เพิ่งจะสิ้นเสียงของถังเฉา ทุก ๆ คนล้วนคิดว่าเขาบ้าไปแล้ว
แม้แต่ลู่โป๋หานกับเซี่ยสิงจู๋ก็ล้วนแต่คิดว่าถังเฉาบ้าไปแล้ว
ชื่ออัปมงคลของคู่นักมีดทั้งใต้และเหนือดังกระฉ่อนไปทั่วทั้งเจียงเจ้อ ดวงวิญญาณที่ต้องตายไปด้วยน้ำมือของพวกเขาคู่นักมีดมีมากมายนับไม่ถ้วน ถังเฉาไปเอาความมั่นใจในตัวเองมาจากไหนกัน
ทุกคนในตระกูลหูหัวเราะเสียงดังกันทุกคน
“ฉันว่าเขาคงกลัวจนเป็นบ้าไปแล้ว ศักยภาพของคู่นักมีดทั้งใต้และเหนือเพียงแค่อ่อนแอกว่าประธานหงของสมาคมการต่อสู้ของเมืองเจียงเฉิงนิดหน่อยเท่านั้น ใช่คนที่เขาสามารถต่อต้านได้ที่ไหนกัน?”
“ฉันว่าไม่จำเป็นต้องให้คู่นักมีดออกมือหรอก เลือกนักมีดออกมาคนหนึ่งก็สามารถจัดการเขาได้แล้ว”
แม้แต่หูเซียวก็ยังยิ้มออกมา
“ที่จริงครั้งก่อนตอนที่แกรื้อบ้านใหญ่ตระกูลหูของพวกเรา ฉันก็ควรจะให้คู่นักมีดทั้งใต้และเหนือกลับมา ขอเพียงมีพวกเขาอยู่ แกก็จะทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น!”
บนใบหน้าของคนในตระกูลหูทุกคนล้วนแต่มีความจองหอง
หูจิ้งจู๋กับหูเข่อเฟิงก็มองไปที่ถังเฉาด้วยสายตาเยียบเย็น
สำหรับพวกเขาแล้ว คราวที่แล้วที่ถังเฉารื้อบ้านใหญ่ของพวกเขานั้นเป็นตอนที่ความสามารถในด้านการป้องกันของตระกูลหูอ่อนแอที่สุด
ตอนนี้คนในตระกูลหูล้วนเพียบพร้อมกันทั้งหมด ถังเฉาไม่มีโอกาสแม้แต่น้อย
แม้แต่หูอีซานก็ตึงเครียดขึ้นมา เป็นธรรมดาที่เขาจะเผด็จการเพราะตระกูลหู ไม่เพียงแต่อาศัยวิธีการสกปรกมากดขี่ข่มเหงอีกฝ่าย ทั้งยังอาศัยผู้แข็งแกร่งที่สุดแห่งยุคมาควบคุมด้วยตัวเอง
เขายืนอยู่นอกรัศมีร้อยเมตร แต่ก็ยังคงสัมผัสได้ถึงพลังที่ยิ่งใหญ่ ทำให้เขาสั่นสะท้านไปทั้งกาย
ซูเซี่ยที่อยู่ด้านหลังกอดหูอีซานเอาไว้แน่น
ในตอนนี้เอง องครักษ์ของตระกูลลู่คนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาอย่างลนลาน
“คุณ… คุณชายลู่… ท่านวงของตระกูลลู่มาถึงแล้วครับ!”
ใบหน้าของลู่โป๋หานเต็มไปด้วยความเบิกบานใจทันที “รีบเชิญท่านวงเข้ามา!”
ถังเฉามองเขาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ ลู่โป๋หานรีบพูดขึ้นด้วยใบหน้าที่ประดับไปด้วยรอยยิ้มทันที “คุณถังครับ ท่านวางใจเถอะ ท่านวงเป็นท่านหนึ่งในบรรดาผู้คนมากมายที่ควบคุมผู้แข็งแกร่ง ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ยอดบนสุด แต่การปกป้องชีวิตของท่านนั้นมากเกินพอแล้วล่ะครับ!”
“อย่างนั้นหรือ?”
ถังเฉายิ้ม ไม่ได้พูดอะไร
ในตอนนี้เอง บอดี้การ์ดจำนวนมากของตระกูลเซี่ย ตระกูลลู่และของหูอีซานถลันกันเข้าไปในบ้านตระกูลหู ถังเฉาจึงไม่เข้าไปแล้ว
แต่ทว่าใจของเขาร้องเตือนอย่างหนัก
เขากลัวมากว่าเสี่ยวลี้จะเกิดเหตุสุดวิสัย
ถ้าเป็นอย่างนั้นเขาคงจะไม่อภัยให้ตัวเองไปตลอดชีวิต!
หูเซียวตวาดเสียงดังขึ้นมา “ขวางพวกเขาเอาไว้!”
หูจิ้งจู๋พาบอดี้การ์ดทุกคนพุ่งเข้าไปทางพวกเขา
แต่จำนวนบอดี้การ์ดของตระกูลหูมีอยู่ไม่มาก ก่อนหน้านี้ก็ถูกเฟิ่งหวงจัดการจนหมอบไปชุดหนึ่ง แม้แต่แฮงก์ที่เป็นหัวหน้าก็ยังถูกสายตาหนึ่งของถังเฉาทำให้หวาดกลัวจนเป็นลมไป ขวางไว้ไม่ได้จริง ๆ
ใบหน้าของหูเซียวเต็มไปด้วยความร้อนใจ “คู่นักมีดทั้งใต้และเหนือ รีบลงมือ ฆ่าพวกมันคนใดคนหนึ่ง!”
จับโจรต้องจับราชาโจรเสียก่อน
ขอเพียงคนใดคนหนึ่งในเซี่ยสิงจู๋ ลู่โป๋หาน และถังเฉาสามคนนั้นตายไป คนกลุ่มนี้ก็จะกลายเป็นกลุ่มคนไร้ระเบียบขาดผู้นำกลุ่มหนึ่ง สร้างความหวาดกลัวไม่ได้
ขวับ!
คู่นักมีดทั้งใต้และเหนือที่ก่อนหน้านี้ยืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่ก็ลงมือโดยพลัน
เห็นเพียงเงาหนึ่งดำหนึ่งขาวอันเลือนรางเฉียดมายังพวกของถังเฉาและเซี่ยสิงจู๋สามคน
หัวใจของเซี่ยสิงจู๋และลู่โป๋หานตื่นเต้นจนแทบกระเด็นกระดอนออกมา
“รนหาที่ตาย…”
สายตาของเฟิ่งหวงเย็นยะเยือกอย่างรวดเร็ว ในช่วงที่คิดจะลงมือนั้นเอง
ถังเฉากลับขัดขวางเธอเอาไว้
เขาแย้มรอยยิ้ม “ผู้แข็งแกร่งของตระกูลลู่มาแล้ว คุณจะลงมือทำไม?”
เฟิ่งหวงเข้าใจในทันทีว่ารองหัวหน้าจะตัดกำลังของตระกูลลู่ ตอนนี้จึงไม่ลงมือแล้ว
“ท่านวง รีบช่วยพวกเรา!”
สีหน้าของลู่โป๋หานหวาดกลัวจนถึงขีดสุด
เพราะว่าเขามองเห็นมีดใต้ในคู่นักมีดทั้งใต้และเหนือพุ่งเข้ามาที่เขาอย่างคาดไม่ถึง
มีดเหนืออีกคนหนึ่งพุ่งไปทางถังเฉา
ตึง!
ช่วงนาทีวิกฤต ด้านหน้าของพวกถังเฉาและลู่โป๋หานสามคนก็ปรากฏเงาคนชราเงาหนึ่งทันที
นั่นก็คือท่านวง ผู้มีฝีมือสูงของตระกูลลู่
เขาปรากฏตัวในจังหวะที่พอดิบพอดี พอดีกับนาทีที่คู่นักมีดทั้งใต้และเหนือปรากฏตัวออกมา
มือทั้งสองข้างต่างจับเอาไว้ที่ข้อมือของคู่นักมีดทั้งใต้และเหนือ จากนั้นมือทั้งสองข้างก็ออกแรงในทันที
ขวับ!
ด้วยเหตุนี้ มีดในมือของคู่นักมีดทั้งใต้และเหนือก็เปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนไหวกลางอากาศ
มีดหนึ่งแฉลบผ่านหน้ากล่องเสียงของลู่โป๋หานไป
ลู่โป๋หานสามารถสัมผัสได้ว่าลำคอของตนเองเย็นเยียบไปในชั่วพริบตา เขาตกใจกลัวจนทรุดนั่งลงไปบนพื้นดังตุ้บ
ถังเฉายังคงยืนอยู่อย่างสงบนิ่งเช่นเดิม คมมีดตัดมาที่ด้านซ้ายของเขา
ผมหลายปอยถูกตัดขาดร่วงหล่นลงมาอย่างเงียบ ๆ
เวลาเพียงชั่วพริบตา คู่นักมีดทั้งใต้และเหนือก็หายไปจากระยะสิบเมตร มองพวกเขาอย่างเยือกเย็น
มีดเหนือในคู่นักดาบยิ้มออกมาอย่างมืดครึ้ม เอ่ยว่า “ท่านวง แขกผู้มีเกียรติของตระกูลลู่ เหยื่อที่พวกเราคู่นักมีดทั้งใต้และเหนือหมายตา คุณก็กล้าที่จะสอดมืออย่างนั้นหรือ?”
ท่านวงที่ทั้งศีรษะเต็มไปด้วยผมหงอกขาว สวมชุดคลุมขาวทั้งชุด ดวงตาทั้งคู่เข้มงวด
“ขอเพียงมีฉันอยู่ จะไม่ยอมให้พวกแกทำร้ายคุณชายแน่”
“และยังมีคุณถังด้วย!”
ในตอนนี้ลู่โป๋หานลุกขึ้นยืนจากพื้นแล้ว ชี้ไปที่ถังเฉาแล้วเอ่ยกับท่านวง
“หึ!”
ท่านวงเหลือบตามองถังเฉาแวบหนึ่ง ถึงแม้จะไม่ได้เอ่ยวาจาเหน็บแนมออกมา แต่ก็ร้องหึออกมาเบา ๆ ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหยิ่งยโส
“อีกครู่หนึ่งคุณก็ตามอยู่ด้านหลังของผม อย่าอยู่ห่างจากผมแม้แต่ก้าวเดียว ฟังรู้เรื่องไหม?”
มองออกได้ว่าเขาคัดค้านการปกป้องถังเฉา
ในคำพูดเป็นการออกคำสั่งอย่างเข้มข้น
ลู่โป๋หานมาอยู่ด้านข้างของถังเฉาพลางยิ้มแล้วเอ่ยว่า “คุณถังครับ ผู้แข็งแกร่งที่มีฝีมือสูงของตระกูลลู่ของผมเป็นอย่างไรบ้างครับ?”
ถังเฉามองท่านวงแวบหนึ่งทันที เอ่ยประโยคหนึ่งอย่างลวก ๆ ว่า
“พอใช้ได้”
“อะไรนะ?”
สีหน้าของลู่โป๋หานแข็งค้างทันที
ผู้มีฝีมือสูงของตระกูลของเขาช่วยชีวิตเขาไว้ครั้งหนึ่ง เขายังคิดจะอาศัยเรื่องนี้มาฉวยประโยชน์นิด ๆ หน่อย ๆ จากถังเฉา
นึกไม่ถึงว่าถังเฉาจะเอ่ยออกมาหนึ่งประโยคด้วยท่าทางสบาย ๆ ว่าพอใช้ได้?
ท่านวงสุมไฟอยู่เต็มอก แต่กลับไม่ได้พูดอะไรออกมา
แต่อาศัยประโยคนี้ของถังเฉา ท่านวงก็ไม่ปกป้องเขาอีกแล้ว!
ลู่โป๋หานคิดไปคิดมาแล้วจึงเอ่ยกับท่านวงว่า “ไม่ว่าอย่างไรคุณก็ต้องปกป้องคุณถังให้ดี อย่าให้ถังเฉาได้รับบาดเจ็บ!”
ลู่โป๋หานบอกเป็นนัย ๆ ท่านวงพยักหน้ารับ
“ครับ คุณชาย”
ลู่โป๋หานพูดจบแล้วก็เดินออกจากบ้านใหญ่ตระกูลลู่
ที่นี่เปลี่ยนเป็นสนามรบไปแล้ว ไม่เหมาะที่จะให้คุณชายที่มีร่างกายสูงค่าอย่างเขามาอยู่
ท่านวงเข้าใจความหมายของเขาแล้ว นั่นก็คือต้องให้ถังเฉาได้รับบาดเจ็บ เลือดตกยางออก บอกเขาว่านี่เป็นค่าตอบแทนที่ไม่ยอมทำตามตระกูลลู่
แน่นอนว่าถังเฉาจะตายไม่ได้
ท่านวงหัวเราะอย่างเยียบเย็นออกมาครั้งหนึ่ง ตั้งใจเว้นระยะห่างจากถังเฉาไปหลายก้าว
ถังเฉาเองก็ไม่ได้ใส่ใจ มองไปยังเฟิ่งหวง “อารักขาพวกผู้นำเซี่ย หูอีซานกับเสี่ยวเซี่ยให้ดี”
เฟิ่งหวงพยักหน้า จ้องมีดเหนือเขม็ง
คู่นักมีดทั้งใต้และเหนือมาด้วยกัน เฟิ่งหวงเปลืองแรงอยู่นิดหน่อย แต่ถ้าหากมีเพียงคนเดียวละก็ เฟิ่งหวงมั่นใจอย่างเต็มที่จะทำให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสจนถึงขั้นสังหารเขาได้เลย
ในตอนนี้มีดเหนือก็ไม่กล้าขยับอีก เผชิญหน้ากับเฟิ่งหวง เขาสัมผัสได้ถึงความกดดันมหาศาล
เขามองไปยังมีดใต้
มีดใต้รู้กันได้ในทันที มองท่านวงอย่างเยียบเย็น “ดูเหมือนว่าการจะฆ่าพวกเขาได้ จะต้องฆ่าแกก่อนแล้ว”
ท่านวงหัวเราะเสียงเย็นออกมาครั้งหนึ่ง “แกก็ลองดูสิ?”
“ไม่รู้จักเป็นตาย!”
บึ้ม!
นาทีต่อมา มีดใต้ปะทุขึ้นทันที มีดโค้งในมือสังหารไปทางท่านวงราวกับเคียวยมทูต
ไม่ว่าจะเป็นความเร็วหรือว่าประสิทธิภาพก็ล้วนแต่รวดเร็วกว่าก่อนหน้านี้อยู่มาก
ใบหน้าของท่านวงเต็มไปด้วยความตกตะลึงในทันที
นึกไม่ถึงว่าเขาจะไม่ใช่คู่ต่อสู้!
ขวับ!
มีดโค้งสะท้อนแสงจันทร์ที่เย็นยะเยือก ขยายตัวใหญ่ขึ้นอยู่ในสายตาของท่านวงอย่างต่อเนื่อง
ท่านวงสัมผัสได้ว่าความตายย่างกรายมาถึงแล้วจึงไม่ต่อต้านอีก
ตึง!
ทว่านาทีถัดมา ดูเหมือนว่ามีดโค้งของมีดใต้จะถูกอะไรบางอย่างปะทะเข้า มันสั่นสะท้านอย่างรุนแรง
และก็สะเทือนไปถึงมีดใต้ เขาทำได้เพียงเก็บมีดกลับไปแล้วเว้นระยะห่างออกไป
ท่านวงกับมีดใต้ล้วนแต่ก้มหน้าลง อยากรู้ว่ามันคืออะไรที่ขัดขวางเขาเอาไว้
ทว่า… เห็นเพียงก้อนหินก้อนเล็กก้อนหนึ่ง
“ก้อนหิน?”
บนใบหน้าของมีดใต้และท่านวงล้วนแต่เต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ สำนึกได้ก็มองไปยังถังเฉา
เห็นเพียงถังเฉาที่ยังคงยืนตัวตรงแน่วอยู่ตรงนั้น เล่นหินหลายก้อนอยู่ในมือ ยิ้มแล้วเอ่ยกับท่านวงว่า
“ไม่ได้ตกใจกลัวไปใช่ไหม?”