บัลลังก์หมอยาเซียน – บทที่ 1675 ห้าสิบล้าน

บทที่ 1675 ห้าสิบล้าน

ครูใหญ่ได้รับเช็คธนาคารใบหนึ่งและบันทึกใบหนึ่งที่ส่งไปรษณีย์มา ในวันที่สามหลังจากผู้ปกครองของนักเรียนหยู่เหวินหวงจากไป

เขาอ่านบันทึกก่อน เป็นผู้ปกครองของนักเรียนหยู่เหวินหวงเขียน บอกว่าเขาช่วยโรงเรียนสร้างอาคารเรียนและตึกหอพัก แต่มีเงื่อนไขอย่างหนึ่ง เขาต้องการรับเหมาโรงอาหารของโรงเรียน

ความจริงโรงอาหารของโรงเรียนอยู่ระหว่างการประมูล

เขายิ้มแล้วยิ้มอีก หยิบเช็คธนาคารขึ้นมาดู ตกใจจนลูกตาสองข้างค้างไปในพริบตาแล้ว

 หน่วยสิบร้อยพันหมื่นแสนล้านสิบล้าน…….ห้าสิบล้าน? ฉันไม่ได้ดูผิดไปหรอกนะ?  ครูใหญ่ขยี้ตา สงสัยขึ้นมาในพริบตา เช็คธนาคารนี้เป็นของปลอมล่ะสินะ?

 เร็ว รีบ เรียกฝ่ายการเงินเสี่ยวเฉินเข้ามา  ครูใหญ่รีบตะโกนไปทางด้านนอกเสียงหนึ่ง

แม่สาวน้อยเฉินฝ่ายการเงินเข้ามาที่ห้องทำงานของครูใหญ่ด้วยความรวดเร็ว ครูใหญ่ยื่นเช็คธนาคารใบหนึ่งให้หล่อน หายใจก็ค่อนข้างลำบากเล็กน้อยแล้ว  เธอดูนี่ เป็นเช็คธนาคารของจริงหรือว่าของปลอม? 

 ห้าสิบล้าน? เปิดโดยบริษัทโพ่จินตาวจี้จำกัด  แม่สาวน้อยเฉินฝ่ายการเงินดูเล็กน้อย มองดูตราราชการด้านล่าง  ตรานี้เหมือนจะเป็นของจริงค่ะ 

 เธอวิ่งไปธนาคารรอบหนึ่ง ดูว่าเอาเข้าบัญชีได้หรือเปล่า  มือของครูใหญ่ล้วนสั่นเทาแล้ว

โรงเรียนแห่งนี้ของเขาเป็นโรงเรียนเอกชนนอกระบบ มีน้อยคนที่จะบริจาคเงินให้กับโรงเรียนเอกชนนอกระบบ มีก็ไม่มาก นี่ออกมือก็ห้าสิบล้าน นั่นก็เป็นทองคำกองหนึ่งที่ตกลงมาจากฟ้าเชียว

ก่อนหน้านี้โรงเรียนมัธยมเซิ่งเย่จัดตั้งขึ้นมาโดยรัฐวิสาหกิจ แต่หลังจากที่ธุรกิจล้มละลาย ไม่มีเงินเข้า อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ในการอำนวยความสะดวกในการสอนของโรงเรียนก็ยากแค้นแสนเข็ญ ทำให้นักเรียนมีคะแนนออกมาไม่ดี อัตราการสอบตกต่ำไปเหมือนฝุ่นผง และเพราะเหตุนี้จึงทำให้รับสมัครนักเรียนได้ยาก จึงทำให้เกณฑ์คะแนนลดลงแล้วลดลงอีก

เขารู้เป็นธรรมดาว่าตึกหอพักและอาคารเรียนล้วนเก่าหมดแล้ว กำแพงด้านนอกมีสภาพลอกออก ทำได้เพียงตรวจและซ่อมแซมชั่วคราว และพื้นที่ว่างด้านหลัง ตอนนั้นเดิมทีตั้งใจจะก่อสร้างอาคารเรียน แต่เพราะบริษัทที่ออกเงินทุนล้มละลาย และหาเงินไม่ได้ จนปัญญาที่จะสร้างต่อไปได้ ทำได้เพียงดองไว้แล้ว

ครูใหญ่มีน้ำตาแห่งความโศกเศร้าและทุกข์ทนอยู่เต็มท้อง สถานการณ์ความเป็นจริงของโรงเรียนย่ำแย่มาก

ปีนี้มีหยู่เหวินหวงออกมาผู้หนึ่ง หากว่าเขาสามารถสอบเข้าวิทยาลัยได้อันดับที่หนึ่งของเมือง ก็สามารถทำให้โรงเรียนมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักได้ ด้วยเหตุนี้จะดึงดูดนักลงทุน ดึงนักเรียนที่ดียิ่งขึ้นได้ แบบนั้นโรงเรียนมัธยมเซิ่งเย่ก็จะฟื้นคืนมาอีกครั้ง

คิดไม่ถึงว่าที่มาพร้อมกับนักเรียนหยู่เหวินหวง ยังมีเงินเป็นจำนวนมากมายขนาดนี้

แต่อย่างแรกคือเช็คธนาคารนี้เป็นของจริง

ดังนั้น เขาแทบจะทนรอไม่ได้ที่จะให้แม่สาวน้อยเฉินไปแลกตั๋วที่ธนาคาร หากสามารถเอาเข้าบัญชีได้ คืนนี้เขาจะวิ่งรอบโรงเรียนสามรอบอย่างบ้าคลั่ง

แม่สาวน้อยเฉินไม่กล้ารีรอ กล่าวว่า ฉันจะขี่รถไปธนาคารเดี๋ยวนี้ค่ะ 

 ยังจะขี่รถอะไรอีก? เรียกรถ เรียกรถไป เบิกเงิน!  ครูใหญ่รีบกล่าว

 ได้ ได้ ฉันจะเรียนรถเดี๋ยวนี้  แม่สาวน้อยเฉินพูดจบก็หยิบเช็คธนาคารวิ่งไปแล้ว

ครูใหญ่ไม่กล้าเอาเรื่องนี้บอกกับเหล่ากรรมการโรงเรียน กลัวว่าจะเป็นการดีใจโดยเปล่าประโยชน์ เขารู้ว่าความจริงแล้วกรรมการโรงเรียนก็รวบรวมเงินจากทุกทาง หาคนลงทุน แต่ตลอดมาก็หาเงินก้อนใหญ่มาไม่ได้

หากว่าเงินห้าสิบล้านก้อนนี้เป็นความจริง สามารถจินตนาการได้ว่า จะปลุกขวัญกำลังใจของทหารได้ระดับใด

เขาเดินอย่างกระวนกระวายในห้องทำงาน เว้นไปสองสามวินาทีก็ดูโทรศัพท์ แม่สาวน้อยเฉินทำไมยังไม่โทรศัพท์กลับมา?

เกือบครึ่งชั่วโมงต่อมา โทรศัพท์ดังขึ้น เขาคว้าโทรศัพท์แล้วรับสาย แม่สาวน้อยเฉินในโทรศัพท์ทางนั้น น้ำเสียงมีความสั่นเทาเล็กน้อย  ครูใหญ่คะ ธนาคารได้ตรวจสอบแล้ว เช็คธนาคารเป็นของจริงค่ะ 

 จริงเหรอ? เป็นของจริงจริงหรือ?  ครูใหญ่แทบจะถือโทรศัพท์ไว้ไม่ได้  งั้นเธอรีบเอาเข้าบัญชี เร็วๆ! 

 ได้ค่ะ!  แม่สาวน้อยเฉินวางสายโทรศัพท์

ครูใหญ่ถือโทรศัพท์ไว้แล้วนั่งลง ทั้งคนล้วนสั่นไปหมด อย่าให้เป็นเช็คธนาคารปลอมที่เงินไม่พอ อย่าให้เป็นเช็คธนาคารปลอมที่เงินไม่พอเลย ให้เข้าบัญชีได้อย่างราบรื่น เข้าบัญชีได้อย่างราบรื่น

สิบนาทีหลังจากนั้น ข้อความเข้าบัญชีทางการ เข้าบัญชีห้าสิบล้าน!

หัวใจของครูใหญ่เต้นเร็วเพิ่มขึ้นจนรับไม่ได้ จิตใจอัดอั้นทันที ล้มไปกับพื้น

 

บัลลังก์หมอยาเซียน

บัลลังก์หมอยาเซียน

Status: Ongoing

ด็อกเตอร์แพทย์หญิงอัจฉริยะข้ามภพกลายเป็นพระชายาของอ๋องฉู่ เพิ่งมาถึงก็เจอผู้ที่บาดเจ็บสาหัส นางยึดถือจรรยาแพทย์ไปทำการช่วยเหลือ กลับเกือบถูกคนให้ร้ายไท่ซ่างหวง(เสด็จพ่อของฮ่องเต้)ป่วยวิกฤต นางไม่มีวิธีรักษา ถูกอ๋องอำมหิตผู้น่าเกลียดเข้าใจผิดตำหนิเอา หรือว่าเป็นคนดีมันยากนัก? ชายผู้นี้เอาแต่ใส่ร้ายป้ายสีนางไม่ว่า ที่อดไม่ได้คือเขายังกล้าแต่งชายารองทำให้นางสะอิดสะเอียนอีกอ๋องอำมหิตพูดอย่างเย็นชาว่า: “เจ้ามีดีอะไรให้ข้าแค้นเจ้า ข้าเพียงแค่เกลียดเจ้า? แค่เห็นเจ้าแวบแรกก็รู้สึกขยะแขยง”หยวนชิงหลิงใบหน้ายิ้มรับพร้อมกล่าวว่า: “ไฉนข้าไม่รังเกียจท่านอ๋องเพคะ? เพียงแค่ทุกคนล้วนเป็นสุภาพชน ไม่อยากไม่ไว้หน้าก็เท่านั้น”อ๋องอำมหิตพูดเย้ยหยันว่า: “เจ้าอย่านึกว่าตั้งท้องลูกของข้าแล้วข้าจะนับว่าเจ้าเป็นพระชายา ดื่มยาถ้วยนี้ ข้ากับเจ้าขาดกัน อย่ามาขัดขวางการแต่งงานของข้ากับคุณหนูสองตระกูลฉู่” หยวนชิงหลิงยิ่มแฉ่งพร้อมกล่าวต่อว่า: “ท่านอ๋อง นี่ชอบพูดเล่นเสียจริงเพคะ ท่านอยากแต่งก็แต่งเลยเพคะ ข้ามีลูกให้ดูแล ค่อยแต่งงานใหม่ ไม่มีใครเป็นก้างขวางคอใคร ถึงเวลานั้นมีการจัดเหล้าครบเดือน ขอเชิญท่านอ๋องมาร่วมงานด้วยเพคะ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท