วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – บทที่ 1062 เนรคุณ

บทที่ 1062 เนรคุณ

ตายแล้ว อย่างน้อยก็ไม่ต้องเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดและทรยศมากขนาดนั้น

ก็ไม่ต้องพบเจอกับการสังหารและการเข่นฆ่าอย่างโหดร้ายทารุณมากขนาดนั้นเช่นกัน

ดังนั้น อยู่ในวินาทีนี้ เธอก็ได้เลือกทางอย่างนั้นเหมือนกัน

สิ่งที่ไม่เหมือนคือ เธอไม่ได้ทำลายหินพลังงาน แต่ใส่อยู่ในร่างกายของเขา

หินพลังงานนำจิตแน่วแน่ที่ยิ่งใหญ่แข็งแกร่งของเจ้านาย หลอมรวมกับร่างกายของหนานจิ่นเป็นหนึ่งเดียวกัน

เธอคิดว่า ในเมื่อสิ่งที่เขาอยากได้ไม่ใช่การอยู่เย็นเป็นสุข เขาอยากได้ผืนแผ่นดินนี้ งั้นก็ทำให้เขาพอใจเถอะ

ไม่มีราชวงศ์ไหน สามารถคงอยู่ได้รุ่นต่อรุ่น ก็ไม่มีประเทศไหนจะยิ่งใหญ่แข็งแกร่งตลอดกาลเช่นกัน

แต่ว่าเขาทำได้

เพราะว่าเขาจะไม่แก่ ไม่ตาย สามารถใช้ปัญญาและฝีมือของเขา รักษาสิทธิที่แน่วแน่ของเขาไว้ตลอดกาล ก็ให้เขาใช้ทั้งชีวิตในอนาคตที่ยาวไกลของตนเองมาไถ่บาปให้กับราษฎรของประเทศนี้เถอะ

ถึงแม้ตอนที่ก่อนจะตาย ทั้งหมดที่เฉียนเฉียนทำ ยังคงเป็นความหวังดีทั้งหมด

แต่เธออาจจะนึกไม่ถึงตลอดกาล หลังจากเธอตายแล้ว ผู้ชายที่ทำเพื่อสิทธิทุกวิถีทาง เคยทรยศเธอคนนั้น บ้าคลั่งถึงขั้นไหน

บางเวลาคนก็เป็นเช่นนี้

ตอนที่ได้ครอบครอง ไม่รู้จักทะนุถนอมตลอดกาล

จนถึงสูญเสียไป จึงตระหนักถึงความล้ำค่าของอีกฝ่าย

หนานจิ่นบ้าไปแล้ว

เขาไม่สามารถเผชิญหน้ากับความจริงที่เฉียนเฉียนจากไป ถึงแม้ฝ่ายตรงข้ามกลายเป็นศพไปแล้ว เขาก็ไม่อนุญาตให้เอาไปฝัง แต่ใช้โลงเย็นแช่แข็งศพไว้

คนที่มาจากดวงดาวนั้น ล้วนมีจุดที่เหมือนกันอย่างหนึ่ง

นั่นก็คือ พวกเขาพึ่งพาอาศัยหินพลังงานในการคงอยู่ สามารถคงความเยาว์วัยตลอดไป พอได้สูญเสียหินพลังงานไป ทั้งร่างกายก็จะแก่ลงอย่างรวดเร็วฉับไว

ก็เหมือนเช่นดั่งดอกไม้ที่เหี่ยวแห้ง ชั่วพริบตาเดียวกลายเป็นหญิงชราคนหนึ่ง

ดังนั้น คนที่หนานกงจิ่นแช่แข็งไว้ ไม่ใช่เฉียนเฉียนที่เป็นปกติคนหนึ่งเลย

แต่คือเฉียนเฉียนที่แก่ลงจนดูไม่ได้

แต่ถึงแม้เป็นเช่นนี้ เขายังคงเฝ้ารักษาศพนั้นไว้โดยตลอด ไม่เพียงแค่นี้ เพื่อที่จะขอการรักษาถามหายา สามารถทำให้เฉียนเฉียนตื่นขึ้นมาได้อย่างราบรื่น เขาละทิ้งประเทศ ละทิ้งราชบัลลังก์ที่เขายากที่จะได้มา ไปที่ไกลๆ

ไม่นาน ราชวงศ์ต้าหลินก็ถูกทำลายโดยประเทศคู่ปรปักษ์แล้ว เปลี่ยนราชวงศ์ บนโลกนี้ไม่มีเฉียนเฉียนอีก ทั้งไม่มีราชครูที่มีท่วงทีที่งดงามสุดยอดที่สุดในโลกคนนั้นในปีนั้นอีกเช่นกัน

หนานจิ่นเปลี่ยนชื่อเป็นหนานกงจิ่น ก่อตั้งตระกูลหนาน มีชีวิตอยู่รอดรุ่นต่อรุ่น

หลังจากจิ่งหนิงฟังเรื่องเล่าของเขาจบ ถ้าจะไม่พูดว่าในใจไม่สั่นสะเทือนนั่นคือจอมปลอมล่ะ

เดิมทีเธอคิดว่า เรื่องแบบนี้ จะเกิดขึ้นแค่อยู่ในละครโทรทัศน์หรือในนวนิยายเท่านั้น

นึกไม่ถึงอยู่ในโลกนี้ถึงขนาดคงอยู่จริง

ไม่ว่าเป็นความหลงใหลของเฉียนเฉียน หรือว่าเป็นความโง่เขลาของหนานกงจิ่น ถึงสุดท้ายล้วนเป็นเพียงผลที่มาจากความรัก อดไม่ได้ที่จะทำให้คนทอดถอนใจ

เธออยากรู้อยากเห็นถามว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นนี่ล้วนผ่านไปพันปีแล้ว คุณหาวิธีที่ทำให้เธอฟื้นคืนกลับมาใหม่เจอไหม?”

หนานกงจิ่นพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก “หาเจอแล้ว”

“วิธีอะไรเหรอ?”

หนานกงจิ่นไม่ได้รีบเร่งตอบกลับ แต่ควักมือถือออกมา เปิดข่าวฉบับหนึ่งยื่นไปยังข้างหน้าเธอ

“คุณอ่านนี่ก่อน”

จิ่งหนิงรับมาอ่านแล้วอ่านอีก พบเห็นว่าเป็นข่าววิทยาศาสตร์ฉบับหนึ่ง

สิ่งที่พูดถึงคือในสองปีก่อน หินอุกกาบาตก้อนหนึ่งตกอยู่ในเมืองริมทะเลแห่งหนึ่ง ก่อให้เกิดรังสีนิวเคลียร์ขนาดใหญ่อยู่ที่นั่น ทำให้คนที่นั่นถ้าไม่ก็ป่วย ถ้าไม่ก็ย้ายออกไปหมด

จากนั้น ที่นี่ค่อยๆกลายเป็นเมืองร้างแห่งหนึ่ง

คนข้างนอกตั้งชื่อให้ที่นี่ชื่อหนึ่งว่า เมืองผี

จิ่งหนิงอ่านการรายงานข่าวที่อยู่ข้างบน ขมวดคิ้วขึ้นมา

“คุณให้ฉันอ่านนี่ทำไมล่ะ?”

หนานกงจิ่นพูดเสียงเข้มว่า “ในปีนั้นหินอุกกาบาตก้อนนั้นที่ตกอยู่ที่นี่ แท้ที่จริงไม่ใช่หินอุกกาบาตที่แท้ๆอะไรเลย แต่คือยานอวกาศที่มาจากดวงดาวเดียวกันกับเฉียนเฉียน สิ่งที่ไม่เหมือนคือคนคนนั้นไม่มีความโชคดีขนาดนั้นเท่าเฉียนเฉียน เพราะบางสาเหตุตายไปแล้ว แต่แม้ว่าเขาตายแล้ว หินพลังงานยังอยู่ ผมสืบมาก่อนแล้วปีนั้นตอนที่มีคนออกจากที่นั่น นำหินพลังงานก้อนนั้นไปด้วย เพราะรู้สึกว่าเนื้อหินพลังงานหายาก อีกทั้งเอาไว้เป็นของที่ระลึกที่มีต่อบ้านเกิดเมืองนอน ดังนั้นก็เลยแยกมันกลายเป็นหลายก้อน แบ่งให้ผู้คนที่อยู่ในบ้านนั่นก็คือแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ในวันนี้”

จิ่งหนิงอึ้งชะงักอย่างโหดร้าย

“แผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์เหรอ? ความหมายของคุณคือ……”

“ใช่แล้ว ก็คือแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์นั้นที่เล่าตกทอดกันมาอยู่ข้างนอกตอนนี้”

อยู่ดีๆจิ่งหนิงก็เข้าใจเลย ทำไมหนานกงจิ่นพยายามขนาดนี้ที่อยากจะหามันเจอ

หินพลังงานมาจากดวงดาวเดียวกัน เล่ากันว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่สามารถทำให้คนอยู่ยงคงกะพันธ์ ตายแล้วเกิดใหม่ได้……

ดังนั้น แท้ที่จริงที่เล่าลือกันเหล่านั้นเป็นเรื่องจริงเหรอ?

รู้สึกถึงจุดนี้ สีหน้าของเธอมีความซีดขาวจางๆเล็กน้อย

หนานกงจิ่นพูดต่ออีกว่า “แผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ทั้งหมดถูกแยกเป็นสิบสองชิ้น ในตอนต้นคนที่ได้หินพลังงานก้อนนี้ เคยเห็นหินอุกกาบาตก้อนนั้นตกลงมากับตา ในตอนนั้นวิทยาศาสตร์ยังไม่เผยแพร่ทั่วไปเลย พวกเขาคิดว่าเป็นเทพเทวดาที่อยู่บนฟ้าตกสู่โลก ดังนั้นหลังจากเก็บหินพลังงานได้ แกะสลักคำจารึกในการขออธิษฐานให้มีความสุขความเจริญอยู่ข้างบน หวังว่าเทพเทวดาสามารถคุ้มครองพวกเขาให้ร่ำรวยมีเกียรติชั่วนิรันดร

ต่อจากนี้ หินพลังงานเหล่านี้ ค่อยๆผ่านมือหลายมือเร่ร่อนไปอยู่ข้างนอก โดยไม่เจตนาผมก็พบเห็นก้อนหนึ่ง รู้สึกวัตถุดิบนี้เหมือนกับหินพลังงานที่ในตอนต้นเฉียนเฉียนใส่เข้าไปในร่างกายของผมก้อนนั้นมาก ดังนั้นก็เลยสืบข้อมูลสักหน่อย นี่จึงรู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสองร้อยปีก่อนเรื่องนั้น”

จิ่งหนิงเม้มปากแล้วเม้มปากอีก

“ดังนั้นล่ะ? คุณอยากจะรวบรวมสิ่งนี้ คืออยากจะทำอะไรล่ะ? คุณไม่คิดว่ามันจะสามารถทำให้เฉียนเฉียนของคุณฟื้นคืนชีพจริงๆล่ะ?”

“ไม่ลองสักหน่อยจะรู้ได้ยังไงล่ะ?”

หนานกงจิ่นสงบเงียบจ้องมองเธออยู่ “นี่เป็นโอกาสเพียงครั้งเดียวแล้ว ถ้าหากแม้แต่อย่างนี้ล้วนไม่ได้ งั้นอยู่บนโลกใบนี้……”

อยู่บนโลกใบนี้ ก็จะไม่มีวิธีที่สามารถทำให้เฉียนเฉียนฟื้นคืนชีพกลับมาได้อีกแล้ว

เฉียนเฉียนของเขาก็ต้องจากเขาไปตลอดกาลแล้ว

จิ่งหนิงได้ยินคำพูดของเขา แม้ว่ารู้สึกซาบซึ้งใจมากกับเขาที่เพื่อคนรักที่สุดยึดมั่นถือมั่นความรักลึกซึ้งเป็นพันปี แต่ยังคงรู้สึกว่าทำเช่นนี้เหลือเชื่อมากเกินไปแล้ว

“ดังนั้นคุณจึงยึดมั่นถือมั่นขนาดนี้ที่จะหาแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์สิบสองชิ้นให้เจอเหรอ? แต่นั่นเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ? คุณทำไมต้องจับฉันมาที่นี่ล่ะ?”

พูดถึงสิ่งนี้ บนใบหน้าของหนานกงจิ่นกลับปรากฏสีหน้าที่หยอกเล่นขึ้นมาหนึ่งที

“ผมก็ไม่อยากจะจับคุณเช่นกัน จิ่งหนิง ผมเคยบอกมาก่อน คุณเคยช่วยชีวิตผมมาก่อน ถึงแม้ผมรู้สึกว่าตนเองไม่ได้เป็นคนดีคนหนึ่ง แต่ก็ไม่ใช่คนที่เนรคุณคนหนึ่งอย่างเด็ดขาด ดังนั้นเป็นไปได้ยังไงที่ผมจะทำร้ายคุณล่ะ?”

“งั้นคุณ……”

“สาเหตุที่ผมทำเช่นนี้ แท้ที่จริงเพียงแค่เพื่อป้องกันตนเองล่ะ จนถึงตอนนี้คุณยังมองไม่ออกเหรอ ลู่จิ่งเซินสามีของคุณ ผู้ชายคนนั้นที่อยู่เคียงข้างกายคุณทั้งวัน แท้ที่จริงไม่ค่อยเหมือนกับจินตนาการของคุณเลยเชียวเหรอ?”

จิ่งหนิงมีความงุนงงเล็กน้อย

ไม่เหมือนกันเหรอ?

มีอะไรไม่เหมือนกันล่ะ?

หนานกงจิ่นส่ายหัวแล้วส่ายหัวอีก ทอดถอนใจเบาๆหนึ่งที

“ช่างเถอะ ความทรงจำช่วงนั้นของคุณที่ถูกเขาลบไป งั้นผมก็จะช่วยคุณให้นึกออกเถอะ”

เขาพูดอยู่ อยู่ดีๆลุกขึ้นมา เดินเข้าไปเลย

จิ่งหนิงจ้องมองเขา และไม่รู้ว่าทำไม ในใจก็เกิดความหวาดกลัวขึ้นมาโดยไม่รู้สาเหตุ

เธอยันอยู่กับพื้น ถอยไปยังข้างหลังเรื่อยๆ

บ่นพึมพำอยู่ในปากว่า “คุณอย่าเข้ามา คุณอย่าเข้ามา คุณคิดจะทำอะไร……”

จากนั้น คำพูดยังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกคนจับศีรษะไว้แล้ว

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Status: Ongoing

บทที่ 1 จับชู้คาเตียง

“มีถุงยางดูเร็กซ์ ดูอัล เพลย์เชอร์ไซซ์กลางไหม? ”

“มีค่ะ”

“แล้วก็ไวเบรเตอร์กับชุดนางแมวสวาทชุดหนึ่งด้วย”

“ได้ค่ะ จัดส่งที่ไหนคะ? ”

“โรงแรมลี่หัว ห้อง2202”

“ค่ะ ขอบคุณค่ะ”

เมื่อจิ่งหนิงมาถึงโรงแรมลี่หัวก็เป็นเวลาห้าทุ่มแล้ว

เวลาดึกดื่นขนาดนี้ สำหรับคนที่ทำธุรกิจสินค้าผู้ใหญ่ แบบนี้ การนำส่งสินค้าด้วยตนเองไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่

นัก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหญิงสาวหน้าตาสะสวยอย่างเธอ

แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ทุก สิ่งทุกอย่างต้องแลกมาด้วยเงิน อีกอย่างมู่ยั่นเจ๋อกำลังจะ กลับมาอีกไม่กี่วันนี้

คบกันมาตั้งหกปี แต่เวลากว่าครึ่งเป็นรักระยะไกล เขา ต้องดูแลธุรกิจทั้งในและนอกประเทศ เธอจะทำตัววุ่นวาย ส่งผลต่อการทำงานของเขาไม่ได้

ดีที่ความรักของทั้งสองคนนั้นค่อนข้างหวานชื่นนอกจากงานในแต่ละวันแล้ว เธอยังมีธุรกิจเล็กๆของตัวเอง ด้วย อีกไม่กี่วันเป็นวันเกิดของเขา เธอตั้งใจจะมอบของ ขวัญให้เขาอย่างเซอร์ไพรซ์

เมื่อคิดได้ดังนั้น จึงหนิงก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

เธอขยับหมวกสีดำที่ใส่มาให้ปิดลงมาบังหน้าไว้ จากนั้น เดินถือกล่องสินค้าเข้าไปด้านใน

โรงแรมลี่หัว เป็นสถานที่ราคาแพงขึ้นชื่อของเมืองจิ้น ผู้คนที่เดินทางมาเข้าพักล้วนเป็นระดับมหาเศรษฐี

ความโอ่อ่างดงามที่ห้องโถงไม่ต้องพูดถึง แม้แต่ลิฟต์ก็ ถูกประดับตกแต่งด้วยเงินและทองคำ คนที่ยืนอยู่ด้านใน ถูกแสงไฟส่องสว่างไสว

จิ่งหนิงเดินถือกล่องเข้าไปแล้วมองหาจุดหมาย

ใบหน้าอันงดงามถูกปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง มองเห็นเพียงดวงตา เป็นประกายคู่นั้น แฝงไปด้วยความมั่นใจ

ลิฟต์ขึ้นสู่ชั้น22 “ตั้ง” ประตูเปิดออก เธอเดินออกไป กระทั่งถึงห้อง2202และกดกริ่งที่ประตู

ประตูยังไม่เปิดออก ก็มีเสียงหนุ่มสาวดังขึ้น

“อาเจ๋อ อุ๊ย? อย่าค่ะ….ของน่าจะมาส่งแล้ว”

“รอผมนะ เดี๋ยวมา”

จึงหนิงยืนยิ้มอยู่ที่ปากประตูอย่างอดไม่ได้ ของยังมาส่งไม่ถึงก็เริ่มกันแล้วเหรอเนี่ย? รีบร้อนกันจริงๆ?

ประตูถูกเปิดออกในไม่ช้า ชายผู้ออกมารับของสวมผ้า ขนหนูเพียงผืนเดียว บนร่างกายของเขายังคงมีไอน้ำอยู่

จิ่งหนิงไม่ได้มองหน้าเขา เธอยื่นกล่องใส่ของออกไป “843หยวนค่ะ? จ่ายเงินสดหรือว่าโอนคะ? ”

ชายผู้อยู่ตรงหน้าไม่ตอบ

ผ่านไปสองวินาที เสียงของชายผู้นั้นเอ่ยขึ้นว่า “.

หนิง?

จิ่งหนิงตกตะลึง เธอเงยหน้าขึ้นมอง

เมื่อเห็นชายที่ยืนอยู่ด้านหน้า ร่างกายกำยำ ผมเผ้าเปียก ปอน เขามีเพียงผ้าขนหนูสีขาวปิดบังร่างกายไว้ แสงไฟ เหลืองนวลส่องมายังร่างกายของเขา ผิวขาวเนียนและ ใบหน้าอันเกลี้ยงเกลาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาด

ใจ อีกทั้ง ทำตัวไม่ถูก

สีหน้าของจิงหนิงตกใจเสียจนหน้าซีด

“ปั่นเจ๋อ ใครคะ? ”

“ไม่มีอะไรครับ คนมาส่งของครับ”

มู่ยั่นเจ๋อรีบพูดขึ้นก่อนที่จิ่งหนิงจะเอ่ยอะไรออกมาจาก นั้นรีบหยิบเงินจากกระเป๋ายัดใส่มือเธอและหยิบของไป อย่างรวดเร็ว

เสียงประตูปิดลงดัง “ปัง?

จึงหนิงยังคงยืนอยู่ที่หน้าประตู มือของเธอเริ่มสั่น สีหน้า

เหนิงซีดเผือดลงทันที

เธอหัวเราะออกมาเบาๆ

และมองไปยังธนบัตรที่เขายัดเข้ามาไว้ในมือ นี่มันเรื่อง ตลกบ้าบออะไรกัน? เธอหัวเราะเยาะในความโง่เขลาของ ตัวเองจริงๆ

เสียงชายหนุ่มและหญิงสาวเล็ดลอดออกมานอกห้อง เธอก็ถอนหายใจยาวๆออกมา และกลั้นน้ำตาที่คลอเบ้าเอา

ไว้

เธอหันหลังกลับและเดินตรงไปยังลิฟต์และหยิบมือถือ

ออกมา

“สวัสดีค่ะ สถานีตำรวจใช่ไหมคะ? ฉันจะขอแจ้งความ ว่ามีชายหญิงค้าประเวณี ห้องพักเลขที่.”

ต่อมา20นาที

รถตำรวจคันหนึ่งจอดลงที่หน้าโรงแรมลี่หัว ข้างๆยังมีนัก ข่าวและช่างกล้องเดินตามมา เมื่อเห็นคนที่ถูกจับตัวออกมา นักข่าวก็พากันแห่เข้าไป

“นายมู่ มีคนแจ้งความว่าคุณเสพยาและซื้อบริการทาง เพศ จริงหรือไม่คะ? ”

“นายมู ในฐานะผู้สืบทอดมู่ชื่อกรุ๊ป คุณคิดว่าการกระทำ เช่นนี้เหมาะสมหรือไม่คะ?

“นายมู่ครับ ผู้หญิงคนที่อยู่กับคุณเป็นใครกันครับ? มี

ข่าวลือว่าเป็นดาราในวงการ จริงหรือไม่ครับ? ” “นายมู..”

มู่ยั่นเจ่อถูกนักข่าวล้อมไว้ แม้แต่ตำรวจก็ห้ามไว้ไม่ได้ เขากัดฟันกรอดๆและตะโกนออกมาว่า “ไปให้พ้น? ” นักข่าวพากันตกอกตกใจและถอยหลังออกไป

มู่ยั่นเจ๋อมองไปยังฝูงชน เขาพบเข้ากับจิ่งหนิง สายตา ของเขาแฝงไปด้วยความอาฆาตแค้น

นี่คือสิ่งที่คุณต้องการใช่ไหม?”

จึ่งหนิงเผยอยิ้ม สายตาแฝงไปด้วยการดูถูก

“คุณทำแบบนี้อย่าหวังว่าจะได้ผมไปครอง”

จิ่งหนิงเดินหน้าขึ้นไปแล้วเงื้อมือขึ้นต่อหน้านักข่าวและ

ตำรวจ

11 เพียะ!”

ฝ่ามือของเธอตบลงไปที่หน้าเขาอย่างจัง มู่ยั่นเจ่อถูกตบ เสียจนหน้าหัน

บรรยากาศรอบด้านเงียบลงทันใด

ทางตำรวจตกตะลึงอ้าปากค้าง ” คุณผู้หญิงคนนี้คือ.

%3D

%3D ขอโทษนะคะ มือลั่นไปเอง!”

เธอยิ้มด้วยแววตาเยือกเย็นแล้วทำท่าทางนวดข้อมือ แล้วมองไปยังมู่ยั่นเจ่อด้วยสายตาอาฆาต จากนั้นพูดด้วย น้ำเสียงเยือกเย็นว่า

กระดาษชำระที่ตกลงไปในชักโครก คุณคิดว่าใครยังจะต้องการอีกกัน?ตบเมื่อสักครู่เป็นแค่ดอกเบี้ยเท่านั้น ทุน ที่เหลือฉันจะให้คุณชดเชยภายในสามวัน!”

แววตาของมู่ยั่นเจ่อตื่นตระหนก อะไร! ทุนอะไร !!” จึ่งหนิงขมวดคิ้วขึ้น ” คุณแน่ใจนะว่าจะให้ฉันกระตุ้น

ความจำคุณ

มู่ยั่นเจ๋อก้มหน้าลงทันที

เธอหัวเราะหีๆ เป็นเสียงหัวเราะที่แฝงไปด้วยความดูถูก เหยียดหยาม

ทางตำรวจเห็นเช่นนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาโบกมือ เป็นสัญญาณว่าให้คุมตัวขึ้นรถไปได้ เมื่อเขาเดินทางจากไป บรรดานักข่าวก็ไม่ได้รีรอ รีบตาม

ไปทันที

เดิมทีที่จากประตูทางเข้าโรงแรมเต็มไปด้วยผู้คน ตอนนี้ กลับว่างเปล่าไม่เหลือใคร

จึงหนิงยังยืนอยู่ที่นั่นจนกระทั่งควบคุมอารมณ์ได้ เธอจึง ได้เตรียมตัวจากไป

แต่เธอคาดไม่ถึงว่าเมื่อหันหลังกลับไปจะพบเข้ากับแวว ตาคู่หนึ่งที่จับจ้องเธออยู่

ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำ ร่างกายกำยำสูงใหญ่ ผมสั้นจัด ทรงเป็นระเบียบ แววตาแหลมคมนั้นทำให้ผู้พบเห็น หลงใหล

ใบหน้าอันหล่อเหลาภายใต้แสงยามค่ำคืนแบบนี้ เผยให้เห็นออร่าที่กลมกลืนไปกับบรรยากาศรอบข้าง จิ่งหนิงรู้สึกว่าเธอเคยเห็นชายคนนี้มาก่อน

จากนั้นเธอหันไปเห็นเลขาของเขาที่ยืนอยู่ด้านหลัง อีก ทั้งรถปอร์เช่สีเงินที่อยู่ข้างๆ เธอก็คิดได้ว่าจะไปรู้จักบุคคล ที่โดดเด่นแบบนี้ได้ยังไงกัน?

เธอสลัดความคิดออกจากหัว หันหลังแล้วเดินจากไป จนกระทั่งร่างเล็กๆของเธอเข้าสู่รถยนต์ ลู่จิ่งเซินจึงได้

ละสายตามาจากเธอและถามขึ้นว่า “คนเมื่อกี้นี้คือใคร?

ซูมู่ที่ยืนอยู่ด้านหลังรีบตอบขึ้นว่า ท่านหมายถึงคนที่ถูก ตำรวจจับไปเมื่อกี้หรือครับ? เหมือนว่าจะเป็นคุณชายขอ งมู่ชื่อกรุ๊ปที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศเมื่อหลายวันก่อน”

ลู่จิ่งเซินขมวดคิ้วแล้วบอกว่า “ผมหมายถึงคนผู้หญิงคน เมื่อกี้”

“ครับ? ” ซูมู่งุนงงเล็กน้อย “ผู้หญิงคนไหนกัน? ”

เมื่อเห็นแววตาอันไม่พอใจของลู่จิ่งเซิน ซูมู่ก็รีบพูดขึ้นมา ว่า “ท่านประธานครับ ต้องขออภัยด้วยผมจะไปตรวจสอบ เดี๋ยวนี้”

“ช่างมันเถอะ”

สายตาของเขามองไปตามทางที่ผู้หญิงคนนั้นขับรถออก ไปแล้วยิ้มขึ้น เขาคล้ายกับนึกอะไรออกมาได้

จากนั้นเขารีบก้าวเดินเข้าไปด้านใน ในฐานะผู้แจ้งความ จิ่งหนิงจึงต้องเดินทางไปที่สถานี ตำรวจด้วย

เมื่อทำการบันทึกข้อความเสร็จแล้ว ผู้คนจากด้านนอกก็ พากันแห่กรูเข้ามา

คนที่เดินเข้ามาเป็นคนแรกก็คือคุณย่าจิ่งหวังเสว่เหมย เมื่อเธอเดินเข้ามาถึงก็ตบเข้าให้ที่หน้าของจิ่งหนิงอย่างจัง

“นังคนทรยศ? ”

หวังเสว่เหมยตัวสั่นสะท้านแล้วพูดว่า “แกรู้อยู่แก่ใจว่านั่น คือน้องสาวแท้ๆของแก ยังกล้าแจ้งตำรวจจับอีกอย่างนั้น เหรอ? แกต้องการจะยั่วให้ฉันโมโหตายยังไง? ”

จิงหนิงเช็ดโชคเลือดที่มุมปาก จากนั้นเงยดูหญิงชราที่ อยู่ตรงหน้า

“น้องสาวอย่างนั้นเหรอ? คุณหมายถึงจิ่งเสี่ยวหย่า? ”

“ไม่ต้องทำมาเป็นเสแสร้ง สื่อต่างๆพากันพูดกันให้แซ่ด บอกว่าคุณหนูจิงรองให้ท่าคู่หมั้นของคนอื่น แกไม่รู้เรื่อง หรือไง? ”

จึงหนิงก้มหน้าลงและยิ้มออกมาเบาๆ

“ผู้หญิงคนนั้นเป็นเธอนั่นเอง….ฉันก็คิดว่ากะหรี่ที่ไหน รีบร้อนจะหาเงินซะอีก ที่แท้ก็เป็นน้องสาวของฉันเอง? “

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน