“ที่แท้เป็นอย่างนี้เอง”
หลังจากได้ฟังเรื่องราวของเย่เทียนหลง ความชื่นชมในสายตาของถังเฉานั้นแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
บางคนเกิดมาเพื่อทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ อย่ามองเพียงคำอธิบายที่เรียบง่ายของจ้าวเย็นหราน ความอันตรายในเรื่องนี้ ต้องสัมผัสด้วยตนเองเท่านั้นจึงจะเข้าใจชัดเจน
มองในบางมุมแล้ว เย่เทียนหลงและถังเฉาเหมือนกัน โดยเป็นไปทีละขั้น ค่อยๆไต่ช้าๆจากระดับคนธรรมดาไปสู่จุดสูงสุด
ทันใดนั้นสายตาของเขากลับไปที่ตัวจ้าวเย็นหรานอีกครั้งแล้วพูดว่า : “ที่พลังของตระกูลจ้าวถูกทำลายไปอย่างมาก คุณแอบช่วยเขาในเรื่องนี้ด้วยใช่ไหม?”
จ้าวเย็นหรานหัวเราะคิกคัก : “แน่นอน ฉันกับพี่เทียนหลงอยากให้ไอ้แก่นั่นตาย ถ้ามีโอกาส ฉันจะลงมืออย่างแน่นอน”
“ดังนั้นแล้ว?”
ถังเฉามองไปที่จ้าวเย็นหรานด้วยรอยยิ้มก่อนพูดว่า : “คุณเล่าเรื่องอดีตของตระกูลจ้าวให้ผมฟัง คิดจะทำอะไร?”
“ฉันหวังว่าคุณจะช่วยพี่เทียนหลงได้”
จ้าวเย็นหรานลดรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแล้วเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมมาก : “ถึงแม้ว่าในช่วงนี้ตระกูลเย่จะเติบโตขึ้น แต่ว่าถึงยังไงตระกูลจ้าวก็เป็นตระกูลเก่าแก่มีชื่อเสียง ฉันกลัวว่าถ้าสถานการณ์ไปถึงจุดที่ควบคุมไม่ได้ พี่เทียนหลงจะต้องทนทุกข์ทรมาน”
ถังเฉาเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นมองไปที่เธอและพูดอย่างจริงจังว่า : “คุณควรรู้ไว้ว่าผมเป็นเพียงแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น จะมีความสามารถในการควบคุมสถานการณ์สู้รบได้ยังไง”
“คุณมี”
สายตาของจ้าวเย็นหรานจับจ้องใบหน้าของถังเฉาแล้วพูดว่า : “ไม่เพียงแค่มีแต่ยังสามารถกำหนดความเป็นความตายให้ทั้งสองฝ่ายได้อย่างง่ายดาย”
“คุณรู้ได้ยังไง?”
ถังเฉาเขย่าแก้วไวน์ในมืออย่างสบายๆ โดยดวงตาของเขาจ้องมองเธออย่างลึกซึ้ง
“สัญชาตญาณของผู้หญิงน่ะค่ะ”
จ้าวเย็นหรานพูดอย่างจริงจัง : “ ตอนอยู่ที่ตระกูลเจิ้งคุณไม่สนใจเจิ้งเทียนเฉิงเลย และคุณไม่กลัวตระกูลจ้าวด้วยเช่นกัน ไม่นานมานี้พี่เทียนหลงยังบอกด้วยว่าได้พบกับท่านอาจารย์ที่มีวิชาหมัดมวย นั่นคือคุณใช่ไหม?”
ถังเฉาไม่ได้พยักหน้าและไม่ได้ปฏิเสธ เพียงแค่เหลือบมองเธออย่างไม่ใส่ใจ : “นี่เป็นสัญชาตญาณของผู้หญิงด้วยใช่ไหม?”
“ไม่ใช่ค่ะ”
จ้าวเย็นหรานส่ายหัว แล้วพูดว่า : “นี่เป็นการสันนิษฐานอย่างมีที่มาที่ไปค่ะ”
หวังเฉาหัวเราะลั่น : “ขอให้ผมช่วยไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่คุณควรเข้าใจด้วยว่า ผมเป็นคนมีครอบครัว ถ้าหากภรรยาของผมรู้ว่า ผมเข้าไปพัวพันสงครามระหว่างสองครอบครัว มันน่าปวดหัวมาก”
ไหนเลยจ้าวเย็นหรานจะไม่เข้าใจความหมายของถังเฉา เธอพูดอย่างจริงจังว่า : “คุณถัง ขอเพียงคุณสามารถช่วยตระกูลเย่ได้ ฉันรับปากเงื่อนไขคุณทุกข้อ”
“ได้ทุกเงื่อนไขเลยเหรอ?”
ถังเฉายิ้มแปลกๆ แล้วจงใจทอดสายตาลงบนเรือนร่างที่ประณีตสวยงามของจ้าวเย็นหราน
เดิมคิดว่าจะทำให้จ้าวเย็นหรานรู้สึกกลัว คิดไม่ถึงเลยว่าจ้าวเย็นหรานไม่ได้หวาดกลัวเลยและยังหัวเราะกับท่าทางนั้น : “คุณถังคะ มุขนี้ใช้ได้แต่กับเหล่าสาวน้อยที่ยังไม่เคยเห็นโลก แต่ใช้ไม่ได้ผลสำหรับฉันหรอกค่ะ”
ขณะที่พูด จ้าวเย็นหรานได้ยืนขึ้นด้วยท่วงท่าที่สง่างาม ทันใดนั้นก็ยื่นนิ้วที่งามดั่งหยกจับใต้คางของถังเฉาพร้อมกับหัวเราะคิกว่า : “ถ้าหากคุณถังคิดอะไรกับผู้หญิง หรือจะให้ผู้หญิงเป็นฝ่ายเริ่มล่ะ?”
“……”
ถังเฉาที่เปรียบเหมือนศัตรูตัวฉกาจ ขนลุกชันไปทั่วทั้งตัว รีบลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วแล้วดึงมือของจ้าวเย็นหรานออกไป สีหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตกใจ : “คุณทำอะไรน่ะ?”
“มีโรงแรมอยู่ใกล้ๆนี่ คุณว่าจะทำอะไรล่ะ?”
จ้าวเย็นหรานกระพริบตาแล้วเดินใกล้เข้าไปอีกก้าวและกล่าวว่า : “เพราะไม่รู้ว่าคุณถังชอบแบบไหน ฉันมีหมดเลยนะคะ”
หางตาของถังเฉากระตุกอย่างแรงในทันที นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเป็นฝ่ายเสียเปรียบผู้หญิง —-แม้แต่ในการเผชิญหน้ากับซ่งหรูอี้ เขาก็ไม่ได้เป็นฝ่ายเสียเปรียบ
เขาไอออกมาสองครั้ง แล้วสีหน้าก็กลับมาเป็นปกติ : “ผมไม่ได้พูดว่าจะไม่ช่วยเย่เทียนหลง นอกจากนี้ ผมไม่มีข้ออ้างในการโจมตีตระกูลจ้าวอยู่พอดี คุณจะช่วยให้ก้าวหน้าได้มาก”
“ถ้าอย่างนั้น ยินดีที่ได้ร่วมงานสินะคะ?”
จ้าวเย็นหรานลุกขึ้นอย่างพึงพอใจ เธอยิ้มพร้อมกับยื่นมือออกไปทางถังเฉา
เมื่อกลับไปถึงบ้าน เป็นเวลาช่วงตีสามตีสี่เรียบร้อยแล้ว ถังเฉาเหลือบมองไปที่หลินชิงเสว่และถังเสี่ยวลี้ที่ยังคงนอนหลับสนิท เขาถอนใจอย่างโล่งอกทันที แล้วค่อยๆกลับเข้าไปในผ้าห่มอย่างระมัดระวัง
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ภายในกล่องไปรษณีย์ของที่บ้านได้รับบัตรเชิญที่ทำขึ้นอย่างสวยงาม
“ใครแต่งงานเหรอคะ?”
หลินชิงเสว่ที่กำลังเตรียมข้าวเช้าถามอย่างสบายๆ
“หลินฉ่ายเวยและเหวินเหวยเฉินแห่งตระกูลเหวิน” ถังเฉาตรวจดูเวลางานแต่งงานจะจัดขึ้นในวันอังคารหน้าที่โรงแรมตี้โก๋
“งั้นสินะ…”
หลินชิงเสว่ยิ้มจางๆและไม่ถามอะไรอีกเลย เพราะเธอไม่ชอบทั้งสองคนนี้
“ชิงเสว่ คุณไปงานแต่งงานเป็นเพื่อนผมได้ไหม?” ถังเฉามาอยู่ข้างๆหลินชิงเสว่แล้วถามด้วยเสียงที่นุ่มนวล
เดิมทีหลินชิงเสว่ต้องการปฏิเสธ แต่เมื่อมองไปที่ใบหน้าของถังเฉาแล้วไม่ว่าทำอย่างไรก็บอกปัดไม่ออก ทำได้เพียงแค่รับปากว่า : “ตกลงค่ะ”
“ขอบคุณนะ” ถังเฉากล่าวขอบคุณจากหัวใจ
หลังจากกินข้าวเช้าแล้ว ถังและหลินชิงเสว่ได้ไปส่งถังเสี่ยวลี้ที่โรงเรียนอนุบาลด้วยกัน จากนั้นไปยังอาคารกั๋วจี้
หลังจากที่เข้าไปในอาคารกั๋วจี้ ถังเฉาและหลินชิงเสว่ก็แยกตัวจากกัน รักษาระยะห่างหน้าหลังอยู่ที่สิบเมตร และแยกกันที่ชั้นสิบแปด
หลังจากกลับมาที่ชั้นบนสุด เจิงเทียนเสียงและหลัวปู้ ทั้งสองคนได้รอมานานแล้ว
“คุณถัง ตามคำสั่งของคุณ บริษัททั้งหมดภายใต้ชื่อของตระกูลเหวินได้ถูกขับไล่ออกจากเมืองหมิงจูแล้ว นอกจากนั้นยังการออกข้อห้าม ถ้าไม่มีอะไรนอกเหนือจากนี้ตระกูลเหวินไม่สามารถเปิดตลาดเมืองหมิงจูได้อีกตลอดชีวิต”
“ขั้นตอนต่อไป คือตลาดเจียงเฉิน”
หลัวปู้รายงานอย่างละเอียดว่า : “ขอเพียงแค่คุณถังพูดมาคำเดียว ผมจะทำให้สมาคมการค้าหงยิงในเจียงเฉิงปราบปรามตระกูลเหวินอย่างรุนแรงทำให้เขาเงยหน้าขึ้นมาไม่ได้”
สำหรับรายงานของหลัวปู้และเจิงเทียนเสียง ถังเฉาไม่ได้พูดอะไรสักคำ ดวงตาของเขาเป็นประกายวูบไหวแล้วพูดบางอย่างที่ไม่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
“ตระกูลเหวิน กำลังจะแต่งงานเร็วๆนี้ใช่ไหม?”
หลัวปู้และเจิงเทียนเสียงผงะจากนั้นจึงพยักหน้า : “ใช่แล้วครับ เหวินเหวยเฉินแห่งตระกูลเหวินกำลังจะแต่งงานกับหลินฉ่ายเวยแห่งตระกูลหลินครับ” ถังเฉาถอนใจเงียบๆ เขาโบกมือและพูดว่า : “เรื่องการดำเนินการปราบปรามตระกูลเหวินให้ระงับเป็นการชั่วคราว อย่างน้อย จนกว่าการแต่งงานของพวกเขาจะเสร็จสิ้น”
เจิงเทียนเสียงรู้สึกสับสน กำลังจะเอ่ยปากถาม กลับถูกหลัวปู้ใช้สายตายับยั้งไว้
เขายิ้มแย้มรับคำสั่ง : “คุณถัง ผมจะไปจัดการตามนี้ ยังมีคำสั่งอื่นไหมครับ?”
“นอกจากนี้ เปิดไฟเขียวตลาดของเมืองหมิงจูให้กับตระกูลเหวิน ฟื้นฟูความร่วมมือตระกูลเหวินกลับมาใหม่”
หลัวปู้และเจิงเทียนเสียงต่างมองหน้ากันและกัน ไม่ว่าจะมีข้อสงสัยมากมายแค่ไหน แต่ก็ไม่ได้ซักถาม เพียงแค่ตอบรับแล้วไปจัดการ
ออฟฟิศขนาดใหญ่เหลือเพียงถังเฉาผู้เดียวแล้ว
เขาหรี่ตาแล้วพึมพำกับตัวเอง
“ตระกูลเหวิน หวังว่าพวกคุณจะปฏิบัติกับเธอให้ดีขึ้นบ้างนะ ผมช่วยให้พวกคุณได้ก้าวหน้าต่อไปด้วยวิธีนี้ ไม่เช่นนั้นแล้ว โลกนี้จะไม่มีตระกูลเหวินอีกต่อไป”
“……”
เหวินเหวยเฉินเองก็ไม่คิดไม่ฝันว่าถังเฉาสามารถทำให้ตระกูลเหวินตกลงไปในปลักโคลน แล้วยังสามารถทำให้ตระกูลเหวินขึ้นสู่สรวงสวรรค์ได้ด้วย
การแต่งงานที่จะจัดขึ้นในสัปดาห์หน้าคือการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดของตระกูลเหวิน จะมีโชคหรือไม่ขึ้นอยู่กับพวกเขา
ก๊อกๆๆ —-
ในตอนนี้เองประตูสำหนักงานถูกเคาะอีกครั้ง : “ถังเฉา คุณอยู่หรือเปล่า?”
เมื่อได้ยินเสียง ท่าทางของถังเฉากลับสู่ความสงบทันทีและรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่หลินชิงเสว่เป็นฝ่ายมาหาถึงหน้าประตู
“ชิงเสว่ มีเรื่องอะไรเหรอ?” ถังเฉาเปิดประตูให้ หลินชิงเสว่ยืนอยู่ที่ประตูทางเข้าด้วยชุดที่เป็นมืออาชีพและสวยงาม
“ไม่มีอะไรค่ะ เพียงแค่เมื่อกี้นี้มีการเรียกประชุมผู้บริหารระดับสูง และฉันอยากจะหารือกับคุณถึงแผนการบางอย่างเกี่ยวกับ “Angel” สักหน่อยค่ะ” หลินชิงเสว่พูดพร้อมกับยิ้มนิดๆ
ถังเฉามีสีหน้าประหลาดใจทันที ต่อจากนั้นจึงมีรอยยิ้มปรากฏขึ้น
ต้นแบบของAngel คือลูกสาวของพวกเขา ทั้งถังเฉาและหลินชิงเสว่ล้วนแต่หวังว่าเครื่องสำอางค์ตัวใหม่นี้จะได้รับความนิยม
ดังนั้นหลินชิงเสว่จึงต้องการหารือเรื่องนี้กับถังเฉา เธออธิบายกับถังเฉาถึงจุดเด่นและจุดอ่อนในแต่ละจุดของแผนงาน ถังเฉาเองก็ฟังอย่างตั้งใจ
ไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรแต่ความหมายยังคงเหมือนเดิม แผนธุรกิจเหล่านี้ล้วนไม่สามารถแยกออกจากจุดศูนย์กลางเดียวกันได้คือ : หญิงสาวและเด็กนั้นทำเงินได้ดีที่สุด
ดูเหมือนว่าจะมีสองปัญหา แต่ที่จริงแล้วมันสามารถเปลี่ยนเป็นปัญหาข้อเดียวได้
การแต่งงานเหมือนต้นน้ำ ก่อนแต่งงานผู้หญิงทุกคนล้วนใช้เงินไปกับเครื่องสำอางค์ หลังแต่งงานผู้หญิงทุกคนล้วนใช้เงินไปกับลูก
ที่จริงแล้วผู้กำกับช่ายเหลียนมีงานถ่ายทำอยู่สองงาน เมื่อผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดก็ได้ผลตอบรับที่ดีในทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อถังชิงเหอมาเข้าร่วมด้วยแค่ใช้คำคมสักสองสามประโยคมาขัดเกลานิดๆหน่อยก็เวิร์คแล้ว
ในที่สุด ถังเฉาเลือกแผนงาน : “ใครเป็นคนเขียนแผนธุรกิจนี้?”
หลินชิงเสว่มองไปที่ชื่อและพูดว่า : “ฟางหย่าค่ะ”
“ทำตามแผนงานของเธอเถอะ”
หลินชิงเสว่ครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ การตัดสินใจครั้งนี้ของถังเฉาไม่มีความรู้สึกส่วนตัวปะปนอยู่ด้วย เป็นเพราะว่านี่คือแผนธุรกิจที่สมบูรณ์แบบจริงๆ ดังนั้น เธอจึงพยักหน้าด้วยเช่นกัน : “การติดตามงานต่อจากนี้จะเป็นฟางหย่ารับผิดชอบทั้งหมด เธอเป็นหัวหน้าแผนกประชาสัมพันธ์พอดี นี่เป็นจุดแข็งของเธอ”
การตัดสินใจนี้ กล่าวได้ว่าเป็นการเลื่อนตำแหน่งฟางหย่าให้กลายเป็นคนสนิทหลินชิงเสว่โดยสมบูรณ์ และเช่นเดียวกันว่า มันสามารถนำไปสู่ข้อพิพาทต่างๆได้มากขึ้น
หลินชิงเสว่กำลังจะปิดคอมพิวเตอร์ และในเวลานี้เอง หน้าต่างข่าวที่สะดุดตาได้โผล่ขึ้นมา
บนหน้าจอสีขาวและตัวหนังสือสีดำ เขียนคำที่น่าตกใจและสยดสยองขนาดใหญ่ว่า —-เปิดโปงอีกด้านของประธานลี่จิงกรุ๊ปที่ไม่มีคนรู้
สีหน้าของหลินชิงเสว่เปลี่ยนไปทันทีเล็กน้อย เธอคลิกหน้านั้นด้วยอาการสั่นเทา
ด้านบนสุดของหน้าเว็บเป็นภาพคลิปวิดีโออันหนึ่ง ด้านล่างมีการเขียนที่รุนแรงและทรงพลังมากกว่าพันคำ
ทั้งหมดคือการโจมตีชีวิตส่วนตัวอย่างไร้ยางอายของหลินชิงเสว่ และสรุปประเด็นทั้งหมดด้วยกลอน 7 พยางค์ 4 บรรทัด
หญิงโสเภณียี่สิบแปดนางแต่งเนื้อแต่งตัวสวยงาม
ในห้องเจ้าสาวเปลี่ยนเจ้าบ่าวทุกค่ำคืน
แขกนับพันได้หนุนนอนหมอนหยกคู่
แขนนับพันลิ้มรสริมฝีปากแดง!