วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – บทที่ 1032 รถเสีย

บทที่ 1032 รถเสีย

โม่ไฉ่เวยกับเชวซู่นั่งอยู่ในรถคันข้างหน้านั้น ส่วนจิ่งหนิงกับลู่จิ่งเซินคือพาเด็กสองคนนั่งรถคันข้างหลังนี้

เมื่อกี้เธอเห็นรถคันข้างหน้านั้นขับผ่านไปชัดๆ นั่นเป็นรถของโม่ไฉ่เวยกับเชวซู่

ดังนั้นคันที่จอดอยู่ข้างหน้านั้นน่าจะไม่ใช่ของพวกเขา

แล้วนั่นเป็นใครเหรอ

ในใจเธอกำลังสงสัยอยู่ เพราะว่ารถสองคันนี้นอกจากป้ายทะเบียนรถแล้ว อย่างอื่นเหมือนกันเป๊ะเลย

ดังนั้นมีช่วงหนึ่งที่เธอเห็นเป็นภาพลวงตา ยังนึกว่าเป็นโม่ไฉ่เวยพวกเขาที่จอดอยู่ตรงนั้น

จนกระทั่งรถขับผ่านข้างๆ รถคันนั้น อานอานอยู่ๆ ก็ตะโกนขึ้นมาอย่างตื่นตกใจและดีใจ

“คือคุณลุง! คือคุณลุงหน้าตาดีคนนั้น!”

จิ่งหนิงตะลึง หันกลับไปมอง เห็นแต่เป็นคนที่พวกเขาเจอในโรงละครคนนั้นจริงๆ

จิ่งหนิงอดรู้สึกตื่นตะลึงไม่ไว้ เหมือนอีกฝ่ายก็ได้ยินเสียงตะโกนของอานอาน หันหลังกลับมา

แต่เนื่องจากจิ่งหนิงพวกเขานั่งอยู่ในรถ กระจกรถได้ติดฟิล์มดำไว้แล้ว ดังนั้นมีแค่ข้างในที่มองเห็นข้างนอกได้ แต่ข้างนอกกลับมองไม่เห็นข้างใน เพราะฉะนั้นเขาจึงเห็นไม่ชัดคนที่ส่งเสียงเมื่อสักครู่นี้เป็นใคร

อานอานอดตะโกนขึ้นมาไม่ไว้ “จอดรถ! จอดรถ!”

คนขับรถหันหน้าดูไปที่ลู่จิ่งเซิน เห็นเขาพยักหน้าแล้ว จึงจอดรถไว้ข้างทาง

พอรถจอดปุ๊บ อานอานก็รีบจะไปเปิดประตูรถ แต่กลับถูกจิ่งหนิงห้ามไว้แล้ว

“เฮ้ย รอแป๊ปหนึ่ง”

เธอพูดและจับอานอานไว้ตักเตือนว่า: “ห้ามทะลึ่งตึงตังมากเกินไป เธอเป็นเด็ก ต้องตามอยู่ข้างหลังผู้ใหญ่ เข้าใจไหม”

อานอานพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง

ทีนี้จิ่งหนิงจึงลงรถไปอย่างสบายใจ พาเธอเดินไปตรงนั้นเรื่อยๆ

จริงๆ แล้วจิ่งหนิงก็ไม่ผิดที่คิดมาก ฐานะของเธอกับลู่จิ่งเซินวางไว้ตรงนั้น รอบข้างมีคนที่จิตใจไม่บริสุทธิ์มาเข้าใกล้มากเกินไปแล้ว อานอานเป็นลูกของพวกเขา บางครั้งก็จำเป็นต้องระวังหน่อย

ไม่อย่างนั้นถ้าตอนที่คู่อริหาเข้ามายังใสซื่อทะลึ่งตึงตังเช่นนี้ ก็จะหลงกลคนอื่นเขาได้ง่ายมาก

ลู่จิ่งเซินก็ลงจากรถด้วยเช่นกัน คนทั้งครอบครัวเดินไปข้างหน้ารถคันนั้น

ทันใดนั้น เหมือนอีกฝ่ายก็จำจิ่งหนิงกับอานอานได้แล้ว ยืนตัวตรงและยิ้มว่า: “เป็นพวกคุณนั่นเอง เมื่อกี้ผมยังคิดอยู่เลยว่าทำไมเสียงนี้มันคุ้นๆ เหมือนเคยได้ยินมาจากที่ไหน ไม่คิดเลยว่าจะถูกชะตาขนาดนี้ กลับมาเจอที่นี่อีกแล้ว”

เมื่อกี้อานอานได้รับการตักเตือนของจิ่งหนิงแล้ว ขณะนี้เป็นผู้ใหญ่ขึ้นเยอะเลย

ตัวอันน้อยๆ ของเธอยืนตรง ท่าทางดูเหมือนเป็นผู้ใหญ่ตัวน้อยอย่างเข้าทางและพยักหน้า

“ฉันก็รู้สึกถูกชะตามากเช่นกัน คุณลุง ทำไมคุณลุงอยู่ที่นี่คนเดียว รถของคุณลุงเสียเหรอ”

อีกฝ่ายหันหลังดูรถของตัวเองแวบหนึ่ง จากนั้นยิ้มเล่าอย่างหมดหนทางแล้วเล็กน้อย: “ใช่แล้ว ไม่รู้เพราะอะไร ขับมาครึ่งทางก็ดับแล้ว เมื่อกี้ผมโทรแจ้งแล้ว คนของบริษัทประกันภัยน่าจะมาดูเร็วๆ นี้”

ลู่จิ่งเซินมองเขา แอบสังเกตเขาเล็กน้อย

เห็นแต่ผู้ชายตรงหน้าเสื้อผ้าเรียบร้อย บุคลิกลักษณะอ่อนโยนดั่งหยก ระหว่างคิ้วตาอันอ่อนๆ มีรอยยิ้ม มีเสน่ห์อย่างคุณชายสมัยโบราณอย่างหนึ่ง ราวกับคนที่เดินออกมาจากภาพวาดอย่างนั้น

นี่เป็นคนที่สามารถให้คนมีความประทับใจที่ดีมากตั้งแต่เห็นครั้งแรกคนหนึ่ง

ลู่จิ่งเซินคิดแบบนี้อยู่ในใจ

ความคิดของจิ่งหนิงก็ไม่ต่างอะไรมากไปจากเขา เธอดูรถของอีกฝ่ายแวบหนึ่ง พูดอ่อนๆ ว่า: “ตอนนี้เวลาดึกขนาดนี้แล้ว รอคนของบริษัทประกันภัยมาถึงน่าจะต้องรอนานมากมั้ง”

อีกฝ่ายกางมือออกไป ท่าทางไม่รู้ต้องทำยังไง

“ทำอะไรไม่ได้ ผมมาท่องเที่ยวที่นี่ รถคือที่เช่าเขามา จึงไม่ค่อยมีเพื่อนอะไร เมื่อกี้ผมติดต่อบริษัทเช่าแล้ว ให้ผมโทรหาบริษัทประกันภัยเลย ผมก็ได้แต่ทำตามอย่างเดียว”

จิ่งหนิงพยักหน้า

“แล้วพวกเขาได้บอกไหมว่าจะมาเมื่อไหร่”

“ไม่ บอกแค่ให้ผมรอ พวกเขาจะพยายามมาให้เร็วที่สุด”

เมื่ออีกฝ่ายพูดอยู่ ระหว่างคิ้วก็ขมวดเล็กน้อย ดูออกได้ว่าก็รู้สึกคำพูดนี้เชื่อไม่ได้เหมือนกัน

ลู่จิ่งเซินพูดเสียงต่ำว่า: “คุณเป็นคนประเทศจีนเหรอ”

อีกฝ่ายตาสว่างขึ้นมา

“ใช่แล้ว คุณรู้ได้ยังไง”

“เพราะว่าพวกเราก็เป็นเหมือนกัน”

ก่อนหน้านี้พวกเขาใช้ภาษาอังกฤษคุยกัน คราวนี้ลู่จิ่งเซินจู่ๆ เปลี่ยนเป็นภาษาจีน อีกฝ่ายก็ยิ้มแย้มขึ้นมาอย่างดีใจทันที

“แบบนี้นี่เอง ดูเหมือนว่าเรามีพรหมลิขิตมากเลยจริงๆ ผมนึกมาตลอดเลยว่าที่นี่ไม่ค่อยมีคนจีน”

ลู่จิ่งเซินพูดอ่อนๆ ว่า: “คุณรออยู่ที่นี่ไม่รู้ว่าต้องรอนานแค่ไหน ถ้าไม่รังเกียจก็ขึ้นรถมา พวกเราส่งคุณ”

อีกฝ่ายลังเลอยู่

“แบบนี้…จะรบกวนพวกคุณมากไปหรือเปล่า อีกอย่าง รถของผมนี่”

“ความปลอดภัยที่นี่ดีมาก ถนนเส้นนี้มีกล้องวงจรปิดด้วย รถของคุณไม่มีปัญหาแน่นอน ขึ้นรถเถอะ”

หลังจากลู่จิ่งเซินพูดจบ ก็อุ้มจิ้งเจ๋อน้อยหันหลังขึ้นรถไปแล้ว

จิ่งหนิงเห็นแล้วก็ยิ้มด้วยว่า: “ก่อนหน้านี้ยังต้องขอบคุณที่คุณช่วยลูกสาวฉันเอาไว้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่ต้องเกรงใจแล้ว ขึ้นรถให้พวกเราไปส่งคุณเถอะ”

อีกฝ่ายเห็นสถานการณ์แบบนี้ จึงไม่ได้ว่าอะไรและพยักหน้าตกลงแล้ว

หลังจากขึ้นรถ อีกฝ่ายบอกที่อยู่ จิ่งหนิงกลับได้ยินว่าเป็นทางเดียวกับพวกเขา ก็ยิ่งอดรู้สึกความอัศจรรย์ของพรหมลิขิตไม่ไว้

“คุณลุง หนูชื่ออานอาน ชื่อจริงลู่จิ่นอาน คุณลุงชื่ออะไรเหรอ”

หลังจากทุกคนนั่งลงแล้ว อานอานก็เริ่มอยากรู้อยากเห็นพูดคุยกับอีกฝ่ายขึ้นมา

ผู้ชายยิ้มกล่าว: “บังเอิญมากจริงๆ ในชื่อของผมก็มีคำว่าจิ่นเช่นกัน ผมชื่อหนานจิ่น จิ่นของหนูเป็นจิ่นตัวไหนเหรอ”

“จิ่นของหนูเป็นจิ่นที่แปลว่าผ้าตาด ของคุณลุงก็เหมือนกันเหรอ”

“ไม่ ของผมเป็นจิ่นของจิ่นหยู”

เมื่อเขาพูดออกมาว่าจิ่นของจิ่นหยู ในใจของจิ่งหนิงดัง “กึก” เสียงหนึ่ง

ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมอยู่ๆ ก็นึกถึงหนานกงจิ่น ผู้ลึกลับของตระกูลหนานคนนั้น

หนานจิ่น หนานกงจิ่น…

บนโลกนี้จะมีเรื่องที่บังเอิญขนาดนี้เลยเหรอ

เธออดหันหลังมองไปที่ผู้ชายคนนั้นไม่ได้

เนื่องจากว่ารถเป็นห้าที่นั่ง ถ้าเพิ่มอีกหนึ่งคนจะนั่งไม่พอ

ดังนั้น ตอนนี้เป็นคนขับขับรถหนึ่งคน ลู่จิ่งเซินอุ้มจิ้งเจ๋อน้อยอยู่ นั่งข้างหลังกับอานอานและจิ่งหนิงด้วยกัน

ส่วนหนานจิ่นคือนั่งอยู่ตรงข้างคนขับข้างหน้า

จากมุมของเธอ เห็นได้แต่หน้าด้านข้างของผู้ชาย ยังคงเป็นรอยยิ้มอันอ่อนโยนดั่งสายลมนั้น ดูแล้วก็เหมือนเห็นฤดูใบไม้ผลิแสนอบอุ่นและหิมะขาวอย่างนั้นทำให้คนรู้สึกดี

เธออดปลอบตัวเองในใจไม่ไว้

อาจจะเป็นตัวเองที่คิดมากเกินไปแล้ว บนโลกใบนี้ ไม่รู้ว่ามีคนเท่าไหร่ที่นามสกุลเป็นหนานแถมในชื่อยังมีคำว่าจิ่น

เป็นไปได้ยังไงที่เจอคนหนึ่งก็เป็นหนานกงจิ่นแล้ว

อีกอย่าง เขาเองก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอ เขาชื่อหนานจิ่น ไม่ได้ชื่อหนานกงจิ่น

ถึงแม้ต่างกันแค่คำเดียวเอง แต่ความหมายในนั้นพูดได้ว่าคือแตกต่างกันคนละฟ้าคนละดินเลย

พอคิดแบบนี้ จิ่งหนิงถึงพอสบายใจลงมาหน่อย

อันที่จริงจะโทษเธอขี้สงสัยก็ไม่ได้ เพราะยังไงก่อนหน้านี้จิ่งหนิงกับลู่จิ่งเซินล้วนไม่เคยเจอตัวจริงของหนานกงจิ่น

ทุกอย่างล้วนฟังมาจากคำบอกเล่าของเฉียวฉีกับกู้ซือเฉียนเท่านั้นเอง

พวกเขารู้แค่ว่าหนานกงจิ่นคนนี้เจ้าเล่ห์มาก ฉลาดเฉียบแหลมไม่น้อย และยังดำเนินกิจการตระกูลหนานมาหลายปีด้วย อายุน้อยๆ ก็สามารถเล่นหนานกงยวู่ที่ชาญฉลาดและรอบคอบในฝ่ามือได้ เป็นบุคคลที่น่าหวาดกลัวมาก

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Status: Ongoing

บทที่ 1 จับชู้คาเตียง

“มีถุงยางดูเร็กซ์ ดูอัล เพลย์เชอร์ไซซ์กลางไหม? ”

“มีค่ะ”

“แล้วก็ไวเบรเตอร์กับชุดนางแมวสวาทชุดหนึ่งด้วย”

“ได้ค่ะ จัดส่งที่ไหนคะ? ”

“โรงแรมลี่หัว ห้อง2202”

“ค่ะ ขอบคุณค่ะ”

เมื่อจิ่งหนิงมาถึงโรงแรมลี่หัวก็เป็นเวลาห้าทุ่มแล้ว

เวลาดึกดื่นขนาดนี้ สำหรับคนที่ทำธุรกิจสินค้าผู้ใหญ่ แบบนี้ การนำส่งสินค้าด้วยตนเองไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่

นัก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหญิงสาวหน้าตาสะสวยอย่างเธอ

แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ทุก สิ่งทุกอย่างต้องแลกมาด้วยเงิน อีกอย่างมู่ยั่นเจ๋อกำลังจะ กลับมาอีกไม่กี่วันนี้

คบกันมาตั้งหกปี แต่เวลากว่าครึ่งเป็นรักระยะไกล เขา ต้องดูแลธุรกิจทั้งในและนอกประเทศ เธอจะทำตัววุ่นวาย ส่งผลต่อการทำงานของเขาไม่ได้

ดีที่ความรักของทั้งสองคนนั้นค่อนข้างหวานชื่นนอกจากงานในแต่ละวันแล้ว เธอยังมีธุรกิจเล็กๆของตัวเอง ด้วย อีกไม่กี่วันเป็นวันเกิดของเขา เธอตั้งใจจะมอบของ ขวัญให้เขาอย่างเซอร์ไพรซ์

เมื่อคิดได้ดังนั้น จึงหนิงก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

เธอขยับหมวกสีดำที่ใส่มาให้ปิดลงมาบังหน้าไว้ จากนั้น เดินถือกล่องสินค้าเข้าไปด้านใน

โรงแรมลี่หัว เป็นสถานที่ราคาแพงขึ้นชื่อของเมืองจิ้น ผู้คนที่เดินทางมาเข้าพักล้วนเป็นระดับมหาเศรษฐี

ความโอ่อ่างดงามที่ห้องโถงไม่ต้องพูดถึง แม้แต่ลิฟต์ก็ ถูกประดับตกแต่งด้วยเงินและทองคำ คนที่ยืนอยู่ด้านใน ถูกแสงไฟส่องสว่างไสว

จิ่งหนิงเดินถือกล่องเข้าไปแล้วมองหาจุดหมาย

ใบหน้าอันงดงามถูกปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง มองเห็นเพียงดวงตา เป็นประกายคู่นั้น แฝงไปด้วยความมั่นใจ

ลิฟต์ขึ้นสู่ชั้น22 “ตั้ง” ประตูเปิดออก เธอเดินออกไป กระทั่งถึงห้อง2202และกดกริ่งที่ประตู

ประตูยังไม่เปิดออก ก็มีเสียงหนุ่มสาวดังขึ้น

“อาเจ๋อ อุ๊ย? อย่าค่ะ….ของน่าจะมาส่งแล้ว”

“รอผมนะ เดี๋ยวมา”

จึงหนิงยืนยิ้มอยู่ที่ปากประตูอย่างอดไม่ได้ ของยังมาส่งไม่ถึงก็เริ่มกันแล้วเหรอเนี่ย? รีบร้อนกันจริงๆ?

ประตูถูกเปิดออกในไม่ช้า ชายผู้ออกมารับของสวมผ้า ขนหนูเพียงผืนเดียว บนร่างกายของเขายังคงมีไอน้ำอยู่

จิ่งหนิงไม่ได้มองหน้าเขา เธอยื่นกล่องใส่ของออกไป “843หยวนค่ะ? จ่ายเงินสดหรือว่าโอนคะ? ”

ชายผู้อยู่ตรงหน้าไม่ตอบ

ผ่านไปสองวินาที เสียงของชายผู้นั้นเอ่ยขึ้นว่า “.

หนิง?

จิ่งหนิงตกตะลึง เธอเงยหน้าขึ้นมอง

เมื่อเห็นชายที่ยืนอยู่ด้านหน้า ร่างกายกำยำ ผมเผ้าเปียก ปอน เขามีเพียงผ้าขนหนูสีขาวปิดบังร่างกายไว้ แสงไฟ เหลืองนวลส่องมายังร่างกายของเขา ผิวขาวเนียนและ ใบหน้าอันเกลี้ยงเกลาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาด

ใจ อีกทั้ง ทำตัวไม่ถูก

สีหน้าของจิงหนิงตกใจเสียจนหน้าซีด

“ปั่นเจ๋อ ใครคะ? ”

“ไม่มีอะไรครับ คนมาส่งของครับ”

มู่ยั่นเจ๋อรีบพูดขึ้นก่อนที่จิ่งหนิงจะเอ่ยอะไรออกมาจาก นั้นรีบหยิบเงินจากกระเป๋ายัดใส่มือเธอและหยิบของไป อย่างรวดเร็ว

เสียงประตูปิดลงดัง “ปัง?

จึงหนิงยังคงยืนอยู่ที่หน้าประตู มือของเธอเริ่มสั่น สีหน้า

เหนิงซีดเผือดลงทันที

เธอหัวเราะออกมาเบาๆ

และมองไปยังธนบัตรที่เขายัดเข้ามาไว้ในมือ นี่มันเรื่อง ตลกบ้าบออะไรกัน? เธอหัวเราะเยาะในความโง่เขลาของ ตัวเองจริงๆ

เสียงชายหนุ่มและหญิงสาวเล็ดลอดออกมานอกห้อง เธอก็ถอนหายใจยาวๆออกมา และกลั้นน้ำตาที่คลอเบ้าเอา

ไว้

เธอหันหลังกลับและเดินตรงไปยังลิฟต์และหยิบมือถือ

ออกมา

“สวัสดีค่ะ สถานีตำรวจใช่ไหมคะ? ฉันจะขอแจ้งความ ว่ามีชายหญิงค้าประเวณี ห้องพักเลขที่.”

ต่อมา20นาที

รถตำรวจคันหนึ่งจอดลงที่หน้าโรงแรมลี่หัว ข้างๆยังมีนัก ข่าวและช่างกล้องเดินตามมา เมื่อเห็นคนที่ถูกจับตัวออกมา นักข่าวก็พากันแห่เข้าไป

“นายมู่ มีคนแจ้งความว่าคุณเสพยาและซื้อบริการทาง เพศ จริงหรือไม่คะ? ”

“นายมู ในฐานะผู้สืบทอดมู่ชื่อกรุ๊ป คุณคิดว่าการกระทำ เช่นนี้เหมาะสมหรือไม่คะ?

“นายมู่ครับ ผู้หญิงคนที่อยู่กับคุณเป็นใครกันครับ? มี

ข่าวลือว่าเป็นดาราในวงการ จริงหรือไม่ครับ? ” “นายมู..”

มู่ยั่นเจ่อถูกนักข่าวล้อมไว้ แม้แต่ตำรวจก็ห้ามไว้ไม่ได้ เขากัดฟันกรอดๆและตะโกนออกมาว่า “ไปให้พ้น? ” นักข่าวพากันตกอกตกใจและถอยหลังออกไป

มู่ยั่นเจ๋อมองไปยังฝูงชน เขาพบเข้ากับจิ่งหนิง สายตา ของเขาแฝงไปด้วยความอาฆาตแค้น

นี่คือสิ่งที่คุณต้องการใช่ไหม?”

จึ่งหนิงเผยอยิ้ม สายตาแฝงไปด้วยการดูถูก

“คุณทำแบบนี้อย่าหวังว่าจะได้ผมไปครอง”

จิ่งหนิงเดินหน้าขึ้นไปแล้วเงื้อมือขึ้นต่อหน้านักข่าวและ

ตำรวจ

11 เพียะ!”

ฝ่ามือของเธอตบลงไปที่หน้าเขาอย่างจัง มู่ยั่นเจ่อถูกตบ เสียจนหน้าหัน

บรรยากาศรอบด้านเงียบลงทันใด

ทางตำรวจตกตะลึงอ้าปากค้าง ” คุณผู้หญิงคนนี้คือ.

%3D

%3D ขอโทษนะคะ มือลั่นไปเอง!”

เธอยิ้มด้วยแววตาเยือกเย็นแล้วทำท่าทางนวดข้อมือ แล้วมองไปยังมู่ยั่นเจ่อด้วยสายตาอาฆาต จากนั้นพูดด้วย น้ำเสียงเยือกเย็นว่า

กระดาษชำระที่ตกลงไปในชักโครก คุณคิดว่าใครยังจะต้องการอีกกัน?ตบเมื่อสักครู่เป็นแค่ดอกเบี้ยเท่านั้น ทุน ที่เหลือฉันจะให้คุณชดเชยภายในสามวัน!”

แววตาของมู่ยั่นเจ่อตื่นตระหนก อะไร! ทุนอะไร !!” จึ่งหนิงขมวดคิ้วขึ้น ” คุณแน่ใจนะว่าจะให้ฉันกระตุ้น

ความจำคุณ

มู่ยั่นเจ๋อก้มหน้าลงทันที

เธอหัวเราะหีๆ เป็นเสียงหัวเราะที่แฝงไปด้วยความดูถูก เหยียดหยาม

ทางตำรวจเห็นเช่นนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาโบกมือ เป็นสัญญาณว่าให้คุมตัวขึ้นรถไปได้ เมื่อเขาเดินทางจากไป บรรดานักข่าวก็ไม่ได้รีรอ รีบตาม

ไปทันที

เดิมทีที่จากประตูทางเข้าโรงแรมเต็มไปด้วยผู้คน ตอนนี้ กลับว่างเปล่าไม่เหลือใคร

จึงหนิงยังยืนอยู่ที่นั่นจนกระทั่งควบคุมอารมณ์ได้ เธอจึง ได้เตรียมตัวจากไป

แต่เธอคาดไม่ถึงว่าเมื่อหันหลังกลับไปจะพบเข้ากับแวว ตาคู่หนึ่งที่จับจ้องเธออยู่

ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำ ร่างกายกำยำสูงใหญ่ ผมสั้นจัด ทรงเป็นระเบียบ แววตาแหลมคมนั้นทำให้ผู้พบเห็น หลงใหล

ใบหน้าอันหล่อเหลาภายใต้แสงยามค่ำคืนแบบนี้ เผยให้เห็นออร่าที่กลมกลืนไปกับบรรยากาศรอบข้าง จิ่งหนิงรู้สึกว่าเธอเคยเห็นชายคนนี้มาก่อน

จากนั้นเธอหันไปเห็นเลขาของเขาที่ยืนอยู่ด้านหลัง อีก ทั้งรถปอร์เช่สีเงินที่อยู่ข้างๆ เธอก็คิดได้ว่าจะไปรู้จักบุคคล ที่โดดเด่นแบบนี้ได้ยังไงกัน?

เธอสลัดความคิดออกจากหัว หันหลังแล้วเดินจากไป จนกระทั่งร่างเล็กๆของเธอเข้าสู่รถยนต์ ลู่จิ่งเซินจึงได้

ละสายตามาจากเธอและถามขึ้นว่า “คนเมื่อกี้นี้คือใคร?

ซูมู่ที่ยืนอยู่ด้านหลังรีบตอบขึ้นว่า ท่านหมายถึงคนที่ถูก ตำรวจจับไปเมื่อกี้หรือครับ? เหมือนว่าจะเป็นคุณชายขอ งมู่ชื่อกรุ๊ปที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศเมื่อหลายวันก่อน”

ลู่จิ่งเซินขมวดคิ้วแล้วบอกว่า “ผมหมายถึงคนผู้หญิงคน เมื่อกี้”

“ครับ? ” ซูมู่งุนงงเล็กน้อย “ผู้หญิงคนไหนกัน? ”

เมื่อเห็นแววตาอันไม่พอใจของลู่จิ่งเซิน ซูมู่ก็รีบพูดขึ้นมา ว่า “ท่านประธานครับ ต้องขออภัยด้วยผมจะไปตรวจสอบ เดี๋ยวนี้”

“ช่างมันเถอะ”

สายตาของเขามองไปตามทางที่ผู้หญิงคนนั้นขับรถออก ไปแล้วยิ้มขึ้น เขาคล้ายกับนึกอะไรออกมาได้

จากนั้นเขารีบก้าวเดินเข้าไปด้านใน ในฐานะผู้แจ้งความ จิ่งหนิงจึงต้องเดินทางไปที่สถานี ตำรวจด้วย

เมื่อทำการบันทึกข้อความเสร็จแล้ว ผู้คนจากด้านนอกก็ พากันแห่กรูเข้ามา

คนที่เดินเข้ามาเป็นคนแรกก็คือคุณย่าจิ่งหวังเสว่เหมย เมื่อเธอเดินเข้ามาถึงก็ตบเข้าให้ที่หน้าของจิ่งหนิงอย่างจัง

“นังคนทรยศ? ”

หวังเสว่เหมยตัวสั่นสะท้านแล้วพูดว่า “แกรู้อยู่แก่ใจว่านั่น คือน้องสาวแท้ๆของแก ยังกล้าแจ้งตำรวจจับอีกอย่างนั้น เหรอ? แกต้องการจะยั่วให้ฉันโมโหตายยังไง? ”

จิงหนิงเช็ดโชคเลือดที่มุมปาก จากนั้นเงยดูหญิงชราที่ อยู่ตรงหน้า

“น้องสาวอย่างนั้นเหรอ? คุณหมายถึงจิ่งเสี่ยวหย่า? ”

“ไม่ต้องทำมาเป็นเสแสร้ง สื่อต่างๆพากันพูดกันให้แซ่ด บอกว่าคุณหนูจิงรองให้ท่าคู่หมั้นของคนอื่น แกไม่รู้เรื่อง หรือไง? ”

จึงหนิงก้มหน้าลงและยิ้มออกมาเบาๆ

“ผู้หญิงคนนั้นเป็นเธอนั่นเอง….ฉันก็คิดว่ากะหรี่ที่ไหน รีบร้อนจะหาเงินซะอีก ที่แท้ก็เป็นน้องสาวของฉันเอง? “

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน