ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน – บทที่ 3461

บทที่ 3461

หลังจากการสนทนาสิ้นสุดลง ก็เป็นเวลาตอนเที่ยง เฉินจื๋อข่ายถามเย่เฉินว่า  คุณชาย ตอนเที่ยงคุณได้วางแผนจะไปรับประทานอาหารที่ไหนไว้หรือไม่? 

เย่เฉินส่ายศีรษะ  ไม่ได้วางแผนใด ๆ ตอนบ่ายผมจะไปพบหวั่นถิงเพื่อคุยเรื่องการประมูล 

เฉินจื๋อข่ายมองดูเวลาและกล่าวว่า  คุณชาย คุณรับประทานอาหารกลางวันที่โรงแรมป๋ายจินฮ่านกงดีไหม? ผมจะให้พวกเขาจัดเตรียมอาหารกลางวันทันที 

 ไปทานที่เทียนเซียงฝู่เถอะ  เย่เฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ  ถึงอาหารที่ปรุงในโรงแรมใหญ่นั้นจะประณีตแค่ไหน มันก็ย่อมมีกลิ่นเหมือนข้าวหม้อใหญ่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 

เฉินจื๋อข่ายรีบกล่าวว่า  ถ้าอย่างนั้นผมจะไปเตรียมรถเดี๋ยวนี้ จะได้ไปทักทายหงห้าด้วย พวกเราไปที่เทียนเซียงฝู่กันเถอะ 

เย่เฉินสั่งว่า  โทรให้เว่ยเลี่ยงไปด้วย ผมมีเรื่องจะคุยกับเขา 

 ครับ!  เฉินจื๋อข่ายขันรับและรีบกล่าวว่า  คุณชาย ถ้าเช่นนั้นคุณไปรอที่สวนดอกไม้กลางอากาศก่อน 

ช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ เย่เฉินไม่ได้ถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดำเนินงานของบริษัทผลิตยาเก้าเสวียน เขารู้สึกวางใจที่จะมอบทุกอย่างให้เว่ยเลี่ยงรับผิดชอบดูแล

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขาต้องการเร่งพัฒนาบริษัทผลิตยาเก้าเสวียน ดังนั้นที่เรียกเว่ยเลี่ยงมาคราวนี้ เพราะต้องการมอบสูตรยาตัวใหม่ให้เขา เพื่อที่เขาจะได้รีบไปจัดเตรียมสูตรยาตัวใหม่

เฉินจื๋อข่ายได้โทรไปแจ้งหงห้า จากนั้นจึงขับรถพาเย่เฉินมุ่งหน้าไปที่เทียนเซียงฝู่

ทันทีที่เย่เฉินขึ้นรถ โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น และซูจือหยูเป็นคนโทรมา

เย่เฉินรับโทรศัพท์และถามเธอด้วยรอยยิ้มว่า  คุณซู ทำไมถึงโทรหาผมในเวลานี้ได้ล่ะ? 

ซูจือหยูที่อยู่ปลายสายโทรศัพท์ กล่าวด้วยน้ำเสียงที่นอบน้อมว่า  ผู้มีพระคุณ ที่จือหยูโทรมาเพราะต้องการรายงานต่อผู้มีพระคุณ เมื่อวานคุณปู่ประกาศกับตระกูลซูว่าฉันจะเข้ารับตำแหน่งผู้นำตระกูลซูในเช้านี้ และได้จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นขึ้นที่ซูซื่อกรุ๊ป และประกาศแต่งตั้งให้ฉันเป็นประธานของซูซื่อกรุ๊ป และตอนนี้ฉันได้รับช่วงต่อธุรกิจของตระกูลซูอย่างเป็นทางการแล้ว 

เย่เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า  ยินดีกับคุณด้วยจริง ๆ! คุณกลายเป็นผู้นำตระกูลซูตั้งแต่อายุยังน้อย! เป็นเรื่องที่น่ายินดีจริง ๆ! 

ซูจือหยูกล่าวด้วยความนอบน้อมว่า  ทั้งหมดนี้เป็นเพราะความช่วยเหลือจากผู้มีพระคุณ หากไม่มีผู้มีพระคุณ จือหยูคงจะเสียชีวิตอยู่ที่เกียวโตในคืนที่หิมะตกแล้ว…. 

เย่เฉินกล่าวอย่างจริงจังว่า  อย่ารื้อฟื้นอดีตพวกนั้นอีกเลย ตอนนี้คุณเป็นผู้นำตระกูลซู และเป็นผู้ดูแลกรุ๊ปใหญ่ที่มีมูลค่าตลาดมากกว่าหนึ่งล้านล้าน หากคุณยังคงคิดแต่เรื่องความกตัญญู มันเป็นเรื่องยากที่จะสามารถดำรงตำแหน่งนี้ได้อย่างมั่นคง 

ซูจือหยูยังคงกล่าวอย่างจริงจังว่า  ผู้มีพระคุณ นอกจากพ่อแม่ที่มีบุญคุณในการเลี้ยงดูฉันแล้ว จือหยูสำนึกบุญคุณแค่คุณคนเดียวเท่านั้น 

เย่เฉินยิ้มเล็กน้อย  เอาล่ะ ไม่ต้องเกรงใจมากขนาดนั้น นี่เป็นครั้งแรกที่คุณและผมเป็นผู้นำตระกูล ต่อไปพวกเราร่วมมือพยายามทำงานอย่างเต็มที่กันเถอะ 

 เข้าใจแล้วค่ะ!  ซูจือหยูกล่าวอย่างหนักแน่น  ฉันจะพยายามบริหารธุรกิจของตระกูลซูให้ดีที่สุด ขณะเดียวกันก็ขอให้ผู้มีพระคุณโปรดวางใจ นับตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป ตระกูลซูจะไม่เป็นปรปักษ์กับผู้มีพระคุณอีก ขอเพียงแค่คุณพูดมาคำเดียว ไม่ว่าจะเป็นเขตอิทธิพลหรือธุรกิจใด ๆ ตระกูลซูจะถอยออกไปตลอดโดยไม่ลังเล! 

เย่เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า  ไม่ถึงขนาดนั้น การแข่งขันที่เป็นปกตินั้นยังคงต้องมีอยู่ และแน่นอนว่า หากความสัมพันธ์เชิงแข่งขันนั้นสามารถเปลี่ยนเป็นความสัมพันธ์แบบร่วมมือกันได้ มันจะดียิ่งขึ้นไปอีก! 

หลังจากนั้น เย่เฉินถามด้วยความเป็นห่วงว่า  อย่างไรก็ตาม คุณท่านใหญ่ซูได้มอบอำนาจใหญ่ทั้งหมดให้คุณแล้ว คุณรู้สึกมีแรงกดดันใหญ่จากภายในของตระกูลซูหรือไม่? 

 รู้สึกแรงกดดันมากค่ะ  ซูจือหยูหัวเราะเยาะตนเอง  ทุกคนมองฉันราวกับว่าเป็นผู้บุกรุก พวกเขาแทบรอไม่ไหวที่จะขย้ำฉันแล้ว 

หลังจากนั้น ซูจือหยูกล่าวอย่างจริงจังว่า  แต่ฉันมั่นใจว่าสามารถจัดการพวกเขาได้ ผู้มีพระคุณวางใจเถอะ 

 ดีมาก  เย่เฉินยิ้มเล็กน้อย  ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือใด ๆ อย่าลืมมาหาผม 

 ค่ะ! ขอบคุณผู้มีพระคุณ! 

เย่เฉินกล่าวอีกครั้งว่า  อย่างไรก็ตาม ในช่วงสองวันที่ผ่านมานั้น ผมได้ศึกษาการเปลี่ยนแปลงลักษณะงานของสำนักว่านหลง แผนเบื้องต้นคือให้พวกเขาจัดตั้งบริษัทคุ้มกันติดอาวุธก่อน และหลังจากการก่อตั้งแล้ว ก็จะมอบทงานคุ้มกันของบริษัท นานาซูขนส่ง จำกัดทั้งหมดให้พวกเขา ถ้าคุณมีเวลามาที่เมืองจินหลิง พวกเราค่อยคุยกันอีกที 

ซูจือหยูไม่ลังเล และกล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นเล็กน้อยว่า  ผู้มีพระคุณ ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้ฉันจะไปหาคุณ! 

 

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

Status: Ongoing

เย่เฉินเป็นเขยแต่งเข้าบ้านหญิงที่ใครๆก็ดูถูกเหยียดหยาม แต่ไม่มีใครรู้ว่าฐานะแท้จริงของเขาเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลอันดับต้นๆ พวกที่เคยดูถูกเขาสุดท้ายก็ต้องคุกเข่าต่อหน้าเขาและเรียกเขาด้วยความเกรงกลัวว่าท่านชาย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท