วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – บทที่ 1061 สู้ตายไปเสียยังจะดีกว่ามีชีวิตอยู่ซะอีก

บทที่ 1061 สู้ตายไปเสียยังจะดีกว่ามีชีวิตอยู่ซะอีก

ดังนั้นอยู่บนดวงดาวของพวกเธอ อายุขัยของแต่ละคนล้วนยาวมากๆ

แน่นอน ในเวลาเดียวกันสิ่งที่ตามมาด้วยก็คือมนุษย์ที่จำนวนน้อยลง

ถึงยังไง อายุขัยของแต่ละคน ตอนที่ล้วนสามารถถูกยืดยาวไร้ขอบเขต อยู่บนดวงดาวนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องมีชีวิตอื่นมากกว่านี้อีกแล้ว

ส่วนเธอ ก็เนื่องเพราะว่าเบื่อหน่ายวิถีชีวิตแบบนี้ ไม่อยากจะเผชิญหน้ากับดวงดาวเช่นดั่งน้ำนิ่งแบบนี้อยู่ตลอดกาล ดังนั้นเธอจึงขับยานอวกาศของตนเองหนีออกจากบ้านเกิดของตนเอง อยากจะไปเสาะหาสิ่งใหม่ที่มหัศจรรย์

แต่นึกไม่ถึง เธอเพิ่งขับถึงครึ่งทาง เนื่องเพราะการเกิดอุบัติเหตุ ยานอวกาศตกมาถึงดวงดาวแห่งนี้เลย

ต้องบอกว่า คำพูดของฝ่ายตรงข้ามแทบจะล้มล้างความจริงจังทั้งหมดของหนานจิ่นในเวลานั้นจริงๆเลย

ไม่เพียงแค่คำกล่าวแห่งรูปท้องฟ้าทรงกลม รูปโลกเป็นสี่เหลี่ยมถูกโค่นล้ม ยังมีจักรวาล,อวกาศ,ยานอวกาศแบบนี้อีก

ยากที่จะจินตนาการจริงๆเลย หินรูปทรงกลมก้อนนั้นที่เขาพบเจอก่อนหน้านั้น กลับกลายเป็นยานอวกาศอย่างนั้นซะเลย?

ตอนที่ตื่นตะลึงอยู่ หนานจิ่นก็ได้นึกถึงความเป็นไปได้อีกอย่างหนึ่งอย่างรวดเร็วฉับไวเช่นกัน

ปัจจุบันนี้กษัตริย์หญิงสิ้นพระชนม์แล้ว อำมาตย์ทั้งหลายล้วนรู้ว่ากษัตริย์หญิงยังมีน้องสาวคนหนึ่งคงอยู่ ล้วนตามหาเบาะแสขององค์รัชทายาทคนนี้อยู่

แต่กลับเป็นว่าก่อนที่กษัตริย์หญิงจะสิ้นพระชนม์ ก็ได้เล่าแผนการของตนเองให้กับน้องสาวฟังแล้ว สั่งเธอว่าหลังจากสืบต่อราชบัลลังก์ ไม่ว่ายังไง ก็ต้องชี้ให้เห็นความเป็นจริงที่หนานจิ่นฆ่าตนเอง จากนั้นโค่นล้มตำแหน่งของราชครู ให้ราชวงศ์กุมอำนาจใหม่อีกครั้ง

พูดได้ว่า หนานจิ่นที่อยู่ในเวลานี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความรู้สึกเหมือนจะถูกคนเหยียบย่ำอยู่บนไฟ

กลับกลายเป็นว่าเขายังไม่มีทางออกอีก ยกเว้นจะปลุกระดมให้ทหารข้าศึกก่อการกบฏกับน้องสาวกษัตริย์หญิง มิฉะนั้นเขาตายแน่ไม่ต้องสงสัย

แต่ว่า พี่สาวแท้ๆสิ้นพระชนม์เพราะว่าตนเอง เป็นไปได้ยังไงที่น้องสาวกษัตริย์หญิงจะเชื่อฟังหนานจิ่นอีกล่ะ?

ด้วยเหตุนี้ เรื่องนี้ก็กลายเป็นว่าไม่มีทางแก้แล้ว เข้าสู่ทางตันอย่างหนึ่งโดยสิ้นเชิง

แต่ว่าตอนนี้ไม่เหมือนกันแล้ว อยู่ดีๆเขามองเห็นความหวังใหม่อีกครั้ง

ก่อนหน้านั้นไม่สามารถให้คนปลอมตัวเป็นน้องสาวกษัตริย์หญิง เป็นเพราะว่า อำมาตย์ทั้งหลายล้วนเห็นหน้าตาของเธอแล้ว เขาไม่สามารถหาคนที่หน้าตาเหมือนกันกับเธอทุกอย่างไปปลอมตัวเป็นเธอเจอ

แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน คนคนนี้เขาหาเจอแล้ว

นั่นก็คือหญิงสาวที่ตามเขากลับมาจากทะเลทรายตลอดทาง บอกว่าตนเองมาจากอวกาศคนนี้ คือเฉียนเฉียนนั่นเอง

เธอไม่มีญาติพี่น้อง ไม่มีเพื่อน มีเพียงคนอยู่ในจวนไม่กี่คนที่รู้การคงอยู่ของเธอ ทั้งเชื่อตนเองอย่างเต็มอกเต็มใจอีก ไม่มีตัวเลือกไหนที่จะเหมาะสมกว่าคนนี้อีกแล้ว

ด้วยเหตุนี้ หนานจิ่นคิดก็ไม่คิด ก็เล่าแผนการนี้ให้กับเธอเลย

เริ่มแรก เฉียนเฉียนปฏิเสธอยู่ แม้ว่าตามความเข้าใจที่เธอมีต่อโลกใบนี้ในปัจจุบันนี้ ในเวลาสั่นๆเธอยังพูดไม่ออกว่ามีสาเหตุอะไร แต่อยู่ในจิตใต้สำนึกยังคงรู้สึกว่านี่ไม่ใช่เรื่องดีเรื่องหนึ่งนะ

แต่จนใจ มีการใช้วาจาหว่านล้อมจนกว่าจะยอมใจอ่อนของหนานจิ่น สุดท้าย เธอยังคงรับปากเลย

วันนั้น เขาจ้องมองเธอเห็นฉากที่โอ่อ่ายิ่งใหญ่ ส่งเธอขึ้นครองบัลลังก์กับตา

เฉียนเฉียนนั่งอยู่บนบัลลังก์ จ้องมองเขาที่คุกเข่าอยู่ใต้บัลลังก์ ในใจตื่นตระหนกหวาดกลัวไปหมด

ต่อจากนี้อีก ก็คือรัฐประหารในพระราชวัง การสังหารหมู่

ประวัติศาสตร์ที่การเข่นฆ่าอย่างโหดร้ายทารุณช่วงนั้น เห็นได้ชัดว่าหนานจิ่นไม่อยากพูดมาก ด้วยเหตุนี้พูดผ่านไปเพียงไม่กี่คำ

แต่จิ่งหนิงยังคงจากการบอกเล่าที่ไม่กี่คำของเขา สังเกตถึง การเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลานั้น

ดูจากการบรรยายของเขาก่อนหน้านั้น เฉียนเฉียนคนนั้นที่อยู่ในปากเขา น่าจะเป็นคนที่นิสัยเดิมดีงามคนหนึ่ง

แต่หนานจิ่น กลับถูกอำนาจอิทธิพลพุ่งใส่สมองจนสติเลอะเลือนมานานแล้ว ตั้งแต่ตอนที่เขารู้ว่ากษัตริย์หญิงวางแผนร้ายนั้น แท้ที่จริงเขาก็ตัดสินใจไว้แล้ว จะยึดอำนาจ ทำลายตำแหน่งของกษัตริย์หญิงคนนี้โดยสิ้นเชิง ให้ตัวเองได้ขึ้นครองบัลลังก์ ยึดและเข้าแทนที่

ถึงยังไง ฮ่องเต้คนหนึ่งที่ล้วนไม่มีประโยชน์กับประเทศนี้สักนิด เก็บเธอไว้จะมีประโยชน์อะไรอีกล่ะ?

เพียงจะชุบมือเปิบ กลับไม่ดีเท่าให้ผู้มีความสามารถอยู่!

แต่ความคิดนี้ เขากลับไม่เคยเปิดเผยกับเฉียนเฉียนมาก่อน

ด้วยเหตุนี้ ตอนกองทัพทหารจู่โจมเมืองหลวง ตอนที่เฉียนเฉียนเห็นคนที่เรียกว่าผู้ก่อกบฏคนนั้น เป็นคนที่ตนเองรักคิดถึงมากอยู่ในใจนั่นเอง เธอพังทลายแล้ว

สาเหตุที่เธอพังทลาย ไม่ใช่เพราะว่าเธอยังตัดใจทิ้งราชบัลลังก์ไม่ลงเลย

แต่คือ เธอเคยเชื่อฟังคำพูดเขา รู้สึกว่าที่ตนเองเป็นตัวแทนคนอื่นขึ้นครองบัลลังก์นี้เป็นเพราะจะประคองประชาชนโลกหล้า เป็นเพราะอาณาประชาราษฎร์ เพื่อไม่ให้ประเทศเกิดสงครามจลาจลอีก

แต่ตามความจริง ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นข้ออ้างที่เขาหลอกเธอ

เขาตั้งอกตั้งใจวางแผนจนถึงที่สุด ไม่ใช่เพื่อประชาชน เพียงแค่เพื่อให้เวลาตนเองได้ยักย้ายพัฒนาขยาย

อาศัยความเชื่อใจของเธอ หนานจิ่นแทบจะรวบสิทธิทั้งหมดไว้ในมือตนเอง กลายเป็นรูปแบบที่แท้จริงของประเทศนี้ไปนานแล้ว

แต่ก่อน ตำแหน่งของราชครู ยังสามารถตัดสินใจด้วยการลงคะแนนเสียงจากอำมาตย์ทั้งหลาย ทำให้คนได้รับการเลือก

แต่ปัจจุบันนี้ ขุนนางบุ๋นและบู๊ที่ยืนเต็มราชสำนักล้วนเป็นคนของเขาไปนานแล้ว ใครจะกล้าลงคะแนนเสียงอีก ใครจะกล้าต่อต้านเขาอีกล่ะ?

เขาเป็นราชาที่ไม่ได้สวมมงกุฎของประเทศนี้ไปนานแล้ว แต่เขาไม่รู้สึกพอใจเหมือนเดิม ก็แม้แต่เชื้อสายสุดท้ายของราชวงศ์ ก็จะกำจัดให้สิ้นซากเช่นกัน

ตอนที่เฉียนเฉียนขึ้นครองบัลลังก์ สิ่งที่ใช้เป็นหน้าตาของน้องสาวกษัตริย์หญิง

ดังนั้น คนในราชวงศ์ ถือว่าเธอเป็นญาติพี่น้องของตนเองมาโดยตลอด เชื่อใจเธอ เทิดทูนเธอ

เริ่มแรก เฉียนเฉียนยังมีความไม่เคยชินเล็กน้อย ก็มีความมึนงงเช่นกัน

แต่เธอเป็นคน มีพรสวรรค์ในการเรียนรู้อย่างยิ่งใหญ่แข็งแกร่ง ไม่นาน จากในการใช้ชีวิตกับคนเหล่านี้ค่อยๆเข้าใจถึงหลักการของความผูกพันทางสายเลือด,มิตรภาพกับความรัก

เธอเข้าใจแล้ว ตนเองต่อหนานจิ่น คือความรัก

และในเวลาเดียวกัน ตนเองมีต่อคนที่พึ่งพาอาศัยตนเอง เชื่อตนเอง คือมิตรภาพ คือความผูกพันทางสายเลือด

เธอไม่หวังว่าใครจะได้รับบาดเจ็บ ก็ไม่หวังว่าใครจะทรยศตนเองเช่นกัน โดยเฉพาะหนานจิ่น

แต่ว่าสุดท้าย หนานจิ่นยังคงทรยศเธอ

เพื่อที่จะขึ้นครองราชบัลลังก์หนานจิ่นไม่เพียงแค่ไล่เธอลงจากบันลังก์ด้วยมือตนเอง ยังฆ่าคนทั้งหมดของราชวงศ์อยู่ต่อหน้าเธออีก

ก็เพื่อที่จะตัดรากถอนโคน!

ในวินาทีนั้น เฉียนเฉียนไม่กล้าที่จะเชื่อ

เธอไม่กล้าที่จะเชื่อ คนที่ตนเองรักมากมาโดยตลอด กำลังหลอกใช้ตนเองอยู่

ทั้งไม่กล้าที่จะเชื่อ ความอ่อนโยนใจงามที่อยู่ภายนอกของเขาล้วนเป็นการแสร้งทำ ตามความจริงเพราะสิทธิเขาสามารถสังหารหมู่สะบั้นหั่นแหลก กระทั่งแม้แต่คนที่มีการคุกคามเล็กน้อยต่อเขาล้วนไม่ปล่อยเช่นกัน

ในนั้น อายุน้อยที่สุดเพิ่งสามขวบล่ะ!

เขายังเป็นเด็กคนหนึ่ง เขาทำผิดอะไรแล้วเหรอ?

แต่ตอนที่เธอร้องไห้จนเป็นสายเลือด เดินไปยังข้างหน้าเขาทีละก้าวๆ ถามคำถามนี้ออกมา

หนานจิ่นเพียงให้คำตอบที่เย็นชาคำหนึ่ง นั่นก็คือ “ตอนนี้เขายังเป็นเด็กคนหนึ่ง แต่ไม่ช้าก็เร็วสักวันต้องเติบโตล่ะ”

เหอะ! ไม่ช้าก็เร็วสักวันต้องเติบโต

ใช่สิ เติบโตแล้ว เขาจะจดจำความแค้นบัญชีเลือดของวันนี้ เป็นไปได้มากที่เขาจะกลับมาแก้แค้น ดังนั้น หนานจิ่นไม่เหลือความหวังให้กับพวกเขาเลยสักนิด ก็ไม่เหลืออันตรายให้กับตนเองเลยสักนิด

เฉียนเฉียนสิ้นหวังโดยสิ้นเชิงแล้ว

เธอไม่ถือความหวังใดๆกับผู้ชายคนนี้อีก ดังนั้นอยู่ในวินาทีสุดท้าย ตอนที่เขาตัดสินใจจะตั้งตนเองเป็นราชินี

เธอเลือกที่จะปฏิเสธ อีกทั้งหยิบหินพลังงานของตนเองออกมา

แต่ก่อนอยู่บนดวงดาวของตนเอง เธอมักจะไม่เข้าใจ คนเหล่านั้นใช้ชีวิตอยู่ดีๆทำไมต้องเอาหินพลังงานออก เลือกที่จะฆ่าตัวตาย

แต่จนถึงวินาทีนี้ เธอจึงเข้าใจ

นั่นโดยประมาณก็เป็นเพราะว่า มีชีวิตอยู่อย่างไร้ความหมาย ทางข้างหน้าไม่มีความหวัง และคนที่ตนเองรักที่สุดก็กลายเป็นไม่เหมือนเค้าเดิมเช่นกัน

มีชีวิตอยู่ มิสู้ตายเลยดีกว่า

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Status: Ongoing

บทที่ 1 จับชู้คาเตียง

“มีถุงยางดูเร็กซ์ ดูอัล เพลย์เชอร์ไซซ์กลางไหม? ”

“มีค่ะ”

“แล้วก็ไวเบรเตอร์กับชุดนางแมวสวาทชุดหนึ่งด้วย”

“ได้ค่ะ จัดส่งที่ไหนคะ? ”

“โรงแรมลี่หัว ห้อง2202”

“ค่ะ ขอบคุณค่ะ”

เมื่อจิ่งหนิงมาถึงโรงแรมลี่หัวก็เป็นเวลาห้าทุ่มแล้ว

เวลาดึกดื่นขนาดนี้ สำหรับคนที่ทำธุรกิจสินค้าผู้ใหญ่ แบบนี้ การนำส่งสินค้าด้วยตนเองไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่

นัก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหญิงสาวหน้าตาสะสวยอย่างเธอ

แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ทุก สิ่งทุกอย่างต้องแลกมาด้วยเงิน อีกอย่างมู่ยั่นเจ๋อกำลังจะ กลับมาอีกไม่กี่วันนี้

คบกันมาตั้งหกปี แต่เวลากว่าครึ่งเป็นรักระยะไกล เขา ต้องดูแลธุรกิจทั้งในและนอกประเทศ เธอจะทำตัววุ่นวาย ส่งผลต่อการทำงานของเขาไม่ได้

ดีที่ความรักของทั้งสองคนนั้นค่อนข้างหวานชื่นนอกจากงานในแต่ละวันแล้ว เธอยังมีธุรกิจเล็กๆของตัวเอง ด้วย อีกไม่กี่วันเป็นวันเกิดของเขา เธอตั้งใจจะมอบของ ขวัญให้เขาอย่างเซอร์ไพรซ์

เมื่อคิดได้ดังนั้น จึงหนิงก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

เธอขยับหมวกสีดำที่ใส่มาให้ปิดลงมาบังหน้าไว้ จากนั้น เดินถือกล่องสินค้าเข้าไปด้านใน

โรงแรมลี่หัว เป็นสถานที่ราคาแพงขึ้นชื่อของเมืองจิ้น ผู้คนที่เดินทางมาเข้าพักล้วนเป็นระดับมหาเศรษฐี

ความโอ่อ่างดงามที่ห้องโถงไม่ต้องพูดถึง แม้แต่ลิฟต์ก็ ถูกประดับตกแต่งด้วยเงินและทองคำ คนที่ยืนอยู่ด้านใน ถูกแสงไฟส่องสว่างไสว

จิ่งหนิงเดินถือกล่องเข้าไปแล้วมองหาจุดหมาย

ใบหน้าอันงดงามถูกปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง มองเห็นเพียงดวงตา เป็นประกายคู่นั้น แฝงไปด้วยความมั่นใจ

ลิฟต์ขึ้นสู่ชั้น22 “ตั้ง” ประตูเปิดออก เธอเดินออกไป กระทั่งถึงห้อง2202และกดกริ่งที่ประตู

ประตูยังไม่เปิดออก ก็มีเสียงหนุ่มสาวดังขึ้น

“อาเจ๋อ อุ๊ย? อย่าค่ะ….ของน่าจะมาส่งแล้ว”

“รอผมนะ เดี๋ยวมา”

จึงหนิงยืนยิ้มอยู่ที่ปากประตูอย่างอดไม่ได้ ของยังมาส่งไม่ถึงก็เริ่มกันแล้วเหรอเนี่ย? รีบร้อนกันจริงๆ?

ประตูถูกเปิดออกในไม่ช้า ชายผู้ออกมารับของสวมผ้า ขนหนูเพียงผืนเดียว บนร่างกายของเขายังคงมีไอน้ำอยู่

จิ่งหนิงไม่ได้มองหน้าเขา เธอยื่นกล่องใส่ของออกไป “843หยวนค่ะ? จ่ายเงินสดหรือว่าโอนคะ? ”

ชายผู้อยู่ตรงหน้าไม่ตอบ

ผ่านไปสองวินาที เสียงของชายผู้นั้นเอ่ยขึ้นว่า “.

หนิง?

จิ่งหนิงตกตะลึง เธอเงยหน้าขึ้นมอง

เมื่อเห็นชายที่ยืนอยู่ด้านหน้า ร่างกายกำยำ ผมเผ้าเปียก ปอน เขามีเพียงผ้าขนหนูสีขาวปิดบังร่างกายไว้ แสงไฟ เหลืองนวลส่องมายังร่างกายของเขา ผิวขาวเนียนและ ใบหน้าอันเกลี้ยงเกลาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาด

ใจ อีกทั้ง ทำตัวไม่ถูก

สีหน้าของจิงหนิงตกใจเสียจนหน้าซีด

“ปั่นเจ๋อ ใครคะ? ”

“ไม่มีอะไรครับ คนมาส่งของครับ”

มู่ยั่นเจ๋อรีบพูดขึ้นก่อนที่จิ่งหนิงจะเอ่ยอะไรออกมาจาก นั้นรีบหยิบเงินจากกระเป๋ายัดใส่มือเธอและหยิบของไป อย่างรวดเร็ว

เสียงประตูปิดลงดัง “ปัง?

จึงหนิงยังคงยืนอยู่ที่หน้าประตู มือของเธอเริ่มสั่น สีหน้า

เหนิงซีดเผือดลงทันที

เธอหัวเราะออกมาเบาๆ

และมองไปยังธนบัตรที่เขายัดเข้ามาไว้ในมือ นี่มันเรื่อง ตลกบ้าบออะไรกัน? เธอหัวเราะเยาะในความโง่เขลาของ ตัวเองจริงๆ

เสียงชายหนุ่มและหญิงสาวเล็ดลอดออกมานอกห้อง เธอก็ถอนหายใจยาวๆออกมา และกลั้นน้ำตาที่คลอเบ้าเอา

ไว้

เธอหันหลังกลับและเดินตรงไปยังลิฟต์และหยิบมือถือ

ออกมา

“สวัสดีค่ะ สถานีตำรวจใช่ไหมคะ? ฉันจะขอแจ้งความ ว่ามีชายหญิงค้าประเวณี ห้องพักเลขที่.”

ต่อมา20นาที

รถตำรวจคันหนึ่งจอดลงที่หน้าโรงแรมลี่หัว ข้างๆยังมีนัก ข่าวและช่างกล้องเดินตามมา เมื่อเห็นคนที่ถูกจับตัวออกมา นักข่าวก็พากันแห่เข้าไป

“นายมู่ มีคนแจ้งความว่าคุณเสพยาและซื้อบริการทาง เพศ จริงหรือไม่คะ? ”

“นายมู ในฐานะผู้สืบทอดมู่ชื่อกรุ๊ป คุณคิดว่าการกระทำ เช่นนี้เหมาะสมหรือไม่คะ?

“นายมู่ครับ ผู้หญิงคนที่อยู่กับคุณเป็นใครกันครับ? มี

ข่าวลือว่าเป็นดาราในวงการ จริงหรือไม่ครับ? ” “นายมู..”

มู่ยั่นเจ่อถูกนักข่าวล้อมไว้ แม้แต่ตำรวจก็ห้ามไว้ไม่ได้ เขากัดฟันกรอดๆและตะโกนออกมาว่า “ไปให้พ้น? ” นักข่าวพากันตกอกตกใจและถอยหลังออกไป

มู่ยั่นเจ๋อมองไปยังฝูงชน เขาพบเข้ากับจิ่งหนิง สายตา ของเขาแฝงไปด้วยความอาฆาตแค้น

นี่คือสิ่งที่คุณต้องการใช่ไหม?”

จึ่งหนิงเผยอยิ้ม สายตาแฝงไปด้วยการดูถูก

“คุณทำแบบนี้อย่าหวังว่าจะได้ผมไปครอง”

จิ่งหนิงเดินหน้าขึ้นไปแล้วเงื้อมือขึ้นต่อหน้านักข่าวและ

ตำรวจ

11 เพียะ!”

ฝ่ามือของเธอตบลงไปที่หน้าเขาอย่างจัง มู่ยั่นเจ่อถูกตบ เสียจนหน้าหัน

บรรยากาศรอบด้านเงียบลงทันใด

ทางตำรวจตกตะลึงอ้าปากค้าง ” คุณผู้หญิงคนนี้คือ.

%3D

%3D ขอโทษนะคะ มือลั่นไปเอง!”

เธอยิ้มด้วยแววตาเยือกเย็นแล้วทำท่าทางนวดข้อมือ แล้วมองไปยังมู่ยั่นเจ่อด้วยสายตาอาฆาต จากนั้นพูดด้วย น้ำเสียงเยือกเย็นว่า

กระดาษชำระที่ตกลงไปในชักโครก คุณคิดว่าใครยังจะต้องการอีกกัน?ตบเมื่อสักครู่เป็นแค่ดอกเบี้ยเท่านั้น ทุน ที่เหลือฉันจะให้คุณชดเชยภายในสามวัน!”

แววตาของมู่ยั่นเจ่อตื่นตระหนก อะไร! ทุนอะไร !!” จึ่งหนิงขมวดคิ้วขึ้น ” คุณแน่ใจนะว่าจะให้ฉันกระตุ้น

ความจำคุณ

มู่ยั่นเจ๋อก้มหน้าลงทันที

เธอหัวเราะหีๆ เป็นเสียงหัวเราะที่แฝงไปด้วยความดูถูก เหยียดหยาม

ทางตำรวจเห็นเช่นนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาโบกมือ เป็นสัญญาณว่าให้คุมตัวขึ้นรถไปได้ เมื่อเขาเดินทางจากไป บรรดานักข่าวก็ไม่ได้รีรอ รีบตาม

ไปทันที

เดิมทีที่จากประตูทางเข้าโรงแรมเต็มไปด้วยผู้คน ตอนนี้ กลับว่างเปล่าไม่เหลือใคร

จึงหนิงยังยืนอยู่ที่นั่นจนกระทั่งควบคุมอารมณ์ได้ เธอจึง ได้เตรียมตัวจากไป

แต่เธอคาดไม่ถึงว่าเมื่อหันหลังกลับไปจะพบเข้ากับแวว ตาคู่หนึ่งที่จับจ้องเธออยู่

ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำ ร่างกายกำยำสูงใหญ่ ผมสั้นจัด ทรงเป็นระเบียบ แววตาแหลมคมนั้นทำให้ผู้พบเห็น หลงใหล

ใบหน้าอันหล่อเหลาภายใต้แสงยามค่ำคืนแบบนี้ เผยให้เห็นออร่าที่กลมกลืนไปกับบรรยากาศรอบข้าง จิ่งหนิงรู้สึกว่าเธอเคยเห็นชายคนนี้มาก่อน

จากนั้นเธอหันไปเห็นเลขาของเขาที่ยืนอยู่ด้านหลัง อีก ทั้งรถปอร์เช่สีเงินที่อยู่ข้างๆ เธอก็คิดได้ว่าจะไปรู้จักบุคคล ที่โดดเด่นแบบนี้ได้ยังไงกัน?

เธอสลัดความคิดออกจากหัว หันหลังแล้วเดินจากไป จนกระทั่งร่างเล็กๆของเธอเข้าสู่รถยนต์ ลู่จิ่งเซินจึงได้

ละสายตามาจากเธอและถามขึ้นว่า “คนเมื่อกี้นี้คือใคร?

ซูมู่ที่ยืนอยู่ด้านหลังรีบตอบขึ้นว่า ท่านหมายถึงคนที่ถูก ตำรวจจับไปเมื่อกี้หรือครับ? เหมือนว่าจะเป็นคุณชายขอ งมู่ชื่อกรุ๊ปที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศเมื่อหลายวันก่อน”

ลู่จิ่งเซินขมวดคิ้วแล้วบอกว่า “ผมหมายถึงคนผู้หญิงคน เมื่อกี้”

“ครับ? ” ซูมู่งุนงงเล็กน้อย “ผู้หญิงคนไหนกัน? ”

เมื่อเห็นแววตาอันไม่พอใจของลู่จิ่งเซิน ซูมู่ก็รีบพูดขึ้นมา ว่า “ท่านประธานครับ ต้องขออภัยด้วยผมจะไปตรวจสอบ เดี๋ยวนี้”

“ช่างมันเถอะ”

สายตาของเขามองไปตามทางที่ผู้หญิงคนนั้นขับรถออก ไปแล้วยิ้มขึ้น เขาคล้ายกับนึกอะไรออกมาได้

จากนั้นเขารีบก้าวเดินเข้าไปด้านใน ในฐานะผู้แจ้งความ จิ่งหนิงจึงต้องเดินทางไปที่สถานี ตำรวจด้วย

เมื่อทำการบันทึกข้อความเสร็จแล้ว ผู้คนจากด้านนอกก็ พากันแห่กรูเข้ามา

คนที่เดินเข้ามาเป็นคนแรกก็คือคุณย่าจิ่งหวังเสว่เหมย เมื่อเธอเดินเข้ามาถึงก็ตบเข้าให้ที่หน้าของจิ่งหนิงอย่างจัง

“นังคนทรยศ? ”

หวังเสว่เหมยตัวสั่นสะท้านแล้วพูดว่า “แกรู้อยู่แก่ใจว่านั่น คือน้องสาวแท้ๆของแก ยังกล้าแจ้งตำรวจจับอีกอย่างนั้น เหรอ? แกต้องการจะยั่วให้ฉันโมโหตายยังไง? ”

จิงหนิงเช็ดโชคเลือดที่มุมปาก จากนั้นเงยดูหญิงชราที่ อยู่ตรงหน้า

“น้องสาวอย่างนั้นเหรอ? คุณหมายถึงจิ่งเสี่ยวหย่า? ”

“ไม่ต้องทำมาเป็นเสแสร้ง สื่อต่างๆพากันพูดกันให้แซ่ด บอกว่าคุณหนูจิงรองให้ท่าคู่หมั้นของคนอื่น แกไม่รู้เรื่อง หรือไง? ”

จึงหนิงก้มหน้าลงและยิ้มออกมาเบาๆ

“ผู้หญิงคนนั้นเป็นเธอนั่นเอง….ฉันก็คิดว่ากะหรี่ที่ไหน รีบร้อนจะหาเงินซะอีก ที่แท้ก็เป็นน้องสาวของฉันเอง? “

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท