ”

อินซอบเอ่ยถามอีอูยอนที่กำลังจะขึ้นรถ อีอูยอนเมินอินซอบที่ถามแบบนั้นและนั่งลง

“ถ้าป่วยเราก็ควรจะไปโรงพยาบาล…”

“เลิกพูดจาไร้สาระได้แล้วครับ”

อีอูยอนพูดตัดบทอินซอบ

หัวหน้าทีมชาเห็นด้วยกับความคิดของอีอูยอนอย่างที่ไม่ค่อยมีให้เห็นบ่อยนัก เป็นคำพูดที่ไร้สาระจริงๆ ที่ว่าอีอูยอนป่วยน่ะนะ

“วันนี้คุณอินซอบนั่งข้างหลังนะ”

“เอ่อ วันนี้…”

อินซอบมองที่นั่งข้างคนขับสลับกับที่นั่งด้านหลังพร้อมกับทำตัวไม่ถูก แต่หัวหน้าทีมชาก็แกล้งทำเป็นไม่รู้ มีเพียงแค่การทำให้ทั้งสองคืนดีกันเท่านั้นที่จะทำลายบรรยากาศที่ไม่ดีแบบนี้ได้

“ครับ เข้าใจแล้วครับ”

อินซอบปิดประตูฝั่งที่นั่งข้างคนขับโดยไม่สามารถทำอะไรได้ และเปิดประตูด้านหลังของรถตู้ เขานั่งให้ห่างจากอีอูยอนที่สุดเท่าที่จะห่างได้

“มานั่งตรงนี้ครับ”

อีอูยอนยื่นหน้าไปที่เบาะด้านข้างตน

“ไม่เป็นไรครับ ผมนั่งตรงนี้ได้”

“เข็มขัดนิรภัยตรงนั้นหลวมครับ”

อินซอบจับตัวล็อกของเข็มขัดนิรภัยและดึงลงมาเสียบกับช่องล็อกก่อนจะลองขยับดูสองสามครั้ง เขารู้สึกว่ามันหลวมนิดหน่อยอย่างที่อีอูยอนพูด

“คงไม่เป็นไรหรอกครับ”

พออีอูยอนเหลือบมองด้วยสายตาไม่พอใจ อินซอบก็ตอบว่า “เดี๋ยวผมก็ไปแล้ว ไม่เป็นไรหรอกครับ” เขารู้สึกกระดากที่จะนั่งข้างอีอูยอน เพราะเรื่องที่เกิดวันนี้ พอเขาทำแบบนั้น อีอูยอนก็ไม่บังคับเขาอีก และเริ่มเปิดหนังสืออ่าน

“จะออกรถแล้วนะครับ”

คิมคังอูสตาร์ทรถ และความเงียบที่น่าหวาดกลัวก็ก่อตัวขึ้นในรถอีกครั้ง

“วันนี้มีเรื่องอะไรหรือเปล่า”

หัวหน้าทีมชาพยายามชวนคุยอย่างระมัดระวัง

“ไม่มีอะไรครับ”

หัวหน้าทีมชาตกใจไม่น้อย เขาคิดว่าอินซอบจะตอบ แต่อีอูยอนกลับพูดขึ้นมาก่อน ส่วนอินซอบก็คอยสังเกตอีอูยอนที่เป็นแบบนั้น และทำสีหน้าเหมือนลูกสุนัขที่ทำผิดและรอการลงโทษจากเจ้าของ

ต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่ๆ

“เมื่อวานคุณอินซอบไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลมานี่ มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า”

นี่เป็นคำถามเพื่อเตือนความจำให้อีอูยอนถึงความจริงที่ว่าชเวอินซอบเป็นคนป่วย

“ครับ ไม่มีอะไรผิดปกติครับ”

“…แล้ววันนี้มีเรื่องอะไรหรือเปล่า”

“ทำไมถึงถามคำถามเดิมๆ อยู่อีกล่ะครับ ผมจะทำให้เกิดเรื่องให้ดีไหมครับ”

อีอูยอนตอบโดยที่ไม่ละสายตาไปจากหนังสือ คิมคังอูรีบส่งสายตาสั่งให้หัวหน้าทีมชาดูการกระทำนั้น ถึงหัวหน้าทีมชาจะไม่ตกใจกับลักษณะการพูดที่โคตรจะไม่เคารพกันที่เขาคุ้นเคย แต่ดูเหมือนคิมคังอูที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของอีอูยอนจะตื่นตกใจ

“ฉันต้องขอปฏิเสธอย่างเกรงใจเลยล่ะ”

หัวหน้าทีมชาตอบกลับห้วนๆ และเหลือบมองอินซอบผ่านกระจกมองหลัง อินซอบกระสับกระส่ายและเอาแต่มองแต่อีอูยอนมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว แต่ในทางกลับกันอีอูยอนกลับไม่สนใจอินซอบที่เป็นแบบนั้นเลย

ถ้าถึงขนาดเป็นห่วงเรื่องเข็มขัดนิรภัย ก็ไม่น่าจะเลิกกันหรอกมั้ง ถึงจะบอกว่าทะเลาะกัน แต่ด้วยนิสัยของชเวอินซอบแล้วก็ไม่น่าจะทะเลาะกันสำเร็จตั้งแต่แรก…แค่ทำตัวไร้สาระหรือเปล่านะ

หัวหน้าทีมชาคิดว่าตนได้ตั้งสมมติฐานที่มีพลังในการโน้มน้าวใจเป็นอย่างมาก และเห็นอกเห็นใจอินซอบด้วยหัวใจทั้งหมดที่มี

จิ๊ ไปตกหลุมพรางคนแบบนั้นได้ยังไงนะ

“ฟังวิทยุไหมครับ”

คิมคังอูที่ทนความเงียบที่น่าอึดอัดนี้ไม่ได้ตะโกนขึ้นมาพร้อมกับเปิดวิทยุ และเพลงที่ได้รับความนิยมเมื่อนานมาแล้วก็ดังออกมา

“หนวกหูครับ”

คำพูดสั้นๆ ของอีอูยอนทำให้คิมคังอูหน้าจ๋อย และกดปิดวิทยุอีกครั้ง

“คังอู นอกจากวิทยุแล้ว ข้างล่างนั้นมีซีดีอยู่…”

“แล้วอันนั้นไม่หนวกหูเหรอครับ”

อีอูยอนก็ตัดบทคำพูดของอินซอบในดาบเดียวเช่นกัน อินซอบรู้สึกท้อแท้และไม่สามารถตอบอะไรได้ เขาจึงเอาแต่ลูบชายเสื้อ มีเพียงแต่เสียงอีอูยอนพลิกหน้าหนังสือเท่านั้นที่ดังในรถตู้

ถ้าจะให้ยืมคำพูดของอีอูยอนก็คือบรรยากาศตอนนี้มันเหี้ยมากจริงๆ มันแย่ถึงขนาดที่ไม่กล้าหายใจ หรือมองอะไรตามใจชอบ หัวหน้าทีมชาจึงเลือกที่จะปิดปาก เพราะเขารู้ว่าถ้าหากพูดอะไรที่ไร้สาระออกมาอีก ไอ้เวรนั่นจะได้ทำตัวป่าเถื่อนมากขึ้น อินซอบที่รู้ความจริงนี้ดีกว่าใครก็ปิดปากเงียบเช่นกัน ปัญหาก็คือคิมคังอู

“วันนี้ฝนตกหนักเลยนะครับเนี่ย เวลาแบบนี้ถ้าได้กินพาจอน[1] กับมักกอลี[2] ละก็ใช่เลยครับ”

คิมคังอูผู้ซึ่งไม่รู้จักนิสัยของอีอูยอนดีตั้งใจจะทำลายบรรยากาศที่น่าอึดอัดนี้ และใส่ความพยายามของตัวเองลงไป

“มีร้านที่ทำพาจอนอร่อยมากจริงๆ อยู่ร้านหนึ่งในบรรดาร้านที่ผมรู้จักแหละครับ วันนี้พวกเราไปดื่มกันที่นั่นสักแก้วดีไหมครับ คนที่จะไปด้วยยกมือขึ้น!”

หากเป็นเรื่องที่อารมณ์เสียใส่กันในกลุ่มเพื่อนล่ะก็ แค่ดื่มเหล้ากันอย่างหนักทั้งคืนก็หายแล้ว คิมคังอูมักจะจบการโต้เถียงทั้งหมดของคนรอบตัวด้วยวิธีนั้น

อีอูยอนไม่แม้แต่จะทำเป็นได้ยิน และอินซอบก็ยกมือขึ้นมาไม่ได้ เพราะมัวแต่สังเกตอีอูยอน ส่วนหัวหน้าทีมชาก็ส่ายหน้าโดยไม่พูดอะไร

คิมคังอูเริ่มต้นใหม่ด้วยกลวิธีอื่น เพราะคิดว่ากลวิธีในคราวนี้ล้มเหลว

“จริงด้วย ฮยองนิมครับ เดทกับแฟนสาวตอนนั้นเป็นไปได้ด้วยดีไหมครับ”

เขานึกถึงคำแนะนำที่บอกให้คุยเรื่องอินซอบอย่างไม่มีข้อแม้ในตอนที่เห็นว่าอีอูยอนอารมณ์ไม่ดีขึ้นมาได้

“หา?”

คำว่าแฟนสาวทำให้อินซอบสะดุ้งอย่างตกใจและยืดตัวขึ้นมา

“ก็วันที่ตารางงานเสร็จเร็วฮยองนิมบอกว่าจะไปเดทนี่ครับ เป็นไปได้ด้วยดีไหมครับ”

“…วันนั้นฉันไม่ได้ไป เพราะมีธุระน่ะ”

อินซอบพูดเสียงเบา เพราะเขาคงจะทำให้อีอูยอนรอเก้อโดยไม่ได้ตั้งใจ

“ฮ่าๆๆ อันที่จริงพอเมื่อวานนี้ฮยองนิมบอกว่ามาไม่ได้ ผมก็คิดแล้วล่ะครับว่าที่ออกมาไม่ได้ เพราะวันนั้นเดทอย่างถึงพริกถึงขิงหรือเปล่า ก็ฮยองนิมเป็นผู้ชายนี่นะ”

“ฉันออกมาไม่ได้ เพราะไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลต่างหาก”

การแซวเล่นของคิมคังอูทำให้อินซอบต้องรีบแสดงหลักฐานของตัวเอง แม้อีอูยอนจะไม่ละสายตาออกมาจากหนังสือ แต่เขาก็ไม่พลิกกระดาษสักหน้า

“งั้นวันนั้นฮยองนิมไปที่ไหนล่ะครับ ถ้าไม่ได้ไปเดท”

คิมคังอูเปลี่ยนเลนอย่างชำนาญพลางเอ่ยถาม

“ไปเยี่ยมแมวครับ”

คราวนี้คนที่ตอบไม่ใช่อินซอบ แต่เป็นอีอูยอน คิมคังอูทำเป็นรู้จักในทันที

“อ๋อ พวกที่พูดถึงตอนนั้นเหรอครับ ชื่ออะไรน้า ไอชิลด์? ไอบง? ชื่อพวกนั้นแหละ”

“ไอแซก อาเธอร์”

คราวนี้อีอูยอนก็เป็นคนตอบเช่นกัน

“ใช่แล้วๆ ทายเกือบถูกแล้วนะครับเนี่ย ว่าแต่ฮยองนิมไปเยี่ยมแมวแทนไปเดทเหรอครับ”

“เพราะวันนั้นเป็นวันสุดท้ายก่อนที่พวกเด็กๆ จะถูกรับไปเลี้ยงน่ะ…”

เสียงพูดของอินซอบแผ่วลง เขารู้สึกปวดร้าว เพราะนอกจากจะไม่ได้ไปเยี่ยมแมวทั้งๆ ที่เป็นวันสุดท้ายแล้ว เขายังโกหกอีกด้วย


[1] พาจอน แป้งทอดแผ่นบางๆ ที่ใส่ต้นหอมและอาหารทะเลลงไปด้วย

[2] มักกอลี เหล้าที่ทำจากการเอาข้าวไปหมัก

ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์

ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์

Status: Ongoing

นิยายวายแปลเกาหลี ดารา x ผู้จัดการ วงการบันเทิง นายเอกใสซื่อ พระเอกเจ้าเล่ห์ และ “คลั่ง” รักหนักมาก

ข้อเสียเพียงหนึ่งเดียวของ ‘อีอูยอน’ นักแสดงที่ได้ชื่อว่าเป็นสุภาพบุรุษผู้แสนดี และไม่เคยมีแอนตี้แฟน คือการเปลี่ยนผู้จัดการส่วนตัวบ่อย

หลังจากเปลี่ยนผู้จัดการไปแล้ว 5 คนในปีเดียว ‘ชเวอินซอบ’ แฟนคลับของอีอูยอนก็ได้เข้ามาเป็นผู้จัดการส่วนตัวคนใหม่ และสามารถปรับตัวเข้าได้กับทุกรสนิยมที่จู้จี้จุกจิกของอีอูยอนได้อย่างไร้ที่ติ

ทว่าสำหรับอีอูยอนแล้ว ผู้จัดการส่วนตัวแบบนั้นน่าสงสัยเป็นที่สุด

เขารู้สึกสนใจในการกระทำของอีกฝ่าย ในขณะเดียวกันความรู้สึกบางอย่างก็เริ่มก่อตัวขึ้นโดยไม่รู้ตัว

ทว่าในตอนที่เขารู้สึกดีกับอินซอบมากขึ้นเรื่อยๆ อีกฝ่ายก็ (ลอบ) แทงข้างหลัง (เบาๆ) และพยายามจะหนีไป

“ถ้าผมปล่อยคุณอินซอบไป แล้วผมจะอยู่ยังไงล่ะครับ”

TW : Coercion / Dubious Consent / Dirty talk / Toxic relationship / Violence / Rape

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท