วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – บทที่ 927 สายเลือดตระกูลหนาน

บทที่ 927 สายเลือดตระกูลหนาน

จากนั้นขมวดคิ้วอีกครั้งและกุมหน้าผากของตัวเอง

กู้ซือเฉียนรีบจับที่ที่เธอจับไว้ด้วยความประหม่า และเสียงของเขาก็ตึงเครียด

“เธอเป็นอะไร? ปวดหัวเหรอ? หรือว่ามีตรงไหนไม่สบายอีก?”

เฉียวฉีมองเขาอย่างว่างเปล่า

สักพักก็ส่ายหัว “ไม่มี เมื่อกี้ปวดขมับ ก็เลยปวดหัว แต่ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว”

เธอพูดแล้วหันไปมองรอบๆ

เมื่อเห็นว่ามีคนอยู่เต็มห้อง ทุกคนยังเฝ้าอยู่ในห้องนั่งเล่นด้านนอก พอได้ยินว่าเธอฟื้นแล้ว ทุกคนก็รีบเข้ามา แต่เพราะเธอเพิ่งฟื้น เธอจึงไม่สามารถเสียงดังได้จึงได้แต่มองดูทุกคน

เฉียวฉีมองดูพวกเขาอย่างว่างเปล่าแล้วถาม: “ทุกคนเป็นอะไรกัน? ทำไมพวกคุณถึงมาอยู่ที่นี่? มองฉันทำไมกัน?”

จิ่งหนิงขมวดคิ้วและไม่รู้ว่าด้วยเหตุใด แต่เธอรู้สึกได้ลึกๆ ว่าเฉียวฉีดูไม่ปกติ

ในวินาทีถัดมา จึงได้เห็นเธอก้มลงมองตัวเอง

แล้วดวงตาก็เบิกกว้างขึ้นทันใด

“เอ๊ะ? ทำไมฉันถึงสวมชุดเจ้าสาว? กู้ซือเฉียน ชุดแต่งงานของเราไม่มาไม่ใช่เหรอ? คุณบอกว่าดีไซเนอร์Emilyต้องปรับขนาด และจัดส่งชุดได้ในสัปดาห์หน้า”

สีหน้าของกู้ซือเฉียนเปลี่ยนไป

ดวงตาจมลงอย่างรวดเร็ว

ลองชุด แก้ชุด นั่นมันเรื่องเมื่อครึ่งเดือนก่อน

ดังนั้น ความทรงจำของเธอย้อนกลับไปเมื่อครึ่งเดือนก่อนงั้นเหรอ?

เขาทำหน้าเครียด แต่น่าประหลาดใจที่เขาไม่ได้บอกความจริงในทันที แต่ลูบหน้าเฉียวฉีเบา ๆ

จากนั่นก็สั่งลุงโอ “ดูแลคุณนายก่อน”

พูดจบก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกไป

รอยเท้าของชายผู้นั้นเหมือนลมกระโชกแรง และตัวหายวับไป

เฉียวฉีตกตะลึง มองไปที่ลุงโอ และในที่สุดก็จับจ้องไปที่จิ่งหนิงที่อยู่ไม่ไกล

สีหน้าดีใจ

“หนิงหนิง เธอมาได้ยังไง? แถมยังมีลู่จิ่งเซินอีก พวกเธอกลับไปแล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงกลับมาเร็วแบบนี้ล่ะ? งานแต่งงานของฉันกับซือเฉียนยังไม่ถึงเลยนะ พวกเธอมาเที่ยวก่อนเหรอ หรือว่าตั้งใจมาเยี่ยมพวกเราล่ะ?”

หัวใจของทุกคนจมลง จนถึงตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น?

เธอ…จู่ ๆ ก็สูญเสียความทรงจำ?

จิ่งหนิงกระชับนิ้วแน่นและเดินเข้าไป

นั่งลงข้างๆ เธอ ยิ้มเล็กน้อยและพูด: “ใช่แล้วล่ะ พวกเรามาเที่ยว พอรู้ว่าเธอกับซือเฉียนอยู่ที่นี่ก็เลยรีบตามมาเยี่ยมเธอไง”

ขณะที่เธอพูด เธอค่อยๆ ม้วนผมของเฉียวฉีและถามด้วยความเป็นห่วง: “เธอรู้สึกไม่สบายตรงไหนบ้างรึเปล่า? ถ้าหากไม่สบายตรงไหน จะบอกพวกเรานะ เข้าใจไหม?”

ต่อให้เฉียวฉีจะเพิ่งฟื้นและสมองเธอยังตื้อๆ อยู่ ตอนนี้ก็เริ่มรู้สึกผิดปกติแล้ว

ที่สุดแล้วเธอแค่สูญเสียความทรงจำ ไม่ได้กลายเป็นคนโง่

เธอมองจิ่งหนิงและหันไปมองดูคนอื่นๆ ที่อยู่ข้างๆ ที่มีสีหน้าเป็นกังวลเหมือนกันหมด จึงถามขึ้น: “นี่เกิด…เรื่องอะไรกับฉันเหรอ?”

ที่ห้องด้านข้าง

กู้ซือเฉียนมองดูชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนโชฟาอย่างเย็นชา

“พูดมา เธอเป็นอะไรกันแน่?”

หนานมู่หรงนั่งจิบชาอย่างสบาย ๆ ไม่รีบร้อน

หลังจากดื่มชาหมดไปแก้วหนึ่งจึงได้เงยหน้ามองเขาและยิ้มเล็กน้อย

“ฉันกล้าพูด แต่นายกล้าเชื่อรึเปล่าล่ะ?”

กู้ซือเฉียนขมวดคิ้วแน่น

หนานมู่หรงพูดขึ้นอย่างเรียบเฉย: “อาการป่วยของเธอในตอนนี้ ไม่ใช่ความจำเสื่อม แต่เพราะสมองของเธอตีบทำให้สูญเสียความทรงจำระยะสั้น เมื่อกี้ฉันก็บอกไปแล้วว่าเธอเป็นโรคทางพันธุกรรม โรคแบบนี้จะปรากฏอาการอย่างฉับพลันเมื่อถึงอายุประมาณหนึ่ง จากนั้นอวัยวะภายในร่างกายก็จะแก่ลงอย่างรวดเร็วสิบเท่าหรือร้อยเท่า เธอจะต้องกินยาตามเวลาเท่านั้นเพื่อควบคุมอาการไว้ชั่วคราว อาการของเธอในตอนนี้เกิดจากการที่ไม่ได้กินยาตามเวลา ดังนั้นจึงได้เกิดอาการกำเริบ”

กู้ซือเฉียนมีสีหน้าเคร่งเครียด

“นายรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไง?”

หนานมู่หหรงยิ้มอย่างอ่อนโยน แต่มันกวนประสาทไม่น้อย

“เพราะร่างกายของเธอเหมือนกับฉัน มีสายเลือดตระกูลหนานไงล่ะ”

เมื่อพูดคำนี้ไป ทุกคนต่างก็ตกใจ

หนานมู่หรงหรี่ตาและมองเขาอย่างลึกซึ้งยากจะคาดเดา “เป็นไง? คิดไม่ถึงใช่ไหมล่ะ? นายแต่งงานกับเธอแล้ว แต่กลับยังไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของเมียตัวเอง กู้ซือเฉียน ต้องบอกเลยนะว่านายประมาทเกินไปในเรื่องนี้”

กู้ซือเฉียนมีสีหน้ามืดมน

ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยความตึงเครียด

เขามองไปที่หนานมู่หรงแล้วถามเสียงขรึม: “นี่มันเรื่องอะไรกันแน่? เล่ามา!”

หนานมู่หรงกลับลุกขึ้นยืนแล้วยิ้มและพูด: “ฉันรู้แค่นี้แหละ ส่วนเรื่องรายละเอียด เดือนหน้าตระกูลหนานจะจัดงานเทศกาลไหว้พระจันทร์ หากนายกล้ามา ก็จะมีคนบอกนายเอง”

เขาพูดจบก็เดินจากไป

ฉินเยว่และคนอื่นๆ หยุดเขาทันที ในท่าทางนั้น เพียงกู้ซือเฉียนออกคำสั่งก็ดูเหมือนเขาจะจัดการได้ในพริบตา

อย่างไรก็ตาม กู้ซือเฉียนได้แต่กำหมัดแน่น

ครู่หนึ่งจึงพูดเสียมเข้ม: “ปล่อยเขาไป!”

ฉินเย่วและพวกจึงได้ปล่อยเขาไปอย่างไม่เต็มใจนัก

หนานมู่หรงยิ้มแล้วพาหลินเยว่เอ๋อร์ออกจากงานไป

ภายในห้องเงียบลง ลู่จิ่งเซินเดินเข้ามาและตบบ่าของเขา

การสื่อสารอย่างเงียบ ๆ ระหว่างผู้ชายถือได้ว่าเป็นคำสัญญาและเป็นแรงบันดาลใจที่ลึกที่สุด

จิ่งหนิงและกลุ่มเพื่อนอยู่พูดคุยกับเฉียวฉีครู่หนึ่ง

ถึงแม้ว่าตอนนี้เฉียวฉีจะรู้สึกได้ว่ามีอะไรผิดปกติเกี่ยวกับตน แต่เธอก็ไม่กล้าพูดออกมา และเธอก็ไม่ดื้อรั้นที่จะถาม

เพียงแต่ระหว่างคิ้วที่บอบบางนั้นยังมีความเศร้าโศกจาง ๆ แสดงว่าไม่ใช่ว่าเธอจะไม่คิดอะไรเลยเสียทีเดียว เพียงแค่เก็บมันเอาไว้ก่อนเท่านั้น

ผ่านไปสักพักใหญ่ กู้ซือเฉียนจึงเดินเข้ามาจากด้านนอก

และยังมีลู่จิ่งเซินและพวกเดินตามเขาเข้ามา

ลู่จิ่งเซินส่งสายตาให้จิ่งหนิง จิ่งหนิงจึงพูดกับเฉียวฉี: “พวกเธอสองคนคุยกันก่อนนะ ฉันขอตัว”

เฉียวฉีพยักหน้า

จิ่งหนิงจึงได้ออกไปพร้อมกับลู่จิ่งเซิน

เมื่อทุกคนออกไป ภายในห้องที่ใหญ่มากๆ จึงเหลือเพียงแค่กู้ซือเฉียนและเฉียวฉี

เฉียวฉียังคงสวมชุดเจ้าสาวและนั่งอยู่บนเตียง เหมือนกับตอนที่เธอออกมาเมื่อเช้านี้ สดชื่นและสวยงามน่าทึ่ง

แต่สิ่งเดียวที่ไม่เหมือนก็คือ ตอนนี้สีหน้าเธอตอนนี้ซีดเผือด มันซีดขาวจนแทบจะขาวกว่าชุดเจ้าสาวเสียอีก

กู้ซือเฉียนเดินเข้าไปและนั่งลงข้างเธอ

“ซือเฉียน มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? บอกฉันสิ”

ตอนนี้ไม่มีคนอื่น เฉียวฉีจึงไม่จำเป็นต้องแกล้งทำอีกต่อไป และมองเขาที่มีสายตาที่เป็นกังวล

กู้ซือเฉียนมองดูเธออย่างลึกซึ้งโดยไม่พูดอะไร

เฉียวฉีกลับอ่านความเศร้าและเจ็บปวดได้จากในดวงตาของเขา

ใจเธอจมลงหนักหนาถามอย่างแผ่วเบา: “เกี่ยวกับฉันใช่ไหม? ฉัน…ป่วยใช่ไหม?”

สุดท้ายปัญหามันเกี่ยวกับตัวเธอ เธอไม่ได้โง่ โดยพื้นฐานแล้วเธอพอจะเดาได้

กู้ซือเฉียนไม่ได้ปฏิเสธ

เฉียวฉีกำนิ้วแน่นและถามอีก: “โรคอะไรคะ?”

กู้ซือเฉียนตอบ: “ตอนนี้ยังไม่รู้ แต่เมื่อครู่หมอบอกแล้วว่าเธอสุขภาพแข็งแรงดี คงจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร ไม่ต้องห่วงนะ”

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Status: Ongoing

บทที่ 1 จับชู้คาเตียง

“มีถุงยางดูเร็กซ์ ดูอัล เพลย์เชอร์ไซซ์กลางไหม? ”

“มีค่ะ”

“แล้วก็ไวเบรเตอร์กับชุดนางแมวสวาทชุดหนึ่งด้วย”

“ได้ค่ะ จัดส่งที่ไหนคะ? ”

“โรงแรมลี่หัว ห้อง2202”

“ค่ะ ขอบคุณค่ะ”

เมื่อจิ่งหนิงมาถึงโรงแรมลี่หัวก็เป็นเวลาห้าทุ่มแล้ว

เวลาดึกดื่นขนาดนี้ สำหรับคนที่ทำธุรกิจสินค้าผู้ใหญ่ แบบนี้ การนำส่งสินค้าด้วยตนเองไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่

นัก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหญิงสาวหน้าตาสะสวยอย่างเธอ

แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ทุก สิ่งทุกอย่างต้องแลกมาด้วยเงิน อีกอย่างมู่ยั่นเจ๋อกำลังจะ กลับมาอีกไม่กี่วันนี้

คบกันมาตั้งหกปี แต่เวลากว่าครึ่งเป็นรักระยะไกล เขา ต้องดูแลธุรกิจทั้งในและนอกประเทศ เธอจะทำตัววุ่นวาย ส่งผลต่อการทำงานของเขาไม่ได้

ดีที่ความรักของทั้งสองคนนั้นค่อนข้างหวานชื่นนอกจากงานในแต่ละวันแล้ว เธอยังมีธุรกิจเล็กๆของตัวเอง ด้วย อีกไม่กี่วันเป็นวันเกิดของเขา เธอตั้งใจจะมอบของ ขวัญให้เขาอย่างเซอร์ไพรซ์

เมื่อคิดได้ดังนั้น จึงหนิงก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

เธอขยับหมวกสีดำที่ใส่มาให้ปิดลงมาบังหน้าไว้ จากนั้น เดินถือกล่องสินค้าเข้าไปด้านใน

โรงแรมลี่หัว เป็นสถานที่ราคาแพงขึ้นชื่อของเมืองจิ้น ผู้คนที่เดินทางมาเข้าพักล้วนเป็นระดับมหาเศรษฐี

ความโอ่อ่างดงามที่ห้องโถงไม่ต้องพูดถึง แม้แต่ลิฟต์ก็ ถูกประดับตกแต่งด้วยเงินและทองคำ คนที่ยืนอยู่ด้านใน ถูกแสงไฟส่องสว่างไสว

จิ่งหนิงเดินถือกล่องเข้าไปแล้วมองหาจุดหมาย

ใบหน้าอันงดงามถูกปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง มองเห็นเพียงดวงตา เป็นประกายคู่นั้น แฝงไปด้วยความมั่นใจ

ลิฟต์ขึ้นสู่ชั้น22 “ตั้ง” ประตูเปิดออก เธอเดินออกไป กระทั่งถึงห้อง2202และกดกริ่งที่ประตู

ประตูยังไม่เปิดออก ก็มีเสียงหนุ่มสาวดังขึ้น

“อาเจ๋อ อุ๊ย? อย่าค่ะ….ของน่าจะมาส่งแล้ว”

“รอผมนะ เดี๋ยวมา”

จึงหนิงยืนยิ้มอยู่ที่ปากประตูอย่างอดไม่ได้ ของยังมาส่งไม่ถึงก็เริ่มกันแล้วเหรอเนี่ย? รีบร้อนกันจริงๆ?

ประตูถูกเปิดออกในไม่ช้า ชายผู้ออกมารับของสวมผ้า ขนหนูเพียงผืนเดียว บนร่างกายของเขายังคงมีไอน้ำอยู่

จิ่งหนิงไม่ได้มองหน้าเขา เธอยื่นกล่องใส่ของออกไป “843หยวนค่ะ? จ่ายเงินสดหรือว่าโอนคะ? ”

ชายผู้อยู่ตรงหน้าไม่ตอบ

ผ่านไปสองวินาที เสียงของชายผู้นั้นเอ่ยขึ้นว่า “.

หนิง?

จิ่งหนิงตกตะลึง เธอเงยหน้าขึ้นมอง

เมื่อเห็นชายที่ยืนอยู่ด้านหน้า ร่างกายกำยำ ผมเผ้าเปียก ปอน เขามีเพียงผ้าขนหนูสีขาวปิดบังร่างกายไว้ แสงไฟ เหลืองนวลส่องมายังร่างกายของเขา ผิวขาวเนียนและ ใบหน้าอันเกลี้ยงเกลาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาด

ใจ อีกทั้ง ทำตัวไม่ถูก

สีหน้าของจิงหนิงตกใจเสียจนหน้าซีด

“ปั่นเจ๋อ ใครคะ? ”

“ไม่มีอะไรครับ คนมาส่งของครับ”

มู่ยั่นเจ๋อรีบพูดขึ้นก่อนที่จิ่งหนิงจะเอ่ยอะไรออกมาจาก นั้นรีบหยิบเงินจากกระเป๋ายัดใส่มือเธอและหยิบของไป อย่างรวดเร็ว

เสียงประตูปิดลงดัง “ปัง?

จึงหนิงยังคงยืนอยู่ที่หน้าประตู มือของเธอเริ่มสั่น สีหน้า

เหนิงซีดเผือดลงทันที

เธอหัวเราะออกมาเบาๆ

และมองไปยังธนบัตรที่เขายัดเข้ามาไว้ในมือ นี่มันเรื่อง ตลกบ้าบออะไรกัน? เธอหัวเราะเยาะในความโง่เขลาของ ตัวเองจริงๆ

เสียงชายหนุ่มและหญิงสาวเล็ดลอดออกมานอกห้อง เธอก็ถอนหายใจยาวๆออกมา และกลั้นน้ำตาที่คลอเบ้าเอา

ไว้

เธอหันหลังกลับและเดินตรงไปยังลิฟต์และหยิบมือถือ

ออกมา

“สวัสดีค่ะ สถานีตำรวจใช่ไหมคะ? ฉันจะขอแจ้งความ ว่ามีชายหญิงค้าประเวณี ห้องพักเลขที่.”

ต่อมา20นาที

รถตำรวจคันหนึ่งจอดลงที่หน้าโรงแรมลี่หัว ข้างๆยังมีนัก ข่าวและช่างกล้องเดินตามมา เมื่อเห็นคนที่ถูกจับตัวออกมา นักข่าวก็พากันแห่เข้าไป

“นายมู่ มีคนแจ้งความว่าคุณเสพยาและซื้อบริการทาง เพศ จริงหรือไม่คะ? ”

“นายมู ในฐานะผู้สืบทอดมู่ชื่อกรุ๊ป คุณคิดว่าการกระทำ เช่นนี้เหมาะสมหรือไม่คะ?

“นายมู่ครับ ผู้หญิงคนที่อยู่กับคุณเป็นใครกันครับ? มี

ข่าวลือว่าเป็นดาราในวงการ จริงหรือไม่ครับ? ” “นายมู..”

มู่ยั่นเจ่อถูกนักข่าวล้อมไว้ แม้แต่ตำรวจก็ห้ามไว้ไม่ได้ เขากัดฟันกรอดๆและตะโกนออกมาว่า “ไปให้พ้น? ” นักข่าวพากันตกอกตกใจและถอยหลังออกไป

มู่ยั่นเจ๋อมองไปยังฝูงชน เขาพบเข้ากับจิ่งหนิง สายตา ของเขาแฝงไปด้วยความอาฆาตแค้น

นี่คือสิ่งที่คุณต้องการใช่ไหม?”

จึ่งหนิงเผยอยิ้ม สายตาแฝงไปด้วยการดูถูก

“คุณทำแบบนี้อย่าหวังว่าจะได้ผมไปครอง”

จิ่งหนิงเดินหน้าขึ้นไปแล้วเงื้อมือขึ้นต่อหน้านักข่าวและ

ตำรวจ

11 เพียะ!”

ฝ่ามือของเธอตบลงไปที่หน้าเขาอย่างจัง มู่ยั่นเจ่อถูกตบ เสียจนหน้าหัน

บรรยากาศรอบด้านเงียบลงทันใด

ทางตำรวจตกตะลึงอ้าปากค้าง ” คุณผู้หญิงคนนี้คือ.

%3D

%3D ขอโทษนะคะ มือลั่นไปเอง!”

เธอยิ้มด้วยแววตาเยือกเย็นแล้วทำท่าทางนวดข้อมือ แล้วมองไปยังมู่ยั่นเจ่อด้วยสายตาอาฆาต จากนั้นพูดด้วย น้ำเสียงเยือกเย็นว่า

กระดาษชำระที่ตกลงไปในชักโครก คุณคิดว่าใครยังจะต้องการอีกกัน?ตบเมื่อสักครู่เป็นแค่ดอกเบี้ยเท่านั้น ทุน ที่เหลือฉันจะให้คุณชดเชยภายในสามวัน!”

แววตาของมู่ยั่นเจ่อตื่นตระหนก อะไร! ทุนอะไร !!” จึ่งหนิงขมวดคิ้วขึ้น ” คุณแน่ใจนะว่าจะให้ฉันกระตุ้น

ความจำคุณ

มู่ยั่นเจ๋อก้มหน้าลงทันที

เธอหัวเราะหีๆ เป็นเสียงหัวเราะที่แฝงไปด้วยความดูถูก เหยียดหยาม

ทางตำรวจเห็นเช่นนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาโบกมือ เป็นสัญญาณว่าให้คุมตัวขึ้นรถไปได้ เมื่อเขาเดินทางจากไป บรรดานักข่าวก็ไม่ได้รีรอ รีบตาม

ไปทันที

เดิมทีที่จากประตูทางเข้าโรงแรมเต็มไปด้วยผู้คน ตอนนี้ กลับว่างเปล่าไม่เหลือใคร

จึงหนิงยังยืนอยู่ที่นั่นจนกระทั่งควบคุมอารมณ์ได้ เธอจึง ได้เตรียมตัวจากไป

แต่เธอคาดไม่ถึงว่าเมื่อหันหลังกลับไปจะพบเข้ากับแวว ตาคู่หนึ่งที่จับจ้องเธออยู่

ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำ ร่างกายกำยำสูงใหญ่ ผมสั้นจัด ทรงเป็นระเบียบ แววตาแหลมคมนั้นทำให้ผู้พบเห็น หลงใหล

ใบหน้าอันหล่อเหลาภายใต้แสงยามค่ำคืนแบบนี้ เผยให้เห็นออร่าที่กลมกลืนไปกับบรรยากาศรอบข้าง จิ่งหนิงรู้สึกว่าเธอเคยเห็นชายคนนี้มาก่อน

จากนั้นเธอหันไปเห็นเลขาของเขาที่ยืนอยู่ด้านหลัง อีก ทั้งรถปอร์เช่สีเงินที่อยู่ข้างๆ เธอก็คิดได้ว่าจะไปรู้จักบุคคล ที่โดดเด่นแบบนี้ได้ยังไงกัน?

เธอสลัดความคิดออกจากหัว หันหลังแล้วเดินจากไป จนกระทั่งร่างเล็กๆของเธอเข้าสู่รถยนต์ ลู่จิ่งเซินจึงได้

ละสายตามาจากเธอและถามขึ้นว่า “คนเมื่อกี้นี้คือใคร?

ซูมู่ที่ยืนอยู่ด้านหลังรีบตอบขึ้นว่า ท่านหมายถึงคนที่ถูก ตำรวจจับไปเมื่อกี้หรือครับ? เหมือนว่าจะเป็นคุณชายขอ งมู่ชื่อกรุ๊ปที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศเมื่อหลายวันก่อน”

ลู่จิ่งเซินขมวดคิ้วแล้วบอกว่า “ผมหมายถึงคนผู้หญิงคน เมื่อกี้”

“ครับ? ” ซูมู่งุนงงเล็กน้อย “ผู้หญิงคนไหนกัน? ”

เมื่อเห็นแววตาอันไม่พอใจของลู่จิ่งเซิน ซูมู่ก็รีบพูดขึ้นมา ว่า “ท่านประธานครับ ต้องขออภัยด้วยผมจะไปตรวจสอบ เดี๋ยวนี้”

“ช่างมันเถอะ”

สายตาของเขามองไปตามทางที่ผู้หญิงคนนั้นขับรถออก ไปแล้วยิ้มขึ้น เขาคล้ายกับนึกอะไรออกมาได้

จากนั้นเขารีบก้าวเดินเข้าไปด้านใน ในฐานะผู้แจ้งความ จิ่งหนิงจึงต้องเดินทางไปที่สถานี ตำรวจด้วย

เมื่อทำการบันทึกข้อความเสร็จแล้ว ผู้คนจากด้านนอกก็ พากันแห่กรูเข้ามา

คนที่เดินเข้ามาเป็นคนแรกก็คือคุณย่าจิ่งหวังเสว่เหมย เมื่อเธอเดินเข้ามาถึงก็ตบเข้าให้ที่หน้าของจิ่งหนิงอย่างจัง

“นังคนทรยศ? ”

หวังเสว่เหมยตัวสั่นสะท้านแล้วพูดว่า “แกรู้อยู่แก่ใจว่านั่น คือน้องสาวแท้ๆของแก ยังกล้าแจ้งตำรวจจับอีกอย่างนั้น เหรอ? แกต้องการจะยั่วให้ฉันโมโหตายยังไง? ”

จิงหนิงเช็ดโชคเลือดที่มุมปาก จากนั้นเงยดูหญิงชราที่ อยู่ตรงหน้า

“น้องสาวอย่างนั้นเหรอ? คุณหมายถึงจิ่งเสี่ยวหย่า? ”

“ไม่ต้องทำมาเป็นเสแสร้ง สื่อต่างๆพากันพูดกันให้แซ่ด บอกว่าคุณหนูจิงรองให้ท่าคู่หมั้นของคนอื่น แกไม่รู้เรื่อง หรือไง? ”

จึงหนิงก้มหน้าลงและยิ้มออกมาเบาๆ

“ผู้หญิงคนนั้นเป็นเธอนั่นเอง….ฉันก็คิดว่ากะหรี่ที่ไหน รีบร้อนจะหาเงินซะอีก ที่แท้ก็เป็นน้องสาวของฉันเอง? “

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท