วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – บทที่ 1081 คลอดก่อนกำหนด

บทที่ 1081 คลอดก่อนกำหนด

ความโกรธแค้นทั้งหมดที่ผ่านมาไม่ว่าจะถูกหรือผิด พอมาอยู่ต่อหน้าความเป็นความตายก็เพลหมือนกับว่าจะไม่ได้สำคัญมากขนาดนั้นแล้ว

ตอนนี้ความหวังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาก็คือสามารถทำให้เฉียวฉีมีชีวิตอยู่ต่อไปดี ๆ ได้

ขอแค่สามารถบรรลุเป้าหมายนี้ได้ จะให้เข้าจ่ายค่าตอบแทนยังไงก็ได้

ก่อนหน้านี้หลังจากที่หนานกงจิ่นตายไปแล้ว พวกเขาก็หาต้นเงินทองเจอส่วนหนึ่งในที่พักของหนานกงจิ่น

แต่ว่าต้นเงินทองพวกนี้ก็พอให้เฉียวฉีสบายได้แค่ปีเดียวเท่านั้น ส่วนที่เหลือก็โดนพวกคนตระกูลหนานที่ได้ยินข่าวคราว วิ่งมาขอส่วนแบ่งไปหมดตั้งนานแล้ว

ของพวกนี้มันเกี่ยวข้องถึงความเป็นความตายทั้งนั้น แล้วก็คงไม่มีใครเอามันออกมาอีกแล้ว

และที่สำคัญจะพึ่งแต่ต้นเงินทองมีชีวิตอยู่รอดต่อไป ที่สุดแล้วก็ไม่ใช่ทางออกที่ดี

ด้วยเหตุนี้ยังไงก็จะต้องคิดหาวิธีวิจัยยาถอนพิษออกมาถึงจะได้

แต่ว่าตาเห็นเวลาก็ผ่านมาตั้งหลายเดือนแล้ว แต่ยาถอนพิษกลับไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย

กู้ซือเฉียนจึงอดไม่ได้ที่จะร้อนใจขึ้นมา

ส่วนทางด้านนี้ ก็เห็นว่าท้องของจิ่งหนิงยิ่งอยู่ก็ยิ่งโตขึ้นแล้ว อีกประมาณครึ่งเดือนกว่าก็จะถึงกำหนดคลอดแล้ว

ตอนนี้ลู่จิ่งเซินเองก็ไม่ค่อยไปบริษัทซะเท่าไหร่แล้ว และอยู่เป็นเพื่อนเธอทั้งวันตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเลย

ไม่ว่าจะเป็นท่านปู่ท่านย่าหรือว่าเชวซู่กับโม่ไฉ่เวยต่างก็บอกกับเขาแล้วว่า ให้เขาไม่ต้องตื่นเต้นขนาดนี้ ทุกคนอยู่กันเยอะแยะขนาดนี้ ไม่มีทางที่จะปล่อยให้จิ่งหนิงเป็นอะไรแน่

ที่สำคัญยังมีโม่หนานอยู่ข้างกายจิ่งหนิงตลอดเวลา ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาจริง ๆ พอถึงตอนนั้นค่อยบอกเขา แล้วเขารีบกลับมาจากบริษัทก็ยังทันอยู่

แต่ว่าลู่จิ่งเซินยังไงก็ไม่ยอมฟัง ในเมื่อถึงเรื่องของบริษัทจะสำคัญยังไง ก็ไม่มีทางสำคัญกว่าจิ่งหนิงอยู่แล้ว

เขาอยู่เป็นเพื่อนจิ่งหนิงไปด้วย แล้วก็ทำงานออนไลน์ผ่านคอมพิวเตอร์ไปด้วย และก็ไม่ได้มีความไม่สะดวกอะไรมากนัก

พอจิ่งหนิงเห็นเป็นแบบนี้ ก็ปล่อยเขาทำตามใจไป

แต่ว่าที่จริงในใจก็รู้สึกหวานชื่นมาก

ในเมื่อจะมีผู้หญิงท้องคนไหนที่ไม่อยากให้สามีอยู่ข้างกายด้วยตลอดล่ะ?

ผู้หญิงคนไหนจะไม่อยากให้สามีเป็นห่วงเป็นใยตัวเองแบบนี้ล่ะ?

จิ่งหนิงเองก็ไม่แตกต่าง

ทั้งสองคนก็เลยอยู่ด้วยกันอย่างตัวติดหนึบไปช่วงหนึ่ง

ค่ำวันนี้หลังจากที่ทานอาหารเสร็จแล้ว ลู่จิ่งเซินก็กำลังเดินเล่นเป็นเพื่อนจิ่งหนิงอยู่

ถึงแม้ว่าวิลล่าเฟิงเฉียวจะใหญ่โตมาก แต่ว่าทิวทัศน์ละแวกใกล้ ๆ จิ่งหนิงก็ดูจนเบื่อแล้ว เพราะฉะนั้นหลายวันมานี้ก็เลยให้ลู่จิ่งเซินพาเธอออกมาเดินเล่นในสวนสาธารณะข้างนอกที่วิวสวยกว่าอยู่ตลอด

จิ่งหนิงเคยคลอดลูกมาก่อนแล้ว จึงมีประสบการณ์

รู้ดีว่าช่วงเวลาก่อนถึงกำหนดคลอดนั้น จะต้องคอยออกกำลังกายอยู่ทุกวัน ถึงจะทำให้คลอดลูกได้อย่างราบรื่นพอ

เพราะฉะนั้นช่วงนี้ ทุก ๆ วันเธอจึงต้องมาเดินเล่นหลายชั่วโมง

เรี่ยวแรงของจิ่งหนิงนั้นดีมาก ถึงแม้จะท้องลูกแฝดอยู่ และท้องก็ใหญ่กว่าของคนท้องปกติตั้งเท่าหนึ่ง

แต่สำหรับเธอแล้ว กลับไม่มีความเหน็ดเหนื่อยมากเท่าไหร่

ลู่จิ่งเซินเองก็อยู่กับเธอมาตลอดด้วย

เพียงแต่ว่าวันนี้ขณะที่ทั้งสองคนกำลังเดินเล่นอยู่นั้น อยู่ ๆ จิ่งหนิงก็ได้กลิ่นหอมกลิ่นหนึ่งลอยมา

พอดมดูดี ๆ แล้ว ก็พบว่าลอยออกมาจากถนนขายของกินเล่นเส้นหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลนี้

ตั้งแต่ที่เธอตั้งท้องมารสชาติอาหารที่ชอบก็ค่อนข้างแปลก และมักจะพอนึกถึงอะไรก็จะกินเลย

พอลู่จิ่งเซินเห็นท่าทีของเธอไม่ปกติ และมองไปทางถนนขายของกินเล่นไม่หยุด ก็รู้เลยว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ จึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกขำขึ้นมาเล็กน้อย แล้วถามขึ้นว่า “หิวแล้วใช่ไหม?”

จิ่งหนิงรู้สึกเขินอายเล็กน้อย แล้วลูบท้องไปและพยักหน้าให้เล็กน้อย

ลู่จิ่งเซินถามขึ้นว่า “อยากจะกินอะไร? เดี๋ยวผมไปซื้อให้คุณ”

จิ่งหนิงคิดดูเล็กน้อย “เอาอันที่กลิ่นหอมลอยมาเมื่อกี้ ฉันเองก็ไม่รู้ว่าคืออะไร คุณช่วยไปซื้อตามกลิ่นหอมอันนี้ให้ฉันเลยได้หรือเปล่าคะ?”

ลู่จิ่งเซินพยักหน้าเล็กน้อย แล้วก็เอามือของจิ่งหนิงมอบให้กับโม่หนานที่อยู่ข้าง ๆ

และพูดขึ้นว่า “พวกคุณนั่งกันอยู่ที่นี่สักครู่ เดี๋ยวผมจะรีบมาแล้ว”

โม่หนานพยักหน้าเล็กน้อย แล้วก็พยุงจิ่งหนิงนั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ข้าง ๆ

ที่จริงถ้าพูดตามหลักแล้ว ไอ้งานพวกวิ่งไปซื้อของอะไรแบบนี้ไม่ควรจะให้ลู่จิ่งเซินมาทำ

โม่หนานก็สามารถทำได้

แต่ว่าในช่วงที่จิ่งหนิงกำลังตั้งท้องอยู่นี้ มีเรื่องราวมากมายลู่จิ่งเซินล้วนพยายามไปทำด้วยตัวเอง ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่เล็ก ๆ อย่างซื้อของแบบนี้ เขาก็อยากจะเป็นคนไปทำเองกับมือ

จิ่งหนิงมองเห็นอยู่กับตา ชื่นมื่นอยู่ในใจ

แม้แต่โม่หนานก็ยังอดไม่ได้ที่จะชื่นชมลู่จิ่งเซินอยู่บ่อย ๆ ว่าเป็นผู้ชายดี ๆ ที่หาได้ยากในโลกจริง ๆ เธอไม่เคยเห็นผู้ชายที่ดูแลเอาใจใส่ขนาดนี้มาก่อน

พอจิ่งหนิงเห็นเข้าก็หัวเราะเยาะเธออย่างขำขัน แล้วถามเธอว่าอยากมีความรักแล้วใช่ไหม? อยากจะแต่งงานแล้วเหรอ?

ถ้าอยากจะแต่งงานจริง ๆ เธอสามารถช่วยหล่อนสอดส่องดูสักหน่อยได้นะ

และคิดไม่ถึงทุกครั้งที่พูดถึงหัวข้อนี้ ใบหน้าของโม่หนานก็จะแดงขึ้นมา แล้วก็บอกปัดเปลี่ยนเรื่องไปหลากหลายรูปแบบ แต่กลับไม่ยอมพูดความจริง

จิ่งหนิงรู้สึกได้อย่างชาญฉลาดว่าเธอจะต้องมีเรื่องอยู่ในใจแน่ แต่ในเมื่อเธอไม่อยากพูด ตัวเองก็ไม่สะดวกที่จะถามเยอะ แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรเยอะอีก

ตามองเห็นลู่จิ่งเซินเดินไปทางถนนขายของกินเล่นแล้ว ทั้งสองคนก็นั่งลงพูดคุยกันอยู่ตรงนั้น

พอคุยกันไปคุยกันมา อยู่ ๆ จิ่งหนิงก็ร้องโอ๊ยขึ้นมาคำหนึ่ง

โม่หนานสีหน้าขาวซีดขึ้นมาทันที แล้วถามอย่างตื่นเต้นขึ้นว่า “เป็นอะไรเหรอ? ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?”

จิ่งหนิงส่ายหน้าเล็กน้อย แต่หัวคิ้วขมวดกันแน่นขึ้นมา

มือข้างหนึ่งกุมท้องเอาไว้ แล้วก็พูดขึ้นด้วยสีหน้าย่ำแย่เล็กน้อยว่า “แย่แล้ว ทำไมฉันถึงรู้สึกว่า……”

คำพูดของเธอยังไม่ทันได้พูดจบ จู่ ๆ โม่หนานก็เหมือนกับว่ามองเห็นอะไรบางอย่างเข้าแล้ว และก็ร้องอย่างตกใจขึ้นมา

“หนิงหนิง ที่ขาของเธอ……”

จิ่งหนิงเองก็ก้มหน้าลงไปดูด้วย แล้วก็มองเห็นของเหลวใส ๆ สายหนึ่ง ไหลลงมาตามขา

เพราะว่าตอนนี้เป็นฤดูร้อน เธอจึงใส่ชุดคลุมท้องที่ค่อนข้างโปร่งสบายอยู่ชุดหนึ่ง

ตาของเธอมองเห็นน้ำแบบนั้นไหลลงมาเช่นนี้ ในใจเธอก็ตื่นตระหนกขึ้นมา และร่ำร้องว่าแย่แล้ว

จึงรีบคว้ามือของโม่หนานมาจับไว้ แล้วพูดขึ้นว่า “รีบโทรศัพท์หาลู่จิ่งเซินเร็ว บอกเขาว่าถุงน้ำคร่ำฉันแตกแล้ว อาจจะคลอดแล้ว ให้เขารีบมาพาฉันไปส่งโรงพยาบาลเร็ว!”

พอโม่หนานได้ยิน ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยรู้อะไรมาก แต่ก็รู้ถึงความรุนแรงของเหตุการณ์อยู่

จึงรีบโทรศัพท์หาลู่จิ่งเซินอย่างรวดเร็ว

ผ่านไปไม่ถึงสองนาที ลู่จิ่งเซินก็วิ่งหายใจหอบกลับมาเลย

นึกภาพได้ยากมาก ระยะทางที่ตอนแรกจะต้องใช้เวลาเจ็ดแปดนาที แต่เขากลับวิ่งกลับมาภายในแค่สองนาที

พอมองเห็นจิ่งหนิง ก็รีบเดินเข้าไปแล้วช้อนตัวเธออุ้มขึ้นมา และวิ่งไปที่รถเลย

ที่จริงพูดตามหลักแล้ว ห่างจากกำหนดคลอดของจิ่งหนิงยังมีเวลาอีกหลายวัน

และก็เป็นเพราะแบบนี้ พวกเขาถึงได้ไม่รีบร้อนที่จะไปนอนรอที่โรงพยาบาลขนาดนั้น

ในเมื่อถึงแม้สิ่งแวดล้อมของโรงพยาบาลจะดีขนาดไหน อยู่ในที่พิเศษมากแค่ไหน แต่นั่นก็ยังเป็นโรงพยาบาลอยู่ดี

ถ้าเอาตามนิสัยของจิ่งหนิง จะต้องไม่ยินดีที่จะไปอยู่เฉย ๆ อยู่ที่นั่นแน่

เพราะฉะนั้นพวกเขาก็เลยกะว่ารอถึงวันสองวันก่อนจะคลอด แล้วค่อยไปนอน แบบนี้ก็ยังทันอยู่

และบวกกับจิ่งหนิงนั้นมีประสบการณ์ในการคลอดลูกมาก่อนแล้ว ไม่ได้ไม่คุ้นเคยกับทางด้านนี้ เพราะฉะนั้นก็เลยไม่ได้ตื่นเต้นอย่างคนท้องครั้งแรกแบบนั้น

แต่ใครก็คิดไม่ถึงว่าทำไมอยู่ดี ๆ จู่ ๆ บอกจะคลอดก็จะคลอดเลย?

และที่สำคัญถุงน้ำคร่ำยังแตกก่อนแล้วด้วย เรื่องแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องเล็กเรื่องหนึ่งแล้วนะ ถ้าไม่จัดการให้ดีอาจจะกลายเป็นหนึ่งศพสองชีวิตเลยก็ได้

ไม่ถูกต้องซิ ใช้กับตัวจิ่งหนิงนั้น ต้องเป็นหนึ่งศพสามชีวิตแล้ว!

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาแล้ว ลู่จิ่งเซินจะต้องร้อนใจมากแค่ไหน

แต่กลับเป็นจิ่งหนิงที่ค่อนข้างสงบนิ่งมากกว่า บนรถเธอคว้ามือของลู่จิ่งเซินมากุมไว้ แล้วก็พูดขึ้นว่า “คุณไม่ต้องเป็นห่วงฉัน ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันรู้สึกว่าอาการในตอนนี้ยังไม่เลว น่าจะไม่มีปัญหาใหญ่อะไร ทุกอย่างรอไปถึงโรงพยาบาลแล้วค่อยว่ากันค่ะ”

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Status: Ongoing

บทที่ 1 จับชู้คาเตียง

“มีถุงยางดูเร็กซ์ ดูอัล เพลย์เชอร์ไซซ์กลางไหม? ”

“มีค่ะ”

“แล้วก็ไวเบรเตอร์กับชุดนางแมวสวาทชุดหนึ่งด้วย”

“ได้ค่ะ จัดส่งที่ไหนคะ? ”

“โรงแรมลี่หัว ห้อง2202”

“ค่ะ ขอบคุณค่ะ”

เมื่อจิ่งหนิงมาถึงโรงแรมลี่หัวก็เป็นเวลาห้าทุ่มแล้ว

เวลาดึกดื่นขนาดนี้ สำหรับคนที่ทำธุรกิจสินค้าผู้ใหญ่ แบบนี้ การนำส่งสินค้าด้วยตนเองไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่

นัก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหญิงสาวหน้าตาสะสวยอย่างเธอ

แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ทุก สิ่งทุกอย่างต้องแลกมาด้วยเงิน อีกอย่างมู่ยั่นเจ๋อกำลังจะ กลับมาอีกไม่กี่วันนี้

คบกันมาตั้งหกปี แต่เวลากว่าครึ่งเป็นรักระยะไกล เขา ต้องดูแลธุรกิจทั้งในและนอกประเทศ เธอจะทำตัววุ่นวาย ส่งผลต่อการทำงานของเขาไม่ได้

ดีที่ความรักของทั้งสองคนนั้นค่อนข้างหวานชื่นนอกจากงานในแต่ละวันแล้ว เธอยังมีธุรกิจเล็กๆของตัวเอง ด้วย อีกไม่กี่วันเป็นวันเกิดของเขา เธอตั้งใจจะมอบของ ขวัญให้เขาอย่างเซอร์ไพรซ์

เมื่อคิดได้ดังนั้น จึงหนิงก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

เธอขยับหมวกสีดำที่ใส่มาให้ปิดลงมาบังหน้าไว้ จากนั้น เดินถือกล่องสินค้าเข้าไปด้านใน

โรงแรมลี่หัว เป็นสถานที่ราคาแพงขึ้นชื่อของเมืองจิ้น ผู้คนที่เดินทางมาเข้าพักล้วนเป็นระดับมหาเศรษฐี

ความโอ่อ่างดงามที่ห้องโถงไม่ต้องพูดถึง แม้แต่ลิฟต์ก็ ถูกประดับตกแต่งด้วยเงินและทองคำ คนที่ยืนอยู่ด้านใน ถูกแสงไฟส่องสว่างไสว

จิ่งหนิงเดินถือกล่องเข้าไปแล้วมองหาจุดหมาย

ใบหน้าอันงดงามถูกปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง มองเห็นเพียงดวงตา เป็นประกายคู่นั้น แฝงไปด้วยความมั่นใจ

ลิฟต์ขึ้นสู่ชั้น22 “ตั้ง” ประตูเปิดออก เธอเดินออกไป กระทั่งถึงห้อง2202และกดกริ่งที่ประตู

ประตูยังไม่เปิดออก ก็มีเสียงหนุ่มสาวดังขึ้น

“อาเจ๋อ อุ๊ย? อย่าค่ะ….ของน่าจะมาส่งแล้ว”

“รอผมนะ เดี๋ยวมา”

จึงหนิงยืนยิ้มอยู่ที่ปากประตูอย่างอดไม่ได้ ของยังมาส่งไม่ถึงก็เริ่มกันแล้วเหรอเนี่ย? รีบร้อนกันจริงๆ?

ประตูถูกเปิดออกในไม่ช้า ชายผู้ออกมารับของสวมผ้า ขนหนูเพียงผืนเดียว บนร่างกายของเขายังคงมีไอน้ำอยู่

จิ่งหนิงไม่ได้มองหน้าเขา เธอยื่นกล่องใส่ของออกไป “843หยวนค่ะ? จ่ายเงินสดหรือว่าโอนคะ? ”

ชายผู้อยู่ตรงหน้าไม่ตอบ

ผ่านไปสองวินาที เสียงของชายผู้นั้นเอ่ยขึ้นว่า “.

หนิง?

จิ่งหนิงตกตะลึง เธอเงยหน้าขึ้นมอง

เมื่อเห็นชายที่ยืนอยู่ด้านหน้า ร่างกายกำยำ ผมเผ้าเปียก ปอน เขามีเพียงผ้าขนหนูสีขาวปิดบังร่างกายไว้ แสงไฟ เหลืองนวลส่องมายังร่างกายของเขา ผิวขาวเนียนและ ใบหน้าอันเกลี้ยงเกลาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาด

ใจ อีกทั้ง ทำตัวไม่ถูก

สีหน้าของจิงหนิงตกใจเสียจนหน้าซีด

“ปั่นเจ๋อ ใครคะ? ”

“ไม่มีอะไรครับ คนมาส่งของครับ”

มู่ยั่นเจ๋อรีบพูดขึ้นก่อนที่จิ่งหนิงจะเอ่ยอะไรออกมาจาก นั้นรีบหยิบเงินจากกระเป๋ายัดใส่มือเธอและหยิบของไป อย่างรวดเร็ว

เสียงประตูปิดลงดัง “ปัง?

จึงหนิงยังคงยืนอยู่ที่หน้าประตู มือของเธอเริ่มสั่น สีหน้า

เหนิงซีดเผือดลงทันที

เธอหัวเราะออกมาเบาๆ

และมองไปยังธนบัตรที่เขายัดเข้ามาไว้ในมือ นี่มันเรื่อง ตลกบ้าบออะไรกัน? เธอหัวเราะเยาะในความโง่เขลาของ ตัวเองจริงๆ

เสียงชายหนุ่มและหญิงสาวเล็ดลอดออกมานอกห้อง เธอก็ถอนหายใจยาวๆออกมา และกลั้นน้ำตาที่คลอเบ้าเอา

ไว้

เธอหันหลังกลับและเดินตรงไปยังลิฟต์และหยิบมือถือ

ออกมา

“สวัสดีค่ะ สถานีตำรวจใช่ไหมคะ? ฉันจะขอแจ้งความ ว่ามีชายหญิงค้าประเวณี ห้องพักเลขที่.”

ต่อมา20นาที

รถตำรวจคันหนึ่งจอดลงที่หน้าโรงแรมลี่หัว ข้างๆยังมีนัก ข่าวและช่างกล้องเดินตามมา เมื่อเห็นคนที่ถูกจับตัวออกมา นักข่าวก็พากันแห่เข้าไป

“นายมู่ มีคนแจ้งความว่าคุณเสพยาและซื้อบริการทาง เพศ จริงหรือไม่คะ? ”

“นายมู ในฐานะผู้สืบทอดมู่ชื่อกรุ๊ป คุณคิดว่าการกระทำ เช่นนี้เหมาะสมหรือไม่คะ?

“นายมู่ครับ ผู้หญิงคนที่อยู่กับคุณเป็นใครกันครับ? มี

ข่าวลือว่าเป็นดาราในวงการ จริงหรือไม่ครับ? ” “นายมู..”

มู่ยั่นเจ่อถูกนักข่าวล้อมไว้ แม้แต่ตำรวจก็ห้ามไว้ไม่ได้ เขากัดฟันกรอดๆและตะโกนออกมาว่า “ไปให้พ้น? ” นักข่าวพากันตกอกตกใจและถอยหลังออกไป

มู่ยั่นเจ๋อมองไปยังฝูงชน เขาพบเข้ากับจิ่งหนิง สายตา ของเขาแฝงไปด้วยความอาฆาตแค้น

นี่คือสิ่งที่คุณต้องการใช่ไหม?”

จึ่งหนิงเผยอยิ้ม สายตาแฝงไปด้วยการดูถูก

“คุณทำแบบนี้อย่าหวังว่าจะได้ผมไปครอง”

จิ่งหนิงเดินหน้าขึ้นไปแล้วเงื้อมือขึ้นต่อหน้านักข่าวและ

ตำรวจ

11 เพียะ!”

ฝ่ามือของเธอตบลงไปที่หน้าเขาอย่างจัง มู่ยั่นเจ่อถูกตบ เสียจนหน้าหัน

บรรยากาศรอบด้านเงียบลงทันใด

ทางตำรวจตกตะลึงอ้าปากค้าง ” คุณผู้หญิงคนนี้คือ.

%3D

%3D ขอโทษนะคะ มือลั่นไปเอง!”

เธอยิ้มด้วยแววตาเยือกเย็นแล้วทำท่าทางนวดข้อมือ แล้วมองไปยังมู่ยั่นเจ่อด้วยสายตาอาฆาต จากนั้นพูดด้วย น้ำเสียงเยือกเย็นว่า

กระดาษชำระที่ตกลงไปในชักโครก คุณคิดว่าใครยังจะต้องการอีกกัน?ตบเมื่อสักครู่เป็นแค่ดอกเบี้ยเท่านั้น ทุน ที่เหลือฉันจะให้คุณชดเชยภายในสามวัน!”

แววตาของมู่ยั่นเจ่อตื่นตระหนก อะไร! ทุนอะไร !!” จึ่งหนิงขมวดคิ้วขึ้น ” คุณแน่ใจนะว่าจะให้ฉันกระตุ้น

ความจำคุณ

มู่ยั่นเจ๋อก้มหน้าลงทันที

เธอหัวเราะหีๆ เป็นเสียงหัวเราะที่แฝงไปด้วยความดูถูก เหยียดหยาม

ทางตำรวจเห็นเช่นนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาโบกมือ เป็นสัญญาณว่าให้คุมตัวขึ้นรถไปได้ เมื่อเขาเดินทางจากไป บรรดานักข่าวก็ไม่ได้รีรอ รีบตาม

ไปทันที

เดิมทีที่จากประตูทางเข้าโรงแรมเต็มไปด้วยผู้คน ตอนนี้ กลับว่างเปล่าไม่เหลือใคร

จึงหนิงยังยืนอยู่ที่นั่นจนกระทั่งควบคุมอารมณ์ได้ เธอจึง ได้เตรียมตัวจากไป

แต่เธอคาดไม่ถึงว่าเมื่อหันหลังกลับไปจะพบเข้ากับแวว ตาคู่หนึ่งที่จับจ้องเธออยู่

ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำ ร่างกายกำยำสูงใหญ่ ผมสั้นจัด ทรงเป็นระเบียบ แววตาแหลมคมนั้นทำให้ผู้พบเห็น หลงใหล

ใบหน้าอันหล่อเหลาภายใต้แสงยามค่ำคืนแบบนี้ เผยให้เห็นออร่าที่กลมกลืนไปกับบรรยากาศรอบข้าง จิ่งหนิงรู้สึกว่าเธอเคยเห็นชายคนนี้มาก่อน

จากนั้นเธอหันไปเห็นเลขาของเขาที่ยืนอยู่ด้านหลัง อีก ทั้งรถปอร์เช่สีเงินที่อยู่ข้างๆ เธอก็คิดได้ว่าจะไปรู้จักบุคคล ที่โดดเด่นแบบนี้ได้ยังไงกัน?

เธอสลัดความคิดออกจากหัว หันหลังแล้วเดินจากไป จนกระทั่งร่างเล็กๆของเธอเข้าสู่รถยนต์ ลู่จิ่งเซินจึงได้

ละสายตามาจากเธอและถามขึ้นว่า “คนเมื่อกี้นี้คือใคร?

ซูมู่ที่ยืนอยู่ด้านหลังรีบตอบขึ้นว่า ท่านหมายถึงคนที่ถูก ตำรวจจับไปเมื่อกี้หรือครับ? เหมือนว่าจะเป็นคุณชายขอ งมู่ชื่อกรุ๊ปที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศเมื่อหลายวันก่อน”

ลู่จิ่งเซินขมวดคิ้วแล้วบอกว่า “ผมหมายถึงคนผู้หญิงคน เมื่อกี้”

“ครับ? ” ซูมู่งุนงงเล็กน้อย “ผู้หญิงคนไหนกัน? ”

เมื่อเห็นแววตาอันไม่พอใจของลู่จิ่งเซิน ซูมู่ก็รีบพูดขึ้นมา ว่า “ท่านประธานครับ ต้องขออภัยด้วยผมจะไปตรวจสอบ เดี๋ยวนี้”

“ช่างมันเถอะ”

สายตาของเขามองไปตามทางที่ผู้หญิงคนนั้นขับรถออก ไปแล้วยิ้มขึ้น เขาคล้ายกับนึกอะไรออกมาได้

จากนั้นเขารีบก้าวเดินเข้าไปด้านใน ในฐานะผู้แจ้งความ จิ่งหนิงจึงต้องเดินทางไปที่สถานี ตำรวจด้วย

เมื่อทำการบันทึกข้อความเสร็จแล้ว ผู้คนจากด้านนอกก็ พากันแห่กรูเข้ามา

คนที่เดินเข้ามาเป็นคนแรกก็คือคุณย่าจิ่งหวังเสว่เหมย เมื่อเธอเดินเข้ามาถึงก็ตบเข้าให้ที่หน้าของจิ่งหนิงอย่างจัง

“นังคนทรยศ? ”

หวังเสว่เหมยตัวสั่นสะท้านแล้วพูดว่า “แกรู้อยู่แก่ใจว่านั่น คือน้องสาวแท้ๆของแก ยังกล้าแจ้งตำรวจจับอีกอย่างนั้น เหรอ? แกต้องการจะยั่วให้ฉันโมโหตายยังไง? ”

จิงหนิงเช็ดโชคเลือดที่มุมปาก จากนั้นเงยดูหญิงชราที่ อยู่ตรงหน้า

“น้องสาวอย่างนั้นเหรอ? คุณหมายถึงจิ่งเสี่ยวหย่า? ”

“ไม่ต้องทำมาเป็นเสแสร้ง สื่อต่างๆพากันพูดกันให้แซ่ด บอกว่าคุณหนูจิงรองให้ท่าคู่หมั้นของคนอื่น แกไม่รู้เรื่อง หรือไง? ”

จึงหนิงก้มหน้าลงและยิ้มออกมาเบาๆ

“ผู้หญิงคนนั้นเป็นเธอนั่นเอง….ฉันก็คิดว่ากะหรี่ที่ไหน รีบร้อนจะหาเงินซะอีก ที่แท้ก็เป็นน้องสาวของฉันเอง? “

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน