ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน – บทที่ 3244 ปีกกล้าขาแข็งแล้ว

บทที่ 3244 ปีกกล้าขาแข็งแล้ว

 คนรู้จักเก่า?! 

ซูโสว่เต้าได้ยินคำพูดนี้ พูดด้วยใบหน้าที่เหลือเชื่อว่า :  แต่ว่าผมไม่ได้รู้จักประมุขของสำนักว่านหลงเลยด้วยซ้ำนะ……เขาจะเป็นคนรู้จักเก่าของผมได้ยังไงกัน? 

เย่เฉินยิ้มพร้อมพูดว่า :  พูดว่าเป็นคนรู้จักเก่า ก็อาจจะไม่ค่อยเหมาะสม น่าจะพูดว่าเป็นคนรุ่นหลังของคุณดีกว่านะ และมีสายสัมพันธ์ที่ค่อนข้างลึกซึ้งกับคุณด้วย  

 จะเป็นไปได้ยังไง……  ซูโสว่เต้ารู้สึกประหลาดใจอย่างมาก เกรงว่าเย่เฉินจงใจหาข้อกล่าวหาที่ไม่มีอยู่จริงมาทรมานตัวเอง เพราะงั้นรีบเอ่ยปากพูดทันทีว่า:  คุณเย่……ผมไม่รู้จักประมุขของสำนักว่านหลงอะไรนั่นจริงๆนะ ……มีอะไรที่เข้าใจผิดกันหรือเปล่า? 

เย่เฉินส่ายหน้า ถามเขาว่า :  ในปีนั้นว่านเหลียนเฉิงเป็นลูกน้องของคุณใช่ไหม? 

ซูโสว่เต้าคิดไม่ถึงว่า เย่เฉินจะเอ่ยถึงชื่อว่านเหลียนเฉิงที่ตายไปเมื่อยี่สิบปีก่อนแล้ว

เขาพูดกล่าวทันทีว่า :  ใช่……แต่ว่าว่านเหลียนเฉิงตายไปยี่สิบปีแล้วนะ……เขาเกี่ยวอะไรกับสำนักว่านหลงด้วย? 

เย่เฉินยิ้มพร้อมพูดว่า :  ประมุขของสำนักว่านหลงคนนี้ ก็คือลูกชายของว่านเหลียนเฉิง เขาชื่อว่านพั่วจวิน คุณน่าจะยังจำได้นะ? 

 อะไรนะ?!  ซูโสว่เต้าราวกับโดนฟ้าผ่าเลยยังไงอย่างนั้น โพล่งพูดว่า :  พั่วจวินเขา……เขาเป็นประมุขของสำนักว่านหลง?! 

 ใช่  เย่เฉินยิ้มพร้อมถามเขา:  เป็นยังไง?ได้ยินข่าวนี้แล้ว คุณทั้งรู้สึกเซอร์ไพรล์ทั้งรู้สึกตื่นเต้นเลยใช่ไหม? รู้สึกเหมือนว่าชีวิตที่มืดสลัวๆ เพียงชั่วพริบตาก็เบ่งบานรุ่งโรจน์เรืองรองแล้วใช่ไหม ? 

ซูโสว่เต้าเห็นแววตาของเย่เฉินนำมาซึ่งความหยอกล้อเล็กน้อย ในใจก็อดไม่ได้ที่จะค่อนข้างตื่นตระหนก

ได้ยินว่าว่านพั่วจวินเป็นประมุขแห่งสำนักว่านหลงที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ในใจลึกๆของเขาก็ตื่นเต้นมากเลยจริงๆ

เพราะว่าความคิดแรกของเขาก็คือ ในเวลานี้ตัวเองมีสำนักว่านหลงที่แข็งแกร่งหนุนหลังอยู่ กลับไปใช้ชีวิตอิสระเกรงว่าจะเป็นจริงในไม่ช้านี้!

แต่ว่า เห็นสีหน้าท่าทางของเย่เฉินไม่กลัวเลยโดยสิ้นเชิง ในใจของเขาก็อดไม่ได้ที่จะเต้นเร็วขึ้น

แอบไตร่ตรองในใจ :  ทำไมเย่เฉินถึงได้ยิ้มอย่างแปลกประหลาดเช่นนี้?หรือว่าเขาไม่กลัวสำนักว่านหลงเลยสักนิดงั้นเหรอ? 

คิดมาถึงตรงนี้ จู่ๆเขาก็มองไปยังเฉินจงเหล่ยที่อยู่ข้างๆแล้ว ในใจก็มีคำตอบทันที!

 เย่เฉินจะกลัวสำนักว่านหลงได้อย่างไรกันล่ะ……สำนักว่านหลงเพิ่งจะสูญเสียราชันสงครามในมือของเขาไป และทหารรับจ้างมากกว่า 16,000 คน เฉินจงเหล่ยพละกำลังแข็งแกร่งเช่นนี้ อยู่ต่อหน้าเย่เฉินก็ไม่มีกำลังที่จะต่อต้านได้เลยแม้แต่น้อย ด้วยพละกำลังของเย่เฉินแล้วจะเห็นสำนักว่านหลงอยู่ในสายตาได้ยังไงกัน? 

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ซูโสว่เต้าก็เซื่องซึมไม่น้อยเลยทันที

ดูเหมือนว่า แสงแห่งความหวังเพิ่งจะส่องสว่างขึ้น ก็ดับสูญไปทันทีแล้ว

ในเวลานี้เย่เฉินเอ่ยพูดต่อ :  คุณกับว่านพั่วจวิน น่าจะไม่ได้เจอกันยี่สิบปีแล้วใช่ไหม? 

 ใช่……  ซูโสว่เต้าพยักหน้าแล้ว เอ่ยปากพูดว่า:  หลังจากที่พ่อแม่ของเขาฆ่าตัวตาย ผมก็อยากรับเขามาเลี้ยงดูที่บ้าน แต่คิดไม่ถึงว่า เขาถูกคนพาไปเมืองนอกก่อนผมก้าวหนึ่งแล้ว หลังจากนั้นผมก็ไม่เจอเขาอีกเลย 

เย่เฉินยิ้มเล็กน้อย พูดอย่างเล่นหูเล่นตาว่า :  งั้นพรุ่งนี้ฉันจะให้พวกคุณลุงหลานที่แยกจากกันนานกว่ายี่สิบปีได้เจอหน้ากันหน่อย รำลึกความหลังกันให้ดีๆ 

เมื่อซูโสว่เต้าได้ฟังคำนี้ พูดอย่างตื่นเต้นว่า :  พั่วจวินเขา……เขามาหัวเซี่ย? 

เย่เฉินพยักหน้าพร้อมยิ้ม พูดว่า :  ไม่เพียงแค่มาหัวเซี่ยเท่านั้น แถมยังปีกกล้าขาแข็งด้วย! วันนี้ให้คนเอาโลงศพมาส่งให้ตระกูลเย่ร้อยกว่าโลงแล้ว บอกว่าพรุ่งนี้ตอนแปดโมงเช้าให้สมาชิกตระกูลเย่สวมชุดผ้าลินินปกหมวกขาวแสดงความอาลัย ต้อนรับโลงศพของพ่อแม่เขาที่จะย้ายเข้าไปในภูเขาเย่หลิงซาน ไม่เช่นนั้นจะฆาตกรรมทั้งตระกูล 

พูดแล้ว เย่เฉินก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ก็พูดอีกว่า :  อ๋อจริงสิ แล้วยังเอ่ยระบุชื่อแซ่ต่อสาธารณชนว่าต้องการโลงศพของพ่อแม่ฉันด้วย ต้องการทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของตระกูลเย่ คุณว่าเขาสุดยอดมากเลยใช่ไหม?  

เมื่อซูโสว่เต้าฟังจบแล้ว เพียงแค่รู้สึกว่าสมองดังหึ่งๆ

เขาก็ไม่รู้ว่าทำไม เห็นเย่เฉินมีท่าทางเช่นนี้แล้ว ในใจก็วินิจฉัยได้แล้วว่า พรุ่งนี้ว่านพั่วจวินพ่ายแพ้แน่นอน!

ดังนั้น เขาก็โพล่งพูดออกมาทันทีว่า :  คุณเย่พั่วจวิน……พั่วจวินเขา……จะต้องเป็นเพราะการตายของพ่อแม่เขาในปีนั้น ทำให้มีความแค้นสะสมต่อตระกูลเย่……ก็ขอให้คุณมองว่าเขาทำเพื่อแก้แค้นให้พ่อแม่ อย่าได้ถือสาเขาเลยนะ…… 

เย่เฉินเลิกคิ้วขึ้นแล้ว ยิ้มพร้อมถามว่า :  ทำไม?คุณถึงได้ไม่คาดหวังในตัวเขาขนาดนี้? 

ซูโสว่เต้าได้ยินที่เย่เฉินถาม อดไม่ได้ที่จะหัวเราะขื่นๆ พูดว่า :  ความสามารถของคุณเย่ ผมรู้ดีครับ…… 

 

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

Status: Ongoing

เย่เฉินเป็นเขยแต่งเข้าบ้านหญิงที่ใครๆก็ดูถูกเหยียดหยาม แต่ไม่มีใครรู้ว่าฐานะแท้จริงของเขาเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลอันดับต้นๆ พวกที่เคยดูถูกเขาสุดท้ายก็ต้องคุกเข่าต่อหน้าเขาและเรียกเขาด้วยความเกรงกลัวว่าท่านชาย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท