ผู้คนตรงนั้นเงียบกริบ มีเพียงเสียงกึกกัก ของเศษหินเศษปูนที่ร่วงลงมาเท่านั้น
ผู้คนที่ยืนอยู่โดยรอบ มองไปยังถังเฉาอย่างตื่นตะลึง
เย่เทียนหลงเป็นหนักยิ่งกว่า เพราะตอนนี้รู้สึกศรัทธาในตัวถังเฉาจนแทบจะก้มลงไปกราบอยู่แล้ว
ในระยะที่ใกล้ขนาดนี้ บวกกับตรงหน้ายังเป็นหงเทียนเฉินที่เปี่ยมไปด้วยกำลัง แต่ก็ยังหน้าไม่เปลี่ยนสีใจไม่แตกกระเจิงเลยสักนิด
แม้จะตัวก็ไม่ขยับไปไหนเลย
” ทำไมไม่หลบล่ะ? ”
หงเทียนเฉินเองก็มองถังเฉาด้วยสีหน้าที่ตกตะลึง แล้วถามออกมา
ถังเฉายิ้มเยาะแล้วพูดออกมาด้วยความถากถาง ” คุณกล้าลงมือตรงนี้งั้นเหรอ? ”
หงเทียนเฉินชะงักไป ถ้างั้นก็มีรอยยิ้มกริ่มผุดขึ้นมา ” ดูเหมือนว่านายคงจะรู้อยู่แล้วว่า ฉันไม่กล้าลงมือกับนายที่นี่ เพราะรู้อย่างนี้ก็เลยไม่เกรงกลัวอะไรเลยสินะ ”
เย่เทียนหลงเพิ่งจะดึงสติกลับมาได้ ที่แท้ถังเฉาก็รู้อยู่แล้วว่าฝ่ายตรงข้ามไม่กล้าลงมือหรอก
ถังเฉายิ้มขึ้นมานิ่งๆ ” ถึงแม้ที่นี่จะลงมือได้ ได้มาท้องนาย ฉันคงไม่หลบหรอก ”
ในสายตาคนทั่วไปนั้นหมัดของหงเทียนเฉินอาจจะดูมีพลัง แต่ในสายตาของถังเฉา ก็ไม่ได้ดูเก่งกาจอะไรขนาดนั้น
หงเทียนเฉินตกใจนิดๆ ก่อนจะหัวเราะหึๆ ออกมา ” ตอนนี้ก็คงจะพูดได้ว่า เมื่อกี๊นายดูออกจริงๆ ว่าฉันจงใจทำให้หมัดมันเขวไปอีกทางงั้นเหรอ? ”
ในส่วนห้องพักนั้น มันจะห้ามไม่ให้เกิดเรื่องปะทะ มิฉะนั้นจะถูกตัดสิทธิ์ในการเข้าแข่งขัน
ดังนั้น ไม่ว่าหงเทียนเฉินจะหัวร้อนยังไง ก็ไม่สามารถลงมือกับถังเฉาจริงๆ ได้
หมัดนี้ หงเทียนเฉินเพียงต้องการจะใช้ขู่ให้ถังเฉาตกใจก็เท่านั้น
เดิมตนหลงคิดว่าภายใต้หมัดนี้ ถังเฉาจะต้องตกใจจนหน้าถอดสี แล้วไม่กล้าจะโต้ตอบอะไรอีก
ไม่นึกเลยว่าถังเฉาแม้แต่จะหลบสักครั้งก็ไม่มี
หรือว่าตกใจจนนิ่งเป็นบ้าไปแล้ว ก็คงดูออกว่าเขาจะไม่กลับมาทำสิ่งแล้วไป และมั่นใจว่าเขาจะไม่กล้าลงมือ
จากที่ดูในความอวดดีและความเย่อหยิ่งของหงเทียนเฉินทำไมรู้สึกว่าถังเฉาเป็นอย่างหลังกันนะ?
ส่วนมากก็คงจะตกใจจนไม่กล้าขยับล่ะสิ!
หงเทียนเฉินเมื่อพูดออกไปแล้ว นักสู้ผู้แข็งแกร่งโดยรอบก็ถึงกับบางอ้อ ก่อนจะเริ่มส่งเสียงออกมา
” ที่แท้ก็ทำตัวเป็นขงเบ้งหลังเรื่องแสร้งทำเป็นรู้ อันที่จริงเขาก็ไม่ได้ดูหมัดของคุณหงออกหรอก ตอนที่ออกหมัด ก็คงจะตกใจจนแน่นิ่งไปละมั้ง! ”
” และยังจะทำตัวเป็นคนเก่งกาจอีกเหรอ? นึกว่าได้ใช้ชื่อของเจ้ามังกรแล้ว ก็จะเก่งแบบเจ้ามังกรหรือยังไง? ”
” ฉันว่าถ้ารอได้ขึ้นเวที เขาก็คงโดนคุณหงแจกหมัดละมั้งนะ! ”
” …… ”
ผู้เข้าแข่งขันรอบทิศตาแสดงสีหน้าเหยียดหยาม ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่แสนจะเย็นชา
” พวกนายไม่เคยเจอถัง…เอ๊ย คุณเจ้ามังกร ออกฝีไม้ลายมือเลยนะ ทำไมถึงรู้ว่าความสามารถที่แท้จริงของเขามันไม่ดีล่ะ? ”
เมื่อได้ยินคำวิจารณ์ต่างๆ นานา ของคนรอบข้างแล้ว เย่เทียนหลงก็โกรธจัด และรีบแก้ต่างให้ถังเฉาทันที
” นายยืนอยู่ข้างเขา นายไม่เห็นหรือยังไง เขาโดนคุณหงทำให้ตกใจกลัวจนไม่กล้าขยับไปแล้วน่ะ! ”
” คนอ่อนแอแบบนี้ นายยังจะแก้ต่างให้เขาอีกเหรอ? ”
เย่เทียนหลงพูดแย้งออกไป ยังไม่นานก็ถูกกลุ่มคนเหล่านั้นรุมพูดจาแย่ๆ ใส่จนไม่มีชิ้นดี
ผู้มากฝีมือแห่งตระกูลฉิน ตระกูลถังไม่ได้พูดอะไรสักแอะ เพียงแค่มองอย่างงั้นเงียบๆ
หลินรั่วหวีเองก็เช่นกัน
เพราะตระกูลหลิน มีเพียงเขาคนเดียวที่ออกรบ
ไม่ได้เป็นเพราะว่าหาคนไม่ได้ แต่เป็นเพราะถูกหลินรั่วหวีปฏิเสธต่างหาก
เป็นเพราะเขาถือดี จึงคิดว่าในงานแข่งขันแดนเหนือไม่มีใครควรค่าแก่การเป็นศัตรูของเขา
” ไอ้หมอนี่ นายเป็นหัวหน้าสมาคมของเมืองหมิงจูสมาคมต่อสู้งั้นเหรอ? ”
หงเทียนเฉินจู่ๆ ก็โพล่งออกมา สายตานั้นจองไปยังเย่เทียนหลงนิ่งๆ และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
” จะอะไรอีกล่ะ ”
สายตาของเย่เทียนหลงก็จ้องไปที่หงเทียนเฉินอย่างเย็นยะเยือกเช่นกัน แต่กลับรู้สึกรับรู้ได้ถึงแรงกดดันบางอย่าง
หงเทียนเฉินเป็นผู้ต่อสู้ที่แข็งแกร่งเจ้าเก่า ที่สามารถครองตำแหน่งเมื่อฉกาจอันดับสองของเมืองเจียงเฉิงสมาคมต่อสู้ ก็เป็นตัวยืนยันว่าเขานั้นแข็งแรง เก่งกาจ
ก่อนหน้านี้เย่เทียนหลงก็เป็นคนภายนอกมาโดยตลอด แต่หลังจากได้เจอถังเฉาแล้ว ก็ได้ฝึกฝนพลังภายในออกมา
ถ้าสองคนได้รวมพลังกันแล้วล่ะก็ มันก็เป็นไปได้สูงที่เขาจะมีพลังที่แข็งแกร่งและดุร้าย
เมื่อเห็นว่าเย่เทียนหลงยอมรับแล้ว หงเทียนเฉินก็ยิ้มเยาะพร้อมใบหน้าที่เย็นชา ” ไม่แปลกใจเลยว่าอยากจะช่วยเย่หรูอี้แห่งตระกูลเย่นั่น ที่แท้ก็ออกมาจากเมืองหมิงจูกันหมด! ”
” ไม่อนุญาตให้นายพูดจาเหยียดหยามพี่ฉัน… ”
เย่เทียนหลงโกรธจัด กำลังจะพูดประณามขึ้นมา
” พอแล้ว! ”
ถังเฉาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงโมโห ก่อนจะหันกลับไปมองตาเขา ” เรื่องที่ควรพูดแล้วก็ไม่ควรพูด นายควรจะควบคุมมันหน่อยนะ ”
” ใช่ ใช่….. ”
เย่เทียนหลงขนาดนั้นก็กลัวจนขี้ขึ้นสมอง
ในความเป็นจริงแล้วเขากับเย่หรูอี้เหมือนพี่สาวและน้องชายกัน ถ้าความลับนี้ถูกเปิดเผยออกไป นอกจากที่จะไม่ได้ช่วยเย่หรูอี้แล้ว ก็มีแต่จะสร้างความวุ่นวายให้กับเธอไม่จบไม่สิ้น
ถ้าไม่ได้เป็นเพราะถังเฉาหยุดเอาไว้ก่อน เขาก็คงพูดคำว่า ‘ พี่สาว ‘ ออกไปแล้ว
หงเทียนเฉินก็ไม่ได้สงสัย แค่รู้สึกว่า เย่เทียนหลง แม้แต่จะพูดก็ยังพูดไม่ชัดเจน แล้วแบบนี้จะไปมีความสามารถอะไร?
” ไอ้หมอนี่ ถึงนายจะเป็นคนของเมืองหมิงจูสมาคมต่อสู้ก็เถอะ เดี๋ยวสักพักพอลงสนามไป ก็อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจก็แล้วกัน ”
หงเทียนเฉินใบหน้าเย็นชา มีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏออกมา
” เช่นกันนั่นแหละ ”
เย่เทียนหลงโกรธจนไฟลุก
หยุดการปะทะไว้แค่นี้ก่อนละกัน เพราะต่อไปจะเป็นการจับฉลาก
เมืองเจียงเฉิงสนามกีฬาใช้พื้นที่ที่กว้างใหญ่มาก แต่ละที่จะถูกตั้งให้เป็นสนามแข่งขัน
ในการจับฉลาก จะเป็นการตัดสินว่าใครต้องรบกับใคร
ถึงแม้จำนวนคนที่ออกรบของตระกูลเย่จะเยอะ แต่เป็นเพราะถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม ก็เลยต้องทำการสู้กันเองก่อน
” เชิญกลุ่มแรกขึ้นมาบนเวทีครับ ”
” ตระกูลฉินเจอกับเมืองจินเหอตระกูลจาง ”
” ตระกูลถังเจอกับเมืองไทฉื่อตระกูลหลี่ ”
” ตระกูลลั่วเจอกับเมืองลี่เหอตระกูลจิน ”
” ……. ”
ผู้ลงสมัครกลุ่มแรกเริ่มทยอยขึ้นเวทีไป
รายชื่อที่แข่งขันกันยังประกาศไม่จบ
” ตระกูลเย่สู้กันเองก่อน ”
จนมาถึงตรงนี้ ผู้แข่งขันกลุ่มแรกก็เสร็จสิ้นเรียบร้อย
ราชนิกุลแห่งเยี่ยนตูทั้งหมด นอกจากตระกูลเย่แล้ว ก็ถูกแบ่งไปยังเมืองเล็กๆ ในมณฑลเจียงเจ้อ
ไม่ว่าจะเป็นตระกูลจางหรือว่าตระกูลหลี่ ทั้งหมดก็ไม่ใช่ตระกูลที่แข็งแกร่งอะไร แม้กระทั่งตระกูลที่มีความร่ำรวยและมีอิทธิพลก็เทียบไม่ได้ โดยพื้นฐานแล้วในด้านๆ หนึ่งก็เป็นเพียงความสำเร็จเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น
มาเทียบกันแล้ว การสู้กันเองในตระกูลเย่ก็มากเกินไปหน่อย
ฉึก!
หงเทียนเฉินนำหน้าก่อน โดยการกระโจนพุ่ง กระโดดเข้าไปยังกลางเวที
โครม! เมื่อร่างกายที่สูงราวกับเสาเหล็กร่วงลงมา เวทีที่ถูกสร้างด้วยหินอ่อนก็ถูกเหยียบจนแหลกเป็นเสี่ยงๆ
โดยภาพนี้ ทำให้เกิดความสะท้อนใจของผู้คนที่ดูอยู่รอบๆ
เพียงแค่กระโดด ก็เปี่ยมไปด้วยพลังขนาดนี้ ถ้างั้นพลังที่แท้จริงของหงเทียนเฉินจะแข็งแกร่งขนาดไหน?
” เหอะๆ เย่หรูอี้ เธอจะเอาอะไรมาสู้ฉันยะ? ”
เย่เซ่าเตี๋ยกับหงเทียนหยาก็กำลังมองฉากตรงหน้า แล้วหัวเราะออกมาด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเย็นชา
สายตาของหงเทียนเฉินเหมือนกับเสือที่กวาดตามองไปยังเย่เทียนหลง และพวกเขา นัยน์ตานั้นเป็นเส้นเลือดผุดขึ้นมา
ถังเฉาวางแผนที่จะลงมือ แต่เย่เทียนหลงกลับห้ามเอาไว้
” คุณถัง ให้ผมออกก่อนเถอะ ”
ถังเฉาพยักหน้า เย่เทียนหลงก็พุ่งตัวไปยังเวทีประลอง
ชื่อเสียงไว้อิทธิพลที่ยิ่งใหญ่มโหฬารนี้ แต่หากเทียบกับหงเทียนเฉินก็ด้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด
หงเทียนเฉินขำออกมาเสียงเย็น : ” ที่แท้ก็เป็นนายเอง พอดีเลย ฉันอยากจะรู้นักว่าน่าจะแข็งแกร่งสักแค่ไหน ”
” วันนี้พูดจาหยามเหยียดคุณถัง มันต้องตาย! ”
เย่เทียนหลงแปลงตัวเป็นเงาสายฟ้าพุ่งเข้าไป และใช้หมัดโจมตีเข้าไปยังจุดยุทธศาสตร์สำคัญของหงเทียนเฉิน
แค่ลงมือ ก็กลายเป็นหมัดฟ้าร้อง
คนที่อยู่ด้านล่างเวทีรู้สึกว่าหมัดนี้ช่างทรงอานุภาพเป็นอย่างมาก
แต่หงเทียนเฉินกลับตัวนิ่งตรงตระหง่านไม่ได้ขยับไปไหน สีหน้ายังคงเย็นชา
ถึงแม้เย่เทียนหลงจะพยายามวาดมัดลงไปบนตัวของหงเทียนเฉินซึ่งเตรียมไว้ด้วยท่าทางที่ดุดันอย่างสุดกำลัง จู่ๆ ก็รู้สึกราวกับมีสึนามิขนาดใหญ่ ที่พัดพามาทางเย่เทียนหลง
เป๊ง!
เพียงเสี้ยววินาที ร่างของเขาก็ลอยขึ้นไป