วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – บทที่ 953 ตัวตนอื่น

บทที่ 953 ตัวตนอื่น

“คุณปู่ทวด!”

เมื่อเข้ามา เสี่ยวฮัวก็วิ่งมาหาท่านปู่ชิวทันที

ท่านปู่ชิวยืนขึ้นตัวสั่น รับเธอไว้ อดไม่ได้ที่จะน้ำตาไหลด้วยความเสียใจ

“เฮ้อ หลานสาวเด็กดีของฉัน ในที่สุดเธอก็กลับมา!”

เสี่ยวฮัวซุกศีรษะไว้ในอ้อมแขนเขา สองปู่หลานร้องไห้ด้วยความสุขใจ

หลังจากร้องไห้แล้ว ท่านปู่ชิวก็เงยหน้าเธอขึ้นมา มองเหมือนสมบัติ “รีบให้ปู่ดูสิ บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า? ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”

เสี่ยวฮัวส่ายหน้า “ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ คุณปู่ทวด พี่ชายสองคนนี้ช่วยชีวิตฉันไว้”

ขณะที่เธอพูด ก็หันหน้าชี้ไปทางกู้ซือเฉียนและลู่จิ่งเซิน

ท่านปู่ชิวยิ้มอย่างพอใจ “ปู่ทวดรู้ พวกเขาคือเพื่อนของปู่ทวด ปู่เชิญให้พวกเขาไปช่วยเธอ”

เสี่ยวฮัวได้ยินดังนั้น ก็มองพวกเขาอย่างซาบซึ้ง

ในเวลานี้ หลี่เก๋อที่เงียบอยู่ตลอดเวลาก็พูดขึ้นด้วยเสียงโกรธ “ไอ้แซ่ชิว! แกทำร้ายปู่ย่าฉันตายอย่างอนาถ และฆ่าพ่อฉันตายด้วย ฉันกับแกต้องตายกันไปข้างหนึ่ง! แล้วจับฉันมาแบบนี้หมายความว่าไง? ถ้ามีปัญญาก็ปล่อยฉัน มาสิ! เรามาดวลกัน! เหมือนแกกับพวกพ้องแกในตอนแรกไง มาดวลกัน! มาสิ!”

เขาเหมือนเป็นบ้า อยากจะพุ่งไปข้างหน้า แต่ถูกกู้ซือเฉียนมัดไว้แน่น

เตะเขาจนขางอ ให้เขาคุกเข่าบนพื้น

ท่านปู่ชิวถึงได้หันหน้าไปมองเขา สายตาเย็นชาและสงบนิ่ง

“หลี่เก๋อ นายเอาแต่พูดว่านายอยากแก้แค้น ยังไม่ต้องพูดถึงว่าการกระทำของนายในตอนนี้มันเหมือนการหาทางแก้แค้นหรือเปล่า พูดเรื่องพ่อนายก่อน การตายของเขามันเกี่ยวอะไรกับฉัน?”

หลี่เก๋อยิ้มเยาะ “แกยังกล้าเล่นลิ้นอีกเหรอ? แกกล้าพูดไหม ว่าแกไม่ได้แอบส่งคนไปฆ่าเขา?”

ท่านปู่ชิวพูดอย่างเยาะเย้ย “ชิวหยุนเจินอย่างฉันทำอะไรเปิดเผยไม่มีเล่ห์เหลี่ยมตลอด ถ้าฉันเป็นคนฆ่า ฉันไม่เคยปฏิเสธ แต่ถ้าไม่ใช่ ก็อย่าคิดจะโยนความผิดให้ฉัน”

“แกพูดมั่ว!”

หลี่เก๋อโกรธถึงขีดสุด แต่ท่านปู่ชิวก็ดูเหมือนขี้เกียจจะสนใจเขาอีกแล้ว

เขาหันหน้าไปมองจิ่งหนิง

“ในเมื่อพวกเธอช่วยชีวิตเสี่ยวฮัวกลับมาได้ตามที่สัญญาไว้ สิ่งที่ฉันสัญญากับพวกเธอก่อนหน้านี้ ฉันก็ควรทำมันให้ได้”

ขณะที่พูด ก็หยิบแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ชิ้นนั้นออกมาจากกระเป๋า แล้วส่งให้เธอ

“นี่คือสิ่งที่พวกเธอต้องการ เก็บไว้ให้ดี”

จิ่งหนิงทำหน้าดีใจ รีบรับมา แล้วพูดอย่างเคร่งขรึม “ขอบคุณมากค่ะท่านปู่”

ท่านปู่ชิวยิ้ม ไม่ได้พูดอะไร

ข้างๆ หลี่เก๋อกลับสะเทือนใจแล้ว

“แผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ มันคือแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์นี่”

เขาเบิกตากว้าง ในปากก็พึมพำ ทั้งร่างเหมือนคนบ้าคลั่ง จ้องแผ่นหยกในมือจิ่งหนิง

“มันคือแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์จริงๆ นั่นมันของของฉัน เอามาให้ฉัน เอามาให้ฉัน!”

ขณะที่พูด ก็ดิ้นรนจะพุ่งเข้าหาจิ่งหนิง

อย่างไรก็ตาม กู้ซือเฉียนจะให้เขาทำตามปรารถนาได้อย่างไร?

แตะอีกหนึ่งที และอีกหนึ่งหมัด ทำร้ายเขาจนนอนลงกับพื้นทันที และยากที่จะลุกขึ้นอีกครั้ง

กู้ซือเฉียนพูดเสียงเข้ม “ท่านปู่ชิว ฉันมีอีกหนึ่งคำขอ”

ท่านปู่ยกมือขึ้นอย่างใจกว้าง “เชิญพูด”

กู้ซือเฉียนหันสายตาไปมองหลี่เก๋อที่นอนอยู่บนพื้น สีหน้าซีดเซียว สายตาเย็นชา “ฉันรู้สึกว่าคนคนนี้เหมือนสมาชิกฝ่ายตรงข้ามฉัน ฉันเลยอยากพามันกลับไปสอบถามหน่อย ท่านปู่ชิวได้โปรดตกลง”

ท่านปู่ชิวได้ยินดังนั้น ก็ขมวดคิ้ว

อย่างไรก็ตาม หลี่เก๋อก็ถือเป็นหลานชายของหลี่ชู่วที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นพวกพ้องของเขา เขารู้สึกผิดต่อหลี่ชู่วสองสามีภรรยา และรู้สึกผิดต่อหลี่จง ดังนั้นเมื่อหลี่จงไม่ได้วางแผนฆ่าพ่อแม่ของเสี่ยวฮัว เขาก็ไม่ลงมือแก้แค้นกลับ

ด้วยเหตุนี้ จริงๆ แล้วถึงแม้ว่าหลี่เก๋อจะลักพาตัวเสี่ยวฮัว ในสถานการณ์ที่เสี่ยวฮัวยังมีชีวิตปลอดภัย เขาก็ไม่อยากสอบสวนหลี่เก๋ออีก

กู้ซือเฉียนมองออกถึงความลำบากใจของเขา ก็พูดอีกครั้ง “ฉันรับประกันว่าจะไม่ทำร้ายเขา”

ท่านปู่ชิวถึงจะพยักหน้า “ได้ มันคือเรื่องของพวกเธอ ฉันจะไม่ยุ่ง”

หลี่เก๋อเห็นว่าเป็นแบบนี้ ทันใดนั้นก็กรีดร้องเสียงดังขึ้นมาด้วยความตกใจ

“ไม่ได้! ฉันไม่ไปกับพวกมัน! ฉันไม่ไปกับพวกมัน! ชิวหยุนเจิน แกฆ่าปู่ย่าฉัน ฆ่าพ่อฉัน ตอนนี้ยังมอบฉันให้กับคนพวกนี้อีก แกยังมีความผิดชอบชั่วดีไหม? แกบ้าไปแล้วใช่ไหม?”

กู้ซือเฉียนขมวดคิ้ว ขี้เกียจฟังเขาตะคอกและตะโกนไปมั่วๆ ก็เอามีดพกสับเขาให้สลบไป

ท่านปู่ชิวเห็นสถานการณ์นี้ ถึงแม้จะทนไม่ค่อยได้ แต่ก็ไม่พูดอะไร

จัดการทั้งหมดนี้แล้ว กลุ่มคนก็บอกลาปู่หลานคู่นี้ ออกจากหมู่บ้านตระกูลว่านไป

พวกเขาไม่ได้รีบร้อนกลับเมืองหลวง อยู่ที่เมืองผิงไปก่อน เตรียมตัวรอพักผ่อนเรียบร้อยค่อยกลับไป

เมื่อคืนวานนอนไม่หลับทั้งคืน ผู้คนไม่กี่คนเหนื่อยมากแล้ว กู้ซือเฉียนเอาหลี่เก๋อที่ถูกมัดให้ฉินเยว่คอยดูแลควบคุม จากนั้นก็พาเฉียวฉีไปพักผ่อนด้วยความวางใจ

นอนหลับตื่นขึ้น ก็เป็นเวลาบ่าย

ครั้งนี้คนที่ตามพวกเขามาด้วยกัน มีแค่ไม่กี่คนที่ฉินเยว่พามาด้วย ส่วนซูมู่และโม่หนานให้อยู่ที่เมืองหลวงเพื่อช่วยจัดการงานธุรกิจ

ฉินเยว่เตรียมอาหารให้พวกเขาเรียบร้อยแล้ว ผู้คนไม่กี่คนตื่นขึ้นมาก็อาบน้ำสักพัก ทานอาหารด้วยกัน ก็เดินมาถึงห้องที่หลี่เก๋อถูกคุมขัง

ผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว หลี่เก๋อดูสงบนิ่งขึ้นเยอะอย่างเห็นได้ชัด ทั้งร่างถูกมัดไว้ นั่งบนพื้นมองพวกเขาอย่างเย็นชา

กู้ซือเฉียนและกลุ่มคน นั่งบนโซฟา มองสำรวจเขา แล้วพูดอย่างราบเรียบ “ว่ามาสิ แกมาจากไหน?”

หลี่เก๋อไม่พูด หันศีรษะไปข้างๆ เป็นความรู้สึกต่อต้าน

กู้ซือเฉียนก็ไม่รีบ หัวเราะเยาะ แค่เชิดคางขึ้นเล็กน้อย ขยิบตาให้กับฉินเยว่

วินาทีต่อมา มีดด้ามหนึ่งก็แทงไปที่ต้นขาหลี่เก๋อทันที

เขากรีดร้อง สีหน้าซีดเซียว ร่างกายเจ็บจนสั่น เหงื่อเย็นไหลลงมาทันที

กู้ซือเฉียนดึงบุหรี่ออกมา จุดไฟ ยังคงพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ

“แกไม่พูดก็ได้นะ ฉันมีหลายวิธีมากที่จะสามารถจัดการแกอย่างช้าๆ ถ้าแกไม่เชื่อก็ลองดู”

หลี่เก๋อกัดฟันจ้องมองเขา ผ่านไปสักพัก ก็มีเสียงดังขึ้น “ถุย”

“แกอยากได้ข้อมูลอะไรจากฉัน ฝันไปเถอะ!”

กู้ซือเฉียนหรี่ตาเล็กน้อย ยิ้มราบเรียบขึ้นมา

“พูดแบบนี้ แกมีตัวตนอื่นจริงๆ เหรอ?”

หลี่เก๋อหายใจไม่ออก

กู้ซือเฉียนยิ้มอีกครั้ง “ไม่รีบ ฉันบอกแล้วไง ฉันจัดการแกอย่างช้าๆ ได้”

เขาบ่งบอกอีกครั้ง จากนั้นก็เห็นฉินเยว่ชักมีดที่แทงบนต้นขาเขาออกมา แล้วมีดอีกด้ามก็แทงไปที่น่องเขาทันที

หลี่เก๋อเจ็บจนทั้งใบหน้าเป็นสีเขียว เส้นเลือดบนหน้าผากกระตุกตลอดเวลา เหงื่อเหมือนอยู่ในเข่งติ่มซำ มันซึมออกมาข้างนอกเรื่อยๆ

หลังจากจิ่งหนิงคลอดลูกแล้ว ก็ไม่ค่อยสามารถดูฉากนองเลือดประเภทนี้ได้แล้ว จึงกระแอมไอเบาๆ พูดกับลู่จิ่งเซิน “คุณออกไปเดินเล่นเป็นเพื่อนฉันหน่อย”

ลู่จิ่งเซินพยักหน้า ลุกขึ้นพยุงเธอเดินออกไปด้วยกัน

ด้านหลังมีเสียงกรีดร้องดังขึ้นมาสองครั้ง

หัวใจจิ่งหนิงเต้นขึ้นมาสองครั้ง ลู่จิ่งเซินกำมือเธอเน่น แล้วพูดเสียงทุ้ม “บางคน ไม่ใช้วิธีแบบนี้ ก็งัดปากพวกมันไม่ได้หรอก”

จิ่งหนิงพยักหน้า “ฉันเข้าใจ”

สีหน้ายังเธอค่อนข้างซีดเซียว มองไปยังทางเดินยาวด้านหน้า แล้วพูดเสียงเบา “ฉันแค่เห็นเลือดนั้นแล้วรู้สึกแย่มาก เหมือนหายใจไม่ค่อยดีนัก ออกมาสูดอากาศปลอดโปร่งสักหน่อยก็ไม่เป็นอะไรแล้ว”

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Status: Ongoing

บทที่ 1 จับชู้คาเตียง

“มีถุงยางดูเร็กซ์ ดูอัล เพลย์เชอร์ไซซ์กลางไหม? ”

“มีค่ะ”

“แล้วก็ไวเบรเตอร์กับชุดนางแมวสวาทชุดหนึ่งด้วย”

“ได้ค่ะ จัดส่งที่ไหนคะ? ”

“โรงแรมลี่หัว ห้อง2202”

“ค่ะ ขอบคุณค่ะ”

เมื่อจิ่งหนิงมาถึงโรงแรมลี่หัวก็เป็นเวลาห้าทุ่มแล้ว

เวลาดึกดื่นขนาดนี้ สำหรับคนที่ทำธุรกิจสินค้าผู้ใหญ่ แบบนี้ การนำส่งสินค้าด้วยตนเองไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่

นัก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหญิงสาวหน้าตาสะสวยอย่างเธอ

แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ทุก สิ่งทุกอย่างต้องแลกมาด้วยเงิน อีกอย่างมู่ยั่นเจ๋อกำลังจะ กลับมาอีกไม่กี่วันนี้

คบกันมาตั้งหกปี แต่เวลากว่าครึ่งเป็นรักระยะไกล เขา ต้องดูแลธุรกิจทั้งในและนอกประเทศ เธอจะทำตัววุ่นวาย ส่งผลต่อการทำงานของเขาไม่ได้

ดีที่ความรักของทั้งสองคนนั้นค่อนข้างหวานชื่นนอกจากงานในแต่ละวันแล้ว เธอยังมีธุรกิจเล็กๆของตัวเอง ด้วย อีกไม่กี่วันเป็นวันเกิดของเขา เธอตั้งใจจะมอบของ ขวัญให้เขาอย่างเซอร์ไพรซ์

เมื่อคิดได้ดังนั้น จึงหนิงก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

เธอขยับหมวกสีดำที่ใส่มาให้ปิดลงมาบังหน้าไว้ จากนั้น เดินถือกล่องสินค้าเข้าไปด้านใน

โรงแรมลี่หัว เป็นสถานที่ราคาแพงขึ้นชื่อของเมืองจิ้น ผู้คนที่เดินทางมาเข้าพักล้วนเป็นระดับมหาเศรษฐี

ความโอ่อ่างดงามที่ห้องโถงไม่ต้องพูดถึง แม้แต่ลิฟต์ก็ ถูกประดับตกแต่งด้วยเงินและทองคำ คนที่ยืนอยู่ด้านใน ถูกแสงไฟส่องสว่างไสว

จิ่งหนิงเดินถือกล่องเข้าไปแล้วมองหาจุดหมาย

ใบหน้าอันงดงามถูกปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง มองเห็นเพียงดวงตา เป็นประกายคู่นั้น แฝงไปด้วยความมั่นใจ

ลิฟต์ขึ้นสู่ชั้น22 “ตั้ง” ประตูเปิดออก เธอเดินออกไป กระทั่งถึงห้อง2202และกดกริ่งที่ประตู

ประตูยังไม่เปิดออก ก็มีเสียงหนุ่มสาวดังขึ้น

“อาเจ๋อ อุ๊ย? อย่าค่ะ….ของน่าจะมาส่งแล้ว”

“รอผมนะ เดี๋ยวมา”

จึงหนิงยืนยิ้มอยู่ที่ปากประตูอย่างอดไม่ได้ ของยังมาส่งไม่ถึงก็เริ่มกันแล้วเหรอเนี่ย? รีบร้อนกันจริงๆ?

ประตูถูกเปิดออกในไม่ช้า ชายผู้ออกมารับของสวมผ้า ขนหนูเพียงผืนเดียว บนร่างกายของเขายังคงมีไอน้ำอยู่

จิ่งหนิงไม่ได้มองหน้าเขา เธอยื่นกล่องใส่ของออกไป “843หยวนค่ะ? จ่ายเงินสดหรือว่าโอนคะ? ”

ชายผู้อยู่ตรงหน้าไม่ตอบ

ผ่านไปสองวินาที เสียงของชายผู้นั้นเอ่ยขึ้นว่า “.

หนิง?

จิ่งหนิงตกตะลึง เธอเงยหน้าขึ้นมอง

เมื่อเห็นชายที่ยืนอยู่ด้านหน้า ร่างกายกำยำ ผมเผ้าเปียก ปอน เขามีเพียงผ้าขนหนูสีขาวปิดบังร่างกายไว้ แสงไฟ เหลืองนวลส่องมายังร่างกายของเขา ผิวขาวเนียนและ ใบหน้าอันเกลี้ยงเกลาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาด

ใจ อีกทั้ง ทำตัวไม่ถูก

สีหน้าของจิงหนิงตกใจเสียจนหน้าซีด

“ปั่นเจ๋อ ใครคะ? ”

“ไม่มีอะไรครับ คนมาส่งของครับ”

มู่ยั่นเจ๋อรีบพูดขึ้นก่อนที่จิ่งหนิงจะเอ่ยอะไรออกมาจาก นั้นรีบหยิบเงินจากกระเป๋ายัดใส่มือเธอและหยิบของไป อย่างรวดเร็ว

เสียงประตูปิดลงดัง “ปัง?

จึงหนิงยังคงยืนอยู่ที่หน้าประตู มือของเธอเริ่มสั่น สีหน้า

เหนิงซีดเผือดลงทันที

เธอหัวเราะออกมาเบาๆ

และมองไปยังธนบัตรที่เขายัดเข้ามาไว้ในมือ นี่มันเรื่อง ตลกบ้าบออะไรกัน? เธอหัวเราะเยาะในความโง่เขลาของ ตัวเองจริงๆ

เสียงชายหนุ่มและหญิงสาวเล็ดลอดออกมานอกห้อง เธอก็ถอนหายใจยาวๆออกมา และกลั้นน้ำตาที่คลอเบ้าเอา

ไว้

เธอหันหลังกลับและเดินตรงไปยังลิฟต์และหยิบมือถือ

ออกมา

“สวัสดีค่ะ สถานีตำรวจใช่ไหมคะ? ฉันจะขอแจ้งความ ว่ามีชายหญิงค้าประเวณี ห้องพักเลขที่.”

ต่อมา20นาที

รถตำรวจคันหนึ่งจอดลงที่หน้าโรงแรมลี่หัว ข้างๆยังมีนัก ข่าวและช่างกล้องเดินตามมา เมื่อเห็นคนที่ถูกจับตัวออกมา นักข่าวก็พากันแห่เข้าไป

“นายมู่ มีคนแจ้งความว่าคุณเสพยาและซื้อบริการทาง เพศ จริงหรือไม่คะ? ”

“นายมู ในฐานะผู้สืบทอดมู่ชื่อกรุ๊ป คุณคิดว่าการกระทำ เช่นนี้เหมาะสมหรือไม่คะ?

“นายมู่ครับ ผู้หญิงคนที่อยู่กับคุณเป็นใครกันครับ? มี

ข่าวลือว่าเป็นดาราในวงการ จริงหรือไม่ครับ? ” “นายมู..”

มู่ยั่นเจ่อถูกนักข่าวล้อมไว้ แม้แต่ตำรวจก็ห้ามไว้ไม่ได้ เขากัดฟันกรอดๆและตะโกนออกมาว่า “ไปให้พ้น? ” นักข่าวพากันตกอกตกใจและถอยหลังออกไป

มู่ยั่นเจ๋อมองไปยังฝูงชน เขาพบเข้ากับจิ่งหนิง สายตา ของเขาแฝงไปด้วยความอาฆาตแค้น

นี่คือสิ่งที่คุณต้องการใช่ไหม?”

จึ่งหนิงเผยอยิ้ม สายตาแฝงไปด้วยการดูถูก

“คุณทำแบบนี้อย่าหวังว่าจะได้ผมไปครอง”

จิ่งหนิงเดินหน้าขึ้นไปแล้วเงื้อมือขึ้นต่อหน้านักข่าวและ

ตำรวจ

11 เพียะ!”

ฝ่ามือของเธอตบลงไปที่หน้าเขาอย่างจัง มู่ยั่นเจ่อถูกตบ เสียจนหน้าหัน

บรรยากาศรอบด้านเงียบลงทันใด

ทางตำรวจตกตะลึงอ้าปากค้าง ” คุณผู้หญิงคนนี้คือ.

%3D

%3D ขอโทษนะคะ มือลั่นไปเอง!”

เธอยิ้มด้วยแววตาเยือกเย็นแล้วทำท่าทางนวดข้อมือ แล้วมองไปยังมู่ยั่นเจ่อด้วยสายตาอาฆาต จากนั้นพูดด้วย น้ำเสียงเยือกเย็นว่า

กระดาษชำระที่ตกลงไปในชักโครก คุณคิดว่าใครยังจะต้องการอีกกัน?ตบเมื่อสักครู่เป็นแค่ดอกเบี้ยเท่านั้น ทุน ที่เหลือฉันจะให้คุณชดเชยภายในสามวัน!”

แววตาของมู่ยั่นเจ่อตื่นตระหนก อะไร! ทุนอะไร !!” จึ่งหนิงขมวดคิ้วขึ้น ” คุณแน่ใจนะว่าจะให้ฉันกระตุ้น

ความจำคุณ

มู่ยั่นเจ๋อก้มหน้าลงทันที

เธอหัวเราะหีๆ เป็นเสียงหัวเราะที่แฝงไปด้วยความดูถูก เหยียดหยาม

ทางตำรวจเห็นเช่นนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาโบกมือ เป็นสัญญาณว่าให้คุมตัวขึ้นรถไปได้ เมื่อเขาเดินทางจากไป บรรดานักข่าวก็ไม่ได้รีรอ รีบตาม

ไปทันที

เดิมทีที่จากประตูทางเข้าโรงแรมเต็มไปด้วยผู้คน ตอนนี้ กลับว่างเปล่าไม่เหลือใคร

จึงหนิงยังยืนอยู่ที่นั่นจนกระทั่งควบคุมอารมณ์ได้ เธอจึง ได้เตรียมตัวจากไป

แต่เธอคาดไม่ถึงว่าเมื่อหันหลังกลับไปจะพบเข้ากับแวว ตาคู่หนึ่งที่จับจ้องเธออยู่

ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำ ร่างกายกำยำสูงใหญ่ ผมสั้นจัด ทรงเป็นระเบียบ แววตาแหลมคมนั้นทำให้ผู้พบเห็น หลงใหล

ใบหน้าอันหล่อเหลาภายใต้แสงยามค่ำคืนแบบนี้ เผยให้เห็นออร่าที่กลมกลืนไปกับบรรยากาศรอบข้าง จิ่งหนิงรู้สึกว่าเธอเคยเห็นชายคนนี้มาก่อน

จากนั้นเธอหันไปเห็นเลขาของเขาที่ยืนอยู่ด้านหลัง อีก ทั้งรถปอร์เช่สีเงินที่อยู่ข้างๆ เธอก็คิดได้ว่าจะไปรู้จักบุคคล ที่โดดเด่นแบบนี้ได้ยังไงกัน?

เธอสลัดความคิดออกจากหัว หันหลังแล้วเดินจากไป จนกระทั่งร่างเล็กๆของเธอเข้าสู่รถยนต์ ลู่จิ่งเซินจึงได้

ละสายตามาจากเธอและถามขึ้นว่า “คนเมื่อกี้นี้คือใคร?

ซูมู่ที่ยืนอยู่ด้านหลังรีบตอบขึ้นว่า ท่านหมายถึงคนที่ถูก ตำรวจจับไปเมื่อกี้หรือครับ? เหมือนว่าจะเป็นคุณชายขอ งมู่ชื่อกรุ๊ปที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศเมื่อหลายวันก่อน”

ลู่จิ่งเซินขมวดคิ้วแล้วบอกว่า “ผมหมายถึงคนผู้หญิงคน เมื่อกี้”

“ครับ? ” ซูมู่งุนงงเล็กน้อย “ผู้หญิงคนไหนกัน? ”

เมื่อเห็นแววตาอันไม่พอใจของลู่จิ่งเซิน ซูมู่ก็รีบพูดขึ้นมา ว่า “ท่านประธานครับ ต้องขออภัยด้วยผมจะไปตรวจสอบ เดี๋ยวนี้”

“ช่างมันเถอะ”

สายตาของเขามองไปตามทางที่ผู้หญิงคนนั้นขับรถออก ไปแล้วยิ้มขึ้น เขาคล้ายกับนึกอะไรออกมาได้

จากนั้นเขารีบก้าวเดินเข้าไปด้านใน ในฐานะผู้แจ้งความ จิ่งหนิงจึงต้องเดินทางไปที่สถานี ตำรวจด้วย

เมื่อทำการบันทึกข้อความเสร็จแล้ว ผู้คนจากด้านนอกก็ พากันแห่กรูเข้ามา

คนที่เดินเข้ามาเป็นคนแรกก็คือคุณย่าจิ่งหวังเสว่เหมย เมื่อเธอเดินเข้ามาถึงก็ตบเข้าให้ที่หน้าของจิ่งหนิงอย่างจัง

“นังคนทรยศ? ”

หวังเสว่เหมยตัวสั่นสะท้านแล้วพูดว่า “แกรู้อยู่แก่ใจว่านั่น คือน้องสาวแท้ๆของแก ยังกล้าแจ้งตำรวจจับอีกอย่างนั้น เหรอ? แกต้องการจะยั่วให้ฉันโมโหตายยังไง? ”

จิงหนิงเช็ดโชคเลือดที่มุมปาก จากนั้นเงยดูหญิงชราที่ อยู่ตรงหน้า

“น้องสาวอย่างนั้นเหรอ? คุณหมายถึงจิ่งเสี่ยวหย่า? ”

“ไม่ต้องทำมาเป็นเสแสร้ง สื่อต่างๆพากันพูดกันให้แซ่ด บอกว่าคุณหนูจิงรองให้ท่าคู่หมั้นของคนอื่น แกไม่รู้เรื่อง หรือไง? ”

จึงหนิงก้มหน้าลงและยิ้มออกมาเบาๆ

“ผู้หญิงคนนั้นเป็นเธอนั่นเอง….ฉันก็คิดว่ากะหรี่ที่ไหน รีบร้อนจะหาเงินซะอีก ที่แท้ก็เป็นน้องสาวของฉันเอง? “

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน