วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – บทที่ 955 ไม่เคยคลอดมาก่อน

บทที่ 955 ไม่เคยคลอดมาก่อน

ข่าวการตั้งครรภ์ของจิ่งหนิง แพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว

คนในตระกูลลู่รู้กันทั้งหมดโดยธรรมชาติ ทางด้านตระกูลจี้ ก็ได้ข่าวแล้วเช่นกัน

จี้หยุนซูหาเวลามาเยี่ยมเธอโดยเฉพาะ ลุงหลานทั้งสองไม่ได้เจอกันนานแล้ว จึงคุยกันอย่างร้อนแรง

ตอนกลางวัน เดิมทีแล้วจิ่งหนิงอยากให้อยู่ทานอาหาร แต่ถูกจี้หยุนซูปฏิเสธ

เขามองเธอด้วยความรัก ยิ้มแล้วพูดขึ้น “ฉันหาเวลามาเยี่ยมเธอ กลางวันมีนัดกินข้าวกับเพื่อนคนหนึ่ง จะไม่กินข้าวที่นี่ เธอดูแลสุขภาพตัวเองให้มากๆ ระวังตรงท้องด้วย อย่าเหนื่อยเกินไป มีเรื่องอะไรก็โทรหาฉันได้ทุกเมื่อ”

จิ่งหนิงพยักหน้า และไม่ได้บังคับอีก ไปส่งเขาด้วยตัวเอง แล้วหันตัวกลับไป

ไม่คิดว่าหลังจากกลับไป ก้นยังนั่งไม่ทันร้อน ท่านปู่ลู่และนายหญิงหชิน พาลู่หลันจือคุณน้าของลู่จิ่งเซินมาด้วย

ปัจจุบันนี้เธอและลู่จิ่งเซินอาศัยที่วิลล่าเฟิงเฉียว ไปที่บ้านหลังเก่าไม่บ่อยนัก หนึ่งคือยุ่ง สองคือผู้อาวุโสสองท่านไม่เหมือนกับผู้อาวุโสทั่วไป ตอนกลางคืนรู้สึกโดดเดี่ยว พวกเขามีชีวิตเป็นของพวกเขาเอง ถ้าไม่มีเรื่องอะไร ก็ไม่ชอบให้ใครมารบกวน

ด้วยเหตุนี้ เธอกับลู่จิ่งเซินจึงไปเยี่ยมทุกอาทิตย์เท่านั้น แต่ปกติจะไม่ไปเยี่ยมที่บ้าน

ในเวลานี้ ผู้อาวุโสสองท่านมาด้วยกันเลย ใช้จมูกคิดก็รู้ว่าทำเพื่อเด็ก

จิ่งหนิงยิ้มขณะต้อนรับพวกเขาเข้ามา นายหญิงมองท้องของเธอ ทั้งๆ ที่ตรงนั้นมันยังแบนราบอยู่ มองอะไรไม่ออก หล่อนเหมือนมองเห็นเหลนของตัวเอง ยิ้มจนหุบไม่ได้

“โอ๊ย หนิงหนิง เธออย่าลุกขึ้นมา นั่งดีกว่า! ฉันจะบอกเธอให้ อย่าคิดว่าท้องลูกคนที่สองแล้วจะทำตามใจชอบได้ ผู้หญิงคลอดลูกน่ะก็คือการผ่านประตูผี แม้แต่ลูกคนที่สองก็ไม่ผ่อนคลายไปกว่าคนแรก”

จิ่งหนิงยิ้ม สั่งให้ป้าหลิวชงชา แล้วถามขึ้น “วันนี้พวกคุณมาได้ยังไงคะ?”

นายหญิงเหลือบมองเธอ “เด็กโง่ เธอมีข่าวดี เราไม่มาเยี่ยมได้เหรอ?”

ในเวลานี้ ลู่หลันจือที่ไม่พูดอะไรอยู่ตลอดก็พูดแทรก “ใช่ๆ เรามาเยี่ยมเธอโดยเฉพาะเพราะดีใจกับเธอ”

เมื่อก่อน ลู่หลันจือไม่ชอบจิ่งหนิง วางแผนร้ายกับเธออย่างลับๆ ไม่น้อย

แต่ผ่านมาหลายปี บางทีอาจจะเพราะไปมาหาสู่กันเป็นเวลานาน รู้ว่านิสัยจิ่งหนิงไม่ได้แย่อย่างที่เธอจินตนาการไว้ และบางทีเธออาจจะมองออก ความรักอันยาวนานของลู่จิ่งเซินและจิ่งหนิง เป็นไปไม่ได้ที่จะแยกจากกันแล้ว จึงยอมรับชะตากรรม

กล่าวสรุปคือสองสามปีมานี้ เธอไม่ได้พุ่งเป้าไปที่หล่อนเหมือนตอนแรกแล้ว บางครั้งค่อนข้างสนิทกันด้วยซ้ำ

จิ่งหนิงรู้ว่าพ่อแม่ลู่จิ่งเซินเสียชีวิตไปนานแล้ว ตอนเด็กคุณน้าคนนี้ก็ดูแลและช่วยเหลือสงเคราะห์ไม่น้อย แน่นอนว่าพายเรือตามน้ำอย่างสุขใจ

เธอเห็นลู่หลันจืออบอุ่นแบบนี้ ก็ยิ้มพูดขึ้น “ขอบคุณคุณน้ามากค่ะที่เป็นห่วง ลำบากแย่เลยที่พวกคุณมา เราก็เพิ่งรู้ข่าวเมื่อสองวันก่อนเองค่ะ หมอบอกว่าเด็กสบายดี แค่ต้องบำรุงครรภ์อย่างสบายใจก็พอ ไม่ต้องกังวลมากเกินไป”

นายหญิงพยักหน้าซ้ำๆ “งั้นก็ดีแล้ว งั้นก็ดีแล้ว”

ขณะที่พูด ก็ถามอย่างเป็นห่วงอีกครั้ง “อายุเท่าไรแล้ว?”

จิ่งหนิงตอบ “เพิ่งหกสัปดาห์ค่ะ”

“อุ๊ยตาย หกสัปดาห์แล้ว ทำไมเพิ่งรู้ล่ะ?”

ลู่หลันจือตะโกนเสียงดังขึ้นมา “รู้ไหมว่าสามเดือนแรกมันอันตรายที่สุดเลย ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาจะทำยังไง?”

เมื่อพูดคำนี้ออกไป นายหญิงก็ไม่พอใจทันที

หันศีรษะไปจ้องเธอ “เกิดเรื่องอะไร? จะเกิดเรื่องอะไรได้? เธออย่าประหม่าได้ไหม สามเดือนอันตรายที่สุดอะไร พูดเหมือนเธอเคยคลอดอย่างนั้นแหละ”

“ฉัน……”

ลู่หลันจือโกรธมาก ถึงเธอจะเคยแต่งงาน แต่เพราะไม่ลงรอยกับสามี เลิกกันไปตั้งนานแล้ว ตอนนี้โสด อย่าว่าแต่คลอดลูก ไม่เคยคิดเรื่องนี้เลย

ตอนนี้นายหญิงเอาเรื่องนี้มาทำให้เธอไม่ชอบใจ เห็นได้ชัดว่าปากพูดว่าไม่ตั้งใจ แต่คนฟังคิดมาก

เห็นขอบตาเธอเหมือนแดงก่ำขึ้นมา จิ่งหนิงรีบยิ้มไกล่เกลี่ย “ถึงคุณน้าจะไม่เคยคลอด แต่ก็เคยเห็นมาเยอะมากนี่คะ อีกอย่างจิ่งหนิงก็เป็นคนที่คุณน้าเลี้ยงจนโตมานี่หน่า ด้านนี้แน่นอนว่าเธอต้องเข้าใจมากกว่าฉัน ฉันเข้าใจความเป็นห่วงของคุณน้าค่ะ”

จิ่งหนิงอธิบายเช่นนี้ สีหน้าลู่หลันจือก็ผ่อนคลายลงนิดหน่อย

รวมถึงคนที่พูดคำนี้เป็นแม่อาวุโสของเธอ นายหญิงหชิน เธอไม่กล้าเถียงจริงๆ

ด้วยเหตุนี้จึงทำเสียงฮึดฮัดเบาๆ แสร้งทำเป็นโกรธ “แม่ คุณดูสิ หนิงหนิงพูดจาเป็น”

นายหญิงตอบเรียบๆ “หล่อนคำนึงถึงเกียรติของเธอ เธอคิดว่าทุกคนเป็นเหมือนเธอหรือไง แก่ป่านนี้แล้วยังไม่ทำสิ่งที่ควร ให้เธอไปหาผู้ชายมาแต่งงาน เธอก็ไม่ยอม เอาแต่อยู่กับคนไม่ได้เรื่องทั้งวัน มันเหมือนอะไร!”

คำพูดของนายหญิง ทำให้สีหน้าผ่อนคลายของลู่หลันจือในตอนแรก มืดมนลงทันที

เธอยืนขึ้น พูดขึ้นอย่างสะเทือนใจ “แม่ นี่แม่พูดอะไร? อะไรคือคนไม่ได้เรื่อง?”

นายหญิงสีหน้าไม่เปลี่ยน น้ำเสียงแฝงด้วยความดูถูกอย่างเห็นได้ชัด “ดาราต๊อกต๋อยสองคนนั้นที่เธออยู่ด้วยคราวก่อนไง ไม่ใช่คนไม่ได้เรื่องเหรอ?”

“พวกเขาเป็นนักแสดง! มีฝีมือแสดงดีมาก! แม่ แม่ไม่รู้แล้วอย่าพูดมั่วๆ!”

“ฝีมือแสดงดีเหรอ? เฮอะ ทำไมฉันไม่เคยเห็นพวกเขาแสดงอะไรเลย? คนประเภทนี้ไม่มีดีอะไรหรอก เธอใช้เวลากับพวกมันน้อยๆ หน่อย”

ขณะที่เธอพูด ราวกับตระหนักอะไรบางอย่างได้ ก็ยิ้มตาหยีให้กับจิ่งหนิงแล้วพูดอธิบายหนึ่งประโยค “ฉันหมายถึงนักแสดงต๊อกต๋อยที่ไม่ถ่ายหนังดีๆ วันๆ เอาแต่ยั่วยวนเจ้าชู้ ไม่ได้ว่าเธอนะ”

จิ่งหนิงยิ้ม แน่นอนว่าเธอเข้าใจความหมายของนายหญิงหชิน

ความจริงแล้วเธอก็เคยเจอหลายครั้ง ลู่หลันจืออยู่กับหนุ่มน้อยคนหนึ่ง เพราะเหตุผลการทำงาน หนุ่มน้อยคนนั้นเธอก็รู้จักเช่นกัน เหมือนเป็นนักแสดงหน้าใหม่ที่มีชื่อเสียงอยู่บ้างในละครออนไลน์เมื่อปีก่อน

นิสัยเป็นอย่างไร เธอไม่เคยติดต่อด้วยก็พูดอะไรไม่ได้ แต่ลู่หลันจือปีนี้อายุสี่สิบกว่าแล้ว หนุ่มน้อยคนนั้นแค่ยี่สิบต้นๆ ด้วยนิสัยและทัศนคติของลู่หลันจือ ถ้าบอกว่าอีกฝ่ายชอบวิสัยทัศน์และนิสัยหล่อน เธอไม่เชื่อจริงๆ

แต่อย่างไรแล้วเหล่านี้เป็นเรื่องส่วนตัวของเธอ รวมถึงสถานะของลู่หลันจือ ถ้าเธอต้องการเลี้ยงหนุ่มหน้าขาวสักสองสามคนจริงๆ ก็ไม่เป็นอะไร

ด้วยเหตุนี้ เธอจึงไม่พูดอะไรมาก

จิ่งหนิงยิ้มขณะเปลี่ยนหัวข้อ “คุณย่า ช่วงเวลาที่ฉันท้อง อาจจะดูแลอานอานและจิ้งเจ๋อไม่ได้ ถึงตอนนั้นอาจจะต้องการความช่วยเหลือพวกคุณหน่อยนะคะ”

นายหญิงยิ้มแล้วพูดขึ้น “นี่มันคำพูดอะไร ครอบครัวเดียวกัน การช่วยเหลือเป็นสิ่งที่ควรทำ”

ขณะที่เธอพูด ก็ยิ้มตาหยีลูบมือหล่อน “ฉันรู้ เธอต้องทำงาน แถมยังท้อง และต้องดูแลลูกสองคน ต้องยุ่งมากแน่ๆ รวมถึงลูกเสียงดังโวยวาย จะมีผลกระทบต่อการบำรุงครรภ์ของเธอเหมือนกัน เอาแบบนี้แล้วกัน อีกสักพักฉันจะรับจิ้งเจ๋อและอานอานไปที่บ้านหลังเก่า เธอแค่ดูแลสุขภาพให้ดีก็พอ”

จิ่งหนิงกลับส่ายหน้า

“ไม่ต้องหรอกค่ะ คุณย่า คุณช่วยฉันรับอานอานไปดูแลสักพักก็พอแล้ว ส่วนจิ้งเจ๋อ ให้เขาอยู่ที่นี่ก็ได้ค่ะ”

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Status: Ongoing

บทที่ 1 จับชู้คาเตียง

“มีถุงยางดูเร็กซ์ ดูอัล เพลย์เชอร์ไซซ์กลางไหม? ”

“มีค่ะ”

“แล้วก็ไวเบรเตอร์กับชุดนางแมวสวาทชุดหนึ่งด้วย”

“ได้ค่ะ จัดส่งที่ไหนคะ? ”

“โรงแรมลี่หัว ห้อง2202”

“ค่ะ ขอบคุณค่ะ”

เมื่อจิ่งหนิงมาถึงโรงแรมลี่หัวก็เป็นเวลาห้าทุ่มแล้ว

เวลาดึกดื่นขนาดนี้ สำหรับคนที่ทำธุรกิจสินค้าผู้ใหญ่ แบบนี้ การนำส่งสินค้าด้วยตนเองไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่

นัก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหญิงสาวหน้าตาสะสวยอย่างเธอ

แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ทุก สิ่งทุกอย่างต้องแลกมาด้วยเงิน อีกอย่างมู่ยั่นเจ๋อกำลังจะ กลับมาอีกไม่กี่วันนี้

คบกันมาตั้งหกปี แต่เวลากว่าครึ่งเป็นรักระยะไกล เขา ต้องดูแลธุรกิจทั้งในและนอกประเทศ เธอจะทำตัววุ่นวาย ส่งผลต่อการทำงานของเขาไม่ได้

ดีที่ความรักของทั้งสองคนนั้นค่อนข้างหวานชื่นนอกจากงานในแต่ละวันแล้ว เธอยังมีธุรกิจเล็กๆของตัวเอง ด้วย อีกไม่กี่วันเป็นวันเกิดของเขา เธอตั้งใจจะมอบของ ขวัญให้เขาอย่างเซอร์ไพรซ์

เมื่อคิดได้ดังนั้น จึงหนิงก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

เธอขยับหมวกสีดำที่ใส่มาให้ปิดลงมาบังหน้าไว้ จากนั้น เดินถือกล่องสินค้าเข้าไปด้านใน

โรงแรมลี่หัว เป็นสถานที่ราคาแพงขึ้นชื่อของเมืองจิ้น ผู้คนที่เดินทางมาเข้าพักล้วนเป็นระดับมหาเศรษฐี

ความโอ่อ่างดงามที่ห้องโถงไม่ต้องพูดถึง แม้แต่ลิฟต์ก็ ถูกประดับตกแต่งด้วยเงินและทองคำ คนที่ยืนอยู่ด้านใน ถูกแสงไฟส่องสว่างไสว

จิ่งหนิงเดินถือกล่องเข้าไปแล้วมองหาจุดหมาย

ใบหน้าอันงดงามถูกปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง มองเห็นเพียงดวงตา เป็นประกายคู่นั้น แฝงไปด้วยความมั่นใจ

ลิฟต์ขึ้นสู่ชั้น22 “ตั้ง” ประตูเปิดออก เธอเดินออกไป กระทั่งถึงห้อง2202และกดกริ่งที่ประตู

ประตูยังไม่เปิดออก ก็มีเสียงหนุ่มสาวดังขึ้น

“อาเจ๋อ อุ๊ย? อย่าค่ะ….ของน่าจะมาส่งแล้ว”

“รอผมนะ เดี๋ยวมา”

จึงหนิงยืนยิ้มอยู่ที่ปากประตูอย่างอดไม่ได้ ของยังมาส่งไม่ถึงก็เริ่มกันแล้วเหรอเนี่ย? รีบร้อนกันจริงๆ?

ประตูถูกเปิดออกในไม่ช้า ชายผู้ออกมารับของสวมผ้า ขนหนูเพียงผืนเดียว บนร่างกายของเขายังคงมีไอน้ำอยู่

จิ่งหนิงไม่ได้มองหน้าเขา เธอยื่นกล่องใส่ของออกไป “843หยวนค่ะ? จ่ายเงินสดหรือว่าโอนคะ? ”

ชายผู้อยู่ตรงหน้าไม่ตอบ

ผ่านไปสองวินาที เสียงของชายผู้นั้นเอ่ยขึ้นว่า “.

หนิง?

จิ่งหนิงตกตะลึง เธอเงยหน้าขึ้นมอง

เมื่อเห็นชายที่ยืนอยู่ด้านหน้า ร่างกายกำยำ ผมเผ้าเปียก ปอน เขามีเพียงผ้าขนหนูสีขาวปิดบังร่างกายไว้ แสงไฟ เหลืองนวลส่องมายังร่างกายของเขา ผิวขาวเนียนและ ใบหน้าอันเกลี้ยงเกลาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาด

ใจ อีกทั้ง ทำตัวไม่ถูก

สีหน้าของจิงหนิงตกใจเสียจนหน้าซีด

“ปั่นเจ๋อ ใครคะ? ”

“ไม่มีอะไรครับ คนมาส่งของครับ”

มู่ยั่นเจ๋อรีบพูดขึ้นก่อนที่จิ่งหนิงจะเอ่ยอะไรออกมาจาก นั้นรีบหยิบเงินจากกระเป๋ายัดใส่มือเธอและหยิบของไป อย่างรวดเร็ว

เสียงประตูปิดลงดัง “ปัง?

จึงหนิงยังคงยืนอยู่ที่หน้าประตู มือของเธอเริ่มสั่น สีหน้า

เหนิงซีดเผือดลงทันที

เธอหัวเราะออกมาเบาๆ

และมองไปยังธนบัตรที่เขายัดเข้ามาไว้ในมือ นี่มันเรื่อง ตลกบ้าบออะไรกัน? เธอหัวเราะเยาะในความโง่เขลาของ ตัวเองจริงๆ

เสียงชายหนุ่มและหญิงสาวเล็ดลอดออกมานอกห้อง เธอก็ถอนหายใจยาวๆออกมา และกลั้นน้ำตาที่คลอเบ้าเอา

ไว้

เธอหันหลังกลับและเดินตรงไปยังลิฟต์และหยิบมือถือ

ออกมา

“สวัสดีค่ะ สถานีตำรวจใช่ไหมคะ? ฉันจะขอแจ้งความ ว่ามีชายหญิงค้าประเวณี ห้องพักเลขที่.”

ต่อมา20นาที

รถตำรวจคันหนึ่งจอดลงที่หน้าโรงแรมลี่หัว ข้างๆยังมีนัก ข่าวและช่างกล้องเดินตามมา เมื่อเห็นคนที่ถูกจับตัวออกมา นักข่าวก็พากันแห่เข้าไป

“นายมู่ มีคนแจ้งความว่าคุณเสพยาและซื้อบริการทาง เพศ จริงหรือไม่คะ? ”

“นายมู ในฐานะผู้สืบทอดมู่ชื่อกรุ๊ป คุณคิดว่าการกระทำ เช่นนี้เหมาะสมหรือไม่คะ?

“นายมู่ครับ ผู้หญิงคนที่อยู่กับคุณเป็นใครกันครับ? มี

ข่าวลือว่าเป็นดาราในวงการ จริงหรือไม่ครับ? ” “นายมู..”

มู่ยั่นเจ่อถูกนักข่าวล้อมไว้ แม้แต่ตำรวจก็ห้ามไว้ไม่ได้ เขากัดฟันกรอดๆและตะโกนออกมาว่า “ไปให้พ้น? ” นักข่าวพากันตกอกตกใจและถอยหลังออกไป

มู่ยั่นเจ๋อมองไปยังฝูงชน เขาพบเข้ากับจิ่งหนิง สายตา ของเขาแฝงไปด้วยความอาฆาตแค้น

นี่คือสิ่งที่คุณต้องการใช่ไหม?”

จึ่งหนิงเผยอยิ้ม สายตาแฝงไปด้วยการดูถูก

“คุณทำแบบนี้อย่าหวังว่าจะได้ผมไปครอง”

จิ่งหนิงเดินหน้าขึ้นไปแล้วเงื้อมือขึ้นต่อหน้านักข่าวและ

ตำรวจ

11 เพียะ!”

ฝ่ามือของเธอตบลงไปที่หน้าเขาอย่างจัง มู่ยั่นเจ่อถูกตบ เสียจนหน้าหัน

บรรยากาศรอบด้านเงียบลงทันใด

ทางตำรวจตกตะลึงอ้าปากค้าง ” คุณผู้หญิงคนนี้คือ.

%3D

%3D ขอโทษนะคะ มือลั่นไปเอง!”

เธอยิ้มด้วยแววตาเยือกเย็นแล้วทำท่าทางนวดข้อมือ แล้วมองไปยังมู่ยั่นเจ่อด้วยสายตาอาฆาต จากนั้นพูดด้วย น้ำเสียงเยือกเย็นว่า

กระดาษชำระที่ตกลงไปในชักโครก คุณคิดว่าใครยังจะต้องการอีกกัน?ตบเมื่อสักครู่เป็นแค่ดอกเบี้ยเท่านั้น ทุน ที่เหลือฉันจะให้คุณชดเชยภายในสามวัน!”

แววตาของมู่ยั่นเจ่อตื่นตระหนก อะไร! ทุนอะไร !!” จึ่งหนิงขมวดคิ้วขึ้น ” คุณแน่ใจนะว่าจะให้ฉันกระตุ้น

ความจำคุณ

มู่ยั่นเจ๋อก้มหน้าลงทันที

เธอหัวเราะหีๆ เป็นเสียงหัวเราะที่แฝงไปด้วยความดูถูก เหยียดหยาม

ทางตำรวจเห็นเช่นนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาโบกมือ เป็นสัญญาณว่าให้คุมตัวขึ้นรถไปได้ เมื่อเขาเดินทางจากไป บรรดานักข่าวก็ไม่ได้รีรอ รีบตาม

ไปทันที

เดิมทีที่จากประตูทางเข้าโรงแรมเต็มไปด้วยผู้คน ตอนนี้ กลับว่างเปล่าไม่เหลือใคร

จึงหนิงยังยืนอยู่ที่นั่นจนกระทั่งควบคุมอารมณ์ได้ เธอจึง ได้เตรียมตัวจากไป

แต่เธอคาดไม่ถึงว่าเมื่อหันหลังกลับไปจะพบเข้ากับแวว ตาคู่หนึ่งที่จับจ้องเธออยู่

ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำ ร่างกายกำยำสูงใหญ่ ผมสั้นจัด ทรงเป็นระเบียบ แววตาแหลมคมนั้นทำให้ผู้พบเห็น หลงใหล

ใบหน้าอันหล่อเหลาภายใต้แสงยามค่ำคืนแบบนี้ เผยให้เห็นออร่าที่กลมกลืนไปกับบรรยากาศรอบข้าง จิ่งหนิงรู้สึกว่าเธอเคยเห็นชายคนนี้มาก่อน

จากนั้นเธอหันไปเห็นเลขาของเขาที่ยืนอยู่ด้านหลัง อีก ทั้งรถปอร์เช่สีเงินที่อยู่ข้างๆ เธอก็คิดได้ว่าจะไปรู้จักบุคคล ที่โดดเด่นแบบนี้ได้ยังไงกัน?

เธอสลัดความคิดออกจากหัว หันหลังแล้วเดินจากไป จนกระทั่งร่างเล็กๆของเธอเข้าสู่รถยนต์ ลู่จิ่งเซินจึงได้

ละสายตามาจากเธอและถามขึ้นว่า “คนเมื่อกี้นี้คือใคร?

ซูมู่ที่ยืนอยู่ด้านหลังรีบตอบขึ้นว่า ท่านหมายถึงคนที่ถูก ตำรวจจับไปเมื่อกี้หรือครับ? เหมือนว่าจะเป็นคุณชายขอ งมู่ชื่อกรุ๊ปที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศเมื่อหลายวันก่อน”

ลู่จิ่งเซินขมวดคิ้วแล้วบอกว่า “ผมหมายถึงคนผู้หญิงคน เมื่อกี้”

“ครับ? ” ซูมู่งุนงงเล็กน้อย “ผู้หญิงคนไหนกัน? ”

เมื่อเห็นแววตาอันไม่พอใจของลู่จิ่งเซิน ซูมู่ก็รีบพูดขึ้นมา ว่า “ท่านประธานครับ ต้องขออภัยด้วยผมจะไปตรวจสอบ เดี๋ยวนี้”

“ช่างมันเถอะ”

สายตาของเขามองไปตามทางที่ผู้หญิงคนนั้นขับรถออก ไปแล้วยิ้มขึ้น เขาคล้ายกับนึกอะไรออกมาได้

จากนั้นเขารีบก้าวเดินเข้าไปด้านใน ในฐานะผู้แจ้งความ จิ่งหนิงจึงต้องเดินทางไปที่สถานี ตำรวจด้วย

เมื่อทำการบันทึกข้อความเสร็จแล้ว ผู้คนจากด้านนอกก็ พากันแห่กรูเข้ามา

คนที่เดินเข้ามาเป็นคนแรกก็คือคุณย่าจิ่งหวังเสว่เหมย เมื่อเธอเดินเข้ามาถึงก็ตบเข้าให้ที่หน้าของจิ่งหนิงอย่างจัง

“นังคนทรยศ? ”

หวังเสว่เหมยตัวสั่นสะท้านแล้วพูดว่า “แกรู้อยู่แก่ใจว่านั่น คือน้องสาวแท้ๆของแก ยังกล้าแจ้งตำรวจจับอีกอย่างนั้น เหรอ? แกต้องการจะยั่วให้ฉันโมโหตายยังไง? ”

จิงหนิงเช็ดโชคเลือดที่มุมปาก จากนั้นเงยดูหญิงชราที่ อยู่ตรงหน้า

“น้องสาวอย่างนั้นเหรอ? คุณหมายถึงจิ่งเสี่ยวหย่า? ”

“ไม่ต้องทำมาเป็นเสแสร้ง สื่อต่างๆพากันพูดกันให้แซ่ด บอกว่าคุณหนูจิงรองให้ท่าคู่หมั้นของคนอื่น แกไม่รู้เรื่อง หรือไง? ”

จึงหนิงก้มหน้าลงและยิ้มออกมาเบาๆ

“ผู้หญิงคนนั้นเป็นเธอนั่นเอง….ฉันก็คิดว่ากะหรี่ที่ไหน รีบร้อนจะหาเงินซะอีก ที่แท้ก็เป็นน้องสาวของฉันเอง? “

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน