วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – บทที่ 1054 ไม่ปรากฏตัว

บทที่ 1054 ไม่ปรากฏตัว

แต่ว่ารอบข้างกลับเงียบสงัด

หนานกงจิ่นไม่ได้ออกมา

โม่ไฉ่เวยรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเธออาจจะทำร้ายร่างกายคน ดังนั้นนี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่แค่รีบร้อนไปหน่อยก็เท่านั้น

เธอจ้องมองไปรอบๆ เห็นว่าไม่มีใครปรากฏตัวขึ้น จึงได้พูดเบาๆว่า “หนิงหนิง หรือว่าพวกมันจะไม่อยู่ที่นี่ ?เรารีบไปกันตอนนี้เถอะ”

จิ่งหนิงขมวดคิ้ว

ยังไม่ทันได้พูดอะไร ก็ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆที่ไม่รู้ว่าดังมาจากไหน

“คุณจิ่ง คุณคิดว่าชีวิตของคนธรรมดาคนนึง จะใช้ขู่ผมได้หรอ?ไม่งั้นคุณก็ลองดู บีบคอเธอให้ตาย ดูซิว่าผมจะปล่อยพวกคุณไปไหม ”

จิ่งหนิงชะงักไปเลย หันไปดูนอกหน้าต่าง

เพิ่งจะรู้ว่าต้นไม้ใหญ่ตรงข้ามหน้าต่างนั้น มีลำโพงเล็กๆอยู่

เธอกลอกตามองบนเพราะหมดคำพูด

รู้มาตลอดว่า หนานกงจิ่นติดกล้องวงจรปิดในห้อง เพื่อที่จะดูความเคลื่อนไหวของเธอ แต่ไม่คิดเลยว่าแม้แต่ลำโพงก็ติดตั้งด้วย

ในเมื่อเขาได้ยิน จิ่งหนิงก็ไม่คิดที่จะยอมแพ้ง่ายๆไปแบบนั้น

ด้วยเหตุนี้จึงไม่ได้ปล่อยคนในมือไป แต่กลับพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เธอเป็นคนของคุณ คุณไม่กลัวหรอว่าถ้าเธอตายแล้ว คนอื่นๆในความดูแลของคุณจะหวั่นใจขึ้นมา ?ไม่งั้นเอาอย่างนี้ดีไหม ?ฉันจะไม่ขอให้คุณปล่อยฉันไป ขอแค่คุณออกมาเจอกันหน่อย บอกเป้าหมายที่จับฉันมาที่นี่ตามตรง แล้วฉันจะปล่อยเธอไป”

จิ่งหนิงก็รู้ว่า แค่สาวใช้คนเดียวคงจะใช้ขอร้องให้หนานกงจิ่นให้ปล่อยเธอไป คงไม่สำเร็จ

ดังนั้นเธอจึงยื่นเงื่อนไขอีกอย่างที่ค่อนข้างจะง่ายดายยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม ถึงจะเป็นเงื่อนไขนี้ หนานกงจิ่นก็ยังไม่ตอบรับ

เสียงของหนานกงจิ่นดังออกมาจากลำโพง เหมือนเป็นการหัวเราะเยาะเย้ย

“ผมพูดไปแล้วนะ เมื่อถึงเวลาที่คุณควรรู้ คุณก็จะรู้เอง ก่อนหน้านั้น คุณก็อยู่ที่นี่ไปแบบดีๆเถอะ ไม่ต้องคิดจะหนี ยิ่งไม่ต้องคิดเรื่องอะไรแผลงๆ มันไม่มีผลอะไรกับผม”

เมื่อเขาพูดจบ ก็สั่งคนรับใช้คนนั้น

“พาคุณจิ่งไปเข้าห้องน้ำ”

คนรับใช้ตอบรับอย่างกล้าๆกลัวๆ จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองจิ่งหนิงอย่างหวาดกลัวและวิงวอน

สุดท้ายแล้วจิ่งหนิงก็ไม่ใช่หนานกงจิ่นที่จะไม่สนใจชีวิตคนได้

เมื่อกี้เธอก็แค่ลองดูเท่านั้น ไม่ได้จะคิดจะทำอะไรกับสาวใช้คนนี้ด้วยซ้ำไป

ดังนั้นเมื่อเห็นว่าหนานกงจิ่นไม่หลงกลนี้ ก็ทำได้เพียงแค่ต้องวางมืออย่างละอายใจ เดินตามคนรับใช้ไปยังห้องน้ำ เมื่อทำธุระเสร็จเธอก็กลับไปที่ห้อง อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า “คุณหนาน ยังไงซะคุณก็รู้ว่าฉันหนีไปไหนไม่ได้ ก็ไม่ต้องใช้โซ่นี่ล่ามฉันแล้วไหม ?ยังไงฉันก็ท้องอยู่นะ ไม่เพียงแค่ต้องใส่ใจสุขภาพกาย ทั้งยังต้องใส่ใจสุขภาพจิตด้วยนะ คุณล่ามฉันไว้แบบนี้ ถ้าฉันป่วยขึ้นมา เวลานั้นลู่จิ่งเซินหาเราเจอพอดี คุณจะบอกกับเขาว่ายังไง”

คำพูดนี้ของเธอ พูดแบบทีเล่นทีจริง

ไม่ได้คิดเลยว่าหนานกงจิ่นจะตกลง

แต่ว่าอีกฝ่ายกลับครุ่นคิดอยู่สักครู่ เหมือนจะพูดกับตัวเองว่า “ตอนแรกที่ล่ามคุณไว้ เพราะกลัวว่าคุณจะคิดทำร้ายตัวเองเพราะความใจร้อน แต่ตอนนี้ดูแล้ว เหมือนคุณจะมองโลกในแง่ดีอยู่บ้าง ปลดก็ได้ ”

เขาพูดพลางสั่งคนรับใช้คนนั้น“ไม่ต้องล่ามเธอไว้แล้ว”

คนรับใช้ผงะ และรีบตอบรับอย่างยินดีว่า “ได้ค่ะ”

จิ่งหนิงยักคิ้วขึ้น ใบหน้าของเธอมีรอยยิ้มที่ยากจะเห็นปรากฏขึ้น

“ถ้าอย่างนั้นก็ขอบคุณนะ”

แล้วก็ไม่มีเสียงจากอีกฝ่ายอีกเลย

คนรับใช้จัดอาหารเช้าเสร็จก็ออกไปแล้ว

จิ่งหนิงเดินมาที่โต๊ะอาหาร นั่งลง เห็นโม่ไฉ่เวยยืนอยู่ก็ลุกขึ้นอีกครั้งแล้วเดินไปพาเธอมานั่ง

“แม่คะ ไม่ต้องกังวลนะคะ ถึงคราวกินก็ต้องกินต้องดื่ม”

โม่ไฉ่เวยเปิดใจได้อย่างเธอซะที่ไหนกัน

เธอยังพูดอย่างกังวลใจ “หนิงหนิง พวกเราอยู่ที่นี่แบบนี้ต่อไป เมื่อไหร่ถึงจะออกไปได้ล่ะ ?”

เธอเห็นจิ่งหนิงหยิบขนมปังก้อนนึงเข้าปาก ก็ตกใจจนหน้าเปลี่ยนสีไปหมด รีบเอาขนมปังนั่นออกมา

“หนิงหนิง คายออกมาเดี๋ยวนี้นะ อีกฝ่ายอำมหิตขนาดคนของตัวเองยังไม่เสียดาย จะกินอาหารที่เขาเตรียมให้ได้ยังไง?ลูกไม่กลัวเขาจะใส่ยาพิษให้เรากินหรือไง? ”

จิ่งหนิงชะงัก มองท่าทีกระวนกระวายใจของโม่ไฉ่เวยแล้วก็หัวเราะ

“แม่คะ ไม่ต้องกังวลไปหรอก ถ้าเขาจะฆ่าพวกเรา พวกเราตายกันตั้งนานแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้แผนวางยาแล้วพวกเราก็คงไม่ได้มานั่งสบายอยู่ในนี้หรอกค่ะ เพราะฉะนั้นวางใจเถอะค่ะ ของพวกนี้กินได้”

พูดพลางก็ยื่นมือไปตักโจ๊กให้เธอถ้วยนึง

“ทนมาแล้วหนึ่งวันหนึ่งคืน แม่ก็คงหิวแล้ว กินเยอะๆหน่อยจะได้มีแรง ถ้าไม่มีแรง จะเอาพลังที่ไหนไปต่อสู้ล่ะใช่ไหมคะ?”

ในใจของโม่ไฉ่เวยก็ยังมีความเคลือบแคลงใจอยู่เหมือนเดิม

แต่ได้เห็นจิ่งหนิงกินอยู่อเร็ดอร่อย เธอเองก็ไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เที่ยงเมื่อวานแล้วเหมือนกัน ท้องร้องจ๊อกจ๊อกตั้งนานแล้ว

คิดไปมาในใจก็รู้สึกว่าสิ่งที่จิ่งหนิงพูดก็ถูกอยู่เหมือนกัน

ตอนนี้เราเป็นเหยื่อ เขาเป็นผู้ล่า ถ้าอีกฝ่ายจะฆ่าพวกเธอจริงๆ ก็คงไม่ต้องใช้ถึงแผนวางยา

ดังนั้นเธอจึงวางใจแล้วก็เริ่มกินข้าวคำโต

ทั้งสองคนกินข้าวเช้าเสร็จ ก็นับว่าได้ฟื้นตัวขึ้นมาเล็กน้อย

จิ่งหนิงถูกบังคับให้นอนอยู่บนเตียงมาเต็มวัน ร่างกายแข็งทื่อไปหมดแล้ว ไม่ง่ายเลยที่จะได้ขยับเขยื่อนบ้างคราวนี้ จึงค่อยๆเดินไปในห้องอย่างช้าๆ

ตอนนี้นี่เอง เธอถึงได้รู้ว่า ที่นี่เป็นคฤหาสน์เดี่ยวหลังนึง ดูเหมือนว่าจะอยู่ติดทะเล เพราะมองจากหน้าต่างห้องรับแขกออกไป ก็จะมองเห็นหาดทรายสีทองและท้องทะเลสีฟ้า มีนกนางนวลบินผ่านและหยุดพักผ่อนอบู่บนนั้น

เธอหรี่ตาลง

ชายทะเล ?

เธอจำไม่เห็นได้ว่าเมืองที่โม่ไฉ่เวยอยู่จะมีทะเลที่ไหน

แต่อาจจะเป็นเพราะว่าเธอไม่รู้จักที่นั่นมากพอ เธอจึงไม่กล้าที่จะฟันธง จึงได้แต่ละสายตาออกมาอย่างช้าๆ หันกลับไปหาโม่ไฉ่เวย แล้วส่งสัญญาณให้กับเธอ

โม่ไฉ่เวยรู้ ก็เดินมาหา ประคองเธอเดินไปนั่งที่เก้าอี้ด้วยกัน

เก้าอี้นั้น เป็นโซฟาที่ค่อนข้างยาวสามารถนั่งลงสองคนพร้อมกันได้

หลังจากนั่งลง จิ่งหนิงก็นอนลงไป พูดอย่างเสียงดังว่า “ง่วงแล้ว นอนพักสักนิดดีกว่า”

โม่ไฉ่เว่ยก็พยักหน้า “ลูกนอนเถอะ แม่จะอยู่ตรงนี้เป็นเพื่อน”

พูดจบก็นอนลงไปด้วยเช่นกัน

ทั้งสองคนก็นอนลงไปที่นั่นเงียบๆ มองดูจากกล้องวงจรปิดแล้ว ราวกับว่าไม่มีการพูดคุยอะไร

แต่ความเป็นจริงแล้ว จิ่งหนิงกำลังถามโม่ไฉ่เวยด้วยน้ำเสียงเบาๆว่า “แม่คะ เมื่อกี้ฉันเห็นว่าข้างนอกมีทะเล แม่จำได้ไหมว่าแถวบ้านเราที่ไหนมีทะเล?”

โม่ไฉ่เวยขมวดคิ้วเล็กน้อยแบบไม่ให้จับได้ กระซิบตอบ “ไม่มีนะ ที่นั่นมีแต่ทะเลทรายนอกจากแม่น้ำเทพธิดาแล้วก็ไม่มีทะเล ”

ใจของจิ่งหนิงตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่มอย่างจัง

ไม่มีทะเลหรอ ?

งั้นก็หมายความว่า พวกเธอไม่ได้อยู่ที่เมืองนั้นแล้วใช่ไหมเนี่ย?

ดูเหมือนโม่ไฉ่เวยก็จะรับรู้อะไรได้แล้วเหมือนกัน สีหน้าก็ค่อยๆเปลี่ยนไป

แต่ว่า เธอก็คุ้นเคยกับที่นี่ยังไงชอบกล ครู่นึง ก็คิดออกขึ้นมาแล้ว

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Status: Ongoing

บทที่ 1 จับชู้คาเตียง

“มีถุงยางดูเร็กซ์ ดูอัล เพลย์เชอร์ไซซ์กลางไหม? ”

“มีค่ะ”

“แล้วก็ไวเบรเตอร์กับชุดนางแมวสวาทชุดหนึ่งด้วย”

“ได้ค่ะ จัดส่งที่ไหนคะ? ”

“โรงแรมลี่หัว ห้อง2202”

“ค่ะ ขอบคุณค่ะ”

เมื่อจิ่งหนิงมาถึงโรงแรมลี่หัวก็เป็นเวลาห้าทุ่มแล้ว

เวลาดึกดื่นขนาดนี้ สำหรับคนที่ทำธุรกิจสินค้าผู้ใหญ่ แบบนี้ การนำส่งสินค้าด้วยตนเองไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่

นัก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหญิงสาวหน้าตาสะสวยอย่างเธอ

แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ทุก สิ่งทุกอย่างต้องแลกมาด้วยเงิน อีกอย่างมู่ยั่นเจ๋อกำลังจะ กลับมาอีกไม่กี่วันนี้

คบกันมาตั้งหกปี แต่เวลากว่าครึ่งเป็นรักระยะไกล เขา ต้องดูแลธุรกิจทั้งในและนอกประเทศ เธอจะทำตัววุ่นวาย ส่งผลต่อการทำงานของเขาไม่ได้

ดีที่ความรักของทั้งสองคนนั้นค่อนข้างหวานชื่นนอกจากงานในแต่ละวันแล้ว เธอยังมีธุรกิจเล็กๆของตัวเอง ด้วย อีกไม่กี่วันเป็นวันเกิดของเขา เธอตั้งใจจะมอบของ ขวัญให้เขาอย่างเซอร์ไพรซ์

เมื่อคิดได้ดังนั้น จึงหนิงก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

เธอขยับหมวกสีดำที่ใส่มาให้ปิดลงมาบังหน้าไว้ จากนั้น เดินถือกล่องสินค้าเข้าไปด้านใน

โรงแรมลี่หัว เป็นสถานที่ราคาแพงขึ้นชื่อของเมืองจิ้น ผู้คนที่เดินทางมาเข้าพักล้วนเป็นระดับมหาเศรษฐี

ความโอ่อ่างดงามที่ห้องโถงไม่ต้องพูดถึง แม้แต่ลิฟต์ก็ ถูกประดับตกแต่งด้วยเงินและทองคำ คนที่ยืนอยู่ด้านใน ถูกแสงไฟส่องสว่างไสว

จิ่งหนิงเดินถือกล่องเข้าไปแล้วมองหาจุดหมาย

ใบหน้าอันงดงามถูกปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง มองเห็นเพียงดวงตา เป็นประกายคู่นั้น แฝงไปด้วยความมั่นใจ

ลิฟต์ขึ้นสู่ชั้น22 “ตั้ง” ประตูเปิดออก เธอเดินออกไป กระทั่งถึงห้อง2202และกดกริ่งที่ประตู

ประตูยังไม่เปิดออก ก็มีเสียงหนุ่มสาวดังขึ้น

“อาเจ๋อ อุ๊ย? อย่าค่ะ….ของน่าจะมาส่งแล้ว”

“รอผมนะ เดี๋ยวมา”

จึงหนิงยืนยิ้มอยู่ที่ปากประตูอย่างอดไม่ได้ ของยังมาส่งไม่ถึงก็เริ่มกันแล้วเหรอเนี่ย? รีบร้อนกันจริงๆ?

ประตูถูกเปิดออกในไม่ช้า ชายผู้ออกมารับของสวมผ้า ขนหนูเพียงผืนเดียว บนร่างกายของเขายังคงมีไอน้ำอยู่

จิ่งหนิงไม่ได้มองหน้าเขา เธอยื่นกล่องใส่ของออกไป “843หยวนค่ะ? จ่ายเงินสดหรือว่าโอนคะ? ”

ชายผู้อยู่ตรงหน้าไม่ตอบ

ผ่านไปสองวินาที เสียงของชายผู้นั้นเอ่ยขึ้นว่า “.

หนิง?

จิ่งหนิงตกตะลึง เธอเงยหน้าขึ้นมอง

เมื่อเห็นชายที่ยืนอยู่ด้านหน้า ร่างกายกำยำ ผมเผ้าเปียก ปอน เขามีเพียงผ้าขนหนูสีขาวปิดบังร่างกายไว้ แสงไฟ เหลืองนวลส่องมายังร่างกายของเขา ผิวขาวเนียนและ ใบหน้าอันเกลี้ยงเกลาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาด

ใจ อีกทั้ง ทำตัวไม่ถูก

สีหน้าของจิงหนิงตกใจเสียจนหน้าซีด

“ปั่นเจ๋อ ใครคะ? ”

“ไม่มีอะไรครับ คนมาส่งของครับ”

มู่ยั่นเจ๋อรีบพูดขึ้นก่อนที่จิ่งหนิงจะเอ่ยอะไรออกมาจาก นั้นรีบหยิบเงินจากกระเป๋ายัดใส่มือเธอและหยิบของไป อย่างรวดเร็ว

เสียงประตูปิดลงดัง “ปัง?

จึงหนิงยังคงยืนอยู่ที่หน้าประตู มือของเธอเริ่มสั่น สีหน้า

เหนิงซีดเผือดลงทันที

เธอหัวเราะออกมาเบาๆ

และมองไปยังธนบัตรที่เขายัดเข้ามาไว้ในมือ นี่มันเรื่อง ตลกบ้าบออะไรกัน? เธอหัวเราะเยาะในความโง่เขลาของ ตัวเองจริงๆ

เสียงชายหนุ่มและหญิงสาวเล็ดลอดออกมานอกห้อง เธอก็ถอนหายใจยาวๆออกมา และกลั้นน้ำตาที่คลอเบ้าเอา

ไว้

เธอหันหลังกลับและเดินตรงไปยังลิฟต์และหยิบมือถือ

ออกมา

“สวัสดีค่ะ สถานีตำรวจใช่ไหมคะ? ฉันจะขอแจ้งความ ว่ามีชายหญิงค้าประเวณี ห้องพักเลขที่.”

ต่อมา20นาที

รถตำรวจคันหนึ่งจอดลงที่หน้าโรงแรมลี่หัว ข้างๆยังมีนัก ข่าวและช่างกล้องเดินตามมา เมื่อเห็นคนที่ถูกจับตัวออกมา นักข่าวก็พากันแห่เข้าไป

“นายมู่ มีคนแจ้งความว่าคุณเสพยาและซื้อบริการทาง เพศ จริงหรือไม่คะ? ”

“นายมู ในฐานะผู้สืบทอดมู่ชื่อกรุ๊ป คุณคิดว่าการกระทำ เช่นนี้เหมาะสมหรือไม่คะ?

“นายมู่ครับ ผู้หญิงคนที่อยู่กับคุณเป็นใครกันครับ? มี

ข่าวลือว่าเป็นดาราในวงการ จริงหรือไม่ครับ? ” “นายมู..”

มู่ยั่นเจ่อถูกนักข่าวล้อมไว้ แม้แต่ตำรวจก็ห้ามไว้ไม่ได้ เขากัดฟันกรอดๆและตะโกนออกมาว่า “ไปให้พ้น? ” นักข่าวพากันตกอกตกใจและถอยหลังออกไป

มู่ยั่นเจ๋อมองไปยังฝูงชน เขาพบเข้ากับจิ่งหนิง สายตา ของเขาแฝงไปด้วยความอาฆาตแค้น

นี่คือสิ่งที่คุณต้องการใช่ไหม?”

จึ่งหนิงเผยอยิ้ม สายตาแฝงไปด้วยการดูถูก

“คุณทำแบบนี้อย่าหวังว่าจะได้ผมไปครอง”

จิ่งหนิงเดินหน้าขึ้นไปแล้วเงื้อมือขึ้นต่อหน้านักข่าวและ

ตำรวจ

11 เพียะ!”

ฝ่ามือของเธอตบลงไปที่หน้าเขาอย่างจัง มู่ยั่นเจ่อถูกตบ เสียจนหน้าหัน

บรรยากาศรอบด้านเงียบลงทันใด

ทางตำรวจตกตะลึงอ้าปากค้าง ” คุณผู้หญิงคนนี้คือ.

%3D

%3D ขอโทษนะคะ มือลั่นไปเอง!”

เธอยิ้มด้วยแววตาเยือกเย็นแล้วทำท่าทางนวดข้อมือ แล้วมองไปยังมู่ยั่นเจ่อด้วยสายตาอาฆาต จากนั้นพูดด้วย น้ำเสียงเยือกเย็นว่า

กระดาษชำระที่ตกลงไปในชักโครก คุณคิดว่าใครยังจะต้องการอีกกัน?ตบเมื่อสักครู่เป็นแค่ดอกเบี้ยเท่านั้น ทุน ที่เหลือฉันจะให้คุณชดเชยภายในสามวัน!”

แววตาของมู่ยั่นเจ่อตื่นตระหนก อะไร! ทุนอะไร !!” จึ่งหนิงขมวดคิ้วขึ้น ” คุณแน่ใจนะว่าจะให้ฉันกระตุ้น

ความจำคุณ

มู่ยั่นเจ๋อก้มหน้าลงทันที

เธอหัวเราะหีๆ เป็นเสียงหัวเราะที่แฝงไปด้วยความดูถูก เหยียดหยาม

ทางตำรวจเห็นเช่นนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาโบกมือ เป็นสัญญาณว่าให้คุมตัวขึ้นรถไปได้ เมื่อเขาเดินทางจากไป บรรดานักข่าวก็ไม่ได้รีรอ รีบตาม

ไปทันที

เดิมทีที่จากประตูทางเข้าโรงแรมเต็มไปด้วยผู้คน ตอนนี้ กลับว่างเปล่าไม่เหลือใคร

จึงหนิงยังยืนอยู่ที่นั่นจนกระทั่งควบคุมอารมณ์ได้ เธอจึง ได้เตรียมตัวจากไป

แต่เธอคาดไม่ถึงว่าเมื่อหันหลังกลับไปจะพบเข้ากับแวว ตาคู่หนึ่งที่จับจ้องเธออยู่

ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำ ร่างกายกำยำสูงใหญ่ ผมสั้นจัด ทรงเป็นระเบียบ แววตาแหลมคมนั้นทำให้ผู้พบเห็น หลงใหล

ใบหน้าอันหล่อเหลาภายใต้แสงยามค่ำคืนแบบนี้ เผยให้เห็นออร่าที่กลมกลืนไปกับบรรยากาศรอบข้าง จิ่งหนิงรู้สึกว่าเธอเคยเห็นชายคนนี้มาก่อน

จากนั้นเธอหันไปเห็นเลขาของเขาที่ยืนอยู่ด้านหลัง อีก ทั้งรถปอร์เช่สีเงินที่อยู่ข้างๆ เธอก็คิดได้ว่าจะไปรู้จักบุคคล ที่โดดเด่นแบบนี้ได้ยังไงกัน?

เธอสลัดความคิดออกจากหัว หันหลังแล้วเดินจากไป จนกระทั่งร่างเล็กๆของเธอเข้าสู่รถยนต์ ลู่จิ่งเซินจึงได้

ละสายตามาจากเธอและถามขึ้นว่า “คนเมื่อกี้นี้คือใคร?

ซูมู่ที่ยืนอยู่ด้านหลังรีบตอบขึ้นว่า ท่านหมายถึงคนที่ถูก ตำรวจจับไปเมื่อกี้หรือครับ? เหมือนว่าจะเป็นคุณชายขอ งมู่ชื่อกรุ๊ปที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศเมื่อหลายวันก่อน”

ลู่จิ่งเซินขมวดคิ้วแล้วบอกว่า “ผมหมายถึงคนผู้หญิงคน เมื่อกี้”

“ครับ? ” ซูมู่งุนงงเล็กน้อย “ผู้หญิงคนไหนกัน? ”

เมื่อเห็นแววตาอันไม่พอใจของลู่จิ่งเซิน ซูมู่ก็รีบพูดขึ้นมา ว่า “ท่านประธานครับ ต้องขออภัยด้วยผมจะไปตรวจสอบ เดี๋ยวนี้”

“ช่างมันเถอะ”

สายตาของเขามองไปตามทางที่ผู้หญิงคนนั้นขับรถออก ไปแล้วยิ้มขึ้น เขาคล้ายกับนึกอะไรออกมาได้

จากนั้นเขารีบก้าวเดินเข้าไปด้านใน ในฐานะผู้แจ้งความ จิ่งหนิงจึงต้องเดินทางไปที่สถานี ตำรวจด้วย

เมื่อทำการบันทึกข้อความเสร็จแล้ว ผู้คนจากด้านนอกก็ พากันแห่กรูเข้ามา

คนที่เดินเข้ามาเป็นคนแรกก็คือคุณย่าจิ่งหวังเสว่เหมย เมื่อเธอเดินเข้ามาถึงก็ตบเข้าให้ที่หน้าของจิ่งหนิงอย่างจัง

“นังคนทรยศ? ”

หวังเสว่เหมยตัวสั่นสะท้านแล้วพูดว่า “แกรู้อยู่แก่ใจว่านั่น คือน้องสาวแท้ๆของแก ยังกล้าแจ้งตำรวจจับอีกอย่างนั้น เหรอ? แกต้องการจะยั่วให้ฉันโมโหตายยังไง? ”

จิงหนิงเช็ดโชคเลือดที่มุมปาก จากนั้นเงยดูหญิงชราที่ อยู่ตรงหน้า

“น้องสาวอย่างนั้นเหรอ? คุณหมายถึงจิ่งเสี่ยวหย่า? ”

“ไม่ต้องทำมาเป็นเสแสร้ง สื่อต่างๆพากันพูดกันให้แซ่ด บอกว่าคุณหนูจิงรองให้ท่าคู่หมั้นของคนอื่น แกไม่รู้เรื่อง หรือไง? ”

จึงหนิงก้มหน้าลงและยิ้มออกมาเบาๆ

“ผู้หญิงคนนั้นเป็นเธอนั่นเอง….ฉันก็คิดว่ากะหรี่ที่ไหน รีบร้อนจะหาเงินซะอีก ที่แท้ก็เป็นน้องสาวของฉันเอง? “

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน