หลังจากที่ลี่จุนซินอธิบายให้เวียร์ฟังแล้ว รีบโทรศัพท์ให้ลี่จีถอง เพื่อรายงานสถานการณ์ของที่นี่ และยังรายงานผลที่เวียร์สืบได้ให้ลี่จีถองฟัง
เมื่อลี่จีถองได้ยินชื่อของอันซีหนี สีหน้าดิ่งลงทันที
“พี่ ตอนนี้พวกพี่อย่าเพิ่งทำอะไรเด็ดขาด แค่ควบคุมสถานการณ์ได้ก็พอ ผมจะรีบบินไปจัดการเรื่องนี้เอง”
แต่ลี่จุนซินรู้สึกการมาของลี่จีถองนั้นไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไร
“ไม่ได้ จีถอง ในประเทศยังมีคนแอบแฝงอยู่ ทางด้านลี่หุยก็กำลังรอโอกาสตลอดเวลา ถ้านายไม่อยู่ พวกเขาต้องฉวยโอกาสนี้ทำอะไรแน่นอน และนายจะให้แม่กับหยุนเอ๋อดูแลบริษัทแทนก็ไม่ค่อยเหมาะสม”
ลี่จีถองหัวเราะเย็นชาออกมา “ไม่มีอะไรหรอก แค่ลี่หยูนห่วนกับลี่หุย ไม่มีปัญญาทำอะไรได้หรอก”
“ส่วนแม่กับหยุนเอ๋อ ผมจะเพิ่มคนดูแลปกป้องพวกเธอ ทางด้านบริษัทซู่จี้งยี้จะช่วยผมดูแลเอง ทางนี้พี่ไม่ต้องเป็นห่วง อยู่ทางโน้นพี่กับเวียร์ดูแลตัวเองดีๆ ก็แล้วกัน”
ตอนที่ลี่จุนซินโทรศัพท์มานั้นเป็นเวลากลางดึกของประเทศจีนแล้ว ลี่จีถองยังคงทำงานอยู่ ตอนแรกลี่จีถองก็คิดไว้แล้วจัดการงานของที่นี่เสร็จ ก็จะบินไปดูสถานการณ์ของอังกฤษ ฉะนั้น การโทรมาของลี่จุนซินครั้งนี้ก็แค่ทำให้เขาต้องไปอังกฤษเร็วขึ้นเท่านั้นเอง
หลังจากที่ลี่จีถองคุยโทรศัพท์เสร็จ เดินจากระเบียงกลับเข้ามาในห้อง เห็นเจียงหยุนเอ๋อนอนหลับสนิท ก้มลงจูบเบาๆ ที่หน้าผากของเธอ เจียงหยุนเอ๋อที่นอนหลับอยู่ฝันตัวเองถูกหนูกัดที่หน้าผาก ยื่นมือออกไปเพื่อจะผลักทิ้ง แต่เมื่อตัวเองเตะโดนหนูตัวนั้น หนูตัวนั้นก็ได้วิ่งหนีไปแล้ว จึงทำให้เจียงหยุนเอ๋อด่าออกมาว่า “ไอ้หนูบ้า อยู่ห่างฉันไกลๆ หน่อย”
และในโลกแห่งความเป็นจริงลี่จีถองเห็นเจียงหยุนเอ๋อที่กำลังหลับอยู่ยื่นมือมาตีตัวเอง จึงรีบหลบทันที จากนั้นได้ยินเจียงหยุนเอ๋อด่าตัวเองว่า “ไอ้หนูบ้า” อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา แล้วยื่นมือไปบีบจมูกเจียงหยุนเอ๋อ และได้ยินเจียงหยุนเอ๋อด่าขึ้นอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ทำให้เสียงหัวเราะของลี่จีถองยิ่งเสียงดังขึ้นไปอีก
ลี่จีถองนึกขึ้นได้ว่าหลังจากตื่นนอนตอนเช้า ก็จะบินไปอังกฤษแล้ว กลัวเจียงหยุนเอ๋อจะคิดถึงเขา จึงเขียนข้อความไว้ที่โพสต์อิทโน้ตหลายใบ วางแผนว่าตอนเช้าในขณะที่เจียงหยุนเอ๋อลงไปกินข้างข่างหลังนั้นจะติดให้เต็มห้องเลย
เมื่อตื่นนอนตอนเช้า เจียงหยุนเอ๋อเล่าเรื่องราวที่ตัวเองฝันให้ลี่จีถองฟัง หลังจากที่ลี่จีถองฟังจบ เขาก็แค่ยิ้มให้เจียงหยุนเอ๋อ จากนั้นเร่งเร้าให้เธอไปล้างหน้าแปลงฟังแล้วลงไปกินข้าวข้างล่าง
หลังจากที่เจียงหยุนเอ๋อล้างหน้าแปรงฟันเสร็จก็ลงไปกินข้าวข้างล่าง ลี่จีถองฉวยโอกาสนี้ติดแผ่นโพสต์อิทโน้ตที่ตัวเองเขียนไว้เมื่อคืน จากนั้นทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นลงไปกินอาหารเช้าข้างล่าง
ในขณะที่ลี่จีถองกินอาหารเช้าอยู่นั้น ได้เล่าเรื่องที่ตัวเองเดี๋ยวจะออกเดินทางไปอังกฤษให้เจียงหยุนเอ๋อฟัง ทำให้เจียงหยุนเอ๋อตกใจเล็กน้อย
“ทำไมกะทันหันแบบนี้?”
“เมื่อคืนพี่สาวโทรมา บอกว่าทางโน้นมีปัญหาที่จัดการค่อนข้างยาก ผมต้องบินไปดู ถ้าทางโน้นไม่มีเรื่องอะไรแล้วผมก็จะกลับมาทันที”
“พี่สาวไม่เป็นไรหรอกมั้ง?ถ้าคุณไปแล้วบริษัทที่นี่จะทำยังไง?จะเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า?”
“ไม่ต้องเป็นห่วง ไม่เป็นไรหรอก มีแผนการรองรับไว้แล้ว มีแค่คุณที่ผมเป็นห่วงวางใจไม่ได้เท่านั้น ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะตอนนี้คุณท้องใหญ่มาก ผมคงพาคุณไปด้วยแล้ว ตอนนี้จึงทำได้เพียงให้คุณพักผ่อนอยู่ในประเทศ ผมจัดวางคนไว้ปกป้องคุณกับถวนจื่อแล้ว ไม่มีธุระอะไรก็ไม่ต้องออกไปข้างนอก ผมกลัวว่าทางด้านลี่หุยอาจจะทำอะไรคุณเพื่อต้องการจัดการผม”
“ทางด้านบริษัทถ้าคุณต้องการเข้าไปดู ก็โทรศัพท์หาซู่จี้งยี้ ให้เขามารับคุณ จากนั้นตอนที่จะกลับบ้านก็ให้เขามาส่ง”
ลี่จีถองลูบผมของเจียงหยุนเอ๋อ เพื่อเป็นการปลอบใจ
“แบบนี้จะรบกวนซู่จี้งยี้มากเกินไปหรือเปล่า?”
“ไม่เป็นไรหรอก ความปลอดภัยของคุณสำคัญที่สุด ถ้าคุณคิดว่าเรื่องนี้รบกวนเขาเกินไปหลังจากเสร็จเรื่องนี้แล้วคุณก็มองของขวัญเล็กๆ น้อยให้เขา ถ้าจะให้ดีก็แนะนำแฟนให้ เขาต้องดีใจมากแน่นอน”
“ก็ได้ คุณไปต่างประเทศแล้วต้องดูแลตัวเองดีๆ นะ” เจียงหยุนเอ๋อรู้ว่าเธอไม่ควรปล่อยให้ลี่จีถองต้องเสียสมาธิเพราะเธอ ดังนั้นจึงตอบตกลง
“เดี๋ยวผมขึ้นไปเก็บของใช้จำเป็น แล้วเข้าไปส่งงานที่บริษัท จากนั้นก็จะไปสนามบินเลย คุณท้องใหญ่มากแล้วไม่ต้องไปส่งผม คุณรอผมกลับมา เมื่อถึงที่โน่นน่าจะเป็นเวลาเช้ามืดของที่นี่แล้ว ผมไม่โทรหาคุณแล้วนะ แต่ผมจะส่งข้อความให้คุณ”
“ถ้าอย่างนั้น…ฉันต้องช่วยคุณเก็บอะไรไหม”
“ไม่ต้องหรอก คุณกินอาหารเช้าอยู่นี่แหละ”
ลี่จีถองขึ้นชั้นบนเก็บของจากนั้นเดินทางไปบริษัทเพื่อสั่งงานกับซู่จี้งยี้ จากนั้นโทรศัพท์หาชิงโม่ เสร็จแล้วก็เดินทางไปสนามบินเลย
หลังจากที่เจียงหยุนเอ๋อกินอาหารเสร็จก็กลับเข้าไปพักผ่อนที่ห้อง เมื่อเข้าไปถึงห้องเห็นโพสต์อิทโน้ตที่ลี่จีถองเขียนข้อความที่ใช้เตือนเธอติดตามจุดต่างๆ รู้สึกซาบซึ้งเป็นพิเศษ และเมื่อดูไปเรื่อยๆ ทำให้ดวงตาแดงขึ้นโดยไม่รู้ตัว
“ที่รัก โฟลิคอยู่ที่นี่ อย่าลืมกินนะ”
“ต้องกินผักและเนื้อที่เสริมธาตุเหล็กทุกมื้อ และห้ามเลือกกินเด็ดขาด!”
“หลังจากอาบน้ำเสร็จต้องรีบเรียกแม่บ้านมาทำความสะอาดห้องอาบน้ำทันที!”
……
ทันทีที่ลี่จีถองถึงสนามบิน ลี่หุยก็ได้รับข่าวทันที
ลี่หุยโทรศัพท์หาอลัน เพื่อแจ้งข่าวนี้กับเขา จากนั้นนัดเจอเขาที่ห้องเดิมของแม่น้ำเซนคืนนี้
คืนนั้น สถานบันเทิงแม่น้ำแซน ลี่หุย ลี่หยูนห่วนกับอลันได้พบกัน พวกเขาทั้งสามดื่มกันสักพักและเล่นกันแล้วสักพัก จึงเรียกให้ผู้ที่เข้ามาบริการดื่มเป็นเพื่อนออกไปก่อน จากนั้นทั้งสามก็เริ่มคุยกันถึงแผนการต่อไป
ลี่จีถองคนนี้ถึงแม้จะไม่อยู่ แต่คนของมันและเส้นสายของมันยังอยู่ อีกอย่างมันไม่อยู่ คนในบริษัทยิ่งระวังตัวกันมากขึ้น ฉะนั้นจะฉวยโอกาสนี้ลงมือดีหรือไม่นั้น ลี่หุยกับลี่หยูนห่วนตัดสินใจไม่ได้เสียที
อลันเห็นท่าทางทั้งสองคนที่ตัดสินใจไม่ได้เสียที ไม่เข้าใจว่าพวกเขาทั้งสองกำลังกังวลอะไรกันอยู่
“ต้องลงมืออยู่แล้วสิ พวกคุณกำลังกังวลอะไร?กลัวอำนาจของมันเหรอ?อันซีหนีกว่าจะหาโอกาสสะดุดลี่จีถองที่ต่างประเทศได้ไม่ใช่ง่ายๆ นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุด ถ้าตอนนี้ไม่ลงมือ พวกคุณจะรอถึงเมื่อไร?หรือว่าจะรอให้มันไล่พวกคุณออกจากลี่ซื่อแล้วถึงลงมือเหรอ?”
“ในช่วงเวลาสั้นๆ นี้ ฉันคิดแผนการไว้เรียบร้อยแล้ว แต่พวกคุณกลับมาสับสนว่าจะลงมือหรือไม่ ช่างขี้ขลาดจริงๆ”
ในขณะที่ลี่หุยจะตอบโต้นั้น ลี่หยูนห่วนรีบดึงตัวเขาไว้ ใช้สายตาเตือนลี่หุย จากนั้นยิ้มอย่างประจบให้อลัน
“คุณอลัน แผนการของคุณคืออะไรเหรอ?”
อลันดื่มเหล้าไปคำหนึ่ง แล้วเหลือบตามองพวกเขา ในสายตานั้นมีความรังเกียจแฝงอยู่อย่างเห็นได้ชัด พูดอย่างไม่ใส่ใจออกมาว่า:
“แผนการจริงๆ ต้องรอกู้เฟยหลินมาถึงก่อนแล้วค่อยคุยกันอีกที แต่แผนการหลักๆ ก็คือให้ กู้เฟยหลินฉวยโอกาสที่ลี่จุนซินไม่อยู่ ไปดูธุรกิจที่สำคัญของบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป จากนั้นส่งข่าวให้พวกเรา เมื่อถึงเวลานั้นพวกเราก็สามารถเข้าไปเสียบแทนได้ และทำลายธุกิจของพวกเขา
“ส่วนอีกด้านหนึ่งคือ พวกคุณต้องหาวิธีเข้าไปที่ห้องทำงานของลี่จีถอง ไปเอาเอกสารลูกค้าใหญ่ของบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป จากนั้นเก็บเอกสารพวกนี้ไว้ในมือของพวกเรา”