บทที่ 298
หวังเหวินเฟย ว่าที่เจ้าบ่าว ทอดทิ้งเธอ จนมาเป็นคนรักของเซียวอี้เชียน แต่กลับถูกเซียวอี้เชียนมองเป็นเครื่องมือ เอาไปให้เว่ยฉางหมิง ถ้าเว่ยฉางหมิงก็เล่นตนเองจนเบื่อขึ้นมา ตนเองจะต้องถูกโยนไปให้กันนะ?
ในตอนนี้ เธอก็อดนึกถึงเซียวชูหรันพี่สาวตนเองไม่ได้
แต่ไหนแต่ไรมา เซียวชูหรันไม่ได้จิตคิดวางแผนแบบเธอ ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีแฟน ก็แต่งงานกับเย่เฉินไปเลย แต่ถึงแม้เย่เฉินจะไม่
เอาไหนไปสักหน่อย แต่เย่เฉินก็ไม่ยอมให้เธอโดนดูถูกแม้แต่น้อย…..
เมื่อเทียบกันแล้ว ตนเองอาจจะไม่ใช่ผู้ชนะ
เว่ยฉางหมิงกอดเธอในอ้อมอก แล้วก็พูดกับเซียวอี้เชียนด้วยใบหน้าร้ายๆ ว่า “ประธานเซียววางใจเถอะ รอพวกเรารวบรวมตัวยาได้แล้ว จะรีบทำยามาให้คุณเลย! ช่วยคุณหวนคืนความเป็นชาย!”
“ดีมากเลย!” เซียวอี้เชียนก็เบาใจ แล้วยิ้มพูดว่า “เช่นนั้นผมก็วางใจ รอข่าวดีจากคุณแล้วกัน!”
เว่ยฉางหมิงพยักหน้า แล้วก็มองเวลา ในใจก็ร้อนรนอยากจะร่วมหลับนอนกับเซียวเวยเวย ดังนั้น ก็เลยพูดกับเซียวอี้เชียนด้วยสีหน้ายิ้มๆ ว่า “ประธานเซียวครับ ผมว่าวันนี้ก็ดึกมากแล้ว คืนนี้เราก็คุยกันเท่านี้แล้วกันครับ?”
เซียวอี้เชียนรู้ดีว่า เว่ยฉางหมิงอดไม่ได้ที่จะไปร่วมรักกับเซียวเวยเวยแล้ว ในใจตนเองก็อิจฉาขึ้นมาเหมือนกัน
แต่ว่าเขาก็ยังพยักหน้าไปอย่างใจกว้าง พูดยิ้มว่า “ได้ครับ คืนนี้ก็คุยกันเท่านี้ พวกคุณเชิญกลับก่อนเลย!”
พูดจบ ก็พูดกับเซียวเวยเวยว่า “ดูแลประธานเว่ยให้ดี เข้าใจแล้วใช่ไหม?”
เซียวเวยเวยพยักหน้าอย่างไร้ศักดิ์ศรี ปากก็ได้แต่พูดออกมาว่า “เข้าใจแล้วค่ะ………”
คืนนี้ เซียวเวยเวยก็กลายเป็นคนของเว่ยฉางหมิง
ถึงแม้ในใจลึกๆ ของเซียวเวยเวย จะไม่ค่อยชอบฉายาใหม่ของตนเอง แต่เว่ยฉางหมิงก็ตื่นเต้นกับตัวเธอไม่น้อยเหมือนกัน
คืนนี้ เว่ยฉางหมิงค้นหาความเร่าร้อนเหมือนสมัยวัยรุ่นได้อีกครั้ง บนเรือนร่างของเซียวเวยเวย
ดังนั้น หลังจากเสร็จกิจ ก็กอดเซียวเวยเวย แล้วรับปากต่อเธอว่า “ต่อจากนี้คุณไม่ต้องไปอยู่กับเซียวอี้เชียนนั่นแล้ว มาอยู่กับผมเลย ผมจะทำให้คุณไปคนเหนือคน”
พอพูดคำนั้นออกมา ในใจเซียวเวยเวยก็พอรับได้ขึ้นมาบ้าง
ถ้าหากเว่ยฉางหมิงสามารถทำให้ตนเองกลายเป็นคนเหนือคนได้ ตนเองจะมาอยู่กับเขา ก็ไม่ใช่เรื่องร้ายอะไร
ถึงเขาจะไม่รวยเหมือนเซียวอี้เชียน อย่างน้อยก็อย่างอายุน้อยกว่าเซียวอี้เชียนมาก อีกอย่าง ดูไปแล้ว เขาก็ไม่ใช่ผู้ชายที่จะเอาตัวเองไปให้ใครง่ายๆ
……
เช้าวันต่อมา ข่าวเรื่องที่สองพ่อลูกตระกูลเกาหายตัวไป ก็ยังดังกระฉ่อน
ได้ยินว่า ตระกูลเกาได้ขึ้นราคาค่าเบาะแส เป็นสิบล้าน พวกอยากได้เงินก็เริ่มค้นหาเบาะแสร่องรอยของสองพ่อลูกกันใหญ่ หวังว่าจะรวยขึ้นมาได้บ้าง
แต่น่าเสียดาย สองพ่อลูกตระกูลเกาได้สลายเป็นผุยผงไปแล้ว ไม่อยู่ในโลกนี้แล้ว
กินข้าวเช้าแล้ว เซียวชูหรันก็ไปออฟฟิศ เซียวฉางควนก็ไปสมาคมวัตถุโบราณ ได้ยินว่า ช่วงนี้กำลังศึกษาวิธีการตรวจสอบวัตถุโบราณ
กับทางอาจารย์ดังๆ ในสมาคม ส่วนหม่าหลัน เมื่อวานก็ตกใจอย่างกับหมาตื่นคน พอเช้าวันนี้ก็แต่งตัวจัดเต็ม ออกไปเล่นไพ่นกกระจอกแล้ว
เย่เฉินก็ถูบ้านอยู่ที่บ้าน ก็ได้ยินคุณหนูตระกูลซ่ง ซ่งหวั่นถิงโทรมาหา
เย่เฉินก็ถูบ้านไป แล้วก็กดรับโทรศัพท์เปิดลำโพง
เสียงอันนุ่มนวลของซ่งหวั่นถิงดังขึ้น ถามอย่างเคารพว่า “อาจารย์เย่คะ ไม่ทราบว่าตอนนี้คุณอยู่ที่บ้านไหมคะ?”
“อยู่ครับ” เย่เฉินถามอย่างสงสัยว่า “มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ?”
————