ตอนนั้น ที่เซียวฉางควนได้รับโรเล็กซ์จากหานเหม่ยฉิง แล้วนั่งเห่อนาฬกาในรถกับเย่เฉินนั้น เซียวชูหรันก็นั่งอยู่เบาะหลังรถด้วย
ดังนั้นเธอจึงรู้ดีว่า ตอนนี้ที่พ่อขอเย่เฉินให้เย่เฉินซื้อโรเล็กซ์นั้น ที่จริงแล้วมันเป็นแค่พิธีการเท่านั้น ประเด็นหลักคือแค่หาโอกาสที่จะใส่โรเล็กซ์ที่หานเหม่ยฉิงมอบให้เขาอย่างเปิดเผย
ในขณะนั้นเอง แม้ว่าเซียวชูหรันจะรู้สึกไม่สบายใจอยู่บ้าง แต่ว่า เมื่อนึกถึงเรื่องในอดีตระหว่างพ่อกับแม่ ทั้งเรื่องที่เธอไม่ได้รับความเป็นธรรมมาตลอดหลายปีนี้แล้ว ก็ยังเลือกทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น
แต่เซียวชูหรันคิดไม่ถึงเลยว่า แม่ของเธอในเวลานี้ยังจะมาคอยประสมโรง ทั้งยังอยากให้เย่เฉินซื้อโรเล็กซ์สักเรือนให้อีกด้วย
เธอจึงรีบพูดกับหม่าหลันว่า “แม่คะ นาฬิกาโรเล็กซ์มันไว้สำหรับผู้ชายสวมนะคะ แม่ใส่คงดูไม่ค่อยเหมาะหรอกค่ะ ถ้าแม่ชอบนาฬิกาจริงๆ เดี๋ยวเดินทางกลับหนูจะนาฬิกาทิสโซต์สำหรับผู้หญิงให้ค่ะ”
หม่าหลันพูดอย่างเมินเฉยว่า “อย่าคิดจะหลอกฉันเลย นาฬิกาของแบรนด์นั้นราคาถูกมาก เงินแค่ไม่กี่พันหยวนก็สามารถซื้อได้แล้ว และราคาต่ำจนไม่ถึง 3 พันด้วยซ้ำ มันเทียบกับโรเล็กซ์ ได้ที่ไหนกันล่ะ! ฉันไม่อยากได้หรอก!”
เย่เฉินจึงเผลอพูดไปว่า “คุณแม่ครับ” ครั้งนี้ผมก็ซื้อของที่เย่นจิงแล้วหลายอย่างถ้ายังซื้อนาฬิกาทองให้พ่อกับแม่คนละเรือนอีก คาดว่ามาตรฐานการครองชีพของครอบครัวเราจะต้องตกต่ำลงอย่างมาก และบังเอิญว่าผมก็รู้จักกับพี่ชายคนหนึ่งที่ขายนาฬิกาเลียนแบบด้วย และนาฬิกาเลียนแบบที่เขาขายนั้นเลียนแบบได้เหมือนของแท้มาก ดูไม่ออกเลยว่าเป็นของปลอม และราคาก็ยังถูกมากด้วย หรือว่าผมจะสั่งทำคนละเรือนให้พ่อกับแม่เอาไปใส่ก่อนดี?”
หม่าหลันที่อยู่ตรงหน้าเย่เฉินในตอนนี้ไม่ใช่หญิงปากร้ายที่ชอบวิจารณ์และต่อต้านเหมือนตอนแรกแล้ว พอเย่เฉินทำดีกับเธอหน่อย เธอก็รู้จักคิดไม่น้อยเลย
เมื่อนึกถึงเย่เฉินที่ซื้อแอร์เมสให้ตัวเองมากขนาดนี้แล้ว มันก็ไม่ดีที่จะให้เขาเสียเงินซื้อนาฬิกาเรือนทองให้ตัวเองอีก ดังนั้นเธอจึงรีบพูดว่า “ไอ้หยา ลูกเขยคนดี แม่ก็แค่พูดไปอย่างนั้นแหละ แม่รู้ว่า ลูกทำงานหาเงินมันไม่ง่ายเลย งั้นเอาแบบนี้ไหม ลูกก็ซื้อของปลอมให้พ่อใส่ไปก่อน ส่วนแม่น่ะไม่ต้องแล้ว”
พอพูดจบ ก็รีบเสริมอีกว่า “เอ๊ะ ลูกเขยคนดี ต่อไปถ้าลูกรับทำงานดูฮวงจุ้ยอีก ได้เงินเยอะน่ะ ก็อย่าลืมแม่คนนี้ล่ะ!”
เย่เฉินยิ้มพร้อมกับพยักหน้า “ไม่มีปัญหาครับ อีกหน่อยถ้าหาเงินได้ผมจะไม่ลืมคุณแม่แน่นอนครับ”
ขณะที่พูดอยู่นั้น เขาก็ขยิบตาให้เซียวฉางควน และพูดว่า “คุณพ่อครับ งั้นผมจะให้เพื่อนผมหานาฬิกาโรเล็กซ์เลียนแบบเรือนหนึ่งให้ดีไหมครับ? ยังไงคนธรรมดาก็มองไม่ออกแน่นอน เพราะมันเหมือนกับของจริงเลยครับ!”
เซียวฉางควนจะไม่เข้าใจความหมายของเย่เฉินได้ยังไงกัน ยังไงก็เป็นแค่การหาเหตุผลที่จะสวมใส่โรเล็กซ์ที่หานเหม่ยฉิงมอบให้เขาได้อย่างเปิดเผย ทั่งหม่าหลันยังคิดว่ามันเป็นของปลอม นั่นคงไม่มีอะไรดีไปกว่านี้แล้วล่ะ
ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าอย่างรวดเร็ว และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไอ้หยา ของปลอมก็ไม่เป็นไรหรอก ยังไงพ่อก็แค่อยากจะใส่เพื่ออวดเก่งเท่านั้นแหละ เพราะมันสิ้นเปลืองจริงๆ!”
เย่เฉินพายเรือตามน้ำ “ถ้าอย่างนั้นก็ตกลงตามนี้นะครับ เดี๋ยวผมจะรีบโทรไปหาเขา และให้เขาช่วยหาของเลียนแบบเกรดสูงให้ครับ”
เซียวฉางควนยิ้มจนแก้มปริ “ได้ๆ!”
จากนั้นเย่เฉินหยิบใบชาที่ถังซื่อไห่ให้ออกมา แล้วยื่นให้เซียวฉางควน “คุณพ่อครับ นี่คือใบชาชั้นดีที่ผมไหว้วานคนช่วยหามาให้ ต่อไปนี้อย่าซื้อชาสุ่มสี่สุ่มห้าในวีแชตอีกนะครับ”
เซียวฉางควนยิ้มและพูดว่า “ชานั้นของพ่อก็ไม่เลวนะ ดื่มแล้วรสชาติก็ดีมากเหมือนกัน!”
เย่เฉินพูดว่า “ถ้าอย่างงั้นก็ลองชิมชานี้ดูนะครับแล้วค่อยดูอีกทีว่ามันต่างกันมากแค่ไหน”
เซียวฉางควนพยักหน้า “ได้เลย เดี๋ยวพ่อจะลองดู!”
ในขณะนั้นเองเย่เฉินก็หยิบกล่องของขวัญเอร์เมสที่เหลือออกมา และพูดกับเซียวชูหรันว่า “ที่รักครับ ทั้งหมดนี้เป็นของคุณ คุณกลับไปที่ห้องแล้วค่อยแกะล่ะ”
เซียวชูหรันพูดด้วยความประหลาดใจว่า “เอ๊ะ? ทำไมยังมีของขวัญของฉันอีกล่ะ คุณก็ให้กระเป๋าฉันใบหนึ่งแล้วนี่นา… ”
เย่เฉินพยักหน้า เขายิ้มแล้วพูดว่า “ที่เหลือก็เป็นพวกเครื่องประดับเล็กๆ น้อยๆ เช่นผ้าพันคอ กระเป๋าสตางค์และเข็มขัดน่ะ”