“การผ่าตัดแบบนี้บางทีถ้าอยู่ในมือของคนอื่น อาจจะมีอัตราล้มเหลวสูงกว่าสำเร็จก็ได้ แต่ในมือของผม การผ่าตัดแบบนี้มีแต่สำเร็จอย่างเดียวเท่านั้น”
“น้องสาวของคุณไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นไปตามคาด เธอน่าจะฟื้นขึ้นมาในไม่ช้านี้”
การผ่าตัดส่วนสมอง ไม่คิดว่าจะทำให้ผู้ป่วยฟื้นคืนสติกลับมาได้เร็วขนาดนี้ เป็นเรื่องที่คนอื่นทำไม่ได้จริงๆด้วย ต่อให้เป็นเครื่องมืออำนวยความสะดวกที่สุดยอดเก่งกาจที่สุดในยุคปัจจุบัน ก็ทำแบบนี้ไม่ได้แน่ๆ
หลังจากที่โซเฟียได้ยินแล้ว ก็ถอนหายใจออกมายาวๆหนึ่งเฮือก ดูเหมือนว่าความอัดอั้นนี้มันติดค้างอยู่ในใจของเธอไม่รู้ว่านานขนาดไหนแล้ว
“ไม่เป็นไรก็ดีแล้วๆ ทำฉันตกใจแทบแย่ ตอนนี้ฉันเข้าไปดูเธอได้ไหม?”
พอเห็นเจียงสือเหนียนพยักหน้า โซเฟียก็พุ่งเข้าไปในห้องผ่าตัดอย่างรวดเร็วราวกับม้า
พอเห็นไวโอเล็ตที่นอนอยู่บนเตียงไม่ขยับเขยื้อน โซเฟียก็รู้สึกเจ็บปวดใจอย่างช่วยไม่ได้
ทั้งหมดนี้เป็นเพราะว่าตนเองทั้งนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะว่าตนเอง ไวโอเล็ตก็คงไม่ต้องได้รับกับความเจ็บปวดแบบนี้
โซเฟียรู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันเป็นเพราะว่าตัวเอง แต่ตอนที่อยู่ที่แก๊งโครงกระดูกตัวเองกลับยังโกรธแค้นน้องสาวอยู่ คิดว่าน้องสาวหักหลังตัวเอง
ตอนที่ความจริงเปิดเผย เธอถึงได้รู้ว่า แท้จริงแล้ว ตัวเองไม่ดีเอง ที่ไม่เชื่อใจน้องสาวของตัวเอง
สองมือของโซเฟียกำแขนของไวโอเล็ตไว้แน่น ราวกับกำลังบอกความรู้สึกที่อยู่ภายในใจของตัวเองกับไวโอเล็ต
ความรู้สึกที่แท้จริงไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรมากมายอยู่แล้ว ไวโอเล็ตเหมือนกับถูกบางอย่างเรียกให้ตื่นขึ้น
ผ้าพันแผลหนาๆไม่ได้ทำให้ไวโอเล็ตล้มเลิกที่จะลืมตาขึ้น มามองพี่สาวของตัวเอง
โซเฟียสูดน้ำมูกอย่างแรงหนึ่งที จากนั้นก็มองไวโอเล็ตด้วยท่าทางมั่นใจ กลัวว่าจะถูกเห็นท่าทางที่อ่อนแอของตัวเอง
ไวโอเล็ตจะไม่รู้สึกได้ยังไง เธอแค่มองพี่สาวของตัวเองอย่างยิ้มๆเท่านั้น
“พี่ ฉันเป็นอิสระแล้ว ตั้งแต่วันนี้ไปพวกเราก็จะสามารถใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอีกครั้งแล้ว”
พอโซเฟียได้ฟัง ก็อดกลั้นเอาไว้ไม่อยู่แล้ว ราวกับบุคคลอันเป็นที่รักที่สูญเสียไป ได้กลับมารักกันใหม่อีกครั้ง พยักหน้าอย่างทันที
ในตอนนี้ ตรงประตูก็มีเสียงดังขึ้นมา
“ฉันไม่คิดว่าเธอจะปรองดองกับโซเฟียได้รวดเร็วขนาดนี้ นึกว่าต้องใช้เวลาอีกสักหน่อยเสียอีก”
นี่เป็นเสียงของถังเฉา ประโยคนี้ก็ทำให้โซเฟียแล้วก็ไวโอเล็ตรู้สึกมึนงงไม่เข้าใจอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน
“ทำไมล่ะ ถังเฉา การที่ให้น้องสาวของฉันถอยออกมาจากหว่างเหลี่ยง มันก็เป็นความคิดของคุณไม่ใช่หรือไง? แล้วตอนนี้ทำไม……”
ถังเฉาไม่พูดอะไร เดินตรงไปอยู่ข้างๆเตียงของไวโอเล็ต
หยิบแอปเปิ้ลขึ้นมาหนึ่งลูกจากตรงนั้น ค่อยๆปอกแอปเปิ้ลอย่างช้าๆ
“แน่นอนว่าเป็นความคิดของฉัน แต่เรื่องนี้ไม่ได้ง่ายแบบที่เธอคิด ฉันยังต้องให้เธอทำเรื่องให้กับฉันอีก”
พูดพลาง ถังเฉาก็ปอกแอปเปิ้ลในมือเสร็จเรียบร้อยแล้ว
แม้ว่าโซเฟียจะรู้ว่าถังเฉาแค่ปอกแอปเปิ้ลให้ไวโอเล็ตกินเท่านั้น แต่ไม่รู้ว่าทำไม ในใจถึงรู้สึกเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูก ถึงยังไงเธอก็ไล่ตามผู้ชายคนนี้มาตลอดทั้งชีวิต
หลังจากที่ค่อยๆดึงสติกลับมาได้ โซเฟียจึงคิดถึงเรื่องงานขึ้นมา
“ทำไมกัน ถังเฉา ฉันไม่เข้าใจ ว่าเป้าหมายของคุณคืออะไร”
ถังเฉาสบถอย่างเย็นชา“แน่นอนว่าเธอไม่เข้าใจอยู่แล้ว เพราะว่าเรื่องที่เธอไม่เข้าใจ หว่างเหลี่ยงคิดไม่ถึงแน่นอน”
“ถ้าในตอนนี้ไวโอเล็ตอยู่กับพวกเราล่ะก็ มันก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเรื่องหนึ่ง แต่ว่ามันไม่ได้ช่วยเรื่องที่พวกเราจะจัดการรับมือกับหว่างเหลี่ยงเลยสักนิด”
“เป้าหมายหลักของฉันก็คือจัดการกับหว่างเหลี่ยง ถ้าไม่มีส่วนช่วยในเรื่องนี้ แล้วฉันจะช่วยเธอไปทำไม”
ประสบการณ์ที่ผ่านมา ถังเฉาไม่เคยสนใจเรื่องความรู้สึกอยู่แล้ว ดังนั้นคำพูดที่พูดออกมา จึงทำให้โซเฟียแล้วก็ไวโอเล็ตรู้สึกเสียใจอยู่ไม่น้อย
“แผนการของฉันก็คือใช้เธอไปจัดการกับหว่างเหลี่ยงนั่นเอง”
“ถ้าเธอกลับไปในตอนนี้ มันก็ไม่น่าจะสงสัยอะไรหรอกใช่ไหม ถึงยังไงรอดจากเหตุการณ์ที่เลวร้ายไปได้ แล้วเธอยังไม่หนีไปไหน มันไม่น่าจะพูดอะไรมากมายหรอก”
ไวโอเล็ตมองโซเฟีย ส่วนใจของโซเฟียก็รู้สึกรักและเอ็นดูสุดๆ
พอเห็นท่าทางแบบนี้ของถังเฉา โซเฟียรู้สึกลังเลไม่น้อย ฝั่งหนึ่งเป็นน้องสาวของตัวเอง อีกฝั่งก็เป็นน้องสาวเพียงคนเดียวในโลกนี้ของตัวเอง
ไวโอเล็ตเม้มมุมปากของตัวเอง มองโซเฟีย จากนั้นก็พยักหน้าอย่างเงียบๆ
“ในเมื่อคุณเป็นคนช่วยฉัน ถ้าอย่างนั้นชีวิตของฉันก็คือชีวิตของคุณ ต่อไปไม่ว่าคุณพูดอะไรฉันก็จะทำ แต่คุณจะต้องรับประกันได้ว่าในแผนการของคุณ น้องสาวของฉันจะต้องปลอดภัย”
พอรู้ว่าไวโอเล็ตพูดสิ่งที่ตัวเองสินใจออกมา โซเฟียจึงรู้สึกเป็นห่วงกังวลขึ้นมาทันที
“น้อง ถ้าไม่ไหวจริงๆพวกเราก็ไม่ต้องกลับไปแล้ว สถานที่แห่งนั้นของหว่างเหลี่ยงมันโหดเหี้ยมไร้ซึ่งความรู้สึกนะ ถ้าเธอกลับไปล่ะก็ อาจจะตายเมื่อไรก็ได้นะ”
ด้วยเหตุนี้ ไวโอเล็ตแค่มองโซเฟียอย่างนิ่งๆเท่านั้น ก่อนจะพูดยิ้มๆ“ไม่เป็นไร พี่ ถ้าฉันกลับไปตอนนี้ล่ะก็ ไม่มีใครกล้าทำอะไรฉันหรอก ถึงยังไงตอนนี้หงเหลียนน่าจะรายงานสถานการณ์ของฉันกับหว่างเหลี่ยงเรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็น่าจะคาดการณ์แล้วว่าฉันไม่มีทางกลับไปได้แล้ว”
“ถ้าฉันไม่กลับไปตอนนี้ล่ะก็ ต่อให้ตายไปแล้ว พวกมันก็น่าจะคิดว่าฉันหักหลังพวกมันแล้วจริงๆ”
“แต่ถ้าฉันกลับไปในสถานการณ์แบบนี้ พวกมันน่าจะอึ้งตะลึง ถึงตอนนั้นพวกมันก็จะไม่ถือโทษตำหนิฉัน”
โซเฟียรู้เหตุผลในคำพูดของไวโอเล็ต แต่ตนเองก็ยังคงเป็นห่วงกังวลอยู่ดี
ถึงยังไงการกลับมาเจอกันอีกครั้งในระยะสั้นขนาดนี้อีกไม่นานก็ต้องจากกันแล้ว เป็นใครก็รับไม่ได้ทั้งนั้น
“แต่ฉันก็ไม่ได้บังคับเธอ ฉันแค่ถามความเห็นของเธอเท่านั้น เธอเป็นน้องสาวของโซเฟีย โซเฟียเคยช่วยฉันไว้ ฉันให้เธอไปได้ แต่เธอจะอยู่กับฉันต่อไปไม่ได้ เธอเลือกเองก็แล้วกัน ให้คำตอบฉันวันนี้”
พูดจบ ถังเฉาก็จากไปอย่างเงียบๆเหลือแค่สองพี่น้องสองคนที่อยู่ที่นี่
บรรยากาศเงียบสงัดอยู่นานสองนาน ไม่มีใครรู้ว่าตอนนี้มันคือสถานการณ์อะไร ทำไมบรรยากาศมันถึงได้เยือกเย็นแบบนี้
โซเฟียมองน้องสาวของตัวเอง ในใจรู้สึกเจ็บปวดสุดๆ
คนที่ได้รับบาดเจ็บก็ล้วนแต่เป็นน้องสาวของตัวเองตลอด แล้วตัวเองก็ยังมาเข้าใจเธอผิดอีก
“พี่ ไม่ต้องเป็นห่วงกังวลไปหรอก ถึงตอนนั้นฉันจะรายงานข้อมูลให้กับพวกคุณเท่าที่เป็นไปได้ ทำให้ตอนที่พวกคุณกำจัดหว่างเหลี่ยงเป็นไปได้อย่างราบรื่นที่สุด”
“แถม ถ้าหว่างเหลี่ยงไม่ได้ถูกกำจัดไป ฉันคิดว่าชั่วชีวิตนี้ของฉันก็คงจะจิตใจไม่สงบสุขอย่างแน่นอน”
ถูกคนไล่เข่นฆ่ามานานหลายปีขนาดนี้ แม้ว่านี่จะเป็นความรู้สึกที่ยากลำบาก แต่ไวโอเล็ตรู้ว่าโอกาสที่ตัวเองจะกำจัดหว่างเหลี่ยงไปได้มีแค่ครั้งนี้เท่านั้น
หลังจากที่การพูดคุยเปิดใจกันที่ยาวนานตลอดหนึ่งวัน ในที่สุดโซเฟียก็วางใจให้ไวโอเล็ตกลับไปหาหว่างเหลี่ยงได้สักที
หลังจากที่ออกมาแล้ว สีหน้าของโซเฟีย แค่ยิ้มเล็กน้อยเท่านั้น
สีหน้าแบบนี้ของโซเฟียไม่ได้เห็นง่ายๆ ถังเฉารู้ว่าคำพูดของตัวเองมันโหดร้ายมาก แต่ก็หมดหนทาง ไม่ว่ายังไงตนเองก็ต้องทำแบบนี้ ไม่อย่างนั้นก็จะไม่มีทางกำจัดหว่างเหลี่ยงได้อีกต่อไป
“เป็นยังไงบ้าง โซเฟีย ตอนนี้วางใจได้แล้วยัง?”
โซเฟียพยักหน้าเล็กน้อย ขอบตาที่แดงเล็กน้อยถูกถังเฉามองออกแล้ว ถังเฉายิ้มพร้อมกับเดินตรงเข้าไป
“บางเรื่อง มันก็ยากที่จะหลีกเลี่ยง”