ตอนที่ผู้หญิงขอให้เลี้ยงเหล้า
และพอดีกับที่ตอนนั้นดึกมากแล้ว เป็นการบ่งบอกที่ชัดเจนมากว่า คืนนี้ฉันไม่กลับบ้าน
ค่ำคืนหนาวเหน็บ แสงมืดมัว เจียงไป๋เสว่ใส่ชุดนวมของเธออีกครั้ง ก้มหน้างุดกัดปากเบาๆ รอการตอบรับจากถังเฉา
ถังเฉาชะงักไปครู่หนึ่ง เหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้ เขาถอนหายใจเบาๆ
“ดึกมากแล้ว ฉันไปส่งเธอกลับบ้านดีกว่า”
ตอนที่พูดคำนี้ ถังเฉากระอักกระอ่วนจนไม่กล้ามองตาเจียงไป๋เสว่
ร่างของเจียงไป๋เสว่สั่นเล็กน้อยเช่นกัน แต่พริบตาเดียวก็กลับมาปกติ เธอยิ้มเรียบๆ “ได้”
ถังเฉาขับรถไปส่งเจียงไป๋เสว่จนถึงที่พักของเธอ
เขาดึงประตูเปิด เจียงไป๋เสว่กำลังจะลงรถ
ทันใดนั้น ตัวเธอชะงักไปชั่วครู่ หันไปมองถังเฉาด้วยสายตาเย็นยะเยือก
“จำไว้นะ นายติดเหล้าฉัน”
ถังเฉาผงะไป ก่อนจะพยักหน้าอย่างอ่อนใจ “คราวหน้าจะเลี้ยงนะ”
เจียงไป๋เสว่ถลึงตาใส่เขา แล้วจึงปิดประตูรถและเดินเข้าไปในโรงแรม
เขายืนมองจนเจียงไป๋เสว่ขึ้นไปข้างบน ทว่าถังเฉาไม่ได้ไปไหน กลับนั่งเงียบๆอยู่บนที่นั่งคนขับเนิ่นนาน
เขาจุดบุหรี่หนึ่งมวน แต่ไม่ได้สูบ ปล่อยให้ขี้บุหรี่ร่วงหล่น จนกลายเป็นกองขี้เถ้าหนาเตอะ
เห็นได้ชัดว่าเจียงไป๋เสว่ในคืนนี้ไม่ใช่เจียงไป๋เสว่แบบปกติ
ถังเฉาเลี้ยงเหล้าเธอได้ แต่หลังจากดื่มเสร็จแล้วล่ะ?
มีเพื่อนรักมากขนาดไหนที่ถูกทำลายความสัมพันธ์เพราะเหล้า
บางทีถังเฉาอาจจะคิดมากไป แต่กีฬาหลังดื่มเหล้าถังเฉาไม่เคยสัมผัส และไม่ต้องการสัมผัส
บุหรี่ในมือเผาไหม้จนหมด เขาโยนทิ้งไปแล้วตั้งใจจะขับรถกลับบ้าน
เวลานี้รถไม่มาก ถังเฉาขับรถนิ่งๆ เคลื่อนไปข้างหน้าด้วยความเร็วสม่ำเสมอ
ทันใดนั้นเขาก็เหลือบไปเห็นรถปอร์เช่สีดำที่ขับตามมาโดยไม่เร่งรีบ—-มันอำพรางตัวได้ดีเยี่ยมแล้ว ดูเหมือนขับรถบนถนนปกติเท่านั้น
แต่ถังเฉาก็มองออกในปราดเดียวว่ารถปอร์เช่คันนี้กำลังสะกดรอยตามตัวเองอยู่
ตามมาหลายร้อยเมตรแล้ว
ตาเขาเป็นประกายเย็นเยียบ ถังเฉาไม่ได้จอดรถ แต่ไม่ได้มุ่งไปในทิศทางซอยตงเฉิง
เขาหักพวงมาลัยฉับพลัน รถถูกขับเข้าไปในเส้นทางแคบๆไร้ผู้คน เสียงดังฟิ้ว เขาเร่งความเร็วในพริบตาเดียว
ฟิ้ว!
ปอร์เช่ด้านหลังเขาก็เร่งความเร็วทันควัน ประหนึ่งหมาป่าที่ไล่ล่าอย่างไม่ลดละ
ตู้มตู้มตู้ม!
ปอร์เช่คันนั้นถูกดัดแปลงมาอย่างเห็นได้ชัด พอเร่งความเร็ว เครื่องยนต์ก็แผดเสียงอึกทึกแสบหู และระยะห่างระหว่างทั้งสองกำลังใกล้ขึ้นทีละนิด
ถังเฉาเลิกมุมปากขึ้น เกิดเป็นเส้นโค้งร้ายกาจ เขาจุดบุหรี่อย่างไม่แตกตื่นและคาบไว้ที่มุมปาก
มือยังคงวางอยู่บนเกียร์ เหยียบคันเร่งมิด
รถชะงักงันไปชั่วขณะหนึ่ง แต่ล้อทั้งสี่ยิ่งบ้าคลั่งมากขึ้น หมุนคว้างด้วยความเร็วสูง
เขาดริฟท์อย่างสวยงาม เลี้ยวที่แยกถัดไป
ปอร์เช่สีดำก็เร่งเครื่องเต็มพิกัดเช่นกัน ดริฟท์แซงขึ้นมาโดยไม่ลดความเร็วเหมือนกัน
บนถนนอันเงียบสงบ รถสองคันเริ่มเล่นเกมไล่จับ
และรถทั้งสองคันดริฟท์ผ่านทุกแยก
บางทีถังเฉาอาจจะไม่อยากเล่นแล้ว แรงเท้าที่เหยียบคันเร่งค่อยๆผ่อนลง
ความเร็วของรถก็ค่อยๆชะลอลง
พอดีกับที่ถนนแยกเป็นสายหลักและสายรอง สายรองนำไปสู่ทางยกระดับที่สูงขึ้นไป
ดังนั้น ถังเฉาจึงขับเข้าถนนสายหลัก รถปอร์เช่คันนั้นขับขึ้นไปบนถนนสายรองที่นำไปสู่ทางยกระดับ
ในขณะที่ถังเฉาคิดว่าคนคนนั้นเลิกไล่ล่าเขาแล้ว รถปอร์เช่คั้นนั้นทำในสิ่งที่เขายังคิดว่าเหลือเชื่อ—-
ปอร์เช่ที่ขับขึ้นถนนสายรองด้วยความเร็วสูงจู่ๆก็หักพวงมาลัย
หัวรถพุ่งชนราวกั้นถนนสายหลักอย่างแรง
เคร้ง!
ราวกั้นแข็งแรงถูกชนจนมีรอยหักใหญ่ ปอร์เช่สีดำคันนั้นพุ่งมาจากที่สูง
ราวกับเวลาเดินช้าลงในขณะนั้น ปอร์เช่โบยบินและหมุนคว้างอยู่ในอากาศ
ทั้งตัวรถหมุนคว้างหนึ่งร้อยแปดสิบองศา อยู่เหนือหัวถังเฉาพอดี
ขณะที่ตัวรถหมุนอยู่ ทันใดนั้นหน้าต่างฝั่งคนขับเลื่อนลง เผยให้เห็นใบหน้าครึ่งซีกของเจ้าของรถ
เธอเป็นผู้หญิง
ผู้หญิงผมยาว
ใส่แว่นดำด้วย มองเห็นหน้าไม่ชัด
ถังเฉามองผู้หญิงคนนั้นอย่างตะลึงขณะที่สบตากับเธอ
ปรากฏว่านาทีต่อมา เธอควักปืนกระบอกดำออกมา เปิดประตูรถและกระโจนตัว กระโดดลงมา
เคร้ง!
ตู้ม!
เสียงที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงดังขึ้น
เสียงแรกเกิดจากของหนักกระทบกับหลังคารถ
เสียงต่อมาเกิดจากการระเบิดของรถที่ร่วงหล่นลงมาจากที่สูง
ถังเฉามองผู้หญิงที่นั่งอย่างมั่นคงบนหลังคารถและเล็งปืนมาที่ตัวเองด้วยสายตาอึ้งสุดขีด
ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมสุดเหลือเชื่อ หรือการกระโดดจากรถที่ลอยอยู่กลางอากาศมายังรถเขา ล้วนต้องคำนวณระยะทางและเวลาได้อย่างแม่นยำ
ไม่ต้องสงสัยเลย ผู้หญิงคนนี้เป็นมืออาชีพ
เธอไม่ได้เพิ่งเคยทำอะไรอันตรายเช่นนี้เป็นครั้งแรก
ทว่า แค่นี้ก็คิดว่าจะฆ่าเขาได้ ไร้เดียงสาเกินไป
ถังเฉากระโจนตัว เตะประตูรถออก
เช่นนั้น รถจึงอยู่ในโหมดไร้คนขับ
พวงมาลัยหมุนคว้างอย่างรวดเร็ว ไถลบนพื้นถนนจนเกิดเป็นรอยล้อลึก
ผู้หญิงที่อยู่บนหลังคารถก็โซซัดโซเซเพราะแรงสั่นสะเทือนหนักหน่วง
พอเพ่งสายตามองไป ถังเฉาในรถได้หายไปแล้ว
รถคันนี้เสมือนอสูรที่เสียการควบคุม ชนกับขอบถนนสองข้างทางดังตู้ม และทิ่มลงไปในบ่อน้ำบึงด้านข้าง
ผู้หญิงคนนั้นกระโดดลงจากรถก่อนที่รถจะถูกทำลาย กลิ้งไปหลายตลบกว่าจะหยุดได้
ต่อให้ผู้หญิงคนนั้นเป็นมืออาชีพ ด้วยการกลิ้งความเร็วสูงแบบนี้ รู้สึกเพียงฟ้าดินกลับตาลปัตร
เสื้อหนังบนตัวฉีกขาดไปหลายจุด ผมยาวสลวยก็เปลี่ยนไปเป็นยุ่งเหยิง กระเซอะกระเซิง ท่าทางมอซอดูไม่ได้
อุตส่าห์กลิ้งลงมาได้แล้ว ผู้หญิงคนนั้นหอบเหนื่อย หน้าอกสูงเด่นนั่นกระเพื่อมไม่หยุด สายตาจ้องไปที่บ่อน้ำบึง
เปรี๊ยะ
รถที่จมลงไปในบ่อน้ำบึงระเบิดจริงๆ แต่เสียงไม่ดังนัก เหมือนจุดประทัดในน้ำ
แต่คลื่นที่ซัดกระเซ็นขึ้นมาไม่น้อยเลย บางส่วนกระเด็นขึ้นมาถึงบนบก
ผู้หญิงคนนั้นนั่งยองๆอยู่ริมฝั่งนานมากไม่ยอมไปไหน ราวกับกำลังสงสัยว่าคนในรถไปอยู่ที่ไหนกันแน่
หาอยู่หนึ่งรอบก็ไม่เจอใคร ผู้หญิงคนนั้นได้แต่จากไป
ฟิ้ว!
ทว่า เธอเพิ่งจะหมุนตัว ก็มีมีดสั้นดุดันเล่มหนึ่งปาดอยู่ที่คอขาวผ่องของผู้หญิงคนนั้น
ผู้หญิงคนนั้นชะงักฝีเท้าลงทันใด กลั้นหายใจตั้งสติ
ถ้าก้าวไปข้างหน้าอีกแค่ก้าวเดียว คอของเธอก็จะถูกมีดคมกริบเล่มนั้นกรีดเอา
“ดึกมากแล้ว เพราะฉะนั้นเรามาพูดกันสั้นๆดีกว่า…..”
เสียงล้อเลียนของถังเฉาดังมาจากด้านหลัง “ฉันว่านะ เธอมาเจอฉันด้วยวิธีเรียบๆไม่ดีกว่าหรอ ทำไมต้องเลือกวิธีอันตรายแบบนี้ตลอดเลย—-ถ้าฉันโดนเธอฆ่าตายจริงๆล่ะ”
“คุณไม่ตายหรอกค่ะ ฉันฆ่าคุณไม่ได้หรอก”
ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่กลัว ตอบกลับด้วยเสียงทุ้มต่ำ
“ห้าปีก่อนฉันลองมาแล้ว ตอนนี้ฉันเลยอยากลองดูอีกครั้งค่ะ”
ผู้หญิงคนนั้นเสริม
หลังจากฟังประโยคนี้จบ ถังเฉาก็หัวเราะและเก็บมีดสั้น
ผู้หญิงคนนั้นถึงขยับตัว ถอดแว่นตากันแดดบนหน้าออก เผยให้เห็นดวงตาสีแดงก่ำคู่หนึ่งราวกับถูกย้อมด้วยเลือด
เธอโค้งตัวให้ถังเฉาเล็กน้อย พูดด้วยท่าทีเคร่งขรึม
“รองหัวหน้าคะ ฉันกลับมาแล้วค่ะ”
บุคคลที่มาไม่ใช่ใครอื่น เฟิ่งหวงนี่เอง
ถังเฉามองเฟิ่งหวงขึ้นๆลงๆอย่างพิจารณา และรอยยิ้มบนใบหน้ากว้างมากขึ้น
“กลับมาก็ดีแล้ว”
จู่ๆสายตาของเขาก็เพ่งไปบนหัวของเฟิ่งหวง เอ่ยขึ้นอย่างประหลาดใจ: “ถอดชิประเบิดได้แล้วหรอ?”
“ถอดได้แล้วค่ะ”
เฟิ่งหวงกล่าว “ไม่เพียงแค่ถอดออก ฉันได้เจอ….หลี่เห้าด้วยค่ะ”
“……”
พอเธอพูดแบบนี้ สีหน้าของถังเฉาเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก
สายตาของเขาลึกล้ำมากขึ้น จุดบุหรี่เงียบๆ สีหน้าละเหี่ยใจและขมขื่น
“เขาเข้าร่วม…… ‘หว่างเหลียง’จนได้สินะ”
เฟิ่งหวงอ้าปากนิดหน่อย แต่พูดอะไรไม่ออกสักคำ
ได้แต่พูดว่า “บางที เรื่องจริงอาจไม่ใช่แบบที่เราคิดก็ได้”
สำหรับเรื่องนี้ ถังเฉาไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่บอกว่า “สถานการณ์จริงๆเป็นยังไง ได้แต่รอเให้ได้พบเขาตัวจริงถึงจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น”
ทั้งสองไม่ได้พิรี้พิไรในหัวข้อหลี่เห้า ถังเฉามองเฟิ่งหวง และพยักหน้าด้วยความพอใจ “ดูเหมือนว่าหว่างเหลียงจะเชื่อใจเธออย่างสมบูรณ์ นอกจากจะไม่สงสัยเธอแล้ว พลังของเธอก็แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมด้วย”
“ยังสู้รองหัวหน้าไม่ได้ค่ะ”
เฟิ่งหวงหัวเราะอย่างหาดูได้ยาก
เธอไม่ได้อยากสังหารถังเฉาจริงๆ แค่อยากลองให้รู้ว่าความต่างระหว่างเธอและถังเฉามากขนาดไหน
หลังจากที่ลองแล้วถึงรู้ว่า ห้าปีที่แล้วเธอไม่สามารถฆ่าถังเฉาได้ ห้าปีต่อมาก็ยังไม่ได้
“เธอยังจะกลับไปอีกมั้ย”
ถังเฉาถาม
เฟิ่งหวงพยักหน้า “ตอนนี้พวกเขายังไม่สงสัยฉัน ฉันจะรอดูว่าจะได้รับข้อมูลความลับมากขึ้นอีกมั้ย อีกอย่าง รองหัวหน้าคะ คุณต้องระวังหลินรั่วหวีให้ดี”
“หลินรั่วหวี?”
ได้ยินชื่อนี้จากปากเฟิ่งหวง ถังเฉาแปลกใจเล็กน้อย
“ความสัมพันธ์ของเขาและหว่างเหลียงพิลึกมาก ที่เขาไปต่างประเทศมาก่อนหน้านี้ก็เพื่อไปพบหัวหน้าระดับสูงของ’หว่างเหลียง’ กลับมาครั้งนี้ นอกจากฉันแล้วมีค้างคาวด้วย หนึ่งในเป้าหมายของพวกเขาคือการช่วยให้ค้างคาวได้กลับไปยังกองทัพปราณมังกร”
ใบหน้าของเฟิ่งหวงจริงจังเคร่งขรึมและกล่าว
“ช่วยให้ค้างคาวได้กลับมาไปยังกองทัพปราณมังกร…..”
สีหน้าของถังเฉาก็ค่อยๆเคร่งขรึมขึ้น
ตอนนี้ตัวตนของค้างคาวถูกเปิดเผยแล้ว เขาคือทหารหลบหนีก่อนหน้านี้ของกองทัพปราณมังกร เยี่ยนซื่อเฉิง
เขามีความยึดติดต่อกองทัพปราณมังกร ก็เข้าใจได้ แต่ เกี่ยวอะไรกับหลินรั่วหวี?
หลินรั่วหวีเป็นผู้นำตระกูลหลิน จากที่เขารู้มา ไม่มีทางมีความเกี่ยวข้องกับหว่างเหลียง
“รองหัวหน้าคะ ฉันพูดได้แค่ว่า เยี่ยนจิงไม่ได้ปลอดภัยอย่างที่เห็น มีกี่คนในเก้าตระกูลหลวงที่ติดต่อกับหว่างเหลียงลับๆนั้นยังไม่รู้”
เฟิ่งหวงกล่าว
“ที่ฉันต้องการจะบอกมีเพียงเท่านี้ค่ะ หากมีข้อมูลใหม่ฉันจะมาหาคุณอีกครั้ง”
พูดจบ เฟิ่งหวงก็ไปจากที่นี่
ถังเฉายืนอยู่ในที่เดิมพักใหญ่ ก่อนจะกลับบ้านอย่างรวดเร็ว
เขาคิดเกี่ยวกับปัญหานี้ตลอดทาง “ทำไมพ่อตาของเขาไปถึงเกี่ยวข้องกับหว่างเหลียง?
ถ้าพ่อตาของเขาก็คือหัวหน้าระดับสูงของหว่างเหลียงล่ะ?
จะทำยังไงดี?
ความคิดนี้ผุดขึ้นมาเล่นเอาถังเฉาเองก็ตกใจเหมือนกัน
ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและหลินรั่วหวีอุตส่าห์ดีขึ้นบ้างแล้ว ต้องมาตึงกันเพราะเรื่องนี้อีกครั้งหรอ?
หากหลินรั่วหวีเป็นคนของหว่างเหลียงจริง ตัวเองจะจัดการยังไง?
อย่างไรซะเขาก็เป็นพ่อของหลินชิงเสว่
กริ๊งกริ๊งกริ๊ง!
เสียงเรียกเข้าแสบหูดึงความคิดของเขากลับสู่ความเป็นจริง
พอได้ดูสายเข้า เป็นสายจากหลินฉ่ายเวย
“ถังเฉา พวกเราน่าจะถึงเยี่ยนจิงในวันพรุ่งนี้”
หลินฉ่ายเวยบอก