เมื่อแขกเข้ามาในวังคริสตัล พวกเขามักจะเป็นคนยื่นแสดงจดหมายเชิญให้แก่คุณจินก่อน
ถ้านายจินริเริ่มขอจดหมายเชิญจากใครสักคน หมายความว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์ของบุคคลนั้นไม่มีจดหมายเชิญ
จางขุยและสองสาวฝาแฝดมองไปที่หลินชิงเสว่ด้วยท่าทางเยาะเย้ย
ในความเห็นของพวกเขา พวกนั้นไม่มีทางมีจดหมายเชิญอย่างแน่นอน
สีหน้าของหลินชิงเสว่นั้นดูแย่นิดหน่อย เธอไม่สามารถแม้แต่จะหยิบจดหมายเชิญออกมาได้!
“คุณหลิน โปรดแสดงจดหมายเชิญด้วยครับ”
คุณจินไม่ได้หมดความอดทนแต่อย่างใด เขายังคงพูดด้วยรอยยิ้ม
“คุณจิน ไม่ต้องถามเธอแล้วล่ะ พวกเขาเอามันออกมาให้ไม่ได้หรอก”
เมื่อเห็นสิ่งนี้ จางขุยและสองสาวฝาแฝดก็เดินออกมาข้างหน้าด้วยรอยยิ้มที่เบิกบาน
พวกเขาไม่สามารถหยิบจดหมายเชิญออกมาได้อย่างแน่นอน ไม่มีจดหมายแต่บุกรุกเข้ามาในวังคริสตัล จุดจบมีอยู่ทางเดียว นั่นก็คือถูกหิ้วออกไปและขึ้นบัญชีดำอย่างถาวร
อนาคตหากวังคริสตัลจัดงานกิจกรรมอะไรขึ้นมาก็จะไม่สามารถมาเข้าร่วมได้อีก
ถังเฉาก้าวไปข้างหน้าด้วยรอยยิ้มและพูดว่า “จดหมายเชิญจะนำมาให้คุณช้าหน่อย พอดีว่ายังมาไม่ถึงน่ะ”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…”
ยังไม่ทันที่ถังเฉาจะพูดจบ จางขุยและสองสาวฝาแฝดก็หัวเราะออกมาทันที
จางขุยหัวเราะจนน้ำตาจะไหล
นี่เป็นเหตุผลที่ตลกที่สุดที่เขาเคยได้ยินมา
“ตลกมาเลย คุณชายจางคะ นี่คุณได้ยินชัดๆในสิ่งที่เขาพูดออกมาหรือเปล่า?”
“ที่บอกว่าจะให้คุณจินช้าหน่อย ยังส่งมาไม่ถึงน่ะ—เป็นไปได้ไหมที่จะมีใครบางคนมาส่งของให้เป็นการส่วนตัว?”
แขกที่อยู่รอบด้านต่างพากันส่ายหัว นี่มันไร้สาระเกินไปแล้ว
มีทางเดียวเท่านั้นที่จะได้รับจดหมายเชิญสำหรับการจับฉลากของซอยตงเฉิน นั่นก็คือการให้สมาคมการค้าเก้าราชานั้นจัดซื้อให้
คนในของสมาคมการค้าเก้าราชานั้นโดยพื้นฐานแล้วสามารถได้รับจดหมาย ดังนั้นราคาของจดหมายเชิญที่หลั่งไหลออกมา ราคาจึงพุ่งขึ้นสูงเสียดฟ้าในตลาดมืดบางแห่ง
ตั๋วหนึ่งใบ เท่ากับบ้านหนึ่งหลัง
อาจกล่าวได้ว่าเป็นตั๋วที่หายาก
ใครจะโง่ขนาดที่มาส่งจดหมายเชิญให้กันล่ะ?
แต่สิ่งที่ทำให้คนคาดไม่ถึงก็คือ ถังเฉานั้นปฏิบัติตามสิ่งที่จางขุยทำจริงๆ “นายอย่าเพิ่งพูดอะไร จะมีคนมาส่งจดหมายเชิญให้ฉันจริงๆ”
“อะไร?”
ถ้อยคำนั้นช่างน่าอัศจรรย์ ทำให้คนตายได้อย่างไม่รู้จบ
จางขุย สองสาวฝาแฝด รวมถึงคนที่อยู่รอบๆนั้นต่างมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างมาก
จางขุยเองก็ไม่ได้เปิดเผยอะไร สำหรับพวกเขา การที่ถังเฉานั้นแสร้งทำต่อหน้าคุณจินมาเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งทำให้ตอนจบนั้นเลวร้ายยิ่งขึ้นไปอีก
ถึงขนาดเขาก็ได้เห็นฉากที่หลินชิงเสว่นั้นถูกโยนออกไปมาแล้ว
“เอาล่ะ ฉันเชื่อคำพูดของนาย แต่นายลองถามคุณจินดูว่าเขาจะเชื่อคำพูดของนายไหม?”
จางขุยมาที่ด้านหน้าของถังเฉาและกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ถังเฉายิ้มจางๆพร้อมกับมองไปที่คุณจิน “อย่างมากสุดก็น่าจะห้านาที จดหมายจะถูกส่งมาอยู่ในมือของฉัน”
“…”
ทันใดนั้น คุณจินขมวดคิ้วแน่น จะให้เขารอห้านาทีงั้นเหรอ?นอกจากเจ้านายของเขารวมถึงคนใหญ่คนโตจากสมาคมการค้าเก้าราชาแล้ว ใครจะมากล้าให้เขารอเช่นนี้อีก?
เขาไม่พูดอะไรกับถังเฉา ในสายตาของเขา ถังเฉาก็เป็นแค่ลูกเขยที่เลี้ยงชีพด้วยการเกาะผู้หญิงกิน
เขามองไปที่หลินชิงเสว่ “คุณหลิน คุณรู้ไหมว่าเวลาห้านาทีนี้สามารถทำอะไรได้บ้าง?”
หลินิชิงเสว่ไม่ได้พูดอะไร จากนั้นรอให้คุณจินพูดต่อ
คุณจินเหยียดนิ้วทั้งห้าออกมาและพูดว่า “ภายในห้านาที ผมสามารถเจรจาสัญญามูลค่ากว่าห้าสิบล้านหรือมากกว่าร้อยล้านหยวน อีกทั้งผมยังสามารถตัดสินใจเปลี่ยนบุคลากรของบริษัทภายใต้สมาคมการค้าเก้าราชาได้อีก…มีอีกมากมายหลายอย่างเลยล่ะ”
“กล่าวโดยสรุปก็คือ ในห้านาทีผมสามารถที่จะสร้างความมั่งคั่งมากกว่ามูลค่าของตัวสามีคุณได้อย่างน้อยสิบเท่าเลยล่ะ เข้าใจไหมล่ะ?”
คุณจินมองไปที่หลินชิงเสว่และพูด
หลินชิงเสว่รู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาลในคราวเดียว ต่อหน้ารัศมีของคุณจินแล้ว เธอไม่กล้าพูดอะไรเลย
แต่คนอื่นๆนั้นกลับมองคุณจินด้วยความเคารพ
คุณจินก็คือคุณจิน เสแสร้งยังไงก็ยังดูโดดเด่นไม่ธรรมดาอยู่ดี
การถามความเห็นเกี่ยวกับเรื่อง‘ห้านาที’นี้ จะมีใครอีก?
จางขุยและสองสาวฝาแฝดมองไปที่ถังเฉาอย่างกับมองคนโง่ ทำไมเขาจะต้องมารอถังเฉาตั้งห้านาทีด้วย?
อย่างที่คุณจินกล่าว ภายในห้านาที เขาสามารถสร้างความมั่งคั่งได้มากมาย ทำไมเขาถึงต้องรอถึงห้านาทีให้กับถังเฉาด้วย?
“คุณหลิน หากไม่มีจดหมายเชิญล่ะก็ เชิญออกไปด้วยครับ”
เมื่อเห็นว่าหลินชิงเสว่นั้นไม่สามารถหยิบจดหมายเชิญขึ้นมาได้นานเกินไป การแสดงออกทางสีหน้าของคุณจินก็เย็นชาในทันที จากนั้นออกคำสั่งไล่แขกออกไปอย่างไร้ความเกรงใจในทันที
ทันใดนั้น ดวงตาคู่หนึ่งก็มองกลับมาอีกครั้ง ดวงตาแฝงความประหลาดใจ
ใบหน้าของหลินชิงเสว่นั้นเปลี่ยนไปแดงทันที อดไม่ได้ที่จะมองไปที่ถังเฉา “ถังเฉา…จดหมายเชิญล่ะ?”
ถังเฉาขมวดคิ้ว ไม่พูดอะไร ได้แต่มองไปที่คุณจิน “ฉันให้นายรอห้านาที ไม่เต็มใจที่จะรอจริงๆใช่ไหม?”
การแสดงออกของคุณจินยังคงสงบนิ่ง ดวงตาแฝงความเย้ยหยันอยู่ “สำหรับผมแล้ว เวลาก็คือเงินและชีวิต ผมจะรอห้านาทีก็ต่อเมื่อเป็นการรอคนที่สมควรรอเท่านั้น จะไม่ยอมทำสิ่งที่ไร้ความหมาย”
ถังเฉาพยักหน้า “ได้ งั้นฉันจะเร่งให้”
หลังจากพูดจบ ถังเฉาก็ได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโทรออกไป “พวกนายเร่งมือหน่อย ภายในหนึ่งนาทีต้องมาส่งให้ฉันให้ได้”
ได้ยินเพียงแค่เสียงที่พูดอย่างเคารพดังออกมาจากโทรศัพท์ “คุณถัง เร็วไม่ได้แล้วครับ ผมให้คนขับขับเร็วที่สุดแล้ว อย่างเร็วที่สุดน่าจะภายในสองนาทีครับ!”
หลังจากหยุดไปครู่หนึ่ง ชายคนนั้นก็ถามอีกครั้งอย่างระมัดระวัง “ขอถามหน่อยนะครับคุณถัง ท่านรีบมากเลยใช่ไหมครับ?”
ถังเฉาส่ายหัว “ฉันไม่รีบหรอก แต่ลูกน้องนายที่ชื่อคุณจินต่างหากที่รีบ เขาบอกว่ารอห้านาทีไม่ไหวหรอก ในห้านาทีเขาสามารถสร้างความมั่งคั่งได้อย่างมากมาย ไม่ยอมทำสิ่งที่ไร้สาระไร้ความหมายหรอก”
“อะไรนะ?!”
ทันทีที่คำพูดนั้นออกมา ชายคนนั้นก็โกรธเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกันน้ำเสียงของเขาก็ดูอกสั่นขวัญหาย
“คุณถัง ผมจะโทรไปสั่งสอนเขาเดี๋ยวนี้”
ถังเฉาวางสายพร้อมกับส่งยิ้มให้คุณจิน “อีกครู่คงจะมีคนโทรหานายนะ”
สีหน้าของคุณจินยังคงยโส แต่จางขุยและคนอื่นๆต่างหัวเราะกันอย่างบ้าคลั่ง
“ชิงเสว่ สามีของเธอนี่การแสดงใช้ได้เลยนะ จะมีคนโทรหาคุณจินงั้นเหรอ รางวัลออสการ์ปีนี้คงต้องมอบให้สามีเธอแล้วล่ะ เป็นคนเก่งที่แสดงความสามารถออกมาได้ไม่เต็มที่ซะจริง!”
สองสาวฝาแฝดนั้นหัวเราะจนตัวสั่น แม้กระทั่งพูดยังพูดอะไรออกมาไม่ได้เลย
คุณจินส่ายหัว เขาเรียกบอดี้การ์ดแล้วชี้ไปที่หลินชิงเสว่และคนอื่นๆ “พาสามคนที่ทำตัวอิ่มหนำสำราญอยู่นี่โยนออกไปซะ”
กริ๊ง กริ๊ง!
อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เขาพูดจบ โทรศัพท์มือถือของนายจินก็ดังขึ้นจริงๆ
“หืม?”
คุณจินตกตะลึงครู่หนึ่ง จากนั้นจ้องมองไปที่จอของโทรศัพท์ เขาตะโกนร้องออกมาด้วยความตกใจจนโทรศัพท์ของเขานั้นตกลงพื้น
“คุณจิน เกิดอะไรขึ้น?”
เมื่อเห็นสีหน้าของคุณจินที่เปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก ทุกคนต่างตกตะลึง
คุณจินไม่พูดอะไร เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างสั่นๆ แล้วกดรับสาย
“ฮัลโหล…ฮัลโหล?ท่านผู้นำ?”
น้ำเสียงที่พูดของคุณจินนั้นดูสั่นเทา
ทันทีที่มีการเชื่อมต่อสาย อีกฝ่ายก็มีการด่าว่ากันอย่างโครมคราม “จินหวู่ แกจะทำไหม ฉันให้แกรอห้านาทีแล้วเดี๋ยวจะนำจดหมายเชิญไปส่งให้ นายก็ยังจะไม่อยากรองั้นเหรอ?”