บัลลังก์หมอยาเซียน – บทที่ 1220 ไปเยี่ยมเยียนประชาชนอย่างเป็นการส่วนตัว

บทที่ 1220 ไปเยี่ยมเยียนประชาชนอย่างเป็นการส่วนตัว

เช้าวันรุ่งขึ้น ฮ่องเต้หมิงหยวนพามู่หรูกงกงกับฮู่เฟยไปเยี่ยมเยียนประชาชนเป็นการส่วนตัว

ก่อนออกเดินทาง ฮู่เฟยได้สั่งคนในตำหนักเตรียมอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว อุดมสมบูรณ์อย่างมาก นางเปลี่ยนสวมชุดพลเรือนธรรมดา ท้องที่ตั้งครรภ์ยังเห็นไม่ชัด เผยให้เห็นถึงความมีเสน่ห์ เหมือนอย่างเมื่อตอนที่เพิ่งเขาวังมา

ฮ่องเต้หมิงหยวนมองดูใบหน้าที่แสดงให้เห็นถึงความดีใจของนาง แล้วก็หัวเราะขึ้นมา ชุดที่เขาสวมวันนี้มู่หรูกงกงเป็นคนเตรียม เป็นชุดที่ประชาชนสวมใส่เป็นประจำ เพราะอากาศหนาวเย็น จึงจัดเตรียมรองเท้าผ้าสีดำไว้ให้เขาเป็นพิเศษหนึ่งคู่ ไม่เหลือความน่าเกรงขามของฮ่องเต้ ดูแล้วก็เหมือนผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งไม่มีผิด

ฮ่องเต้หมิงหยวนไม่ค่อยชอบชุดที่ตัวเองสวมใส่ แต่รู้สึกน่าสนุกดี หลังจากทานอาหารเช้าแล้ว ก็หมุนรอบหน้ากระจกหลายรอบ มือทั้งคู่ล้วงเข้าไปในกระเป๋าแขนเสื้อ เหมือนพ่อค้าเร่วัยกลางคนที่เดินไปตามถนนคนหนึ่ง

มู่หรูกงกงกลับสวมชุดค่อนข้างหยาบ สวมรองเท้าผ้าฝ้ายขาดๆ เผยให้เห็นถุงเท้าด้านใน ผมเผ้ายุ่งเหยิงเล็กน้อย บนกางเกงยังเปื้อนไปให้ด้วยดินนิดหน่อย แลดูเหมือนเพิ่งออกมาจากสวน

ในเมื่อเป็นการไปเยี่ยมเยียนประชาชนอย่างเป็นการส่วนตัว ก็จะไม่มีขบวนตามไปด้วย แม้แต่ทหารรักษาก็ไม่พาไปด้วย มู่หรูกงกงมีฝีมือการต่อสู้อย่างสูง หากไม่มีสถานการณ์สุดวิสัย ก็ล้วนสามารถรับมือได้

แต่เพราะกู้ซือรู้เรื่องนี้ ดังนั้นกู้ซือยังคงจัดคนหลายคน ปลอมตัวติดตามอยู่ห่างๆ ป้องกันเหตุสุดวิสัย

พวกเขาออกจากวังไปทางประตูทิศตะวันตก ตอนที่มาถึงถนนชิงหลวน ฮ่องเต้หมิงหยวนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ในใจมีความสุขอย่างพูดไม่ออก พูดกับฮู่เฟยว่า “ข้าไม่มีอิสระเช่นนี้มานานมาแล้ว”

ฮู่เฟยหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “สามี อย่าได้เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมานะ ไม่อย่างนั้น การมาเยี่ยมเยียนประชาชนอย่างเป็นการส่วนตัวในครั้งนี้ ก็จะไม่มีความหมายแล้ว”

ฮ่องเต้หมิงหยวนพูดขึ้นว่า “เคยชินแล้ว คงจะเปลี่ยนไม่ได้ในทันใด”

“กระหม่อมจะเตือนให้” มู่หรูกงกงที่อยู่ด้านข้างพูดขึ้น อารมณ์ของเขาก็แลดูมีความสุข ดังนั้นจึงกล้าพูดเล่นได้อย่างบังอาจ

ฮ่องเต้หมิงหยวนเบิกตาโตมองดูเขา พร้อมพูดขึ้นว่า “กลับไปจะตัดหัวเจ้า”

“กระหม่อมสำนึกผิด” มู่หรูกงกงรู้สึกหัวตึงขึ้นมา รีบก้มหน้าก้มตาสำนึกผิด

ถนนชิงหลวนถือเป็นถนนสายหนึ่งที่พลุกพล่านที่สุดในเมืองหลวง ร้านขายเครื่องประดับ ร้านขายของโบราณ ร้านขายเครื่องสำอาง ร้านขายเครื่อง เรียงรายเต็มไปหมด ร้านอาหารร้านน้ำชาหลายแห่ง กิจการก็ดีมากเช่นกัน

บนถนนชิงหลวน มีโรงหมอเป่าหยวนถังแห่งเดียว

ฮ่องเต้หมิงหยวนมองเข้าไปข้างไหนแวบหนึ่ง พร้อมหัวเราะพูดขึ้นว่า “เป่าหยวนถังนี้ เป็นโรงหมอของฮุ่ยผิง ข้า….ข้าพเจ้ารู้”

ฮู่เฟยมองดูแวบหนึ่ง พร้อมพูดขึ้นว่า “ดูค่อนข้างเงียบ เหมือนไม่มีคนป่วย”

ฮ่องเต้หมิงหยวนอืมรับคำ พร้อมพูดขึ้นอย่างเรียบเฉยว่า “ไม่ใช่เพราะพระชายารัชทายาทแข่งขันกับนางหรือ? ผู้ป่วยต่างก็ไปโรงพยาบาลที่นางเปิดแล้ว โง่เขลา”

ฮู่เฟยกับมู่หรูกงกงต่างไม่พูดอะไร แต่กลับมองตากัน สายตาแสดงถึงความจงใจ

มุ่งเดินตรงไปข้างหน้า มองดูสินค้าสุดตระการตา สัมผัสความเจริญรุ่งเรืองของเมืองหลวง ในใจฮ่องเต้หมิงหยวนรู้สึกดีใจ

ผ่านถนนชิงหลวน เดินต้องไปข้างหน้าประมาณสิบห้านาที ฮ่องเต้หมิงหยวนรู้สึกค่อนข้างปวดท้อง เริ่มแรกยังเจ็บไม่หนัก เขาสามารถทนได้ แต่หลังจากเดินไปสักพักแล้ว เขาก็รู้สึกค่อนข้างทนไม่ไหวแล้ว

“นายท่าน ทำไมสีหน้าของเจ้าขาวซีดขนาดนี้? เจ้าไม่สบายหรือ?” ฮู่เฟยประคองเขาไว้ พร้อมถามขึ้นอย่างเป็นห่วง

ฮ่องเต้หมิงหยวนเอามือกุมท้องไว้ รู้สึกปวดบิดเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ จึงพูดขึ้นว่า “ปวดท้อง คงเพราะมื้อเช้าทานเยอะไป”

มู่หรูกงกงพูดขึ้นอย่างร้อนใจว่า “ปวดท้อง? นี่จะทำอย่างไรดี? หรือจะกลับวังไปหาหมอหลวงดีไหม?”

ฮู่เฟยเงยหน้าขึ้นมองดูรอบๆ พร้อมพูดขึ้นว่า “ตอนนี้นายท่านปวดท้อง จะเดินกลับจวนไหวที่ไหน? ข้างหน้ามีเป่าหยวนถัง ประคองนายท่านไปดู ทานยาให้บรรเทาลงก่อน”

ทั้งสองคนประคองฮ่องเต้หมิงหยวนเดินไปข้างหน้าประมาณหลายสิบก้าว มาถึงเป่าหยวนถัง ลูกน้องร้านยาเดินมาถามว่า “เป็นอะไรหรือ?”

“จู่ๆนายท่านก็ปวดท้อง หมอยังอยู่ไหม?” มู่หรูกงกงพูดขึ้น

หมออยู่ด้านหน้า พูดขึ้นอย่างเรียบเฉยว่า “ตามมาสิ”

ฮู่เฟยไปถามว่า “หมอ ที่นี่มียาแก้ปวดท้องไหม?”

“มี” หมอเรียกลูกน้องร้านยามา มองพิจารณาดูพวกเขา พร้อมพูดขึ้นว่า “เอายาฮั่วเซียงมาให้พวกเขาหนึ่งขวด”

ลูกน้องร้านยาตอบรับ หยิบขวดยาขวดหนึ่งมาจากในตู้ เอามายื่นให้กับมู่หรูกงกง พร้อมพูดขึ้นว่า “ห้าสิบเหวิน”

ฮู่เฟยอึ้ง แล้วถามขึ้นว่า “ห้าสิบเหวิน? ข้าฟังผิดไปหรือ?”

ลูกน้องร้านยามองดูเขา พร้อมพูดขึ้นอย่างไม่พอใจว่า “ห้าสิบเหวินมาตลอด เจ้าไม่เคยซื้อหรือ?”

“ข้าเคยซื้อ แต่ราคาแค่สิบห้าเหวิน ทำไมถึงได้แพงขนาดนี้?” ฮู่เฟยขมวดคิ้วพร้อมพูดขึ้น

หมอที่นั่งอยู่ด้านหน้าพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “ยาฮั่วเซียงไม่เคยขายในราคาสิบห้าเหวิน ไม่มีปัญญาซื้อก็ไป อย่ามาต่อรองราคาที่นี่”

มู่หรูกงกงพูดขึ้นอย่างโมโหว่า “ทำไมพูดจาแบบนี้? ถามก็ไม่ได้หรือ? ยาฮั่วเซียงนี้ต้นทุนต่ำมาก พวกเจ้าขายห้าสิบเหวิน แพงเกินไปแล้ว”

ฮ่องเต้หมิงหยวนปวดท้องอย่างมาก โบกมือ พร้อมพูดขึ้นว่า “ช่างเถอะ ช่างเถอะ ให้พวกเขาไปเถอะ”

ฮู่เฟยมองดูมู่หรูกงกง พร้อมพูดขึ้นว่า “จ่ายเงินไปเถอะ”

สีหน้ามู่หรูกงกงขาวซีดขึ้นมา พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้า….ข้าไม่ได้พกเงินมา”

ฮ่องเต้หมิงหยวนโกรธอย่างมาก รู้สึกยิ่งปวดท้อง จึงพูดขึ้นว่า “เจ้าเป็นอะไร? ออกมาทำไมไม่พกเงิน?”

มู่หรูกงกงพูดขึ้นอย่างเศร้าสร้อยว่า “คือ….ไม่ได้ออกมานาน จึงไม่ทันคิด”

หมอมองดูท่าทางยากจนของพวกเขา สายตามองบน พูดกับลูกน้องร้านยาว่า “ไล่ออกไป”

มู่หรูกงกงเดินไปโค้งคำนับหมอ พร้อมพูดขึ้นว่า “ท่านหมอ เอาแบบนี้ได้ไหม? เดี๋ยวจะให้คนรีบเอาเงินมาจ่ายให้สองเท่า เป็นอย่างไร?”

หมอหัวเราะเย้ย พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าลองไปถามข้างนอก มีกฎแบบนี้ไหม?”

มู่หรูกงกงพูดขอร้องว่า “งั้นเอาแบบนี้ ท่านรักษานายท่านของเราก่อน ข้ากลับไปเอาเงินมา ก่อนที่ยังไม่ได้จ่ายเงิน คนจะไม่ไปไหน ได้ไหม?”

“ไม่ได้” หมอพูดปฏิเสธทันที

สีหน้าฮ่องเต้หมิงหยวนโกรธจัด แต่เพราะปวดท้องอย่างมาก แม้แต่จะด่าคนก็ไม่มีแรง ประคองโต๊ะด้านข้างไว้ ค่อยๆนั่งลง ก้นหย่อนลงถึงเก้าอี้แล้ว ลูกน้องร้านยาคนนั้นก็เดินมาตะคอกพูดขึ้นว่า “ไปเถอะ ไปเถอะ อย่ากีดขวางผู้ป่วยคนอื่น”

ฮู่เฟยพูดขึ้นอย่างโมโหว่า “รับคนไข้อะไร ไม่มีคนป่วยมารักษาเลย ยานี้พวกเราเอาไปก่อน เดี๋ยวค่อยเอาเงินมาจ่าย” พูดเสร็จ แล้วก็แย่งยามาจากในมือลูกน้องร้านยาคนนั้น เทออกมาใส่มือหลายเม็ด แล้วก็ให้ฮ่องเต้หมิงหยวนทาน ฮ่องเต้หมิงหยวนเปิดปากให้อย่างอัตโนมัติ กลับคิดไม่ถึงว่าลูกน้องร้านยาคนนั้นยื่นมือมาปัดยา นิ้วมือปัดผ่านคางฮ่องเต้หมิงหยวน จนคางมีบาดแผลเห็นรอยเลือดสองแผล

มู่หรูกงกงกับฮู่เฟยต่างตกใจ มู่หรูกงกงตบหน้าลูกน้องร้านยาคนนั้นทันที พร้อมตะคอกพูดขึ้นว่า “บังอาจ”

ลูกน้องร้านยาถูกตบจนมึน ยังไม่เคยมีใครกล้าลงมือในเป่าหยวนถัง เขาเอามือกุมหน้าพร้อมพูดขึ้นอย่างโมโหว่า “พวกเจ้า…. พวกเจ้าบังอาจอย่างมาก”

หมอคนนั้นรีบเดินออกมา พร้อมเรียกคนด้านหลังด้วยเสียงเข้มว่า “พวกเจ้าไม่สืบดูว่าโรงหมอนี้เป็นของใคร ไม่มีเงินยังกล้ามาแย่งยา? ข้าว่าพวกเจ้าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว เห็นว่าชีวิตนี้ยาวเกินไปใช่ไหม”

บัลลังก์หมอยาเซียน

บัลลังก์หมอยาเซียน

Status: Ongoing

ด็อกเตอร์แพทย์หญิงอัจฉริยะข้ามภพกลายเป็นพระชายาของอ๋องฉู่ เพิ่งมาถึงก็เจอผู้ที่บาดเจ็บสาหัส นางยึดถือจรรยาแพทย์ไปทำการช่วยเหลือ กลับเกือบถูกคนให้ร้ายไท่ซ่างหวง(เสด็จพ่อของฮ่องเต้)ป่วยวิกฤต นางไม่มีวิธีรักษา ถูกอ๋องอำมหิตผู้น่าเกลียดเข้าใจผิดตำหนิเอา หรือว่าเป็นคนดีมันยากนัก? ชายผู้นี้เอาแต่ใส่ร้ายป้ายสีนางไม่ว่า ที่อดไม่ได้คือเขายังกล้าแต่งชายารองทำให้นางสะอิดสะเอียนอีกอ๋องอำมหิตพูดอย่างเย็นชาว่า: “เจ้ามีดีอะไรให้ข้าแค้นเจ้า ข้าเพียงแค่เกลียดเจ้า? แค่เห็นเจ้าแวบแรกก็รู้สึกขยะแขยง”หยวนชิงหลิงใบหน้ายิ้มรับพร้อมกล่าวว่า: “ไฉนข้าไม่รังเกียจท่านอ๋องเพคะ? เพียงแค่ทุกคนล้วนเป็นสุภาพชน ไม่อยากไม่ไว้หน้าก็เท่านั้น”อ๋องอำมหิตพูดเย้ยหยันว่า: “เจ้าอย่านึกว่าตั้งท้องลูกของข้าแล้วข้าจะนับว่าเจ้าเป็นพระชายา ดื่มยาถ้วยนี้ ข้ากับเจ้าขาดกัน อย่ามาขัดขวางการแต่งงานของข้ากับคุณหนูสองตระกูลฉู่” หยวนชิงหลิงยิ่มแฉ่งพร้อมกล่าวต่อว่า: “ท่านอ๋อง นี่ชอบพูดเล่นเสียจริงเพคะ ท่านอยากแต่งก็แต่งเลยเพคะ ข้ามีลูกให้ดูแล ค่อยแต่งงานใหม่ ไม่มีใครเป็นก้างขวางคอใคร ถึงเวลานั้นมีการจัดเหล้าครบเดือน ขอเชิญท่านอ๋องมาร่วมงานด้วยเพคะ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน