เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ดวงตาของถังเฉาก็เย็นชาลงทันที “คุณคุ้มครองความปลอดภัยของฉ่ายเวยให้ดี เดี๋ยวผมไปทันที”
คราวน์บาร์ดูผิวเผินเป็นร้านเหล้า แต่จริงๆแล้วมันได้วางเท้าในพื้นที่สีเทาจำนวนมาก เขาไม่ได้กังวลความปลอดภัยของเฟิ่งหวง แต่เขากลัวนิสัยของเฟิ่งห่วง ตกลงคำเดียวไม่ได้ก็ฆ่า จะทำให้เป็นเรื่องใหญ่
หลังจากวางสายโทรศัพท์ ถังเฉาก็เปลี่ยนเป็นชุดสูทสีดำ ห่มผ้าให้ภรรยาและลูกสาว จากนั้นก็จากไปอย่างเงียบ ๆ
ในขณะเดียวกัน ที่คราวน์บาร์
จุดนี้เป็นอุตสาหกรรมบาร์ที่คึกคักที่สุด ไฟหลากสีส่องแสงไปทั่วงาน ในฟลอร์เต้นรำผู้ชายผู้หญิงเต้นตามจังหวะดนตรีกำลังบิดไปตามดนตรีเฮฟวี่เมทัลที่อึกทึก ในอากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นอันรุนแรงจากแอลกอฮอล์
มีทั้งคนดีและคนเลว รวมถึงผู้คนทุกประเภท บางคนทำงานหนักมาเป็นเดือน ทนความเจ็บปวดจากรักมาสง่างามสักครั้ง บางคนทุกข์จากความรัก เสียเงินเพื่อเมา ที่มากกว่านั้น เป็นสถานที่สำหรับคนวัยหนุ่มทายาทเศรษฐี่รุ่นที่สองใช้ในการล่าเหยื่อ
คุณชายหน้าขาว ที่ถือไม้เท้ายันไว้ ลุกขึ้นยืนอยู่บนโซฟาบาร์เลานจ์ หยิบธนบัตรสีชมพูออกมาหนึ่งกำมือจากกระเป๋าเงินจากนั้นก็โยนธนบัตรเหล่านี้ขึ้นไปในอากาศราวกับโยนผงแมกนีเซียม
ทันใดนั้น ธนบัตรตกลงมาเหมือนสายฝน
ธนบัตรสีแดงปลิวตกลงมา
ผู้หญิงรอบข้างกรีดร้องด้วยใบหน้าแดงก่ำสะบัดลงไปไม่สนใจอะไรคลานลงไปกับพื้น หยิบธนบัตรใบใหญ่สีแดงเหล่านี้ขึ้นมา
เดิมทีเพื่อนสนิทที่รักกันเหมือนพี่น้อง พริบตาเดียวเหมือนกลายเป็นศัตรูตัวฉกาจ พวกเขาต่างมองหน้ากันอย่างโหดร้ายราวกับกังวลว่าพวกเขาจะเอาเงินของตัวเองไป
แต่ชายหนุ่มถือไม้เท้ากำลังนั่งอยู่บนเบาะพร้อมกับรอยยิ้มมองดูสิ่งที่เรียกว่า‘กุลธิดา’ ในท่าทางที่น่าเกลียดและหยาบคายที่สุดนอนอยู่บนพื้น เหมือนสุนัขกำลังจับเงินอย่างบ้าคลั่ง
เขาหัวเราะเย้ยหยันเสียงดัง
คุณชายทุกคนก็เห็นด้วย
“คุณชายเหวินมือเติบจริงๆ มีเงินเยอะขนาดนี้ น่าจะเป็นห้าล้านแล้วมั้ง?”
“เงินห้าล้านสำหรับคุณชายเหวิน ถือว่าเรื่องเล็ก ดูท่าทางของพวกเขาเหมือนสุนัขป่าข้างถนนที่หิวโหย”
“พูดตามความจริงก็คือมาบาร์นี้เพื่อสนุกเท่านั้น การดื่มมันน่าเบื่อเกินไป วันนี้คุณชายเหวินถือว่าให้พวกเราได้เปิดหูเปิดตา”
เมื่อได้ยินคำเหล่านี้คุณชายเหวินยิ้มเล็กน้อย “ใช้เงินห้าล้านเพื่อดูสิ่งเหล่านี้คุ้มค่าแล้ว”
ทั้งบาร์เริ่มวุ่นวายเพราะพฤติกรรมของเขาและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต้องออกมารักษาความสงบเรียบร้อย
ที่มุมหนึ่งของบาร์มีหญิงสาวที่ดูดีคนหนึ่งนั่งอยู่
เสื้อคาร์ดิแกนคอวีเรียบง่ายพร้อมเมคอัพบางเบาและใบหน้าเศร้าๆ ดึงดูดความสนใจของผู้ชายส่วนใหญ่
ก็คือหลินฉ่ายเวย
เธออารมณ์ไม่ค่อยดีนักจึงดื่มไวน์แก้เบื่อ แม้ว่าท้องฟ้าจะเต็มไปด้วยเงินที่โปรยลงมาเหมือนฝน แต่เธอก็ไม่มีอารมณ์สนใจ
สิ่งที่เธอไม่รู้ก็คือกลุ่มคนของคุณชายเหวินให้ความสนใจกับเธอ ดวงตาของพวกเขาเย็นชา
“คุณชายเหวิน นั่นใช่คนสวยไหม?”
คุณชายเหวินมองไปที่หลินฉ่ายเวยและพยักหน้าอย่างเฉยเมย “ไม่น่าจะผิด”
“งั้นไปเลย”
พี่น้องคนอื่นๆหัวเราะ “คุณชายเหวินออกโรงทั้งที ยังมีผู้หญิงคนไหนที่เขาจะจัดการไม่ได้?”
แต่ว่า คุณชายเหวินส่ายศีษระและพูดอย่างเย็นชา “ผมไม่ได้มองที่ว่าเธอสวย ถึงจ้องเธอ ความเจ็บปวดของขาข้างนี้ ผมจะไม่มีวันลืมความเจ็บปวด… ”
เขาตบขาที่พิการของเขาข้างนั้น ใบหน้าเผยรอยยิ้มที่ไร้ความอ่อนโยน
“ เข้าใจแล้วครับ เราจะได้พบเธอ”
เมื่อพี่น้องคนอื่นๆ ได้ยินเช่นนี้พวกเขาก็กลั้นยิ้มและเดินไปหาหลินฉ่ายเวยพร้อมกับแก้วไวน์ของพวกเขา
“คนสวย มาคนเดียวหรอ?”
พวกเขาล้อมหลินฉ่ายเวยไว้ และพูดด้วยเสียงหัวเราะ “มาเล่นกับพวกเราหน่อย ดีกว่าไหม?”
“ไสหัวไป อย่ามายุ่งกับฉัน!”
หลินฉ่ายเวยมองไปที่คุณชายเหล่านี้ด้วยความเบื่อหน่าย ปกติมักจะมีคนชอบมาเจ๊าะแจ๊ะกับเธอ แต่วันนี้เธออารมณ์ไม่ดีจริงๆ อยู่ใกล้ใครก็อารมณ์เสีย
“โย่ ยังเป็นดอกกุหลาบที่มีหนามด้วย”
พวกคุณชายก็ไม่ได้โกรธ เมื่อหันศีรษะมองไปที่คุณชายเหวิน พวกเขาทั้งหมดหัวเราะเสียงดัง “คุณชายเหวิน ดูท่าคืนนี้คุณคงได้กลิ้งไปกลิ้งมาจนตายแน่”
เมื่อคุณชายเหวินมาถึงข้างหน้าของฉ่ายหลิน บนใบหน้าที่หล่อเหลา เผยรอยยิ้มที่เย็นชาขึ้นมา “ผมขอเตือนคุณทางที่ดีมาเล่นกับพวกเราหน่อยเถอะ ผมสนใจคุณแล้ว”
”ชอบแม่คุณสิ —-”
จู่ๆหลินฉ่ายเวย สาดแก้วไวน์ในมือของเธอไปที่ใบหน้าของคุณชายเหวินอย่างจัง
ทันใดนั้น ใบหน้าของคุณชายเหวินก็เต็มไปด้วยไวน์ ไหลลงตามแก้มทีละหยด
“คุณชายเหวิน!”
“นังตัวดี หาที่ตาย!”
คุณชายคนอื่นๆ แสดงความโกรธทันที แต่ละคนจ้องไปที่หลินฉ่ายเวย
ใบหน้าของคุณชายเหวินก็เผยความชั่วร้ายทันที แต่เขาก็สงบลงอย่างรวดเร็ว และทำท่าทางให้หยุด
จากนั้น เขาใช้มือเช็ดไวน์ที่อยู่บนใบหน้าของเขาอย่างแรง และพูดด้วยเสียงหัวเราะว่า “สาวสวยผมแค่อยากดื่มไวน์กับคุณไม่กี่แก้วเอง เกินไปแล้วมั้ง?”
ขณะนี้หลินฉ่ายเวยก็สงบลง เธอรู้ว่าตัวเองวู่วามไป แต่เธอไม่ได้ขอโทษและตะคอกอย่างเย็นชา “วันนี้ฉันอารมณ์ไม่ดี ใครให้คุณเข้ามาหาปากกระบอกปืน”
คุณชายเหวินก็ไม่ได้โกรธ แต่กลับสังเกตมองหลินฉ่ายเวยจากหัวจรดเท้าด้วยความสนใจ และพูดด้วยสายตาที่แผดเผา “หลินฉ่ายเวยใกล้จะแต่งเข้าตระกูลเหวินแห่งเจียงเจ้อแล้วใช่ไหม?”
“คุณเป็นใคร คุณรู้เกี่ยวกับฉันได้อย่างไร?”
พริบตาเดียว หลินฉ่ายเวยเหมือนเผชิญกับศัตรู จ้องมองคุณชายเหวินอย่างระมัดระวัง
“ผมรู้ได้ยังไง … ผมต้องรู้อยู่แล้ว”
คุณชายเหวินหัวเราะเบาๆ และมองไปที่หลินฉ่ายเวยด้วยท่าทางขี้เล่น “เพราะว่า ผมมาจากตระกูลเหวินไง”
“อะไร……”
หลินฉ่ายเวยยืนขึ้น และจ้องมองไปที่เขาอย่างไม่คาดคิด
“ตามฐานะ ผมควรเรียกคุณว่าพี่สะใภ้”
เหวินเหรินวี่มองไปที่หลินฉ่ายเวยด้วยรอยยิ้มและพูด
พี่สะใภ้?
หลินฉ่ายเวยได้ยิน ก็ตกใจมองเหวินเหรินวี่ด้วยความประหลาดใจ ถามออกมาว่า “คุณเป็นน้องชายของเหวยเฉิน?”
เหวินเหรินวี่พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม เพียงแค่รอยยิ้มแบบนั้น ไม่มีความอ่อนโยนสักนิด
หลินฉ่ายเวยไม่อยากสนใจเรื่องนี้ ใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด “ขอโทษนะ ฉันไม่รู้ว่าคุณเป็นน้องชายของเหวยเฉิน ฉันไม่ได้ตั้งใจ”
“แน่นอนคุณไม่รู้ว่าผมเป็นน้องชายของเหวินเหวยเฉิน”
เหวินเหรินวี่มองไปที่หลินฉ่ายเวยอย่างเย็นชาและพูดเบาๆ “พี่ชายที่โหดร้ายของผมคนนั้น กลัวว่าเขาจะลืมผมคนนี้ไปแล้วมั้ง?”
หลินฉ่ายเวยได้ยินคำพูดถึงความเกลียดชังอย่างสุดซึ้งของเหวินเหรินวี่ แต่ เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเหวินเหรินวี่และ เหวินเหวยเฉิน และก็ไม่สามารถตอบบทสนทนาได้
“แต่ผมไม่โทษคุณ”
เหวินเหรินวี่เหล่ตามองร่างอันงดงามของหลินฉ่ายเวยพร้อมกับแววตาขุ่นเคือง และยื่นแก้วไวน์ให้ “ นี่เป็นครั้งแรกที่คุณได้เจอผม ผมไม่ถือสา ดื่มไวน์แก้วนี้ ผมจะพาคุณรู้จักเพื่อนๆของผม”
หลินฉ่ายเวยลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ยังคงหยิบแก้วไวน์ขึ้น แหงนศีรษะขึ้น และวางแผนที่จะดื่มมัน
ทันใดนั้น มือข้างหนี่งก็ยื่นออกมาจากด้านหลัง และปัดแก้วไวน์vvd
หลังจากนั้น หลินฉ่ายเวยก็ได้ยินเสียงที่ไม่แยแสของเฟิ่งหวงดังมาจากด้านหลัง
“ ไวน์นี้มีพิษ ดื่มไม่ได้