ตอนนี้ทุกอย่างนิ่งสงบ ทุกคนตะลึงกับเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้า
รถที่มากมาย และผู้คนที่ล้นหลาม
คนพวกนี้อยู่ในโลกใต้ดิน คุ้นเคยกับชีวิตนองเลือด และในตัวเต็มไปด้วยกลิ่นอายความอาฆาตอันแรงกล้า
“นี่ ก็คือพลังของประธานถัง”
เหตุการณ์นี้ สั่นคลอนจิตใจของผู้บริหารระดับสูงและระดับกลางทั้งหมดของลี่จิงกรุ๊ป ทำให้พวกเขาตื่นตระหนกที่สุด
เมื่อก่อน ตอนที่ถังเฉาทำหน้าที่ รองประธานกรุ๊ปแทนซุนเสว่ ระดับสูงและระดับกลางล้วนไม่พอใจ จนถีงขึ้นรู้สึกไม่เท่าเทียมกัน
เพราะถังเฉาคือสามีของหลินชิงเสว่ประธานกรุ๊ป เขา เป็นเพียงไอ้สวะที่เกาะผู้หญิงกินเท่านั้น
แต่สถานการณ์ในวันนี้ กลับเปลี่ยนความคิดของพวกเขาไปอย่างสิ้นเชิง
ไม่ว่าจะเป็นผู้นำของตระกูลซุน หรือคุญชายรองตระกูลต่ง อีกทั้งตระกูลจ้าวและตระกูลเย่ ล้วนเป็นบุคคลที่พวกเขาให้เกียรติ
แต่ กลับเคารพเมื่ออยู่ต่อหน้าถังเฉา
ตอนที่อยู่ในสถานการณ์คับขันต่อหน้าตระกูลหลวงในเยี่ยนตู พวกเขาไม่แม้แต่จะทรยศ แต่ทว่ากลับลงมือทำให้ทุกคนเห็น
สำหรับถังเฉา พวกเขาแม้ตายก็จะตามหลอกหลอน!
“ตระกูลถังในเยี่ยนตูของพวกแก ยังจะเล่นงานฉัน?”
ในขณะเดียวกันนี้ มีเสียงสัพยอกดังขึ้นมา
ถังเฉาที่ไม่พูดไม่จาอยู่นานค่อยๆหันหลัง เดินไปที่ถังหลินและถังหมิง ด้วยสายตากวนตีน
อารมณ์ของถังหลินและถังเฉาค่อยๆเปลี่ยนไป ถึงแม้จะโมโห แต่ก็ต้องยอมรับ ว่าที่นี่คือเมืองหมิงจู ไม่ใช่เยี่ยนจิงของพวกเขา
ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็เข้าใจแล้ว ว่าถังเฉาคนนี้ ไม่ได้ธรรมดาเหมือนที่แสดงกิริยาท่าทางออกมา
หลังจากที่เงียบไปสักพัก ถังหลินเงยหน้ามองถังเฉา เสียงผ่อนปรนลง “ถังเฉา ฉันขอกลืนคำพูดก่อนหน้านี้ของฉัน แกใช้เครื่องราชอิสริยาภรณ์ของตระกูลถังของฉันได้ และมีสิทธิ์ เข้าร่วมตระกูลถังของฉัน!”
“เข้าร่วมตระกูลถังของคุณ?”
ถังเฉาหัวเราะออกมา “ตระกูลถังของคุณ นับญาติง่ายไปหรือเปล่า?ถ้าผมเข้าร่วมตระกูลถังของคุณ เป็นผมที่พึ่งบารมีของพวกคุณ หรือพวกคุณพึ่งบารมีของผม?”
ความหมายก็คือ ผมเข้าร่วมตระกูลถัง ไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับผม แต่มีประโยชน์ต่อตระกูลถังของพวกคุณ
จุดนี้ ซุนยู่เฟิง ต่งวี่ซู่ จ้าวเย็นหราน และเย่เทียนหลงเข้าใจเป็นอย่างดี จึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างไม่พอใจออกมา
เมื่อได้ยินดังนี้ ถีงหลินกลับเกรี้ยวกราดขึ้นมา กัดฟันแล้วกล่าว “ถังเฉา อย่าเกินไป!”
หลังจากที่เห็นความสามารถของถังเฉาแล้ว ถังหลินตัดสินใจกอบกู้ชื่อเสียง โดยให้ถังเฉาเข้าตระกูลถังมาก่อน จากนั้น ค่อยให้ถังชิงเหอตามเข้ามา
แต่ใครจะรู้ ว่าถังเฉาจะไม่ยอมรับตระกูลถัง
แม้แต่เขาก็อดที่จะสงสัยไม่ได้ ว่าบารมีของตระกูลหลวงในเยี่ยนตูเมื่ออยู่ที่มณฑลอื่น จะน้อยมากขนาดนี้?
ถังเฉากล่าวช้าๆ “ผมพูดชัดเจนมากแล้ว ว่าถังชิงเหอไปกับพวกคุณไม่ได้ อีกอย่าง พวกคุณมาหาเรื่องที่บริษัทของภรรยาผม จนกระทั่งตอนนี้แต่ล่ะแผนกยังไม่เริ่มทำงานเลย ความเสียหายนี้ ใครรับผิดชอบ?”
เมื่อถังหลินและถังหมิงได้ยินดังนี้ ก็หน้าถอดสีทันที รู้ว่าเขาโลภมากไปแล้ว
ถังเฉาชี้ไปที่ซุนยู่เฟิง และต่งวี่ซู่ แล้วกล่าวต่อว่า “เดิมทีพวกเขาต่างมีงานที่ต้องทำ ตอนนี้กลับเป็นเพราะเรื่องบ้าๆของคุณ จึงต้องมารวมตัวกันที่นี่ ใครจะรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นนี้อีก?”
เมื่อได้ยินดังนี้ พวกเขาก็ยิ่งบูดบึ้งมากขึ้น
ถ้าไม่ให้เงินก็ไม่ปล่อย!
เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ต้องยอมถอย ที่นี่คือเมืองหมิงจู ต่อให้พวกเขาเป็นคนเก่ง ก็ต้องหลีกเลี่ยงที่จะชนกับอำนาจของเมืองหมิงจู
เมื่อคิดได้ดังนี้ ถังหลินจึงกล่าว “งั้นแกจะเอายังไง?”
ถังเฉาหัวเราะ “ผมไม่รังแกคุณนะ เอาตามกำไรสุทธิในแต่ล่ะบริษัททุกวัน แล้วคิดเป็นรายชั่วโมงก็แล้วกัน ”
“เริ่มจากลี่จิงกรุ๊ปของภรรยาผมก็แล้วกัน กำไรสุทธิในแต่ล่ะชั่วโมงของบริษัทลี่จิงกรุ๊ปอยู่ที่ประมาณหนึ่งล้าน คุณอยู่มาสองชั่วโมง ก็คือสองล้าน”
“บริษัทตระกูลต่งของผมหนึ่งชั่วโมงประมาณสองล้าน สองชั่วโมง ก็สี่ล้าน”
“ตระกูลซุนของผมหนึ่งชั่วโมงก็ประมาณหนึ่งล้าน สองชั่วโมง สองล้าน”
“……”
ตัวแทนของแต่ล่ะกรุ๊ปต่างพากันแจ้งตัวเลข ราคาได้รวมไปมากกว่าห้าสิบล้าน
เสียเปรียบมากขนาดนี้ แล้วยังต้องจ่ายอีกห้าสิบล้าน ใบหน้าของถังหลินกระตุกไม่หยุด
“ผมจะจ่ายค่าเสียหายของพวกคุณเอง”
ในขณะเดียวกันนี้ จู่ๆก็มีเสียงผู้หญิงที่เลือดเย็นดังขึ้น
ทันใดนั้น ทุกคนมองไปยังซ่งหรูอี้ที่ยืนอยู่ในมุมไม่ได้เอ่ยปากมาสักพักใหญ่
เธอสีหน้าเย็นชา ดูไม่ออกว่าดีใจหรือโมโห
ทันใดนั้นสีหน้าของถังหลินก็เปลี่ยนไป รีบเดินไปที่ซ่งหรูอี้ แล้วกล่าว “หรูอี้ ผมจะให้คุณช่วยจ่ายเงินนี้ได้อย่างไรกัน?”
เขาคิดว่า ที่ซ่งหรูอี้จ่ายเงิน ทำเพื่อเขา
ซ่งหรู่อี้กลับถากถาง “ช่วยจ่ายให้คุณ?คุณสำคัญตัวเองเกินไปแล้ว”
ถังหลินชะงักทันใด มองไปยังซ่งหรูอี้อย่างไม่เข้าใจ
เธอไม่สนใจอีกต่อไป เดินด้วยรองเท้าส้นสูง ไปที่ถังหลินและหลินชิงเสว่ แล้วยิ้มอย่างเย็นชา
“วันนี้แผนการของฉัน ถูกไอ้งั่งสองตัวก่อกวน แต่ ก็ทุ่นแรงฉันไปได้อยู่”
ถังเฉาขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจความหมายของซ่งหรูอี้
เห็นเพียงเธอดูแคลน “ถังเฉา พวกเราเปิดศึกกันแล้ว!”
เมื่อพูดจบ เธอไม่รอให้ถังเฉาโต้ตอบใดๆ แล้วจากไป
บัญชีของบริษัทตระกูลซ่ง เริ่มเคลียร์บัญชี
ถังเฉามองด้านหลังขอซ่งหรูอี้ ด้วยแววตาเคร่งเครียด
ไม่รู้ว่าทำไม ในใจลึกๆของเขาถึงรู้สึกไม่สงบ
ถังหลินและถังหมิงก็จากไป แต่ก่อนที่จะจากไป ได้จ้องไปที่ถังเฉาด้วยสายตาดุดัน
ซุนยู่เฟิง ต่งวี่ซู่ ก็ตามออกไป
ถังเฉายังคงยืนอยู่ที่หน้าต่าง มองซ่งหรูอี้จากไป
หลินชิงเสว่เดินมาข้างๆ แล้วกล่าวอย่างสงบ “ไม่ต้องคิดอะไรแล้ว ไม่ว่าจะมาวิธีไหน ก็รับมือได้เสมอ”
“ต้องระวังตัวไว้”
ถังเฉากลับส่ายหน้า แล้วกล่าวอย่างจริงจัง “ตอนนี้โครงการของสำนักงานการก่อสร้างเป็นการดูแลของเราและตระกูลซ่ง ถ้าเธอจะเล่นงานอะไร มันง่ายมาก”
หลินชิงเสว่เห็นดังนี้ ก็ไม่พูดอะไรอีก เพียงแต่จับมือของถังเฉาไว้เบาๆ
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกเราจะเผชิญหน้าไปด้วยกัน!”
ถังเฉาเห็นดังนี้ ก็ยิ้มออกมา
หลินเจิ้นสงพักฟื้นมาหลายวัน และหายดีแล้ว แต่ยังคงต้องเฝ้าดูอาการที่โรงพยาบาลอีกสักกี่วัน หลินฉ่ายเวยได้กลับมาทำงาน
“ฉ่ายเวย ผมจำได้ว่าโครงการของสำนักงานการก่อสร้างนี้คุณเป็นคนสื่อสารกับบริษัทตระกูลซ่งใช่มั้ย?”
จู่ๆถังเฉาก็ถามขึ้นมา
เพียงแค่ถามอย่างธรรมดา หลินฉ่ายเวยก็ตกใจ
“หืม? ใช่ค่ะ เกิดปัญหาอะไรขึ้นหรือเปล่าคะ?”
ถังเฉาไม่พูดอะไร ผ่านไปสักพัก จึงค่อยๆกล่าวว่า “สังเกตบริษัทตระกูลซ่งไว้ การกระทำทุกอย่างของตระกูลซ่ง ต้องรายงานผมทุกย่างก้าว”
“ค่ะ”
หลินฉ่ายเวยโล่งอก แล้วถอยหลังไป
เธอออกจากห้องทำงานไป ด้วยความทุกข์
ถึงแม้เธอจะฟังคำสั่งของซ่งหรูอี้ ทำอะไรบางอย่างไป แต่ ก็เพียงพอที่จะกระทบทั้งหมดได้
สามวันผ่านไป ข่าวร้าย ได้ลือไปทั้งบริษัทลี่จิงกรุ๊ป
“ประธานหลิง บริษัทตระกูลซ่งประกาศ ถอยจากโครงการของสำนักงานการก่อสร้าง!”
หลี่ถาวรีบรุดเข้าไปที่ห้องทำงานของหลินชิงเสว่ ด้วยสีหน้าร้อนรนอย่างหาที่เปรียบมิได้
“อะไรนะ?!”
เมื่อหลินชิงเสว่ได้ยิน ก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันใด
เธอรู้ดี ที่จู่ๆตระกูลซ่งประกาศถอยจากโครงการ กระทบกับ บริษัทเป็นอย่างมาก
ข่าวนี้ ได้เข้าถึงหูของถังเฉา
ไม่มีใครสังเกต ว่าหลินฉ่ายเวยที่ยังอยู่ในห้องทำงาน ตัวสั่นอย่างรุนแรง มือเท้าเย็นเฉียบ