วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – บทที่ 948 เธอถูกลักพาตัว

บทที่ 948 เธอถูกลักพาตัว

แต่จนถึงเขาสืบทุกคนที่รู้จักกับคู่สามีภรรยาหลานชายของตัวเองให้หมดแล้ว พบว่าเขาสองคนเป็นคนจิตใจดี ในชีวิตมีแต่ความสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่น

แม้กระทั่งคู่แข่งทางธุรกิจยังชื่นชมพวกเขามากเลย แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะขัดใจคนใดเลย

ยิ่งไม่มีทางที่จะไปมีคู่อริ วุ่นวายจนถึงขั้นต้องลอบฆ่าพวกเขา

พอถึงตอนนี้ อยู่ๆ เขาก็รู้สึกเสียวสันหลัง มีความคิดขึ้นมาทันที

แต่ตอนนั้นเขาก็แค่สงสัย ไม่มีหลักฐานอะไรที่ยืนยันได้

จนถึงเขาสืบอู่ซ่อมรถนั้นได้

เมื่อสามวันก่อนที่สามีภรรยาตระกูลชิวจะเกิดอุบัติเหตุ เคยไปซ่อมรถที่อู่ซ่อมรถร้านหนึ่ง ตอนนั้นคนที่รับผิดชอบซ่อมรถให้พวกเขาเป็นช่างซ่อมรถแก่คนหนึ่งที่ชื่อหลี่จง

ปีนั้น หลี่จงใกล้เข้าห้าสิบปีแล้ว เนื่องจากฝีมือขั้นเทพ ฉะนั้นจึงถูกลูกค้าเก่าหลายคนชอบ ทุกคนล้วนชอบหาเขาซ่อมรถให้

เพราะว่ามีคนรู้จักแนะนำให้สามีภรรยาตระกูลชิว ได้ข่าวว่าเขาเป็นคนดีฝีมือก็ดีด้วย จึงเข้ามาหาเพื่อจัดการปัญหาเครื่องจักรความร้อนของรถหน่อย

หลี่จงตอบตกลงได้เร็วมาก และซ่อมเสร็จเร็วมากเหมือนที่คิดไว้เลย หลังจากซ่อมรถเสร็จก็ได้ตรวจดูตอนนั้นและไม่มีปัญหาสักนิดเลย

สามีภรรยาตระกูลชิวพอใจมาก จ่ายเงินเรียบร้อยก็ขับรถจากไปแล้ว

ตอนนั้นเป็นวันหยุดพอดี ตอนแรกเขาสองคนวางแผนไว้ว่าจะขับรถไปเยี่ยมท่านปู่ชิวที่อาศัยอยู่ที่ชนบทไกลๆ

คิดไม่ถึงเลยว่า รถจะเกิดอุบัติเหตุในระหว่างทาง…

ถึงแม้หลังเกิดเหตุตำรวจก็เคยสืบสวนอู่ซ่อมรถ แต่เนื่องจากขาดหลักฐาน บวกกับรถก็ถูกเผาทิ้งแล้วด้วย ไม่สามารถยืนยันได้ว่ามีคนแอบทำอะไรบางอย่างกับรถ ดังนั้น สุดท้ายเรื่องนี้จึงถูกปล่อยผ่านไปแล้ว

แต่ท่านปู่ชิวกลับรู้ว่าต้องมีคนทำแน่นอน

เพราะเขาสืบมาตลอดทาง เมื่อสืบถึงอู่ซ่อมรถนั้นและได้เจอกับหลี่จงเขาก็เข้าใจทุกอย่างแล้ว

เรื่องยีนช่างเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกนี้อย่างไม่ต้องสงสัยเลย คนที่เสียชีวิตไปหลายสิบกว่าปีแล้ว จู่ๆ วันหนึ่งก็กลับมาโลกใบนี้อีกและยืนอยู่หน้าเขา

จนถึงวินาทีนั้นเขาถึงรู้ว่า ความจริงแล้วเด็กคนนั้นที่ยังอยู่ในผ้าห่อทารกในตอนนั้นยังไม่ตายจริงๆ

ไม่เพียงแค่ยังไม่ตาย เขายังมีชีวิตอยู่ต่อ กลายเป็นช่างซ่อมรถที่มีฝีมือดีที่สุดในละแวกนั้นด้วย

เขาแอบแฝงอยู่ในผู้คนอย่างไร้ตัวตน ผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว ไม่มีวี่แวว ไม่ใช่เขาลืมความแค้นไปแล้ว แค่เพราะว่าเขากำลังรอเวลาที่เหมาะสมที่สุดอยู่นั่นเอง

ตอนนี้ เวลามาถึงแล้ว

อีกฝ่ายไม่รู้ตัวตนของตัวเอง แต่กลับส่งเครื่องมือที่ใช้ในการเดินทางของตนมาในมือเขาด้วยตัวเอง

โอกาสดีๆ อย่างนี้ จะให้เขาพลาดได้ยังไงล่ะ

เพราะฉะนั้นเขาแอบทำอะไรบางอย่างที่คนนอกดูไม่ออกกับผ้าเบรกของรถ

ผมก็ได้เป็นอย่างที่เขาคิดไว้ก่อนหน้านี้ สามีภรรยาตระกูลชิวตายแล้ว

ความแค้นบัญชีเลือดของพ่อแม่เขา ในที่สุดก็ได้ชำระล้างแล้ว

ถึงแม้ไม่ได้ฆ่าท่านปู่ชิวโดยตรง แต่เขารู้ดี นี่ยังทรมานกว่าการฆ่าท่านปู่ชิว

เมื่อท่านปู่ชิวมาหาเขา เขาไม่ได้หลบ ยิ่งกว่านั้นยังยอมรับตรงๆ ว่าเขาเป็นคนฆ่าพวกเขา

ตอนแรกเขายังนึกว่าท่านปู่ชิวจะลงมือฆ่าเขา

แต่ผลปรากฏว่าไม่มี

ถึงอย่างไรท่านปู่ชิวก็แก่แล้ว ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากความใจร้อนในตอนนั้น ความจริงแล้วหลายปีที่ผ่านมานี้ก็ตกอยู่ในความเสียใจทีหลังและโทษตัวเองอยู่ตลอด

เขาเคยคิดอยากจะไปชดใช้โทษหลายครั้งจนนับไม่ถ้วนแล้ว แต่ยังไงก็คิดไม่ถึงเลยว่าสุดท้ายวิธีชดใช้โทษจะเป็นแบบนี้

บางทีนี่อาจจะเรียกได้เป็นว่าโชคชะตาแกล้งคนแหละมั้ง ท่านปู่ชิวทำให้หลี่จงไม่มีพ่อแม่ หลี่จงก็ให้เขาคนผมขาวส่งคนผมดำ

อาจเป็นเพราะว่านึกถึงเพื่อนเก่าหลายปีที่แล้วคนนั้น นึกถึงคืนที่เต็มไปด้วยเลือดคืนนั้น ในที่สุด ท่านปู่ชิวปล่อยหลี่จงไปแล้ว

เขาพาเสี่ยวฮัวลูกสาวคนเดียวของหลานชายตัวเองกลับมาหมู่บ้านนี้ เริ่มต้นชีวิตอันห่างหายไปจากสังคมข้างนอกใหม่

ห่างหายครั้งนี้ก็คือสิบแปดปี

สิบแปดปีที่ผ่านมานี้ ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขมาตลอด หลี่จงก็ไม่เคยปรากฏตัวรอบตัวเขาอีกเลย

เขาเคยนึกว่าเรื่องนี้จะจบลงอย่างนี้

แต่ไม่นึกเลย หลายเดือนที่แล้ว หลี่จงเสียชีวิตอย่างกะทันหันแล้ว

เมื่อเขาได้รับรู้ข่าวนี้ หลี่จงก็เสียชีวิตได้หลายเดือนแล้ว ตอนนั้นในใจของเขายังตกใจหนักมาก แต่ก็ไม่เคยไปคิดเหตุผลดีๆ คิดแค่ว่าเป็นภัยพิบัติทั้งจากธรรมชาติและจากมนุษย์เท่านั้น

แต่ผ่านไปไม่กี่วัน เสี่ยวฮัวก็หายตัวไปแล้ว

ถ้าพูดตามตรงแล้ว ความจริงไม่ใช่หายตัวไป แต่คือถูกคนลักพาตัวไปแล้ว

ส่วนคนที่ลักพาตัวเธอไป ก็คือหลี่เก๋อลูกชายของหลี่จง

หลี่เก๋อรู้เรื่องบุญคุณความแค้นระหว่างหลี่จงกับตระกูลชิว แต่ก็ไม่รู้ทำไม หลังจากหลี่จงตายแล้ว หลี่เก๋อจิตใจตั้งมั่นคิดว่าต้องเป็นการแก้แค้นจากท่านปู่ชิวแน่นอน

ดังนั้นเขาจึงลักพาตัวเสี่ยวฮัว และสั่งการให้เขาต้องนำแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ไปแลกเปลี่ยนกับเขา

ท่านปู่ชิวไม่รู้ว่าเขารู้เรื่องของแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์มาจากไหน แต่เสี่ยวฮัวเป็นชีวิตของเขา อยู่พึ่งพาอาศัยกันมาตั้งหลายปี เขาไม่มีทางปล่อยเสี่ยวฮัวไว้ไม่สนใจ

เพราะฉะนั้นเขาจึงเตรียมตัวแอบติดต่อกับหลี่เก๋อ หาทางแลกเสี่ยวฮัวคืนกลับมา

หลังจากได้ฟังคำบอกเล่าจากเขาแล้ว พวกจิ่งหนิงกับลู่จิ่งเซินต่างตกอยู่ในความเงียบ

พวกเขาไม่คิดเลย ความจริงของเรื่องจะเป็นเช่นนี้

จิ่งหนิงมองท่านปู่ชิวถามเสียงต่ำว่า: “ดังนั้น ความจริงแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ยังอยู่ในมือของท่าน?”

ท่านปู่ชิวพยักหน้า

ทีนี้ ในที่สุดพวกเขาก็ได้เข้าแล้ว ทำไมเขาถึงปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่า ยังไงก็ไม่ยอมเอาแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ออกมา

กู้ซือเฉียนพูดเสียงต่ำว่า: “เอาแบบนี้ดีกว่า ท่านเอาของให้พวกเรา ให้พวกเราไปช่วยเหลนสาวของท่านออกมาดีไหม”

ท่านปู่ชิวเงยหน้าขึ้นมองเขาแวบหนึ่ง ยิ้มแห้งว่า “แกนึกสิ ถ้าช่วยได้ทำไมฉันถึงไม่ไปช่วยเองล่ะ คนนั้นเอาเสี่ยวฮัวไปซ่อนไว้ ฉันหามาตั้งนานแล้วแต่ยังไงก็หาไม่เจอ อยากจะช่วยคนมันง่ายซะที่ไหน”

พอคำพูดนี้ออกมาทุกคนต่างเงียบกันไปครู่หนึ่ง

จิ่งหนิงถามว่า: “คนที่มาเจอท่านในเมื่อกี้ก็คือหลี่เก๋อใช่ไหม”

ท่านปู่ชิวพยักหน้า

“เขาใช้วิธีอะไรติดต่อท่าน โทรศัพท์เหรอ”

“ไม่ใช่ ทุกครั้งที่เขาจะหาฉัน ก็จะสั่งคนเอากระดาษมาวางใต้ก้อนหินหลังบ้านฉัน ฉันก็จะรู้ว่าเขามาแล้ว”

จิ่งหนิงรู้สึกสงสัย “แล้วท่านไม่เคยสงสัยคนอื่นเลยเหรอ หรือจริงๆ แล้วเพิ่งกังฟูของท่านอยากจะจับเขาให้ได้ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร ถึงตอนนั้นชีวิตของเขาอยู่ในกำมือของท่าน ท่านยังจะกลัวว่าเขาจะไม่ปล่อยคนอีกเหรอ”

ท่านปู่ชิวหัวเราะเยาะเย้ยตัวเอง

“ฉันจะไม่รู้ได้ยังไง แต่ไอ้เด็กนั่นตั้งมั่นแล้วว่าถึงตายก็ไม่ปล่อยคนไป ยังบอกอีกว่าถ้าเขาตายแล้วเสี่ยวฮัวก็ต้องตายด้วย ถึงตอนนั้นสองคนพินาศด้วยกัน เป็นคู่เป็ดน้ำแมนดารินผีพอดีเลย แล้วจะให้ฉันยอมได้ยังไงล่ะ เพราะฉะนั้นฉนจึงคิดว่ารอพวกแกไปแล้วค่อยเอาของให้เขาก็ได้แล้ว ไม่คิดเลยว่าพวกแกอยู่ๆ ก็กลับมาอีก”

จิ่งหนิงเม้มปากพูดเสียงต่ำว่า: “ท่านปู่ พูดตรงๆ กับท่านละกัน พวกหนูต้องได้แผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ก้อนนั้น ท่านเห็นว่าชีวิตของเสี่ยวฮัวเหลนสาวท่านเป็นชีวิต แต่ชีวิตของเฉียวฉีก็เป็นชีวิตเหมือนกัน พวกหนูก็ไม่ได้ให้ท่านทิ้งเสี่ยวฮัวช่วยเฉียวฉี แค่หวังว่าท่านสามารถเห็นด้วย ให้พวกเราทุกคนช่วยกันคิดวิธีที่ดีต่อเราทั้งสองฝ่าย เป็นยังไง”

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Status: Ongoing

บทที่ 1 จับชู้คาเตียง

“มีถุงยางดูเร็กซ์ ดูอัล เพลย์เชอร์ไซซ์กลางไหม? ”

“มีค่ะ”

“แล้วก็ไวเบรเตอร์กับชุดนางแมวสวาทชุดหนึ่งด้วย”

“ได้ค่ะ จัดส่งที่ไหนคะ? ”

“โรงแรมลี่หัว ห้อง2202”

“ค่ะ ขอบคุณค่ะ”

เมื่อจิ่งหนิงมาถึงโรงแรมลี่หัวก็เป็นเวลาห้าทุ่มแล้ว

เวลาดึกดื่นขนาดนี้ สำหรับคนที่ทำธุรกิจสินค้าผู้ใหญ่ แบบนี้ การนำส่งสินค้าด้วยตนเองไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่

นัก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหญิงสาวหน้าตาสะสวยอย่างเธอ

แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ทุก สิ่งทุกอย่างต้องแลกมาด้วยเงิน อีกอย่างมู่ยั่นเจ๋อกำลังจะ กลับมาอีกไม่กี่วันนี้

คบกันมาตั้งหกปี แต่เวลากว่าครึ่งเป็นรักระยะไกล เขา ต้องดูแลธุรกิจทั้งในและนอกประเทศ เธอจะทำตัววุ่นวาย ส่งผลต่อการทำงานของเขาไม่ได้

ดีที่ความรักของทั้งสองคนนั้นค่อนข้างหวานชื่นนอกจากงานในแต่ละวันแล้ว เธอยังมีธุรกิจเล็กๆของตัวเอง ด้วย อีกไม่กี่วันเป็นวันเกิดของเขา เธอตั้งใจจะมอบของ ขวัญให้เขาอย่างเซอร์ไพรซ์

เมื่อคิดได้ดังนั้น จึงหนิงก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

เธอขยับหมวกสีดำที่ใส่มาให้ปิดลงมาบังหน้าไว้ จากนั้น เดินถือกล่องสินค้าเข้าไปด้านใน

โรงแรมลี่หัว เป็นสถานที่ราคาแพงขึ้นชื่อของเมืองจิ้น ผู้คนที่เดินทางมาเข้าพักล้วนเป็นระดับมหาเศรษฐี

ความโอ่อ่างดงามที่ห้องโถงไม่ต้องพูดถึง แม้แต่ลิฟต์ก็ ถูกประดับตกแต่งด้วยเงินและทองคำ คนที่ยืนอยู่ด้านใน ถูกแสงไฟส่องสว่างไสว

จิ่งหนิงเดินถือกล่องเข้าไปแล้วมองหาจุดหมาย

ใบหน้าอันงดงามถูกปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง มองเห็นเพียงดวงตา เป็นประกายคู่นั้น แฝงไปด้วยความมั่นใจ

ลิฟต์ขึ้นสู่ชั้น22 “ตั้ง” ประตูเปิดออก เธอเดินออกไป กระทั่งถึงห้อง2202และกดกริ่งที่ประตู

ประตูยังไม่เปิดออก ก็มีเสียงหนุ่มสาวดังขึ้น

“อาเจ๋อ อุ๊ย? อย่าค่ะ….ของน่าจะมาส่งแล้ว”

“รอผมนะ เดี๋ยวมา”

จึงหนิงยืนยิ้มอยู่ที่ปากประตูอย่างอดไม่ได้ ของยังมาส่งไม่ถึงก็เริ่มกันแล้วเหรอเนี่ย? รีบร้อนกันจริงๆ?

ประตูถูกเปิดออกในไม่ช้า ชายผู้ออกมารับของสวมผ้า ขนหนูเพียงผืนเดียว บนร่างกายของเขายังคงมีไอน้ำอยู่

จิ่งหนิงไม่ได้มองหน้าเขา เธอยื่นกล่องใส่ของออกไป “843หยวนค่ะ? จ่ายเงินสดหรือว่าโอนคะ? ”

ชายผู้อยู่ตรงหน้าไม่ตอบ

ผ่านไปสองวินาที เสียงของชายผู้นั้นเอ่ยขึ้นว่า “.

หนิง?

จิ่งหนิงตกตะลึง เธอเงยหน้าขึ้นมอง

เมื่อเห็นชายที่ยืนอยู่ด้านหน้า ร่างกายกำยำ ผมเผ้าเปียก ปอน เขามีเพียงผ้าขนหนูสีขาวปิดบังร่างกายไว้ แสงไฟ เหลืองนวลส่องมายังร่างกายของเขา ผิวขาวเนียนและ ใบหน้าอันเกลี้ยงเกลาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาด

ใจ อีกทั้ง ทำตัวไม่ถูก

สีหน้าของจิงหนิงตกใจเสียจนหน้าซีด

“ปั่นเจ๋อ ใครคะ? ”

“ไม่มีอะไรครับ คนมาส่งของครับ”

มู่ยั่นเจ๋อรีบพูดขึ้นก่อนที่จิ่งหนิงจะเอ่ยอะไรออกมาจาก นั้นรีบหยิบเงินจากกระเป๋ายัดใส่มือเธอและหยิบของไป อย่างรวดเร็ว

เสียงประตูปิดลงดัง “ปัง?

จึงหนิงยังคงยืนอยู่ที่หน้าประตู มือของเธอเริ่มสั่น สีหน้า

เหนิงซีดเผือดลงทันที

เธอหัวเราะออกมาเบาๆ

และมองไปยังธนบัตรที่เขายัดเข้ามาไว้ในมือ นี่มันเรื่อง ตลกบ้าบออะไรกัน? เธอหัวเราะเยาะในความโง่เขลาของ ตัวเองจริงๆ

เสียงชายหนุ่มและหญิงสาวเล็ดลอดออกมานอกห้อง เธอก็ถอนหายใจยาวๆออกมา และกลั้นน้ำตาที่คลอเบ้าเอา

ไว้

เธอหันหลังกลับและเดินตรงไปยังลิฟต์และหยิบมือถือ

ออกมา

“สวัสดีค่ะ สถานีตำรวจใช่ไหมคะ? ฉันจะขอแจ้งความ ว่ามีชายหญิงค้าประเวณี ห้องพักเลขที่.”

ต่อมา20นาที

รถตำรวจคันหนึ่งจอดลงที่หน้าโรงแรมลี่หัว ข้างๆยังมีนัก ข่าวและช่างกล้องเดินตามมา เมื่อเห็นคนที่ถูกจับตัวออกมา นักข่าวก็พากันแห่เข้าไป

“นายมู่ มีคนแจ้งความว่าคุณเสพยาและซื้อบริการทาง เพศ จริงหรือไม่คะ? ”

“นายมู ในฐานะผู้สืบทอดมู่ชื่อกรุ๊ป คุณคิดว่าการกระทำ เช่นนี้เหมาะสมหรือไม่คะ?

“นายมู่ครับ ผู้หญิงคนที่อยู่กับคุณเป็นใครกันครับ? มี

ข่าวลือว่าเป็นดาราในวงการ จริงหรือไม่ครับ? ” “นายมู..”

มู่ยั่นเจ่อถูกนักข่าวล้อมไว้ แม้แต่ตำรวจก็ห้ามไว้ไม่ได้ เขากัดฟันกรอดๆและตะโกนออกมาว่า “ไปให้พ้น? ” นักข่าวพากันตกอกตกใจและถอยหลังออกไป

มู่ยั่นเจ๋อมองไปยังฝูงชน เขาพบเข้ากับจิ่งหนิง สายตา ของเขาแฝงไปด้วยความอาฆาตแค้น

นี่คือสิ่งที่คุณต้องการใช่ไหม?”

จึ่งหนิงเผยอยิ้ม สายตาแฝงไปด้วยการดูถูก

“คุณทำแบบนี้อย่าหวังว่าจะได้ผมไปครอง”

จิ่งหนิงเดินหน้าขึ้นไปแล้วเงื้อมือขึ้นต่อหน้านักข่าวและ

ตำรวจ

11 เพียะ!”

ฝ่ามือของเธอตบลงไปที่หน้าเขาอย่างจัง มู่ยั่นเจ่อถูกตบ เสียจนหน้าหัน

บรรยากาศรอบด้านเงียบลงทันใด

ทางตำรวจตกตะลึงอ้าปากค้าง ” คุณผู้หญิงคนนี้คือ.

%3D

%3D ขอโทษนะคะ มือลั่นไปเอง!”

เธอยิ้มด้วยแววตาเยือกเย็นแล้วทำท่าทางนวดข้อมือ แล้วมองไปยังมู่ยั่นเจ่อด้วยสายตาอาฆาต จากนั้นพูดด้วย น้ำเสียงเยือกเย็นว่า

กระดาษชำระที่ตกลงไปในชักโครก คุณคิดว่าใครยังจะต้องการอีกกัน?ตบเมื่อสักครู่เป็นแค่ดอกเบี้ยเท่านั้น ทุน ที่เหลือฉันจะให้คุณชดเชยภายในสามวัน!”

แววตาของมู่ยั่นเจ่อตื่นตระหนก อะไร! ทุนอะไร !!” จึ่งหนิงขมวดคิ้วขึ้น ” คุณแน่ใจนะว่าจะให้ฉันกระตุ้น

ความจำคุณ

มู่ยั่นเจ๋อก้มหน้าลงทันที

เธอหัวเราะหีๆ เป็นเสียงหัวเราะที่แฝงไปด้วยความดูถูก เหยียดหยาม

ทางตำรวจเห็นเช่นนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาโบกมือ เป็นสัญญาณว่าให้คุมตัวขึ้นรถไปได้ เมื่อเขาเดินทางจากไป บรรดานักข่าวก็ไม่ได้รีรอ รีบตาม

ไปทันที

เดิมทีที่จากประตูทางเข้าโรงแรมเต็มไปด้วยผู้คน ตอนนี้ กลับว่างเปล่าไม่เหลือใคร

จึงหนิงยังยืนอยู่ที่นั่นจนกระทั่งควบคุมอารมณ์ได้ เธอจึง ได้เตรียมตัวจากไป

แต่เธอคาดไม่ถึงว่าเมื่อหันหลังกลับไปจะพบเข้ากับแวว ตาคู่หนึ่งที่จับจ้องเธออยู่

ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำ ร่างกายกำยำสูงใหญ่ ผมสั้นจัด ทรงเป็นระเบียบ แววตาแหลมคมนั้นทำให้ผู้พบเห็น หลงใหล

ใบหน้าอันหล่อเหลาภายใต้แสงยามค่ำคืนแบบนี้ เผยให้เห็นออร่าที่กลมกลืนไปกับบรรยากาศรอบข้าง จิ่งหนิงรู้สึกว่าเธอเคยเห็นชายคนนี้มาก่อน

จากนั้นเธอหันไปเห็นเลขาของเขาที่ยืนอยู่ด้านหลัง อีก ทั้งรถปอร์เช่สีเงินที่อยู่ข้างๆ เธอก็คิดได้ว่าจะไปรู้จักบุคคล ที่โดดเด่นแบบนี้ได้ยังไงกัน?

เธอสลัดความคิดออกจากหัว หันหลังแล้วเดินจากไป จนกระทั่งร่างเล็กๆของเธอเข้าสู่รถยนต์ ลู่จิ่งเซินจึงได้

ละสายตามาจากเธอและถามขึ้นว่า “คนเมื่อกี้นี้คือใคร?

ซูมู่ที่ยืนอยู่ด้านหลังรีบตอบขึ้นว่า ท่านหมายถึงคนที่ถูก ตำรวจจับไปเมื่อกี้หรือครับ? เหมือนว่าจะเป็นคุณชายขอ งมู่ชื่อกรุ๊ปที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศเมื่อหลายวันก่อน”

ลู่จิ่งเซินขมวดคิ้วแล้วบอกว่า “ผมหมายถึงคนผู้หญิงคน เมื่อกี้”

“ครับ? ” ซูมู่งุนงงเล็กน้อย “ผู้หญิงคนไหนกัน? ”

เมื่อเห็นแววตาอันไม่พอใจของลู่จิ่งเซิน ซูมู่ก็รีบพูดขึ้นมา ว่า “ท่านประธานครับ ต้องขออภัยด้วยผมจะไปตรวจสอบ เดี๋ยวนี้”

“ช่างมันเถอะ”

สายตาของเขามองไปตามทางที่ผู้หญิงคนนั้นขับรถออก ไปแล้วยิ้มขึ้น เขาคล้ายกับนึกอะไรออกมาได้

จากนั้นเขารีบก้าวเดินเข้าไปด้านใน ในฐานะผู้แจ้งความ จิ่งหนิงจึงต้องเดินทางไปที่สถานี ตำรวจด้วย

เมื่อทำการบันทึกข้อความเสร็จแล้ว ผู้คนจากด้านนอกก็ พากันแห่กรูเข้ามา

คนที่เดินเข้ามาเป็นคนแรกก็คือคุณย่าจิ่งหวังเสว่เหมย เมื่อเธอเดินเข้ามาถึงก็ตบเข้าให้ที่หน้าของจิ่งหนิงอย่างจัง

“นังคนทรยศ? ”

หวังเสว่เหมยตัวสั่นสะท้านแล้วพูดว่า “แกรู้อยู่แก่ใจว่านั่น คือน้องสาวแท้ๆของแก ยังกล้าแจ้งตำรวจจับอีกอย่างนั้น เหรอ? แกต้องการจะยั่วให้ฉันโมโหตายยังไง? ”

จิงหนิงเช็ดโชคเลือดที่มุมปาก จากนั้นเงยดูหญิงชราที่ อยู่ตรงหน้า

“น้องสาวอย่างนั้นเหรอ? คุณหมายถึงจิ่งเสี่ยวหย่า? ”

“ไม่ต้องทำมาเป็นเสแสร้ง สื่อต่างๆพากันพูดกันให้แซ่ด บอกว่าคุณหนูจิงรองให้ท่าคู่หมั้นของคนอื่น แกไม่รู้เรื่อง หรือไง? ”

จึงหนิงก้มหน้าลงและยิ้มออกมาเบาๆ

“ผู้หญิงคนนั้นเป็นเธอนั่นเอง….ฉันก็คิดว่ากะหรี่ที่ไหน รีบร้อนจะหาเงินซะอีก ที่แท้ก็เป็นน้องสาวของฉันเอง? “

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท