เจ้ามังกรพรีเมี่ยม – ตอนที่ 293

ตอนที่ 293

จากนั้นเสียงที่ราบเรียบและยังแฝงไปด้วยความหยอกเย้าของถังเฉาก็สิ้นสุดลง เสียงหัวเราะในโทรศัพท์ก็ขาดหายไปอย่างฉับพลัน ชั่วพริบตาก็ไม่มีสัญญาณจากหูเข่อเฟิง

ปฏิกิริยาตอบโต้แรกของเขาก็คือ ถังเฉามีวิธีเอาตู้เซฟไปจากในมือเขา แถมยังสามารถเปิดตู้เซฟได้ด้วย เขาตกใจขึ้นมาทันที

แต่หลังจากนั้นเขาก็หัวเราะออกมาอีกครั้ง “อย่าเสียแรงเปล่าเลย ตู้เซฟนี้ใช้วิทยาการการหลอมเหล็กที่ทันสมัยได้มาตรฐาน น้ำและไฟไม่อาจรุกล้ำ ตัวตู้แข็งแรงอย่างถึงที่สุด ระเบิดก็ไม่อาจทำลายได้ แกทุบมันไม่พังหรอก!”

เท่าที่เขาดู วิธีการของถังเฉาก็คือการใช้กำลังจากภายนอกทำลายและเปิดตู้เซฟออกมา

แต่ถังเฉากลับยกมุมปากขึ้น ยกยิ้มยั่วเย้าขึ้นมา “ใครบอก… ว่าผมจะระเบิดตู้เซฟออก ผมหมายความว่า… ผมจะเอาบัตรลงคะแนนในตู้เซฟของคุณไปโดยที่ไม่มีใครรู้เนื้อรู้ตัวเลยล่ะ”

“อะไรนะ?!”

คำพูดนี้ถูกพูดออกมา ไม่ใช่แค่หูเข่อเฟิงที่ตกตะลึง แต่หูอีซานกับเจิงเทียนเสียงเองก็มองไปที่ถังเฉาอย่างไม่อยากจะเชื่อ พูดไม่ออกแม้แต่ประโยคเดียว

ยังไม่ต้องพูดถึงวิธีการที่จะเอาตู้เซฟของหูเข่อเฟิงมาได้ ต่อให้เอามาได้แล้วก็ไม่มีรหัส แล้วจะเอาของที่อยู่ในตู้เซฟมาได้อย่างไร?

หรือว่า บนโลกนี้จะมีเทคนิคเทพ ๆ ในการเคลื่อนย้ายสิ่งของกลางอากาศอยู่จริง ๆ?

“เป็นไปไม่ได้! แกอย่ามาขู่ฉันนะ!”

พอเรียกสติกลับมาได้ หูเข่อเฟิงก็รีบคำรามออกมาทันที น้ำเสียงดุร้าย “ฉันขาดใบลงคะแนนแค่ใบเดียว ก็จะได้รับมติเอกฉันท์แล้ว พอถึงตอนนั้นแกจะไม่ใช่แค่สิ้นเนื้อประดาตัว แต่แม้แต่บริษัทของเมียแกก็จะกลายเป็นของฉัน ฮ่า ๆ ๆ…”

“อย่างนั้นเหรอ? ถ้าอย่างนั้นพวกเราคอยดูกันดีกว่า…”

ถังเฉาหัวเราะเสียงเย็นแล้วก็วางสายโทรศัพท์ไป

พอรับโทรศัพท์คืนมา หูอีซานที่เมื่อสักครู่ยังสับสนกระวนกระวายใจอยู่ก็สงบนิ่งลง เขาเงียบอยู่นาน จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมามองถังเฉาฉับพลัน “คุณถังครับ ท่านมีวิธีที่จะพลิกแพ้ให้กลายเป็นชนะจริง ๆ เหรอครับ?”

“แน่นอน”

ถังเฉายิ้มอย่างไม่สะทกสะท้าน “ติดตามฉันมานานขนาดนี้ ยังไม่รู้จักฉันอีกเหรอ? ถ้าหากไม่มีทางชนะอย่างเด็ดขาด ฉันไม่มาคุยโวโอ้อวดหรอกนะ”

หูอีซานลังเลใจขึ้นมาฉับพลัน ลองคิดย้อนไป มีครั้งไหนบ้างที่คุณถังประสบกับสภาพการณ์ที่ไม่ดี สถานการณ์ที่จะต้องแพ้?

ทุก ๆ คนล้วนเฝ้ารอดูเรื่องตลกของเขา แต่ตอนสุดท้าย คนที่กลายเป็นเรื่องตลกกลับเป็นพวกเขาเสียเอง

ครั้งนี้ก็จะเป็นเหมือนกันใช่ไหม?

ถังเฉาลุกขึ้นยืน เขามาอยู่ตรงด้านหน้าของหน้าต่างที่ยาวจรดพื้น มองลงไปยังอาคารกั๋วจี้ “ภารกิจของพวกนายสำเร็จแล้ว ต่อไปก็รอจนถึงเดดไลน์ แล้วพวกนายก็ไปเมืองเจียงเฉิงพร้อมกันกับฉัน”

หูอีเทียนกับเจิงเทียนเสียงมองกันอย่างหวาดระแวงแวบหนึ่ง แต่ยังคงเลือกที่จะเชื่อถังเฉา

“ครับ คุณถัง!”

ภายใต้การจับตามองอย่างประหลาดใจของทั้งสองคน ถังเฉาควักโทรศัพท์ออกมา โทรออกไปหมายเลขหนึ่ง พูดอย่างราบเรียบออกมาหนึ่งประโยค “ลงมือได้เลย”

……

วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพียงชั่วพริบตาก็มาถึงเดดไลน์ของการพนันครั้งนี้

ช่วงเช้า ถังเฉายังคงดื่มกาแฟอย่างผ่อนคลาย ทานอาหารกลางวันกับหลินชิงเสว่ ตอนนี้ถึงจะค่อย ๆ เดินนวยนาดขึ้นรถไปกับเจิงเทียนเสียงกับหูอีซาน บึ่งรถไปยังจวี้เฟิงกรุ๊ปในเมืองเจียงเฉิง

ระหว่างทาง เจิงเทียนเสียงและหูอีซานล้วนมีใบหน้าโศกเศร้า หูอีซานที่กำลังขับรถอยู่ถึงขั้นตึงเครียดเกินขอบเขต มือที่กุมพวงมาลัยรถอยู่ถึงกับมีเหงื่อออก

“ผ่อนคลายเถอะ พนันตานี้ฉันต้องเป็นคนชนะอย่างแน่นอน”

ถังเฉาที่นั่งอยู่ที่นั่งด้านหลังยิ้มจาง ๆ เอ่ยอย่างใจเย็น

หูอีซานฝืนใจยิ้มออกมา เช็ดเหงื่อเย็นบนใบหน้า

จะบอกว่าไม่กังวลก็คงจะโกหก ในยี่สิบวันมานี้ถังเฉาไม่ได้ทำอะไรเลย อย่างเดียวที่ทำก็คือให้คนออกไปเฝ้าดูอย่างไม่หวั่นเกรงต่อสิ่งใด แต่กลับไม่ใช้วิธีการที่เป็นจริงเป็นจังใดใด…ตั้งแต่พวกเขาติดตามถังเฉามาเป็นเวลานานขนาดนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เกิดข้อสงสัยกับคำสั่งของถังเฉา

แต่ว่าก่อนที่ระยะเวลาของการพนันจะสิ้นสุดลง ยังเหลือเวลาอีกไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงแล้ว แต่มาถึงจุดนี้แล้ว พวกเขาก็ถือโอกาสเทหมดหน้าตัก ร่วมชะตากรรมกับถังเฉา

รถมาถึงด้านล่างของอาคารจวี้เฟิงกรุ๊ปด้วยความรวดเร็ว ยังคงเป็นเลขา ฯ สาวคนนั้นที่พาพวกของถังเฉาสามคนเข้าไปยังห้องทำงานของประธาน ฯ

ในตอนนี้เอง หูเข่อเฟิงนั่งยิ้มตาหยีอยู่บนเก้าอี้เลื่อน เมื่อเห็นพวกของถังเฉาสามคนเข้ามาแล้ว บนใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้มสว่างไสวออกมา

“ว้าว… นี่ไม่ใช่ ‘ท่านซีอีโอถังผู้ยิ่งใหญ่’ หรอกเหรอ ได้รับการสนับสนุนจากบรรดาสมาคมผู้ถือหุ้นหรือเปล่า?”

หูอีซานคิ้วกระตุก กำลังจะตำหนิด้วยความขุ่นเคือง กลับถูกถังเฉายกมือห้ามเอาไว้

บนใบหน้าของเขามีรอยยิ้มไม่สะทกสะท้าน เขาส่ายศีรษะอย่างสบาย ๆ “เปล่าครับ ไม่ได้รับบัตรลงคะแนนเลยสักใบ บัตรทั้งหมดอยู่ในมือของคุณหมดแล้ว”

“ที่แท้แกก็รู้จักยอมรับความจริงเหรอเนี่ย?”

หูเข่อเฟิงเห็นว่าในสายตาของถังเฉาเต็มไปด้วยแววเสียดสี “แบบนี้แกยังจะกล้ามา!”

เสียงของหูเข่อเฟิงสูงขึ้นแปดระดับในชั่วพริบตา ลุกขึ้นมาจากเก้าอี้เลื่อน จ้องถังเฉาเขม็ง

“ไม่มีบัตรแม้แต่ใบเดียว ยังจะกล้ามาพนันกับฉันอีก? ฉันแนะนำให้แกรีบไปเตรียมสัญญาโอนบริษัทของเมียแกตั้งแต่เนิ่น ๆ เถอะ!”

ถังเฉายังคงไม่โมโห รินชาร้อนให้ตัวเองหนึ่งแก้ว “อย่ารีบเลยครับ นี่มันยังไม่ถึงเวลาเลยไม่ใช่เหรอครับ? อีกอย่าง จากที่ผมรู้มา ตอนนี้คุณแค่รวบรวมบัตรลงคะแนนของผู้ถือหุ้นสิบเอ็ดคนมาได้ ยังมีอีกคนหนึ่ง ที่ยังเอามาไม่ได้ ไม่ใช่เหรอครับ?”

“เหอะ ๆ”

ได้ยินคำพูดของถังเฉาแล้ว รอยยิ้มเยือกเย็นบนใบหน้าของหูเข่อเฟิงก็ยิ่งเข้มข้นขึ้น “ดูเหมือนแกจะไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตานะ!”

เพียงชั่วพริบตา มือใหญ่ของเขาโบกไหว พูดด้วยความตั้งใจว่า “ฉันจะบอกแกให้นะ ผู้ถือหุ้นคนสุดท้าย ฉันนัดแนะกับเขาไว้นานแล้ว จะเอาบัตรมาเพิ่มให้ตอนห้าโมงตรง… นี่เป็นของขวัญที่ฉันตั้งใจจะมอบให้แก ให้แกกับเจ้าโง่หูอีซานนั่นได้เป็นประจักษ์พยานนาทีที่ยิ่งใหญ่ที่ฉันได้ขึ้นเป็นประธาน!”

ท่าทางกำเริบเสิบสาน ยั่วโมโหหูอีซานอย่างถึงที่สุด แต่เขาก็กำหมัดแน่น ๆ กล้าโมโหแต่ไม่กล้าเอ่ยออกมา

ถังเฉายังคงเป่าชาร้อนเบา ๆ “ดีนี่”

ติ๊งต่อง~ ~

ในตอนนี้เอง ประตูของห้องทำงานก็เปิดออก มีเสียงของเลขา ฯ สาวส่งออกมา “ผู้จัดการหูคะ ผู้ถือหุ้นคนสุดท้ายมาถึงแล้วค่ะ”

หูเข่อเฟิงรีบลุกขึ้นยืน “รีบเชิญเขาเข้ามา!”

ผู้ชายวัยกลางคนที่สวมชุดสูท แว่นตาดำเดินเข้ามาด้วยความรวดเร็ว นั่งลงตรงหน้าหูเข่อเฟิง

บนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเยาะหยัน “เห็นแล้วหรือยัง เขาก็คือผู้ถือหุ้นคนสุดท้าย!”

ประโยคนี้พูดออกไปแล้วใบหน้าของหูอีซานกับเจิงเทียนเสียงก็ขาวซีดเหมือนกระดาษในพริบตา ในใจมีเพียงความคิดเดียวว่า จบสิ้นแล้ว…

ชายวัยกลางคนที่สวมสูทคนนั้นเอาบัตรลงคะแนนของตัวเองมอบให้กับหูเข่อเฟิง แต่กลับไม่ได้จากไป แต่กลับพูดขึ้นมาอย่างกะทันหันว่า “ผู้จัดการหู บัตรลงคะแนนพวกนี้ ผมจะเอาไปส่งให้ท่านหานเอง ไม่มีปัญหาใช่ไหมครับ?”

หูเข่อเฟิงขมวดคิ้ว แต่ก็ยังตอบตกลง “ครับ”

จากนั้น เขาก็จ้องไปที่ถังเฉาด้วยใบหน้าดุร้ายปราดหนึ่ง เปิดตู้เซฟต่อหน้าทุกคน หยิบเอาบัตรลงคะแนนสิบเอ็ดใบออกมา

สีหน้าของหูอีซานกับเจิงเทียนเสียงน่าเกลียดอย่างถึงที่สุด ครั้งนี้ไม่มีความหวังแล้วจริง ๆ

ชายวัยกลางคนที่สวมชุดสูทถือบัตรลงคะแนนสิบเอ็ดใบไปเดินจากไป

ทำเรื่องพวกนี้เสร็จแล้ว หูเข่อเฟิงก็มาอยู่ด้านหน้าของถังเฉาในทันที สายตาเต็มไปด้วยความเย็นชา “ไงล่ะ ถังเฉา แกยังมีอะไรจะพูดอยู่อีกไหม?”

“ผมไม่มีอะไรจะพูดแล้วล่ะครับ รอท่านหานมาแล้วค่อยมาตัดสินว่าใครแพ้ใครชนะเถอะครับ”

ถังเฉายังคงดื่มชาร้อน ยิ้มตาหยีแล้วเอ่ยขึ้น

หูเข่อเฟิงตกตะลึง คิดไม่ถึงเลยว่าจนป่านนี้แล้วถังเฉายังนิ่งแบบนี้อยู่อีก ฉับพลันใบหน้าก็เยือกเย็นยิ่งขึ้น

“ดี ตอนแรกฉันยังคิดว่าถ้าแกยอมรับความพ่ายแพ้ ฉันยังจะไว้หน้าแกสักหน่อย แต่ในเมื่อแกไม่ต้องการ เช่นนั้นก็อย่ามาโทษฉัน รอท่านหานประกาศ ไม่ใช่แค่แกเท่านั้น ยังมีหลินชิงเสว่เมียของแกที่จะต้องสิ้นเนื้อประดาตัว เร่ร่อนอยู่ข้างถนน!”

ถังเฉายิ้มน้อย ๆ แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไร

ท่านหานยันไม้ตะพดเดินเข้ามาด้วยความรวดเร็ว

หูเข่อเฟิงรีบเข้าไปต้อนรับด้วยความกระตือรือร้นทันที “ท่านหาน รีบประกาศผลการพนันเถอะครับ”

ท่านหานมองเขาแวบหนึ่งแล้วพยักหน้า เริ่มประกาศ

“การพนันในครั้งนี้…”

เห็นว่าผลลัพธ์กำลังจะประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ หูอีซานกับเจิงเทียนเสียงตื่นเต้นจนหัวใจเต้นตุบตับ ถึงขึ้นไม่กล้าจะฟังแล้ว

สายตาของท่านหานมองไปยังหูเข่อเฟิง ทันใดนั้นก็เคลื่อนไปมองบนร่างของถังเฉาที่ดื่มชาอยู่อย่างไม่สะทกสะท้าน

“ถังเฉาชนะ

เจ้ามังกรพรีเมี่ยม

เจ้ามังกรพรีเมี่ยม

Status: Ongoing

เมื่อห้าปีก่อน ถูกว่าที่ภรรยาใส่ร้าย ในเวลาที่เกือบจะตาย มีผู้หญิงคนหนึ่งมาช่วยเขาอย่างสุดชีวิตห้าปีต่อมา อำนาจและทรัพย์สมบัติของโลกล้วนตกอยู่ในมือของเขา การกลับมาของม้าศึก แค่เพื่อที่จะตอบแทนบุญคุณในคืนนั้น แต่กลับพบว่า เธอได้คลอดลูกสาวคนหนึ่งสิ่งที่เป็นหนี้คุณไม่สามารถลบล้างให้หมดไปได้ ถ้าอย่างนั้นก็ปกป้องพวกคุณสองแม่ลูก……ทั้งชีวิตเลยแล้วกัน!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท