ถังเชียนเชียนไม่ได้สงสัยอะไร เพียงแต่มองถังเฉาตรงหน้าด้วยสายตาที่แทบจะเปล่งแสงได้
ถึงแม้ถังเชียนเชียนจะเป็นคนอ่อนต่อโลก แต่ถังเฉาไม่เหมือนกัน
ความอ่อนต่อโลกของถังเชียนเชียน ทำให้ถังเฉาคิดว่าเป็นคนที่ลงมือง่ายที่สุด
แน่นอนว่าการลงมือนี้ไม่ได้หมายความว่าจะทำอะไรถังเชียนเชียน เพียงแต่อยากจะถามว่าถังเยว่หวาอยู่ที่ไหน
“จริงสิเชียนเชียน เธอเคยได้ยินเบาะแสของผู้หญิงที่ชื่อถังเยว่หวามั้ย?”
“ถังเยว่หวา?”
เชียนเชียนได้ยินประโยคนี้แล้วรีบยื่นมือไปปิดปากของถังเฉา
“ชู่ว! พี่คะ อย่าพูดแบบนี้อีกนะคะ ขืนใครได้ยินเข้าไม่ใช่เรื่องเล็กแน่”
ถังเฉาพอจะรู้ว่าทำไม ถึงยังไงตอนนี้ถังเยว่หวาก็ยังเป็นคนมีความผิดของทั้งราชวงศ์ต้าเซี่ย จะมากจะน้อยก็ต้องมีการห้ามเอ่ยถึงกันบ้าง
ถังเฉาถูกถังเชียนเชียนลากเข้าไปในตรอกเล็กๆด้านข้าง เห็นสีหน้ากังวลใจของถังเชียนเชียนแล้ว ถังเฉาไม่ตื่นตระหนกเลยสักนิด กลับรู้สึกว่าน้องสาวคนเล็กตรงหน้านี้น่ารักจริงๆ
“ไม่ต้องตกใจ ในรัศมีร้อยเมตรไม่มีใครอยู่สักคน ไม่มีใครได้ยินบทสนทนาของเราสองคนหรอก”
แน่นอนว่าถังเฉาไม่พูดอะไรเกี่ยวกับถังเยว่หวาออกไปสุ่มสี่สุ่มห้าอยู่แล้ว แต่เขาสัมผัสได้ว่าไม่มีใครอยู่บริเวณรอบๆถึงกล้าเอ่ยออกมา
พอจะดูออกว่าสีหน้าของถังเชียนเชียนนั้นยังมีความโศกเศร้าอยู่นิดๆหน่อยๆ
“เรื่องของน้าถังเยว่หวาหนูก็ไม่ได้รู้อะไรมาก แต่มีคนหนึ่งที่น่าจะรู้เรื่องของน้าถังเยว่หวา คนคนนั้นก็คือพี่ใหญ่ ถังยวน”
“จริงๆแล้วทุกการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเรื่องนี้พี่ใหญ่เป็นคนจัดการเองทั้งหมด ปกติผู้นำตระกูลถังก็คุยกับพี่ใหญ่ซะส่วนใหญ่ เรื่องที่มาถึงหนูแทบจะไม่เหลือแก่นสารอะไรแล้ว”
ถังเฉาได้ยินข่าวนี้แล้วก็เริ่มคิดแผนในใจ
จะสืบข่าวจากปากเขาไม่ง่ายเลยจริงๆ ถึงแม้ถังยวนจะดูเป็นคนหยาบกระด้าง แต่ในความเป็นจริง แผนในใจของเขานั้นไม่ได้น้อยไปกว่าใครเลย
โชคดีที่ถังเฉามีจุดอ่อนของเขาในมือพอดี และจุดอ่อนนั้นก็คืออาวุธลับแห่งชัยชนะของถังยวน
ถังเฉาอดหัวเราะออกมาเบาๆไม่ได้ เพราะอาวุธลับแห่งชัยชนะนี้เป็นเพียงเครื่องมือทำปฏิกิริยาธรรมดา ที่คำนวณผ่านเซนเซอร์เพื่อตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของศัตรู คนที่เชี่ยวชาญไม่กลัวของแบบนี้หรอก
“ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง ไม่เป็นไร ฉันก็แค่ถามไปอย่างนั้น แค่อยากรู้อยากเห็นน่ะ”
เรื่องของถังเยว่หวานั้น ถังซานฉ่ายพูดถึงน้อยมาก และกว่าจะมาถึงถังเชียนเชียน เธอก็แทบไม่รู้อะไรเลย
หลังจากถังเชียนเชียนพยักหน้ารับรู้ก็คุยกับถังเฉาอีกไม่กี่คำ ถังเฉาก็จากไป
เวลาเที่ยงตรง ถังเฉามาถึงที่พักของถังยวน
เนื่องจากการแข่งขันสมาคมบูโดกำลังจะมาถึง ถังยวนในฐานะว่าที่ผู้นำตระกูลถังควรจะฝึกฝนอย่างหนัก แต่ถังเฉามาถึงหน้าประตูห้องพักของถังยวนปุ๊บก็ได้ยินเสียงแปลกๆ
เสียงครวญครางของผู้หญิงคนหนึ่งดังออกมาจากห้องพักของถังยวน
เห็นได้ชัดว่าถังยวนกำลังทำธุระอยู่
แต่ถังเฉาไม่อยากจะสนใจอะไรมาก เขาเคาะประตูในเวลานี้
เสียงในห้องชะงักงันลงทันใด เป็นที่ชัดเจนว่ารู้ว่ามีคนอยู่หน้าประตู
ถังยวนด่าทออย่างเกรี้ยวกราด “เดนตายที่ไหนมาเคาะประตูวะ นี่ยังเที่ยงอยู่เลย ฉันกำลังนอนกลางวันอยู่นะโว้ย”
พูดจบถังเฉาก็พูดขึ้นเบาๆ “ผมเองครับพี่ ผมมาคุยกับพี่เรื่องที่พี่บอกเมื่อเช้า”
ถังยวนกระโดดลงมาจากเตียงในทันใด สวมเสื้อผ้าให้เรียบร้อย
“ฉันมาเดี๋ยวนี้แหละ นายรอฉันแป๊บนะ อย่าเพิ่งไป”
รออยู่ประมาณนาทีสองนาที ถังยวนก็เดินมาเปิดประตูให้
หลังจากถังยวนเปิดประตู ถังเฉาก็เดินเข้าไปใน เห็นได้ชัดว่าหญิงสาวบนเตียงยังไม่ได้เตรียมตัวใดๆ เพียงแค่หลบอยู่ในผ้าห่ม
“พี่ครับ เรื่องนี้ไม่ควรมีคนนอกอยู่ พี่ให้เธอออกไปก่อนเถอะ”
ถังยวนรู้ถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้ จึงบอกให้ผู้หญิงคนนั้นออกไปก่อน
หลังจากที่ผู้หญิงคนนั้นไปแล้ว ถังยวนก็มองถังเฉาด้วยสีหน้าคาดหวัง
“มีข่าวดีเร็วขนาดนี้เลยหรอ เอาอุปกรณ์ไฮเทคกลับมาแล้วใช่มั้ย? รีบเอามาให้ฉันใช้สิ”
พูดไปถังเฉาก็ยิ้มและส่ายหัวพร้อมบอก “ไม่ได้เร็วขนาดนั้นหรอกครับ แต่ครั้งนี้ผมมาเพื่อขอความช่วยเหลือจากพี่ นี้ไงล่ะผมเพิ่งช่วยพี่ไป มารยาทที่ดีต้องมีการให้การรับไม่ใช่หรอครับ?”
หลังจากได้ฟังแล้ว ใบหน้าของถังยวนฉายแววรำคาญใจ
“ทำไมพี่ชายอย่างฉันขอให้นายช่วยอะไรนิดหน่อยต้องตอบแทนด้วยหรอ”
ถังเฉาไม่อยากสนใจ เพียงแต่ยิ้มบางๆ
“ใช่แบบนั้นที่ไหนล่ะครับ? ฐานะของพี่สูงส่งไง และผมก็มีเรื่องที่ต้องการพี่พอดี ถึงได้มาหาพี่ไงครับ”
ถังยวนแค่นเสียงเย็น “งั้นหรอ? ฉันดูยังไงก็ไม่ใช่นะ บอกมาเถอะ นายต้องการให้ฉันช่วยนายเรื่องอะไร เรื่องที่ฉันช่วยได้ฉันก็จะช่วย แต่อุปกรณ์ไฮเทคนั่นนายรีบเอามาให้ฉันดีกว่า”
ถังยวนเป็นคนฉลาด เขาฟังคำพูดของถังเฉาปุ๊บก็รู้เลยว่าหมายถึงอะไร
“พี่ครับ เราสองคนก็ไม่ต้องกั๊กอะไร เปิดไฟแล้วเปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริงดีกว่าครับ”
“เรื่องของแม่ผม พี่ก็น่าจะรู้นะครับว่าเป็นยังไง แต่ผมได้ยินมาว่าพี่เป็นคนจัดการเรื่องนี้ทั้งหมด ผมถึงได้มาหาพี่ยังไงล่ะครับ”
ได้ยินเรื่องของถังเยว่หวา ถังยวนมีสีหน้าหวาดกลัวขึ้นมาเล็กน้อย
“หลังจากนี้นายอย่าพูดถึงเรื่องนี้อีกเลยจะดีกว่านะ นายรู้มั้ยว่าเรื่องของถังเยว่หวาเป็นเรื่องที่ห้ามกล่าวถึงในตระกูลถังของเรา?”
“รวมถึงที่ข้างนอกด้วย ถ้านายกล่าวถึงชื่อถังเยว่หวา นายอาจจะต้องพบจุดจบของชีวิตนะ”
“เกิดอะไรขึ้นกับนายไม่เป็นไรหรอก นายอย่าลากพวกเราคนตระกูลถังลงเหวกับนายด้วย”
ดูออกว่าถังยวนเครียดมาก และน้ำเสียงก็จริงจังมากด้วย
แต่ถังเฉาไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่ กลับถามด้วยน้ำเสียงน่าพิศวงสุดๆ
“พี่ครับ ด้วยความสามารถของพี่ พี่ต้องบอกอะไรผมได้บ้างแน่นอนครับ ถึงยังไงน้องชายอย่างผมก็ใส่ใจกับปัญหาของพี่มากนะครับ”
ถังเฉาพูดเช่นนี้ก็เป็นการข่มขู่คนตรงหน้าดีๆนี่เอง
ถังยวนก็ไม่เสแสร้งแกล้งทำ เขาแสยะยิ้มมองคนตรงหน้า
“นายนี่เข้าใจทำธุรกิจนี่ ฉันรู้ว่าถังเยว่หวาเป็นแม่ของนาย นายเองก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ แต่เรื่องแบบนี้นายอย่าเผยแพร่ออกไปจะดีกว่า หากเผยแพร่ออกไป นายอย่าหาว่าฉันไม่เตือนนะ”
สุดท้ายถังยวนก็ยอมแพ้ถังเฉา และตกลงร่วมธุรกิจนี้กับถังเฉา
“วางใจได้เลยครับพี่ ผมไม่มีทางพูดออกไปแน่ พี่ว่ามาได้เลยครับ”
ถังยวนบอกด้วยสายตาขึงขัง
“ที่จริง นายรู้มั้ยว่าทำไมการแข่งขันสมาคมบูโดครั้งนี้ถึงสำคัญนัก?”
“ถึงแม้การแข่งขันสมาคมบูโดจะจัดขึ้นสิบปีครั้ง แต่ปกติการแข่งขันสมาคมบูโดก็ไม่ได้อลังการเท่าปีนี้”
“พูดเรื่องนี้แล้ว ก็ต้องเกริ่นจากแม่ของนาย”