บทที่ 110 ตระกูลหวังถอนหมั้นแล้ว
ขณะนี้ในลานบ้านของตระกูลเซียว
นายหญิงใหญ่เซียวและเซียวฉางเฉียนกำลังรอข่าวว่าเซียวไห่หลงยึดคฤหาสน์ได้สำเร็จ
แต่คิดไม่ถึงว่าสิ่งที่พวกเขาได้ยินคือเซียวไห่หลงได้รับบาดเจ็บสาหัสและถูกตำรวจจับกุมในข้อหาบุกรุกเคหสถาน และต้องสงสัยว่าส่วนเกี่ยวข้องกับการทำให้คนอื่นได้รับบาดเจ็บโดยเจตนา!
สิ่งนี้ทำให้นายหญิงใหญ่เซียวโกรธมาก!
เธอพูดด้วยความโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง “นี่ต้องเป็นฝีมือของพวกเซียวชูหรันแน่! กล้าดียังไง!”
เมื่อเซียวฉางเฉียนได้ยินว่าลูกชายของเขาได้รับบาดเจ็บเขาก็ร้อนใจพลันกล่าวอย่างโกรธแค้น “แม่! ฉางควนไม่เห็นใครอยู่ในสายตา! คุณต้องรักษาความยุติธรรมให้ไห่หลง! ยังไงเขาก็เชื่อฟังคุณมาตลอด ไม่ว่าคุณจะพูดอะไร เขาก็จะทำตามคุณ!”
“แน่นอนอยู่แล้ว!” นายหญิงใหญ่ทำเสียงฮึดฮัดแล้วพูดว่า “แม้ว่าพวกเขาจะได้คฤหาสน์นั้นมาแล้วยังไงล่ะ? มันก็เป็นแค่เปลือกที่ว่างเปล่าไม่ใช่หรือ? ไม่มีเงินและอำนาจแล้วจะต่อสู้กับพวกเราได้อย่างไร! ฉันไม่เพียงแต่จะเอาคฤหาสน์มาไว้ในมือ แต่ยังปล่อยให้พวกเขาจ่ายราคาที่เจ็บปวดอีกด้วย!”
ขณะนั้นเองก็มีคนเข้ามาส่งข่าวว่า “นายหญิงใหญ่ ผู้นำตระกูลของตระกูลหวัง หวังเจิ้งกาง มาถึงแล้ว!”
“โอ๊ะ?” นายหญิงใหญ่โพล่งออกมา “รีบเชิญเข้ามา! ฉันแค่กำลังอยากถามเขาว่าทำไมเขาถึงยกคฤหาสน์ให้กับครอบครัวนั้น หวังเจิ้งกางก็เป็นญาติของเราด้วยเหมือนกัน ทำไมถึงไปช่วยคนนอกได้!”
ขณะที่กำลังคุยกัน หวังเจิ้งกางก็พาหลานชาย หวังเหวินเฟย เข้ามา
พวกเขาสองคนมาที่นี่เพื่อขอถอนหมั้น
อันที่จริงหวังเหวินเฟยเคยนึกรังเกียจเซียวเวยเวยมาแล้ว เหตุผลหลักคือครอบครัวของเซียวเวยเวยไม่สามารถเอาออกมาเชิดหน้าชูตาได้
ดังนั้นทันทีที่ลุงใหญ่ขอให้เขาถอนหมั้น เขาก็ไม่ขัดข้องและปล่อยให้ลุงใหญ่ตัดสินใจ
เมื่อนายหญิงใหญ่เซียวเห็นทั้งสองเข้ามาก็รีบออกไปแล้วบอกว่า “เฮ้อ มีญาติมาทำไมไม่ออกไปทักทายล่วงหน้าก่อนล่ะ!”
หวังเจิ้งกางยิ้มเยาะแล้วบอกว่า “นายหญิงใหญ่เซียวน่าเกรงขามมาก!”
นายหญิงใหญ่เซียวไม่รู้ว่าหวังเจิ้งกางพูดแบบนี้หมายถึงอะไร เธอฝืนยิ้มแล้วพูดว่า “ทำไมคุณถึงพูดแบบนั้น?”
พูดจบเธอก็รีบทักทายเซียวฉางเฉียนทันที “นานๆ ทีประธานหวังจะมาด้วยตัวเอง แกยังไม่รีบมาอีก แล้วเชิญ ประธานหวังเข้าไปนั่ง? นี่คือพ่อตาในอนาคตของแกนะ!”
“ผมไม่เข้าไปหรอก” หวังเจิ้งกาง โบกมือด้วยสีหน้าเย็นชาพลางกล่าวว่า “วันนี้ผมมาที่นี่ก็เพื่อพูดคุยเรื่องการแต่งงานระหว่างสองครอบครัว”
นายหญิงใหญ่เซียวรีบพูดเอาอกเอาใจ “ประธานหวังไม่ต้องกังวล เรื่องแต่งงานพวกเรามีธรรมเนียมประเพณี ไม่เอะอะแน่นอน ถ้าประธานมีความต้องการใดๆ โปรดแจ้งให้เราทราบได้เลย”
หวังเจิ้งกางกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ถ้าอย่างนั้นขอรวบรัดด้วยคำพูดสั้นๆ แล้วกัน ตระกูลหวังของเราได้คิดใคร่ครวญมาพักหนึ่งแล้ว รู้สึกว่าทั้งสองฝ่ายนั้นแตกต่างกันมาก ดังนั้นเราจึงมาที่นี่เพื่อเตรียมยกเลิกการแต่งงานระหว่างเหวินเฟยและเซียวเวยเวยของพวกคุณ”
“อะไรนะ คุณจะยกเลิกการหมั้น?” ทั้งนายหญิงใหญ่เซียวและเซียวฉางเฉียนตกใจ
เซียวเวยเวยที่อยู่ข้างหลังก็ถึงกับอึ้งไปก่อนจะโพล่งออกมาว่า “ทำไมล่ะ? วันแต่งงานของฉันกับพี่เหวินเฟยก็ได้ถูกกำหนดเรียบร้อยแล้ว!”
จากนั้นก็ถามหวังเหวินเฟยอีกครั้ง “พี่เหวินเฟย มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
หวังเหวินเฟยผายมือออกอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแล้วพูดว่า “นี่เป็นการจัดการของครอบครัว ผมไม่มีทางเลือก”
ตระกูลเซียวใกล้จะพังทลายลงแล้ว!
ทั้งสองครอบครัวได้ตกลงเรื่องการแต่งงานกันรวมถึงได้หมั้นหมายกันเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้บรรดาญาติมิตรทุกคนต่างกำลังรอคอยงานแต่งงานในเดือนหน้า
ในเวลานี้ตระกูลหวังกลับจะมายกเลิก?
นายหญิงใหญ่เซียวเฝ้ารอคอยที่จะได้เกี่ยวดองกับตระกูลหวัง อาศัยเกาะตระกูลหวังให้เจริญรุ่งเรือง!
ตอนนี้ตระกูลหวังพูดคำเดียวก็จะยกเลิก แล้วความพยายามทั้งหมดที่ทำมามันไม่ไร้ค่าหรือ?
ยิ่งไปกว่านั้นแม้ว่าเซียวเวยเวยและหวังเหวินเฟยจะไม่ได้แต่งงานกัน แต่ก็อยู่ด้วยกันมานานแล้ว ก่อนหน้านี้ไม่นานเด็กทั้งสองก็ท้องโดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อไม่ให้ถูกคนนินทา นายหญิงใหญ่จึงให้เซียวเวยเวยเอาเด็กออก เตรียมวางแผนที่จะมีลูกหลังแต่งงาน…
คิดไม่ถึงว่าตระกูลหวังจะมาขอถอนหมั้นกันง่ายๆ แบบนี้!
ไม่ใช่ว่าเอาหลานสาวไปเป็นของเล่นเสียตั้งนานหรอกเหรอ?
ยิ่งไปกว่านั้นยังเคยทำเธอท้องมาแล้วครั้งหนึ่ง ตอนนี้จะมาสะบัดมือหนีไป?
เธอโกรธจนตัวสั่นพลันถามว่า “ประธานหวัง ทำไมคุณถึงทำแบบนี้? ตระกูลเซียวของฉันไม่ได้ทำอะไรให้คุณขุ่นเคือง! ยิ่งไปกว่านั้นเราถือว่าเหวินเฟยเป็นลูกชายของเรามาโดยตลอด เขากับเวยเวยเคยมีลูกกันมาก่อน ฉันยังคิดว่าเราควรคำนึงถึงชื่อเสียงของครอบครัวเราทั้งสอง ไม่ให้ท้องก่อนแต่ง จึงขอให้เวยเวยไปทำแท้ง พวกคุณคงไม่ทำแบบนี้กับเธอใช่ไหม?
เมื่อพูดถึงเรื่องเด็ก เซียวเวยเวยก็ร้องไห้ออกมา
หวังเจิ้งกางยิ้มเยาะพลางพูดว่า “เรื่องนี้ถ้าจะโทษใคร ก็ต้องโทษนายหญิงใหญ่เซียวที่ทำเรื่องน่าอับอาย! โทษคนอื่นไม่ได้หรอก”
“เอ่อ…” นายหญิงใหญ่เซียวคิดไม่ถึงว่าหวังเจิ้งกางจะดุด่าเธอตรงๆ จนอดไม่ได้ที่จะถามว่า “นายหญิงใหญ่ทำไมเหรอ?”
หวังเจิ้งกางคำรามในลำคอ “คฤหาสน์ที่ผมมอบให้เย่เฉิน พวกคุณก็ต้องการแย่งชิง คนที่ไร้คุณธรรมอย่างพวกคุณ ผมจะร่วมเกี่ยวดองเป็นทองแผ่นเดียวกันกับพวกคุณได้อย่างไร?!”
นายหญิงใหญ่เซียวตกตะลึงอ้าปากค้าง ก่อนจะโพล่งออกมา “ทองแผ่นเดียวกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างพวกเรากับเย่เฉิน ทำไมคุณต้องเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย?”
หวังเจิ้งกางกล่าวอย่างเย็นชา “ยายแก่หน้าด้าน! คฤหาสน์นั่นเป็นของขวัญของผมที่มอบให้คุณเย่ คุณกล้าแย่งชิงเหรอ? ทำไมคุณไม่ลองมองดูสักหน่อยเล่า!”
นายหญิงใหญ่เซียวรู้สึกเจ็บแปลบที่หน้าอก
หวังเจิ้งกางคนนี้ไม่ไว้หน้าเธอเลย! คุณเป็นผู้นำตระกูลที่ร่ำรวย คิดจะมาดูถูกฉันแบบนี้ได้เหรอ?
แต่เธอก็ไม่กล้าโต้กลับในตอนนี้
เพราะเธอรู้ดีว่าเรื่องนี้มันเป็นความผิดของเธอเอง!
ยิ่งไปกว่านั้น เธอไม่คาดคิดว่า หวังเจิ้งกางจะเคารพไอ้เศษสวะเย่เฉินนั่น!
แล้วมันทำไมกันแน่นะ?!
ในเวลานี้ เซียวเวยเวยได้ทรุดนั่งลงกับพื้น มองไปที่หวังเหวินเฟย ร้องไห้พลางพูดว่า “พี่เหวินเฟย ฉันเคยท้องลูกของคุณ คุณทิ้งฉันไปแบบนี้ไม่ได้นะ!”
หวังเหวินเฟยที่อยู่ข้างๆ พูดอย่างเฉยเมยว่า “ถ้าจะโทษก็ต้องโทษคุณย่ากับคุณพ่อ เออใช่ ยังมีพี่ชายของคุณด้วย”
จากนั้นหวังเหวินเฟยก็พูดต่อว่า “อีกอย่าง พวกคุณยังทำร้ายลุงหลี่ คุณก็รู้ว่าลุงหลี่อยู่ในครอบครัวของผมมาสี่สิบปีแล้ว เคยช่วยชีวิตพ่อของผม ผมเติบโตมาในการดูแลของเขา ตอนที่ผมพลัดตกน้ำในวัยเด็ก ลุงหลี่ก็เป็นคนช่วยชีวิตผมขึ้นมา ไม่อย่างนั้นผมคงตายไปนานแล้ว สำหรับผมแล้วลุงหลี่ก็ไม่ต่างจากปู่แท้ๆ ของผม พวกคุณทำร้ายเขาเพราะต้องการแย่งชิงคฤหาสน์! กล้าดียังไง! คนหน้าด้านอย่างพวกคุณ ผมไม่มีทางไปเป็นลูกเขยของพวกคุณเด็ดขาด แล้วก็อย่าคิดจะมาเป็นลูกสะใภ้ของบ้านเราด้วย!”
เซียวฉางเฉียนที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้ยินดังนั้นก็หน้าซีด
นายหญิงใหญ่เซียวก็มีสีหน้าหวาดกลัวแทบจะล้มลง
พวกเขายังนึกว่าลุงหลี่เป็นแค่คนรับใช้ คิดไม่ถึงว่าจะมีความสำคัญต่อตระกูลหวังขนาดนี้…
ในเวลานี้นายหญิงใหญ่เซียวนึกเสียใจมาก ถ้ารู้ก่อนหน้านี้คงไม่กล้าแย่งชิงคฤหาสน์!
คฤหาสน์หลังนี้ก็ไม่ได้ แถมยังทำลายการแต่งงานของหลานสาวอีก!
ประเด็นสำคัญก็คือตนนั้นหวังจะเกาะตระกูลหวังเพื่อความเจริญรุ่งเรือง! แต่ตอนนี้ล้มเหลวทั้งสองอย่าง!
เมื่อคิดถึงตรงนี้ นายหญิงใหญ่ก็แทบจะร้องไห้ทั้งที่ไม่มีน้ำตา
เซียวเวยเวยที่นั่งอยู่บนพื้นตะโกนใส่นายหญิงใหญ่เซียวด้วยความโกรธแค้น “มันเป็นความผิดของยายแก่อย่างคุณคนเดียว! มันเป็นความผิดของคุณคนเดียวที่มาทำลายความสุขของฉัน!”