วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – บทที่ 970 คุยข้อตกลง

บทที่ 970 คุยข้อตกลง

ลู่หลันจือก็ตกตะลึง มองสีหน้าจิ่งหนิงอย่างระมัดระวัง พบว่าสีหน้าเธอแปลกๆ ในใจก็พอจะเข้าใจว่ามีเรื่องเกิดขึ้นจริงๆ

ดังนั้นจึงโบกมือ ให้พนักงานเหล่านั้นถอยไป

จากนั้นก็ทำหน้ายิ้มประจบสอพลอ ยิ้มชอบใจถามขึ้น “หนิงหนิง เรื่องอะไรเหรอ?”

จิ่งหนิงหยิบจี้หยกชิ้นนั้นออกมาจากกระเป๋า มองเธออย่างจริงจัง “คุณน้า จี้หยกชิ้นนี้ คุณได้มาจากที่ไหน?”

ลู่หลันจืออึ้ง มองจี้หยกในมือเธอ รู้สึกขาดความมั่นใจโดยไม่รู้ตัว

สายตาเธอระยิบระยับ “จี้หยกเหรอ……ฉันจะเอามาจากไหนได้ล่ะ? ก็ซื้อมาจากช็อปเคาน์เตอร์น่ะสิ แต่เป็นจี้หยกที่ฉันให้อานอานนะ ทำไมมาอยู่ในมือเธอ?”

ขณะที่พูด ก็จะยื่นมือไปแย่งจี้หยก แต่ถูกจิ่งหนิงหลบได้อย่างว่องไว

จิ่งหนิงก็ไม่อยากคุยกับเธอมากนัก จึงพูดเข้าประเด็นทันที

“คุณซื้อมาจากช็อปเคาน์เตอร์ไหน พาฉันไปดูหน่อย”

ลู่หลันจือได้ยินดังนั้น ก็ตระหนักอะไรขึ้นได้ สีหน้าก็มืดลงทันที

เธอจ้องมองจิ่งหนิงอย่างไม่สบอารมณ์

“ทำไม? นี่เธอหมายความว่าไง? นี่เธอสงสัยฉันเหรอ จี้หยกที่ฉันซื้อมาจากช็อปเคาน์เตอร์ไหนมันเกี่ยวอะไรกับเธอ? อีกอย่าง ฉันมอบให้อานอานไม่ได้มอบให้เธอสักหน่อย เธออย่าคิดนะว่าเป็นแม่ของหล่อนแล้วจะหยิบของของหล่อนได้ตามใจชอบ ฉันจะบอกเธอให้ว่านิสัยแบบนี้มันไม่ดี”

จิ่งหนิงเม้มปากแน่น มองเธออยู่ ไม่พูดอะไร

ลู่หลันจือพูดต่อ “เฮ้อ ฉันไม่ได้ว่าเธอนะ เธอรีบร้อนมาหาฉันแบบนี้ ฉันนึกว่าเกิดเรื่องใหญ่โต สุดท้ายก็แค่จี้หยกอันหนึ่ง ถ้าเธอชอบจี้หยก เธอก็ไปซื้อเองสิ จะมาถามฉันทำไม? ฉันไม่ได้มีหน้าที่ช่วยเธอสอบถามเรื่องพวกนี้สักหน่อย”

รอเธอบ่นจนจบแล้ว จิ่งหนิงถึงได้พูดเสียงเข้ม “นี่มันเป็นของของแม่ฉัน”

ในใจลู่หลันจือดัง “ตึกตัก”

หันศีรษะไปมองเธออย่างไม่อยากจะเชื่อ

จิ่งหนิงกลัวว่าเธอได้ยินไม่ชัด จึงพูดอีกรอบ

“นี่มันเป็นของของแม่ฉัน ตัวอักษรที่สลักบนนี้ เป็นตัวอักษรพิเศษของแม่ฉัน มีแค่เธอเท่านั้นที่มี ดังนั้นคุณน้ารบกวนบอกฉัน ของชิ้นนี้คุณได้มาจากที่ไหน? ถึงจะซื้อมา ก็ได้โปรดบอกฉันว่าซื้อมาจากที่ไหน ได้ไหมคะ?”

ลู่หลันจือตอบสนองในที่สุด สีหน้าเปลี่ยนไป จากนั้นก็รู้สึกขำเล็กน้อย

“ม……แม่ของเธอตายไปหลายปีแล้วไม่ใช่เหรอ? จะเป็นของของแม่เธอได้ยังไง……”

ขณะที่เธอพูด ยิ่งพูดก็ยิ่งขาดความมั่นใจ

ก็ไม่รู้นึกถึงอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นสีหน้าก็กลายเป็นแย่นิดหน่อย

จิ่งหนิงมองเธออย่างเงียบๆ อยู่ตลอด

ผ่านไปสักพัก ลู่หลันจือก็ทนการจ้องมองเธอไม่ไหว โบกมือ พูดขึ้นอย่างรำคาญ “เอาล่ะๆ ฉันบอกเธอก็ได้ จี้หยกชิ้นนี้ไม่ได้ซื้อมา ฉันเก็บได้”

จิ่งหนิงขมวดคิ้ว “เก็บได้? เก็บได้ที่ไหน?”

ลู่หลันจือยู่ปากอย่างไม่พอใจ “เก็บได้ที่สถานที่จัดงานพนันหินแห่งหนึ่งน่ะ ฉันจะไปรู้ได้ไงว่าฉันออกไปข้างนอก เก็บจี้หยกมามั่วๆ แล้วมันจะเป็นของแม่เธอน่ะ จะว่าไปแล้วฉันโชคนี่ก็โชคร้ายจริงๆ”

ขณะที่เธอพูด ก็กลอกตาอย่างอดไม่ได้

จิ่งหนิงก็จับประเด็นสำคัญในคำพูดเธอได้อย่างมีไหวพริบ

“สถานที่จัดงานพนันหิน? สถานที่จัดงานพนันหินที่ไหน?”

“ก็……”

ลู่หลันจือพูดได้ครึ่งหนึ่ง จู่ๆ ก็ชะงักไป จากนั้นก็เหมือนนึกอะไรบางอย่าง ดวงตาก็เป็นประกาย

เธอก็ถูมืออย่างตื่นเต้น “คือ หนิงหนิงอ่า เรามาคุยกันเถอะ”

จิ่งหนิงเก็บจี้หยก โดยที่สีหน้าไม่เปลี่ยน “ว่ามาค่ะ”

“ก่อนหน้านี้ฉันบอกเรื่องการลงทุนเหมืองอัญมณีกับเธอไม่ใช่เหรอ จริงๆ แล้ว จี้หยกชิ้นนี้ที่ฉันเก็บได้คราวนี้น่ะ ก็เก็บได้จากสมาคมพนันหินของเจ้าของแร่ที่ฉันอยากร่วมมือด้วยนั่นแหละ ไม่งั้นเอาแบบนี้ไหม เธอไปที่นั่นเป็นเพื่อนฉันหน่อย คุยเรื่องการร่วมมือกับเจ้าของท่านนั้น ฉันก็พาเธอไปดูได้พอดีเลย สถานที่ที่ฉันเก็บจี้หยกได้น่ะ เธอคิดว่าไง?”

ตอนนี้จิ่งหนิงถือว่าเข้าใจแล้ว แน่นอนว่าลู่หลันจือกลัวเธอไม่ตกลงเรื่องยืมเงิน อยากใช้โอกาสนี้บรรลุการทำข้อตกลงกับเธอ

เธอหลุดขำอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนหน้านี้เพราะเธอคุยกับลู่จิ่งเซินรู้เรื่องแล้วว่าจะยินยอมสนับสนุนลู่หลันจือ

ด้วยเหตุนี้ จึงไม่ได้ปฏิเสธ “ได้ค่ะ แต่ฉันมีหนึ่งเงื่อนไข”

ลู่หลันจือตกตะลึง “เงื่อนไขอะไร?”

“ฉันไปพบเจ้าของอัญมณีท่านนั้นกับคุณได้ แต่ตกลงกันก่อน ถ้าผ่านการตรวจสอบแล้วว่าแร่ครั้งนี้มันคุ้มค่าที่จะลงทุนจริงๆ เงินก้อนนี้ถือว่าเป็นการลงทุนของเรา ไม่ใช่เงินที่ให้คุณยืม คุณเองก็สามารถออกเงินลงทุนเองได้ ถึงเราจะมีสายเลือดเดียวกันก็ต้องตกลงเรื่องเงินให้ชัดเจน ว่าไงคะ?”

ลู่หลันจืออึ้งอยู่ตรงนั้น ไม่คิดเลยว่าเธอจะพูดประโยคนี้ออกมาจริงๆ

สีหน้าเธอเปลี่ยนไป ค่อนข้างกระวนกระวายและหงุดหงิด

“จิ่งหนิง! เธอทำแบบนี้ได้ยังไง? เธอกับจิ่งเซินขาดเงินขนาดนั้นเลยเหรอ? แม้แต่น้าของเธอเนื้อยุงแค่นี้ก็ไม่ปล่อยไปเหรอ?”

จิ่งหนิงยืนขึ้นมา

“จะเป็นเนื้อหรือบ่อโคลน ตอนนี้ยังไม่รู้นะคะ คุณน้า เงินพันห้าร้อยล้านไม่ใช่เงินนิดเดียว คุณแน่ใจเหรอว่าถ้าปล่อยให้คุณลงทุนคนเดียว คุณจะควบคุมการลงทุนขนาดนี้ได้?”

สีหน้าลู่หลันจือเปลี่ยนไปอีกครั้ง สุดท้ายก็พ่ายแพ้

“งั้นเธอก็ให้ฉันยืมอีกร้อยล้าน ฉันลงทุนห้าร้อยล้าน เธอสองคนลงทุนพันล้าน”

จิ่งหนิงไม่ลังเล “ได้ค่ะ ตกลง!”

หลังจากตกลงเรียบร้อย เธอก็ยกข้อมือขึ้นดูเวลา

“คุณจะเสริมสวยเสร็จเมื่อไรคะ?”

ลู่หลันจือฉีกแผ่นพอกหน้าบนหน้าออกอย่างไม่สบอารมณ์

“ฉันอารมณ์เสียเพราะเธอหมดแล้ว จะทำอีกทำไม? ตอนนี้ฉันจะพาเธอไปเจอเจ้านายหยู โอเคไหม?”

จิ่งหนิงกระตุกปาก “งั้นรบกวนคุณน้าด้วยนะคะ”

รอให้ลู่หลันจือเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ก็เก็บของ ทั้งสองออกไปข้างนอกพร้อมกัน

พนักงานที่รออยู่ด้านนอกตลอดเวลา เห็นพวกเธอจู่ๆ ก็ออกมา เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วด้วย ก็อดไม่ได้ที่จะตกใจมาก

“คุณลู่ นี่คุณจะไปแล้วเหรอคะ? คุณไม่พอใจกับการบริการของเราก่อนหน้านี้เหรอคะ?”

ลู่หลันจือกลอกตาอย่างช่วยไม่ได้

“ไม่ใช่ไม่พอใจพวกเธอ แต่ฉันมีเรื่องสำคัญต้องไปทำ เอาล่ะ ฉันจะเปิดบัตร คราวหน้าค่อยมาใหม่”

ขณะที่เธอพูด ก็เดินบิดตัวออกไปกับจิ่งหนิง

ขึ้นรถมาแล้ว ลู่หลันจือบอกสถานที่ จิ่งหนิงก็ขับรถพาเธอตรงไปที่สถานที่จัดงานพนันหินด้วยกัน

และในเวลานี้ ภายในสถานที่จัดงานพนันหิน พนันหินก็ยังคงดำเนินต่อไป

หลังจากโม่ไฉ่เวยและเชวซู่ปรึกษากับเจ้านายหยูเรียบร้อยแล้ว ก็กลับไปที่คฤหาสน์ด้านหลัง เจ้านายหยูต้องดูธุรกิจ แน่นอนว่าออกไปไม่ได้

ในตอนนี้ ก็มีคนตัดออกมาได้หยกชั้นดีพอดีเลย ทุกคนกำลังล้อมอยู่ด้านหน้าการตัดหิน กำลังดูกันอย่างครึกครื้นเลยล่ะ

เจ้านายหยูเป็นคนที่เข้าได้กับทุกฝ่าย ถึงแม้ตาจะจ้องมองมีดตัดหินนั้นอยู่ แต่หางตาก็สังเกตที่ประตูทางเข้าตลอดเวลา

ถ้าหากมีลูกค้ารายใหญ่มาจริงๆ แน่นอนว่าเขาต้องไปทักทายทันที

ในขณะนี้ ร่างคุ้นเคยร่างหนึ่งก็เข้ามาในสายตาทันที

เขาตกตะลึงเล็กน้อย รู้สึกค่อนข้างประหลาดใจ จากนั้นก็ยิ้ม

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Status: Ongoing

บทที่ 1 จับชู้คาเตียง

“มีถุงยางดูเร็กซ์ ดูอัล เพลย์เชอร์ไซซ์กลางไหม? ”

“มีค่ะ”

“แล้วก็ไวเบรเตอร์กับชุดนางแมวสวาทชุดหนึ่งด้วย”

“ได้ค่ะ จัดส่งที่ไหนคะ? ”

“โรงแรมลี่หัว ห้อง2202”

“ค่ะ ขอบคุณค่ะ”

เมื่อจิ่งหนิงมาถึงโรงแรมลี่หัวก็เป็นเวลาห้าทุ่มแล้ว

เวลาดึกดื่นขนาดนี้ สำหรับคนที่ทำธุรกิจสินค้าผู้ใหญ่ แบบนี้ การนำส่งสินค้าด้วยตนเองไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่

นัก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหญิงสาวหน้าตาสะสวยอย่างเธอ

แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ทุก สิ่งทุกอย่างต้องแลกมาด้วยเงิน อีกอย่างมู่ยั่นเจ๋อกำลังจะ กลับมาอีกไม่กี่วันนี้

คบกันมาตั้งหกปี แต่เวลากว่าครึ่งเป็นรักระยะไกล เขา ต้องดูแลธุรกิจทั้งในและนอกประเทศ เธอจะทำตัววุ่นวาย ส่งผลต่อการทำงานของเขาไม่ได้

ดีที่ความรักของทั้งสองคนนั้นค่อนข้างหวานชื่นนอกจากงานในแต่ละวันแล้ว เธอยังมีธุรกิจเล็กๆของตัวเอง ด้วย อีกไม่กี่วันเป็นวันเกิดของเขา เธอตั้งใจจะมอบของ ขวัญให้เขาอย่างเซอร์ไพรซ์

เมื่อคิดได้ดังนั้น จึงหนิงก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

เธอขยับหมวกสีดำที่ใส่มาให้ปิดลงมาบังหน้าไว้ จากนั้น เดินถือกล่องสินค้าเข้าไปด้านใน

โรงแรมลี่หัว เป็นสถานที่ราคาแพงขึ้นชื่อของเมืองจิ้น ผู้คนที่เดินทางมาเข้าพักล้วนเป็นระดับมหาเศรษฐี

ความโอ่อ่างดงามที่ห้องโถงไม่ต้องพูดถึง แม้แต่ลิฟต์ก็ ถูกประดับตกแต่งด้วยเงินและทองคำ คนที่ยืนอยู่ด้านใน ถูกแสงไฟส่องสว่างไสว

จิ่งหนิงเดินถือกล่องเข้าไปแล้วมองหาจุดหมาย

ใบหน้าอันงดงามถูกปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง มองเห็นเพียงดวงตา เป็นประกายคู่นั้น แฝงไปด้วยความมั่นใจ

ลิฟต์ขึ้นสู่ชั้น22 “ตั้ง” ประตูเปิดออก เธอเดินออกไป กระทั่งถึงห้อง2202และกดกริ่งที่ประตู

ประตูยังไม่เปิดออก ก็มีเสียงหนุ่มสาวดังขึ้น

“อาเจ๋อ อุ๊ย? อย่าค่ะ….ของน่าจะมาส่งแล้ว”

“รอผมนะ เดี๋ยวมา”

จึงหนิงยืนยิ้มอยู่ที่ปากประตูอย่างอดไม่ได้ ของยังมาส่งไม่ถึงก็เริ่มกันแล้วเหรอเนี่ย? รีบร้อนกันจริงๆ?

ประตูถูกเปิดออกในไม่ช้า ชายผู้ออกมารับของสวมผ้า ขนหนูเพียงผืนเดียว บนร่างกายของเขายังคงมีไอน้ำอยู่

จิ่งหนิงไม่ได้มองหน้าเขา เธอยื่นกล่องใส่ของออกไป “843หยวนค่ะ? จ่ายเงินสดหรือว่าโอนคะ? ”

ชายผู้อยู่ตรงหน้าไม่ตอบ

ผ่านไปสองวินาที เสียงของชายผู้นั้นเอ่ยขึ้นว่า “.

หนิง?

จิ่งหนิงตกตะลึง เธอเงยหน้าขึ้นมอง

เมื่อเห็นชายที่ยืนอยู่ด้านหน้า ร่างกายกำยำ ผมเผ้าเปียก ปอน เขามีเพียงผ้าขนหนูสีขาวปิดบังร่างกายไว้ แสงไฟ เหลืองนวลส่องมายังร่างกายของเขา ผิวขาวเนียนและ ใบหน้าอันเกลี้ยงเกลาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาด

ใจ อีกทั้ง ทำตัวไม่ถูก

สีหน้าของจิงหนิงตกใจเสียจนหน้าซีด

“ปั่นเจ๋อ ใครคะ? ”

“ไม่มีอะไรครับ คนมาส่งของครับ”

มู่ยั่นเจ๋อรีบพูดขึ้นก่อนที่จิ่งหนิงจะเอ่ยอะไรออกมาจาก นั้นรีบหยิบเงินจากกระเป๋ายัดใส่มือเธอและหยิบของไป อย่างรวดเร็ว

เสียงประตูปิดลงดัง “ปัง?

จึงหนิงยังคงยืนอยู่ที่หน้าประตู มือของเธอเริ่มสั่น สีหน้า

เหนิงซีดเผือดลงทันที

เธอหัวเราะออกมาเบาๆ

และมองไปยังธนบัตรที่เขายัดเข้ามาไว้ในมือ นี่มันเรื่อง ตลกบ้าบออะไรกัน? เธอหัวเราะเยาะในความโง่เขลาของ ตัวเองจริงๆ

เสียงชายหนุ่มและหญิงสาวเล็ดลอดออกมานอกห้อง เธอก็ถอนหายใจยาวๆออกมา และกลั้นน้ำตาที่คลอเบ้าเอา

ไว้

เธอหันหลังกลับและเดินตรงไปยังลิฟต์และหยิบมือถือ

ออกมา

“สวัสดีค่ะ สถานีตำรวจใช่ไหมคะ? ฉันจะขอแจ้งความ ว่ามีชายหญิงค้าประเวณี ห้องพักเลขที่.”

ต่อมา20นาที

รถตำรวจคันหนึ่งจอดลงที่หน้าโรงแรมลี่หัว ข้างๆยังมีนัก ข่าวและช่างกล้องเดินตามมา เมื่อเห็นคนที่ถูกจับตัวออกมา นักข่าวก็พากันแห่เข้าไป

“นายมู่ มีคนแจ้งความว่าคุณเสพยาและซื้อบริการทาง เพศ จริงหรือไม่คะ? ”

“นายมู ในฐานะผู้สืบทอดมู่ชื่อกรุ๊ป คุณคิดว่าการกระทำ เช่นนี้เหมาะสมหรือไม่คะ?

“นายมู่ครับ ผู้หญิงคนที่อยู่กับคุณเป็นใครกันครับ? มี

ข่าวลือว่าเป็นดาราในวงการ จริงหรือไม่ครับ? ” “นายมู..”

มู่ยั่นเจ่อถูกนักข่าวล้อมไว้ แม้แต่ตำรวจก็ห้ามไว้ไม่ได้ เขากัดฟันกรอดๆและตะโกนออกมาว่า “ไปให้พ้น? ” นักข่าวพากันตกอกตกใจและถอยหลังออกไป

มู่ยั่นเจ๋อมองไปยังฝูงชน เขาพบเข้ากับจิ่งหนิง สายตา ของเขาแฝงไปด้วยความอาฆาตแค้น

นี่คือสิ่งที่คุณต้องการใช่ไหม?”

จึ่งหนิงเผยอยิ้ม สายตาแฝงไปด้วยการดูถูก

“คุณทำแบบนี้อย่าหวังว่าจะได้ผมไปครอง”

จิ่งหนิงเดินหน้าขึ้นไปแล้วเงื้อมือขึ้นต่อหน้านักข่าวและ

ตำรวจ

11 เพียะ!”

ฝ่ามือของเธอตบลงไปที่หน้าเขาอย่างจัง มู่ยั่นเจ่อถูกตบ เสียจนหน้าหัน

บรรยากาศรอบด้านเงียบลงทันใด

ทางตำรวจตกตะลึงอ้าปากค้าง ” คุณผู้หญิงคนนี้คือ.

%3D

%3D ขอโทษนะคะ มือลั่นไปเอง!”

เธอยิ้มด้วยแววตาเยือกเย็นแล้วทำท่าทางนวดข้อมือ แล้วมองไปยังมู่ยั่นเจ่อด้วยสายตาอาฆาต จากนั้นพูดด้วย น้ำเสียงเยือกเย็นว่า

กระดาษชำระที่ตกลงไปในชักโครก คุณคิดว่าใครยังจะต้องการอีกกัน?ตบเมื่อสักครู่เป็นแค่ดอกเบี้ยเท่านั้น ทุน ที่เหลือฉันจะให้คุณชดเชยภายในสามวัน!”

แววตาของมู่ยั่นเจ่อตื่นตระหนก อะไร! ทุนอะไร !!” จึ่งหนิงขมวดคิ้วขึ้น ” คุณแน่ใจนะว่าจะให้ฉันกระตุ้น

ความจำคุณ

มู่ยั่นเจ๋อก้มหน้าลงทันที

เธอหัวเราะหีๆ เป็นเสียงหัวเราะที่แฝงไปด้วยความดูถูก เหยียดหยาม

ทางตำรวจเห็นเช่นนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาโบกมือ เป็นสัญญาณว่าให้คุมตัวขึ้นรถไปได้ เมื่อเขาเดินทางจากไป บรรดานักข่าวก็ไม่ได้รีรอ รีบตาม

ไปทันที

เดิมทีที่จากประตูทางเข้าโรงแรมเต็มไปด้วยผู้คน ตอนนี้ กลับว่างเปล่าไม่เหลือใคร

จึงหนิงยังยืนอยู่ที่นั่นจนกระทั่งควบคุมอารมณ์ได้ เธอจึง ได้เตรียมตัวจากไป

แต่เธอคาดไม่ถึงว่าเมื่อหันหลังกลับไปจะพบเข้ากับแวว ตาคู่หนึ่งที่จับจ้องเธออยู่

ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำ ร่างกายกำยำสูงใหญ่ ผมสั้นจัด ทรงเป็นระเบียบ แววตาแหลมคมนั้นทำให้ผู้พบเห็น หลงใหล

ใบหน้าอันหล่อเหลาภายใต้แสงยามค่ำคืนแบบนี้ เผยให้เห็นออร่าที่กลมกลืนไปกับบรรยากาศรอบข้าง จิ่งหนิงรู้สึกว่าเธอเคยเห็นชายคนนี้มาก่อน

จากนั้นเธอหันไปเห็นเลขาของเขาที่ยืนอยู่ด้านหลัง อีก ทั้งรถปอร์เช่สีเงินที่อยู่ข้างๆ เธอก็คิดได้ว่าจะไปรู้จักบุคคล ที่โดดเด่นแบบนี้ได้ยังไงกัน?

เธอสลัดความคิดออกจากหัว หันหลังแล้วเดินจากไป จนกระทั่งร่างเล็กๆของเธอเข้าสู่รถยนต์ ลู่จิ่งเซินจึงได้

ละสายตามาจากเธอและถามขึ้นว่า “คนเมื่อกี้นี้คือใคร?

ซูมู่ที่ยืนอยู่ด้านหลังรีบตอบขึ้นว่า ท่านหมายถึงคนที่ถูก ตำรวจจับไปเมื่อกี้หรือครับ? เหมือนว่าจะเป็นคุณชายขอ งมู่ชื่อกรุ๊ปที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศเมื่อหลายวันก่อน”

ลู่จิ่งเซินขมวดคิ้วแล้วบอกว่า “ผมหมายถึงคนผู้หญิงคน เมื่อกี้”

“ครับ? ” ซูมู่งุนงงเล็กน้อย “ผู้หญิงคนไหนกัน? ”

เมื่อเห็นแววตาอันไม่พอใจของลู่จิ่งเซิน ซูมู่ก็รีบพูดขึ้นมา ว่า “ท่านประธานครับ ต้องขออภัยด้วยผมจะไปตรวจสอบ เดี๋ยวนี้”

“ช่างมันเถอะ”

สายตาของเขามองไปตามทางที่ผู้หญิงคนนั้นขับรถออก ไปแล้วยิ้มขึ้น เขาคล้ายกับนึกอะไรออกมาได้

จากนั้นเขารีบก้าวเดินเข้าไปด้านใน ในฐานะผู้แจ้งความ จิ่งหนิงจึงต้องเดินทางไปที่สถานี ตำรวจด้วย

เมื่อทำการบันทึกข้อความเสร็จแล้ว ผู้คนจากด้านนอกก็ พากันแห่กรูเข้ามา

คนที่เดินเข้ามาเป็นคนแรกก็คือคุณย่าจิ่งหวังเสว่เหมย เมื่อเธอเดินเข้ามาถึงก็ตบเข้าให้ที่หน้าของจิ่งหนิงอย่างจัง

“นังคนทรยศ? ”

หวังเสว่เหมยตัวสั่นสะท้านแล้วพูดว่า “แกรู้อยู่แก่ใจว่านั่น คือน้องสาวแท้ๆของแก ยังกล้าแจ้งตำรวจจับอีกอย่างนั้น เหรอ? แกต้องการจะยั่วให้ฉันโมโหตายยังไง? ”

จิงหนิงเช็ดโชคเลือดที่มุมปาก จากนั้นเงยดูหญิงชราที่ อยู่ตรงหน้า

“น้องสาวอย่างนั้นเหรอ? คุณหมายถึงจิ่งเสี่ยวหย่า? ”

“ไม่ต้องทำมาเป็นเสแสร้ง สื่อต่างๆพากันพูดกันให้แซ่ด บอกว่าคุณหนูจิงรองให้ท่าคู่หมั้นของคนอื่น แกไม่รู้เรื่อง หรือไง? ”

จึงหนิงก้มหน้าลงและยิ้มออกมาเบาๆ

“ผู้หญิงคนนั้นเป็นเธอนั่นเอง….ฉันก็คิดว่ากะหรี่ที่ไหน รีบร้อนจะหาเงินซะอีก ที่แท้ก็เป็นน้องสาวของฉันเอง? “

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท