วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – บทที่ 1077 แด๊ดดี้แย่เกินไปแล้ว

บทที่ 1077 แด๊ดดี้แย่เกินไปแล้ว

ยิ่งกว่านั้นอีก ถึงแม้ว่าอยากจะเข้มงวด ก็ไม่แน่ที่เธอจะเข้มงวดได้

ถึงยังไงใครก็ไม่สามารถต่อต้านคนอย่างเจ้าตัวเล็กที่อ่อนนุ่มทั้งสองอย่างนี้ได้ล่ะ

จิ่งหนิงจนใจกอดพวกเขาไว้ในอ้อมอก ถอนหายใจพูดว่า “ได้ล่ะงั้นพวกแกสามารถเล่นได้อีกสักพัก ก่อนห้าทุ่มจะต้องเข้านอนได้ไหม?”

ซาลาเปาน้อยทั้งสองล้วนพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีกอย่างหนักๆ

อยู่ดีๆดึงมือไว้อีก

“หม่ามี๊ หม่ามี๊ คืนนี้พวกเราอยากนอนด้วยกันกับท่าน”

จิ่งหนิงอึ้งชะงักไปหนึ่งที ยังไม่ทันที่จะตอบกลับ ข้างหลังส่งเสียงเย็นชาของลู่จิ่งเซินมา

“ฝันไปเถอะ! ดึกแล้ว ไสหัวกลับไปนอน!”

พูดจบ ก็ดึงจิ่งหนิงเข้าไป

ตอนที่กำลังจะปิดประตู คาดไม่ถึงประตูกลับถูกซาลาเปาน้อยทั้งสองขวางไว้เลย

จิ้งเจ๋อน้อยวิ่งต๊อกๆๆเข้ามากอดขาของจิ่งหนิงไว้ อานอานก็ดึงข้อมือของจิ่งหนิงไว้ทันทีเช่นกัน

ซาลาเปาน้อยทั้งสอง มีเหตุผลจนพูดได้เต็มปากเต็มคำจ้องมองลู่จิ่งเซินอยู่ เสียงดังพูดว่า “แด๊ดดี้ ท่านยึดครองหม่ามี๊ไว้นานมากแล้ว ช่วงเวลาที่อยู่นอกประเทศพวกเราล้วนไม่ได้แย่งชิงกับท่าน! ตอนนี้หม่ามี๊ยากที่จะกลับมาถึงข้างกายของพวกเรา ท่านยังอยากจะแย่งชิงหม่ามี๊กับพวกเราอีกเหรอ? แด๊ดดี้ ท่านแย่เกินไปแล้ว! หม่ามี๊คืนนี้ท่านยังคงนอนเป็นเพื่อนพวกเราเถอะ ได้หรือไม่ล่ะ!”

ซาลาเปาน้อยทั้งสองหนึ่งซ้ายหนึ่งขวาพัวพันจิ่งหนิงอยู่ ใจของจิ่งหนิงล้วนละลายแล้ว ที่ไหนจะปฏิเสธได้อีกล่ะ?

เธอก็รับปากอย่างรีบเร่งมากเลย

“ได้ได้ได้ คืนนี้ฉันนอนเป็นเพื่อนพวกแก”

พอคำพูดนี้พูดออกไป ใบหน้าของลู่จิ่งเซินขึงลับลงโดยสิ้นเชิง

แต่เห็นได้ชัดมาก ตอนนี้ไม่มีคนแคร์ความรู้สึกของเขาแล้ว

จิ่งหนิงไม่ได้พูดอะไรอีก จูงซาลาเปาน้อยทั้งสองอยู่ ไปยังห้องนอนของพวกเขา

ดังนั้นที่นั่นเหลือเพียงแค่ลู่จิ่งเซินยืนโดดเดี่ยวเดียวดายอยู่ในห้องนอนคนเดียว

วิลล่าใหญ่มาก ยามปกติจิ้งเจ๋อน้อยกับอานอานล้วนแยกย้ายไปนอนห้องของตนเอง

แต่เนื่องเพราะพวกเขาทั้งสองล้วนอยากจะนอนกับจิ่งหนิง ดังนั้นคืนนี้ก็แยกออกไม่ได้แล้ว

เตียงที่อยู่ห้องนอนอานอานค่อนข้างใหญ่หน่อย สุดท้ายจิ่งหนิงก็พาจิ้งเจ๋อน้อยกับอานอานไปที่ห้องนอนของอานอาน

ทั้งสามคนนอนอยู่บนเตียงเดียวกัน กลับไม่รู้สึกเบียดกันสักนิด

เนื่องเพราะห้องนอนของอานอาน แม้ว่ายังเป็นการออกแบบสำหรับเด็ก แต่ถึงแม้เป็นเตียงของเด็กคนหนึ่ง ก็มีสองเมตรกว่า ไม่กลัวว่าจะนอนพอเลยสักนิด

จิ่งหนิงยิ้มพูดว่า “เอาล่ะ ตอนนี้ฉันเข้ามาแล้ว พวกแกอยากจะให้ฉันทำอะไรล่ะ?”

อานอานดึงหนังสือนิทานเล่มหนึ่งออกจากข้างๆยัดใส่เข้าไปในมือของเธอ

“หม่ามี๊ ฉันอยากจะฟังนิทาน”

จิ่งหนิงพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก ทั้งเปิดหนังสือทั้งถามว่า “ได้แกอยากจะฟังนิทานอะไรล่ะ?”

“ฉันอยากจะฟังนิทานของราชินีหิมะ”

แม้ว่าจิ้งเจ๋อน้อยไม่ชอบฟังราชินีหิมะ แต่ตั้งแต่เด็กเขาก็รู้ว่าเด็กผู้ชายต้องยอมอ่อนข้อให้เด็กผู้หญิง

พี่สาวเป็นเด็กผู้หญิง ในเมื่อเธอชอบราชินีหิมะ งั้นก็ฟังราชินีหิมะเถอะ!

ดังนั้นจิ้งเจ๋อน้อยไม่ได้พูดเลย

จิ่งหนิงก็ถือหนังสือไว้เล่านิทานราชินีหิมะให้พวกเขาฟังเสียงเบาๆช้าๆ

ซาลาเปาน้อยทั้งสองหนึ่งซ้ายหนึ่งขวาพิงอยู่ในอ้อมอกของเธอ ฟังเสียงอ่อนโยนของเธออยู่ ผ่านไปไม่นานก็ส่งเสียงการหายใจที่เบาๆช้าๆและยาวนานออกมา

พอจิ่งหนิงก้มหัวดู เห็นเพียงซาลาเปาน้อยทั้งสองล้วนหลับไปแล้ว

เธออดไม่ได้ที่จะยิ้มแล้วยิ้มอีก หันข้างจูบหนึ่งทีอยู่บนหน้าผากของซาลาเปาน้อยทั้งสอง

จากนั้นดึงแขนของตนเองออกอย่างเบาๆ ห่มผ้าห่มให้พวกเขาดีๆอีก

กำลังเตรียมตัวจะปิดไฟนอน อยู่ดีๆได้เห็นเงาดำลับๆล่อๆอยู่หน้าประตู กำลังค่อยๆเดินเข้ามา

หนังตาเธอกระตุกหนึ่งที ยังไม่ทันที่จะพูด ข้อมือก็ถูกคนจับไว้

ในใจจิ่งหนิงตื่นตะลึงทันที ถามเสียงเบาว่า “คุณทำอะไรล่ะ?”

ลู่จิ่งเซิน ฮึ เสียงเบาๆหนึ่งที “อนุญาตให้เพียงพวกเขานอนกับคุณ ไม่อนุญาตให้ผมนอนกับคุณเหรอ?”

จิ่งหนิงหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้

“คุณนี่หึงแนวไหนอยู่ล่ะ? นี่เป็นลูกสาวของคุณกับลูกชายของคุณนะ”

ลู่จิ่งเซิน ฮึ อีกเสียงหนึ่ง

ในใจครุ่นคิดอยู่ ถ้าไม่ใช่เห็นแก่ว่าเป็นสายพันธุ์ของตนเอง เขาจะไม่อนุญาตจิ่งหนิงเข้ามาล่ะ

สามารถให้ยืมจิ่งหนิงเล่านิทานแก่พวกเขาครึ่งชั่วโมงกว่าเป็นบุญคุณยิ่งใหญ่กับพวกเขาแล้ว

ลู่จิ่งเซินอุ้มซาลาเปาน้อยทั้งสองไปยังข้างๆหน่อย จากนั้นหยิบหมอนเบียดเข้าไปตรงกลาง กอดจิ่งหนิงไว้ในอ้อมอก

จิ่งหนิงทั้งรู้สึกโมโหทั้งรู้สึกน่าขำจริงๆเลย ผลักเขาแล้วผลักเขาอีก

“เหว่ย กลับไปห้องนอนของตัวคุณเลย เตียงนี้เล็กเกินไปแล้ว พวกเราคนมากมายขนาดนี้ นอนไม่พอเลยสักนิด”

ลู่จิ่งเซิน ฮึ เสียงเบาๆพูดว่า “เตียงสองเมตรกว่าเล็กได้ยังไงล่ะ? พวกเขาเด็กทั้งสองยึดพื้นที่ไม่ค่อยเท่าไหร่อีก นอนพออยู่แล้ว”

พูดอยู่ก็กอดจิ่งหนิงไว้ พูดเสียงต่ำว่า “เวลาดึกแล้ว รีบนอนเถอะ”

จิ่งหนิงที่ไหนจะนอนหลับได้? มือของลู่จิ่งเซินไม่ค่อยซื่ออยู่ตลอด ขยับไปมาอยู่ระหว่างเอวของเธอ

เธอกลัวว่าเมื่อไหร่ที่เด็กทั้งสองตื่นขึ้นมา เห็นฉากนี้ งั้นก็ไม่เหมาะกับเด็กแล้วจริงๆ

เธอได้แต่ถอยก้าวหนึ่งพูดว่า “คุณกลับไปห้องนอนของคุณก่อนเถอะ รอพวกเขาหลับสนิทแล้ว ฉันค่อยไป”

ลู่จิ่งเซินยักคิ้วแล้วยักคิ้วอีก “จริงนะ?”

จิ่งหนิงจนใจจนถอนหายใจพูดว่า “จริงล่ะ จริงล่ะ ถ้าไม่จริง หากดึกดื่นเที่ยงคืนคุณเข้ามาอีกทำยังไงล่ะ?”

ลู่จิ่งเซินคิดดู รู้สึกก็ใช่

ดังนั้นนี่จึงไม่ได้ทำให้เธอลำบากใจ กอดหมอนไว้ออกไปเลย

จิ่งหนิงจนใจจริงๆ

ได้แต่หลังจากกล่อมซาลาเปาน้อยทั้งสองหลับสนิท แน่ใจว่าจะไม่ตื่นขึ้นมาอีก นี่จึงออกไปอย่างเงียบสงบ

ดังนั้น เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากตอนที่ซาลาเปาน้อยทั้งสองตื่นขึ้นมา พบเห็นบนเตียงไม่มีเงาคนของจิ่งหนิง

และหลังจากออกไป เห็นจิ่งหนิงออกจากห้องนอนของเธอกับลู่จิ่งเซินอีก

ความโกรธแค้นของซาลาเปาน้อยทั้งสองยิ่งมากแล้ว

จิ่งหนิงเห็นสีหน้าของพวกเขาทั้งสองโกรธแค้นเต็มใบหน้า ก็มีความอึดอัดเล็กน้อย

เธอลูบจมูกอยู่ยิ้มแล้วยิ้มอีก กำลังคิดว่าจะอธิบายอะไรสักหน่อย

อยู่ดีๆอานอานดึงมือของเธอไว้ทันที ถามอย่างเอาจริงเอาจังว่า “หม่ามี๊ เมื่อคืนแด๊ดดี้อาศัยตอนพวกเราไม่ทันสังเกตขโมยท่านไปแล้วใช่หรือไม่ล่ะ? ย่อมเป็นเขาบีบบังคับท่านใช่หรือไม่? ท่านย่อมอยากจะนอนกับพวกเราใช่หรือไม่ล่ะ?”

รอยยิ้มของจิ่งหนิงแข็งทื่อทันที คำพูดที่กำลังเตรียมตัวจะอธิบาย แป๊บเดียวติดอยู่ในคอเลย

อยู่ภายใต้สายตาที่เฝ้ารอคอยของซาลาเปาน้อยทั้งสอง มโนธรรมของเธอยืนหยัดเพียงแค่ไม่กี่วินาที ก็ทิ้งอาวุธยอมแพ้โดยสิ้นเชิง

พยักหน้าแล้วพยักหน้าอีกอย่างหนักๆ “ใช่ พวกแกพูดไม่ผิด เขาบีบบังคับฉันล่ะ”

“ฉันก็รู้!”

อานอานกำกำปั้นกำแล้วกำอีกอย่างหนักๆ โกรธแค้นเต็มใบหน้า

“ฉันก็รู้จะเป็นเช่นนี้ แด๊ดดี้แย่เกินไปแล้ว!”

จิ้งเจ๋อน้อยก็ฮึแล้วฮึอีกอย่างไม่พอใจเช่นกัน

“ลูกผู้ชายอกสามศอก พูดคำไหนคำนั้น แด๊ดดี้พูดแล้วเสียคำพูด ผมไม่ชอบแด๊ดดี้แล้ว”

จิ่งหนิงถูกพวกซาลาเปาน้อยทำจนหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้ ก็อยู่ในเวลานี้ ลู่จิ่งเซินพออกพอใจเป็นอย่างยิ่งออกมาจากห้องนอน

ตอนเห็นซาลาเปาน้อยที่โกรธแค้นเต็มใบหน้าทั้งสอง นัยน์ตาของเขาแว็บผ่านความหวาดผวาหนึ่งที แต่ไม่นานก็เงียบสงบลง

แกล้งทำเหมือนไม่มีอะไรเดินผ่านต่อหน้าพวกเขา กระทั่งยังบิดขี้เกียจหนึ่งทีอย่างโอหัง

ซาลาเปาน้อยทั้งสอง “……”

แด๊ดดี้แย่เกินไปแล้วจริงนะ จริงนะ จริงนะ!

ความโกรธแค้นแบบนี้ อยู่ต่อเนื่องกันตลอดทั้งวัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Status: Ongoing

บทที่ 1 จับชู้คาเตียง

“มีถุงยางดูเร็กซ์ ดูอัล เพลย์เชอร์ไซซ์กลางไหม? ”

“มีค่ะ”

“แล้วก็ไวเบรเตอร์กับชุดนางแมวสวาทชุดหนึ่งด้วย”

“ได้ค่ะ จัดส่งที่ไหนคะ? ”

“โรงแรมลี่หัว ห้อง2202”

“ค่ะ ขอบคุณค่ะ”

เมื่อจิ่งหนิงมาถึงโรงแรมลี่หัวก็เป็นเวลาห้าทุ่มแล้ว

เวลาดึกดื่นขนาดนี้ สำหรับคนที่ทำธุรกิจสินค้าผู้ใหญ่ แบบนี้ การนำส่งสินค้าด้วยตนเองไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่

นัก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหญิงสาวหน้าตาสะสวยอย่างเธอ

แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ทุก สิ่งทุกอย่างต้องแลกมาด้วยเงิน อีกอย่างมู่ยั่นเจ๋อกำลังจะ กลับมาอีกไม่กี่วันนี้

คบกันมาตั้งหกปี แต่เวลากว่าครึ่งเป็นรักระยะไกล เขา ต้องดูแลธุรกิจทั้งในและนอกประเทศ เธอจะทำตัววุ่นวาย ส่งผลต่อการทำงานของเขาไม่ได้

ดีที่ความรักของทั้งสองคนนั้นค่อนข้างหวานชื่นนอกจากงานในแต่ละวันแล้ว เธอยังมีธุรกิจเล็กๆของตัวเอง ด้วย อีกไม่กี่วันเป็นวันเกิดของเขา เธอตั้งใจจะมอบของ ขวัญให้เขาอย่างเซอร์ไพรซ์

เมื่อคิดได้ดังนั้น จึงหนิงก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

เธอขยับหมวกสีดำที่ใส่มาให้ปิดลงมาบังหน้าไว้ จากนั้น เดินถือกล่องสินค้าเข้าไปด้านใน

โรงแรมลี่หัว เป็นสถานที่ราคาแพงขึ้นชื่อของเมืองจิ้น ผู้คนที่เดินทางมาเข้าพักล้วนเป็นระดับมหาเศรษฐี

ความโอ่อ่างดงามที่ห้องโถงไม่ต้องพูดถึง แม้แต่ลิฟต์ก็ ถูกประดับตกแต่งด้วยเงินและทองคำ คนที่ยืนอยู่ด้านใน ถูกแสงไฟส่องสว่างไสว

จิ่งหนิงเดินถือกล่องเข้าไปแล้วมองหาจุดหมาย

ใบหน้าอันงดงามถูกปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง มองเห็นเพียงดวงตา เป็นประกายคู่นั้น แฝงไปด้วยความมั่นใจ

ลิฟต์ขึ้นสู่ชั้น22 “ตั้ง” ประตูเปิดออก เธอเดินออกไป กระทั่งถึงห้อง2202และกดกริ่งที่ประตู

ประตูยังไม่เปิดออก ก็มีเสียงหนุ่มสาวดังขึ้น

“อาเจ๋อ อุ๊ย? อย่าค่ะ….ของน่าจะมาส่งแล้ว”

“รอผมนะ เดี๋ยวมา”

จึงหนิงยืนยิ้มอยู่ที่ปากประตูอย่างอดไม่ได้ ของยังมาส่งไม่ถึงก็เริ่มกันแล้วเหรอเนี่ย? รีบร้อนกันจริงๆ?

ประตูถูกเปิดออกในไม่ช้า ชายผู้ออกมารับของสวมผ้า ขนหนูเพียงผืนเดียว บนร่างกายของเขายังคงมีไอน้ำอยู่

จิ่งหนิงไม่ได้มองหน้าเขา เธอยื่นกล่องใส่ของออกไป “843หยวนค่ะ? จ่ายเงินสดหรือว่าโอนคะ? ”

ชายผู้อยู่ตรงหน้าไม่ตอบ

ผ่านไปสองวินาที เสียงของชายผู้นั้นเอ่ยขึ้นว่า “.

หนิง?

จิ่งหนิงตกตะลึง เธอเงยหน้าขึ้นมอง

เมื่อเห็นชายที่ยืนอยู่ด้านหน้า ร่างกายกำยำ ผมเผ้าเปียก ปอน เขามีเพียงผ้าขนหนูสีขาวปิดบังร่างกายไว้ แสงไฟ เหลืองนวลส่องมายังร่างกายของเขา ผิวขาวเนียนและ ใบหน้าอันเกลี้ยงเกลาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาด

ใจ อีกทั้ง ทำตัวไม่ถูก

สีหน้าของจิงหนิงตกใจเสียจนหน้าซีด

“ปั่นเจ๋อ ใครคะ? ”

“ไม่มีอะไรครับ คนมาส่งของครับ”

มู่ยั่นเจ๋อรีบพูดขึ้นก่อนที่จิ่งหนิงจะเอ่ยอะไรออกมาจาก นั้นรีบหยิบเงินจากกระเป๋ายัดใส่มือเธอและหยิบของไป อย่างรวดเร็ว

เสียงประตูปิดลงดัง “ปัง?

จึงหนิงยังคงยืนอยู่ที่หน้าประตู มือของเธอเริ่มสั่น สีหน้า

เหนิงซีดเผือดลงทันที

เธอหัวเราะออกมาเบาๆ

และมองไปยังธนบัตรที่เขายัดเข้ามาไว้ในมือ นี่มันเรื่อง ตลกบ้าบออะไรกัน? เธอหัวเราะเยาะในความโง่เขลาของ ตัวเองจริงๆ

เสียงชายหนุ่มและหญิงสาวเล็ดลอดออกมานอกห้อง เธอก็ถอนหายใจยาวๆออกมา และกลั้นน้ำตาที่คลอเบ้าเอา

ไว้

เธอหันหลังกลับและเดินตรงไปยังลิฟต์และหยิบมือถือ

ออกมา

“สวัสดีค่ะ สถานีตำรวจใช่ไหมคะ? ฉันจะขอแจ้งความ ว่ามีชายหญิงค้าประเวณี ห้องพักเลขที่.”

ต่อมา20นาที

รถตำรวจคันหนึ่งจอดลงที่หน้าโรงแรมลี่หัว ข้างๆยังมีนัก ข่าวและช่างกล้องเดินตามมา เมื่อเห็นคนที่ถูกจับตัวออกมา นักข่าวก็พากันแห่เข้าไป

“นายมู่ มีคนแจ้งความว่าคุณเสพยาและซื้อบริการทาง เพศ จริงหรือไม่คะ? ”

“นายมู ในฐานะผู้สืบทอดมู่ชื่อกรุ๊ป คุณคิดว่าการกระทำ เช่นนี้เหมาะสมหรือไม่คะ?

“นายมู่ครับ ผู้หญิงคนที่อยู่กับคุณเป็นใครกันครับ? มี

ข่าวลือว่าเป็นดาราในวงการ จริงหรือไม่ครับ? ” “นายมู..”

มู่ยั่นเจ่อถูกนักข่าวล้อมไว้ แม้แต่ตำรวจก็ห้ามไว้ไม่ได้ เขากัดฟันกรอดๆและตะโกนออกมาว่า “ไปให้พ้น? ” นักข่าวพากันตกอกตกใจและถอยหลังออกไป

มู่ยั่นเจ๋อมองไปยังฝูงชน เขาพบเข้ากับจิ่งหนิง สายตา ของเขาแฝงไปด้วยความอาฆาตแค้น

นี่คือสิ่งที่คุณต้องการใช่ไหม?”

จึ่งหนิงเผยอยิ้ม สายตาแฝงไปด้วยการดูถูก

“คุณทำแบบนี้อย่าหวังว่าจะได้ผมไปครอง”

จิ่งหนิงเดินหน้าขึ้นไปแล้วเงื้อมือขึ้นต่อหน้านักข่าวและ

ตำรวจ

11 เพียะ!”

ฝ่ามือของเธอตบลงไปที่หน้าเขาอย่างจัง มู่ยั่นเจ่อถูกตบ เสียจนหน้าหัน

บรรยากาศรอบด้านเงียบลงทันใด

ทางตำรวจตกตะลึงอ้าปากค้าง ” คุณผู้หญิงคนนี้คือ.

%3D

%3D ขอโทษนะคะ มือลั่นไปเอง!”

เธอยิ้มด้วยแววตาเยือกเย็นแล้วทำท่าทางนวดข้อมือ แล้วมองไปยังมู่ยั่นเจ่อด้วยสายตาอาฆาต จากนั้นพูดด้วย น้ำเสียงเยือกเย็นว่า

กระดาษชำระที่ตกลงไปในชักโครก คุณคิดว่าใครยังจะต้องการอีกกัน?ตบเมื่อสักครู่เป็นแค่ดอกเบี้ยเท่านั้น ทุน ที่เหลือฉันจะให้คุณชดเชยภายในสามวัน!”

แววตาของมู่ยั่นเจ่อตื่นตระหนก อะไร! ทุนอะไร !!” จึ่งหนิงขมวดคิ้วขึ้น ” คุณแน่ใจนะว่าจะให้ฉันกระตุ้น

ความจำคุณ

มู่ยั่นเจ๋อก้มหน้าลงทันที

เธอหัวเราะหีๆ เป็นเสียงหัวเราะที่แฝงไปด้วยความดูถูก เหยียดหยาม

ทางตำรวจเห็นเช่นนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาโบกมือ เป็นสัญญาณว่าให้คุมตัวขึ้นรถไปได้ เมื่อเขาเดินทางจากไป บรรดานักข่าวก็ไม่ได้รีรอ รีบตาม

ไปทันที

เดิมทีที่จากประตูทางเข้าโรงแรมเต็มไปด้วยผู้คน ตอนนี้ กลับว่างเปล่าไม่เหลือใคร

จึงหนิงยังยืนอยู่ที่นั่นจนกระทั่งควบคุมอารมณ์ได้ เธอจึง ได้เตรียมตัวจากไป

แต่เธอคาดไม่ถึงว่าเมื่อหันหลังกลับไปจะพบเข้ากับแวว ตาคู่หนึ่งที่จับจ้องเธออยู่

ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำ ร่างกายกำยำสูงใหญ่ ผมสั้นจัด ทรงเป็นระเบียบ แววตาแหลมคมนั้นทำให้ผู้พบเห็น หลงใหล

ใบหน้าอันหล่อเหลาภายใต้แสงยามค่ำคืนแบบนี้ เผยให้เห็นออร่าที่กลมกลืนไปกับบรรยากาศรอบข้าง จิ่งหนิงรู้สึกว่าเธอเคยเห็นชายคนนี้มาก่อน

จากนั้นเธอหันไปเห็นเลขาของเขาที่ยืนอยู่ด้านหลัง อีก ทั้งรถปอร์เช่สีเงินที่อยู่ข้างๆ เธอก็คิดได้ว่าจะไปรู้จักบุคคล ที่โดดเด่นแบบนี้ได้ยังไงกัน?

เธอสลัดความคิดออกจากหัว หันหลังแล้วเดินจากไป จนกระทั่งร่างเล็กๆของเธอเข้าสู่รถยนต์ ลู่จิ่งเซินจึงได้

ละสายตามาจากเธอและถามขึ้นว่า “คนเมื่อกี้นี้คือใคร?

ซูมู่ที่ยืนอยู่ด้านหลังรีบตอบขึ้นว่า ท่านหมายถึงคนที่ถูก ตำรวจจับไปเมื่อกี้หรือครับ? เหมือนว่าจะเป็นคุณชายขอ งมู่ชื่อกรุ๊ปที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศเมื่อหลายวันก่อน”

ลู่จิ่งเซินขมวดคิ้วแล้วบอกว่า “ผมหมายถึงคนผู้หญิงคน เมื่อกี้”

“ครับ? ” ซูมู่งุนงงเล็กน้อย “ผู้หญิงคนไหนกัน? ”

เมื่อเห็นแววตาอันไม่พอใจของลู่จิ่งเซิน ซูมู่ก็รีบพูดขึ้นมา ว่า “ท่านประธานครับ ต้องขออภัยด้วยผมจะไปตรวจสอบ เดี๋ยวนี้”

“ช่างมันเถอะ”

สายตาของเขามองไปตามทางที่ผู้หญิงคนนั้นขับรถออก ไปแล้วยิ้มขึ้น เขาคล้ายกับนึกอะไรออกมาได้

จากนั้นเขารีบก้าวเดินเข้าไปด้านใน ในฐานะผู้แจ้งความ จิ่งหนิงจึงต้องเดินทางไปที่สถานี ตำรวจด้วย

เมื่อทำการบันทึกข้อความเสร็จแล้ว ผู้คนจากด้านนอกก็ พากันแห่กรูเข้ามา

คนที่เดินเข้ามาเป็นคนแรกก็คือคุณย่าจิ่งหวังเสว่เหมย เมื่อเธอเดินเข้ามาถึงก็ตบเข้าให้ที่หน้าของจิ่งหนิงอย่างจัง

“นังคนทรยศ? ”

หวังเสว่เหมยตัวสั่นสะท้านแล้วพูดว่า “แกรู้อยู่แก่ใจว่านั่น คือน้องสาวแท้ๆของแก ยังกล้าแจ้งตำรวจจับอีกอย่างนั้น เหรอ? แกต้องการจะยั่วให้ฉันโมโหตายยังไง? ”

จิงหนิงเช็ดโชคเลือดที่มุมปาก จากนั้นเงยดูหญิงชราที่ อยู่ตรงหน้า

“น้องสาวอย่างนั้นเหรอ? คุณหมายถึงจิ่งเสี่ยวหย่า? ”

“ไม่ต้องทำมาเป็นเสแสร้ง สื่อต่างๆพากันพูดกันให้แซ่ด บอกว่าคุณหนูจิงรองให้ท่าคู่หมั้นของคนอื่น แกไม่รู้เรื่อง หรือไง? ”

จึงหนิงก้มหน้าลงและยิ้มออกมาเบาๆ

“ผู้หญิงคนนั้นเป็นเธอนั่นเอง….ฉันก็คิดว่ากะหรี่ที่ไหน รีบร้อนจะหาเงินซะอีก ที่แท้ก็เป็นน้องสาวของฉันเอง? “

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน