เจ้าหญิงอายาเสะก้มหน้าลง พูดขึ้นเบาๆ
“ฉัน……ฉันรู้ ฉันก็แค่มาแสดงความยินดีกับคุณ……!”
พอได้ฟังแบบนั้น ถังเฉาก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่มองเจ้าหญิงอายาเสะตรงหน้าพร้อมกับพูดขึ้น
“ก่อนหน้านี้ผมน่าจะเคยบอกไปแล้ว ว่าการจัดอันดับสำหรับผมแล้วมีก็เหมือนไม่มี”
“ถ้ารางวัลในครั้งนี้สามารถฟื้นคืนสถานภาพของแม่ของผมกลับมาได้เหมือนกับเมื่อก่อน ผมก็จะทุ่มแรงทั้งหมด แล้วก็จะคว้าแชมป์ด้วย แต่ตอนนี้แม่ของผมออกมาเรียบร้อยแล้ว แชมป์สำหรับผมก็ไม่มีความหมายอีกแล้ว”
“ความหวังดีของคุณ ผมรับไว้ในใจแล้ว”
ถังเฉาไม่ได้พูดอะไรมากมาย
ถังเหยียนกับถังเยว่หวาสีหน้ากระวนกระวาย เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเดาเจตนาที่ดีของเจ้าหญิงอายาเสะออก
ถังเหยียนชนถังเฉาเบาๆ คิดที่จะบอกใบ้เป็นนัยๆ แต่ถังเฉากลับไม่ตอบสนองอะไรกลับมา
จู่ๆถังเยว่หวาก็เปิดปากพูดขึ้น“เวลายังเช้าอยู่ ลูกไปเดินเล่นเป็นเพื่อนเจ้าหญิงอายาเสะหน่อยสิ แม่กับพ่อของลูกขอตัวกลับไปก่อนแล้วกัน”
“รอเดี่ยว……”
ตอนแรกถังเฉาคิดที่จะรั้งเขาไว้ แต่กลับพบว่าพวกเขาเดินไปไกลแล้ว ทำได้แค่ล้มเลิกไป
เจ้าหญิงอายาเสะที่อยู่ข้างๆกลับแอบขอบคุณถังเยว่หวาและถังเหยียนอยู่ภายในใจ เพราะเธอรู้ว่าทั้งสองคนนี้มองความรู้สึกนึกคิดในใจของเธอออก
“ใช่แล้ว ถึงตอนนั้นคุณจะไปญี่ปุ่นกับฉันไหม?”
เธอมองถังเฉา พร้อมกับพูดถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเบาๆ
ถังเฉาอึ้งตะลึง จากนั้นก็ส่ายหัว“กำลังเสริมที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของผมก็ยกให้กับคุณหมดแล้ว ผมไปคนเดียวก็เปลี่ยนสถานการณ์อะไรไม่ได้”
เจ้าหญิงอายาเสะยิ้มอย่างอึดอัด
“ที่พูดมาก็ถูก!”
เห็นได้ชัดว่าเจ้าหญิงอายาเสะรู้สึกผิดหวังสุดๆ ก็เลยไม่ได้เปิดปากพูดอะไรอีก
จนกระทั่งถังเฉากลับมาถึงตระกูล ถังเฉาจึงตอบสนองกลับมา ว่าที่แท้ที่เจ้าหญิงอายาเสะตามตัวเองมาตลอด จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่กลับ เขาจึงเรียกรถม้าพาเจ้าหญิงอายาเสะกลับไปยังตระกูลลั่ว
“เมื่อตะกี้เธอไปไหนมา เจ้าหญิงอายาเสะ!”
เพิ่งจะถึงตระกูลลั่ว โอดะไอก็เข้ามาต้อนรับ“ฉันเป็นห่วงเธอจะตายอยู่แล้ว เธอหายไปตั้งนาน ฉันนึกว่าเธอถูกเสด็จพี่ทั้งสองจับตัวไปแล้วซะอีก!”
พอเห็นเจ้าหญิงอายาเสะกลับมา โอดะไอก็ถอนหายใจออกมา
เจ้าหญิงอายาเสะยิ้มๆ พูดกับโอดะไอ
“ไม่มีอะไร ฉันก็แค่ไปซื้อของที่ระลึกมาน่ะ ถึงยังไงฉันก็ใกล้จะกลับญี่ปุ่นแล้วนะ”
“เรื่องของราชวงศ์ยังต้องให้ฉันไปจัดการ ตอนนี้ฉันมีกองกำลังเสริมแล้ว เธอก็กลับไปเป็นตัวแทนของตระกูลโอดะไอได้แล้ว ต้องรีบกลับไปสืบทอดบัลลังก์ให้โดยเร็วนะ”
พอได้ฟังแบบนั้น โอดะไอจึงนึกขึ้นมาได้ ก่อนจะพยักหน้า
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็รีบออกเดินทางกันเถอะ”
เจ้าหญิงอายาเสะพยักหน้าอย่างไม่เต็มใจ จากนั้นก็เดินออกไปข้างนอกกับโอดะไอ
ในขณะเดียวกัน ตาเฒ่าน้อยอีกทางฝั่งหนึ่ง
ภายในห้องเล็กๆที่มืดมิด
“ว่าไงนะ? ไม่คิดว่าเรื่องเล็กๆแค่นี้ยังทำไม่สำเร็จ มันก็แค่คนคนเดียวไม่ใช่หรือไง? แกมีคนมากมายขนาดนั้น ยังจับตัวมันคนเดียวไม่ได้”
เสียงตำหนิด้วยความโมโหดังขึ้นมา
ตาเฒ่าน้อยก้มหน้าลง สายตาตื่นตระหนกเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าท่าทางที่ปกติจะหยิ่งยโสของเขา ต่อหน้าของคนคนนี้มันไร้ค่าไร้ประโยชน์อย่างชัดเจน
“นายท่าน ตอนแรกเรื่องนี้มันจะสำเร็จอยู่แล้ว แต่จู่ๆก็เกิดเรื่องเล็กน้อยแทรกเข้ามาก่อน ผมก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน มันจึงทำให้ภารกิจล้มเหลว”
คนที่สวมชุดดำหันกลับมามองตาเฒ่าน้อย ตาเฒ่าน้อยก็รีบเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนั้นออกไปทันที
“นายพลเฉินช่างโอหังเหลือเกิน มันเป็นใครมาจากไหน?”
ตาเฒ่าน้อยรีบพูดอธิบายทันที
“มันเป็นท่านนายพลของราชวงศ์ เป็นนายพลของตระกูลมารุ่นแล้วรุ่นเล่า ดังนั้นประสบการณ์จึงมีมากมาย คนชั้นผู้น้อยไม่กล้าบุ่มบ่ามไปทำอะไรหรอกครับ ถ้าเกิดถูกมันเพ่งเล็งขึ้นมา เป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ”
พอได้ฟังแบบนั้น คนชุดดำคนนี้ก็ยิ้มออกมาอย่างเยือกเย็น
“หรือว่าเงินที่ฉันให้แกไปมันไม่พออย่างนั้นเหรอ? ไม่พอให้แกไปเชิญยอดฝีมือที่แท้จริงมาจากโกดังนักฆ่าเหรอ? ไม่คิดว่าแกจะไปเชิญจูกัวชิงหลงที่อยู่อันดับที่ร้อยกว่าๆมาแทน ตอนนี้จูกัวชิงหลงก็มาตายอีก!ไอ้คนไร้ค่าที่จัดการเรื่องไม่สำเร็จ แถมยังทำให้เรื่องแย่ลงไปอีก!”
พอพูดถึงตรงนี้ ตาเฒ่าน้อยก็สั่นสะดุ้งทันที
ถึงยังไงตอนนั้นเพราะว่าต้องการที่จะหักค่าคอมมิชชั่นจากส่วนนั้นมานิดหน่อย เขาก็เลยส่งจูกัวชิงหลงมาจัดการกับถังเฉา แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจู่ๆจูกัวชิงหลงก็ล้มลงตายอยู่ที่พื้นกะทันหันแบบนั้น
“นายท่าน ไว้ชีวิตผมด้วยเถอะครับ ผมก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าจูกัวชิงหลงจะตายไปแบบนี้!”
“แต่ขอให้คุณวางใจได้ ผมจะต้องส่งนักฆ่าไปอีกแน่ จะรีบจัดการฆ่าไอ้เด็กนั่นให้โดยเร็วแน่นอนครับ”
เพี๊ยะ!
พูดเพิ่งจบ จู่ๆชายชุดดำคนนั้นก็หันมา ตบไปที่หน้าของตาเฒ่าน้อยหนึ่งที
“ตบครั้งนี้ก็เพื่อให้แกรู้ว่าแกได้ทำเรื่องที่โง่เขลาขนาดนี้ไป”
“ถ้าหากว่าล้มเหลวอีกล่ะก็ สิ่งที่ต้องชดใช้มา ก็จะเป็นชีวิตของแกเอง”
“ครับ ครับ……”
หลังจากที่ตาเฒ่าน้อยถูกชายชุดดำตบไปแล้ว ทั้งร่างกายก็ขยับไม่ได้ นอนลงไปทั้งอย่างนั้นไม่ขยับแม้แต่นิดเดียว หลังจากผ่านไปนานสองนานแล้วถึงค่อยๆฟื้นคืนสติกลับมาอย่างช้าๆ
เขาสีหน้าโมโหสุดๆ“เฉินเหมิ่ง แกทำให้ฉันต้องถูกนายท่านกระทำกับฉันแบบนี้ ฉันจะต้องให้แกได้ชดใช้”
“แล้วก็ถังเฉา พวกแกสองคนอย่าคิดว่าจะหนีไปได้เลย”
พูดจบ ตาเฒ่าน้อยก็ไปหานักฆ่าที่ถูกจัดอยู่อันดับต้นๆจากโกดังนักฆ่ามาหนึ่งคน ใบหน้าเผยให้เห็นถึงรอยยิ้มพออกพอใจ
“ครั้งนี้ ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเฉินเหมิ่งจะสามารถคุ้มกันถังเฉาได้”
“ถ้าให้ดี จัดการฆ่าเฉินเหมิ่งไปด้วยซะเลย แบบนี้ต่อไปตอนที่ฉันจัดการเรื่อง ก็จะได้หมดเสี้ยนหนามไปอีกหนึ่งคน”
จากนั้นตาเฒ่าน้อยก็โทรศัพท์ออกไป
ในเวลานี้เอง ไวโอเล็ตกำลังพักผ่อนอยู่ในห้อง
กริ๊งๆ!
มีเสียงที่ดังเสียดหู ดังขึ้นมา