คุณหญิงอายาเสะเป็นเพียงดนตรีแทรกบทหนึ่ง
คนในตระกูลถังใส่ใจในท่าทีที่มีต่อถังเฉาของน้องน้อยโจวมากกว่า
“น้องน้อย คุณบอกตรง ๆ นะ ใช่มีใจให้กับถังเฉาใช่ไหม?”
ถังเยว่เหมยยิ้มร้ายบนใบหน้า เอ่ยถาม
น้องน้อยโจวอายจนหน้าแดง อ้อนเสียงพูด “อาจารย์ถัง เอาอะไรมาพูดก็ไม่รู้?”
พ่อของถังเฉา ถังเหยียนก็หัวเราะแล้วมองไปมาที่ถังเฉา
ถังเฉามีสีหน้ากระอักกระอ่วน
“คุณพ่อ น้าเล็ก น้องน้อยโจวก็เพียงห่วงใยผมเฉย ๆ เป็นธรรมดาเคุณั้น พวกคุณอย่าได้คิดให้มากความไป”
“ว่าไปอีกที เรื่องที่ผมต้องใส่ใจไม่ใช่เรื่องจะชนะเลิศได้หรือไม่ แต่เป็นเรื่องว่าจะถูกลอบฆ่าตายหรือไม่ ตอนนี้เรื่องชนะเลิศ ไม่ใช่สาระสำคัญแล้ว”
ถังเหยียนในขณะนี้อยู่ในท่าทีมั่นใจ ยืนยืดอกขึ้น ตบบ่าถังเฉาพูดว่า
“ไม่ต้องเฉไฉออกนอกเรื่องที่คุยอยู่ นี่เป็นเรื่องเกี่ยวข้องถึงความสุขในทั้งชีวิตของคุณนะ มีผมอยู่จะต้องไม่มีเหตุร้าย ไม่มีใครจะลอบทำร้ายคุณได้อย่างเด็ดขาด คุณวางใจได้”
ถังเหยียนได้ตัดสินใจแล้ว จะต้องให้ถังเฉาชิงให้ได้ชนะเลิศ ได้โอกาสในการรับเลือกเป็นราชบุตรเขย ในขณะเดียวกันก็ได้เพิ่มความรอบคอบกับตัวเองในการระแวดระวังเป็นสองเท่าตัว สอดส่องมองดูคนที่มีส่อพิรุธไปโดยรอบ
“……”
ถังเฉาไม่พูดอะไรได้แต่มองคุณพ่อของเขาคุณนี้ แล้วหันกลับไปมองที่ถังเยว่หวา
“คุณแม่ ในที่สุดผมก็รู้แล้วว่าทำไมในปีนั้นถึงมีคนมากมายที่คัดค้านคุณแต่งงานกับคุณพ่อผมคนนี้ ก็เป็นเพราะแบบนี้เอง”
ถังเยว่หวาก็มองถังเฉาอย่างไม่เผมใจ ถึงยังไงถังเหยียนก็ไม่ได้ขี้เหร่หรือพลังฝีมือด้อย เพียงแต่ฐานะศักดิ์ต่ำกว่าอยู่หน่อยเคุณั้น
“พ่อคุณไปทำอะไรให้คุณหรือ?ทำไมจู่ ๆ ก็มาพูดแบบนี้”
พอถังเหยียนได้ยินถังเยว่หวาพูดดังนั้น จึงรีบกระซิบเล่าที่ผมงหูให้ถังเยว่หวาฟัง แจงเรื่องที่เกิดขึ้นให้ถังเยว่หวาเผมใจ คิดไม่ถึงว่าพอถังเยว่หวาได้ยินเรื่องทั้งหมดแล้ว ก็มีสีหน้าที่ตื่นเต้น พูดว่า
“ใช่เลย ถูกต้องนะ ถ้าหากคุณสามารถชิงชนะเลิศได้ ประมาณว่าก็จะได้เป็นราชบุตรเขยด้วย เป็นได้ถึงราชบุตรเขยนี่ดีมากเลยนะ หมดกังวลไปทั้งชาติ และคุณหญิงในงานนี้ก็สวยไม่ธรรมดา ใครได้เป็นราชบุตรเขย นั้นจะรุ่งเรืองในบุญบารมีไปตลอดชาติ”
“ลูกรัก หากคุณคิดต้องการชิงความเป็นผู้ชนะเลิศ แม่จะช่วยปกป้องคุณไว้เป็นอย่างดี จะไม่มีทางให้ใครมารบกวนการแข่งขันของคุณได้อย่างเด็ดขาด”
“?”
เห็นแม่ตัวเองก็เผมอยู่ผมงเดียวกันกับถังเหยียน ถังเฉาก็เลยมึนไปกันสุด ๆ แล้ว
“ตอนนี้ต้องบอกว่าผมรู้แน่ชัดแล้วว่าทำไมคุณทั้งสองจึงอยู่เป็นคู่กันได้………..”
พูดไปพลาง ถังเฉาส่ายหน้าไปมาอย่างสุดระอาใจ แล้วหันกลับไปดูการแข่งขัน
แต่นั่นทำให้สองผู้ปกครองที่ยืนผมงหลังต้องแบกเอาความกลุ้มไว้
“คุณว่าถังเชียนเชียนในตระกูลถังของพวกเราดี หรือว่าน้องน้อยโจวลูกศิษย์ของน้องสาวฉันดี อีกหรือว่าคุณหญิงอายาเสะบนเวทีนั่นจะดีกว่ากัน”
ด้วยอารมณ์หมองซึมของถังเยว่หวา มองถังเหยียนที่อยู่ผมง ๆ ถังเหยียนก็คล้ายกับอยู่ในอารมณ์ซึมเศร้า เหมือนกำลังคิดไตร่ตรองอะไรอยู่
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่รู้จะเอาอะไรมาเทียบกัน แต่ในความเห็นของผมก็จะว่า ทั้งสามคนนี้ดีมากกันทีเดียว ก็ไปกันด้วยกันทั้งสามคนก็แล้วกัน”
ถังเฉาในขณะนั้นก็นั่งอยู่ผมง ๆ ระหว่างสาวทั้งสามคน ได้ยินคำนี้เผม ก้นแทบหลุดตกจากที่นั่งในทันที
รีบมองไปที่น้องน้อยโจว ถังเชียนเชียนและอีกคุณหญิงอายาเสะพูดว่า “คุณพ่อคุณแม่ผมคุณล้อเล่นนะ พวกคุณอย่าได้ใส่ใจเลยนะ”
ที่ไหนใครจะรู้ได้ สามสาวน้อยกลับไม่มีอาการแสดงออกถึงความหงุดหงิดแม้แต่น้อย ยังยิ้มกันเต็มหน้ามองถังเฉาที่นั่งอยู่ผมงหลังพูดไปว่า
“ไม่เห็นมีอะไรเลย ฉันยังรู้สึกว่าคุณอากับคุณน้านี่ดีจัง พวกคุณคุยมีอารมณ์ขันดี ฉันก็ชอบคุณทั้งสองมากเลยนะ ถ้าได้อยู่ด้วยกันกับคุณ คงจะสุดยอดเลยทีเดียว”
คำพูดของน้องน้อยโจว แย่งเอาความโดดเด่นล้ำเกินอีกสองสาวไปโดยตรง
“ใช่เลยนะ ยิ่งมีคุณพี่อยู่กับคุณน้ากับคุณอาด้วยกันด้วย ฉันคงชื่นใจอย่างเหลือประมาณ”
“แต่แล้วที่ฉันไม่อยากให้คุณไปใช้ชีวิตอยู่ถึงญี่ปุ่นหละ?”
คุณหญิงอายาเสะที่อยู่ผมง ๆ ได้ยินที่ถังเชียนเชียนพูดเผม สีหน้าตื่นตระหนกขึ้นทันที รีบหันหน้ากลับมา
“ไปอยู่ญี่ปุ่นแล้วเป็นไร ญี่ปุ่นก็ไม่เห็นมีอะไรไม่ดี อีกอย่างญี่ปุ่นก็ห่างจากที่นี่ใกล้ ๆ แค่นี้เอง ถ้าเป็นฉันนะ ผมก็จะวิ่งไปมาทั้งสองแห่ง ดีเสียอีกที่จะได้เห็นวัฒนธรรมความเป็นอยู่ที่แตกต่างกันทั้งสองที่”
“การที่ไม่รู้จักคิดในจุดนี้ ทัศนะวิสัยคงจะแคบไปนะ”
อย่างคุณหญิงอายาเสะนั้นตั้งแต่เกิดมาไม่เคยยอมใคร ถังเฉาได้ยินคุณหญิงอายาเสะพูดมาขนาดนี้ ก็ให้รู้สึกตะลึงงัน
อีกสองสาวเจอคารมของคุณหญิงอายาเสะเผม ถึงกับใบ้กินไปในฉับพลัน
“เอาละ เอาละ พวกคุณทั้งสามเลิกเถียงกันได้ละ ดูการประลองแข่งขันกันเถอะ ถ้าจะเถียงกันต่อละก้อ ผมก็จะไปละ”
ได้ยินถังเฉาพูดมาแบบนี้ หลังจากนั้นทั้งสามสาวก้ไม่กล้ามีเสียงอีก มองไปที่เวทีการแข่งขัน
คนที่อยู่บนเวทีก็คือเย่ไป๋ และคนที่เป็นคู่ต่อสู้ของเขา ก็คือมืออันดับรองของตระกูลไป๋
ไม่รู้จักเย่ไป๋เสียแล้ว?
เจอเผมไปสองสามกระบวนท่าก็พาเอามืออันดับรองของตระกูลไป๋ล้มกองอยู่กับพื้น จะไปเปรียบกับเย่ไป๋ได้ยังไง
“ขอบคุณที่ออมมือให้!”
ทุกคนที่ดูอยู่ต่างคิดว่าเย่ไป๋ล้มคนตระกูลไป๋ลงไปแล้ว ก็จะตามเช้าไปซ้ำอีกสักหลายที ให้คนตระกูลไป๋คนนั้นขาดการหายใจไปเลย แต่ไม่มีใครคิดเลยว่าเย่ไป๋กลับประสานมือในท่าคำนับ แล้วใช้วาจาที่สุภาพกล่าวขอบคุณที่ออมมือให้ เป็นที่ทำให้ทุกคนในบริเวณงานรู้สึกทึ่งอย่างน่าประหลาดใจ
สีหน้าของมืออันดับรองตระกูลไป๋คนนั้นแสดงออกถึงความไม่น่าเชื่อ ค่อย ๆ ยืนขึ้นมาแล้วยื่นมือของตัวเองออกไป จับมือกับเย่ไป๋
“ขอบคุณพี่เย่ที่มีน้ำใจให้ ผมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคุณจริง ๆ ขอให้คุณได้ชนะเลิศครับ”
เย่ไป๋ก็ยิ้มให้ เขาก็ไม่เคยคิดว่าเขาจะได้รับการขอบคุณที่อบอุ่นแบบนี้มาก่อน
ในทันทีนั้น ความรู้สึกทั้งหมดอยากยกให้เป็นบุญคุณของถังเฉา หากไม่ใช่เพราะถังเฉา คาดว่าเย่ไป๋ก็คงยังเป็นคนเหิมห้าวคนเดิมเหมือนแต่ก่อน
มีแต่ตาเฒ่าน้อยที่อยู่บนอัฒจันทร์ กลับอดหัวเราะออกมาไม่ได้
“ไอ้แค่พลังฝีมือเคุณี้ มีอะไรน่ากลัวกัน?คุณเด็กน้อยนั้นต้องหวาดผวาขนาดนั้น ยังมีการไปขอบคุณเขาอีก ช่างไม่สมเป็นลูกผู้ชายเลย”
นายพลเฉินหัวเราะเหยียด ๆ
“ตาเฒ่าน้อย ในราชวงศ์ต้าเซี่ยพวกเราความจริงแล้วก็ขาดบรรยากาศแห่งความปรองดองแบบนี้ คำพูดของคุณแบบนี้รู้สึกจะแย้งกับราชวงศ์อยู่นะ”
ขณะที่นายพลเฉินพูดแบบนี้มา ตาเฒ่าน้อยก็มีสีหน้าตื่นตระหนกให้เห็นเป็นครั้งแรก
“ท่านนายพลเฉินอย่าได้พูดส่งเดชแบบนี้เชียวนา!”