บทที่ 221 นางหญิงเฟิงช่างเป็นผู้เป็นคน
“คุณรู้ได้ยังไง? เก่งจริงๆ”
ลั่วมั่นจงใจแสดงท่าทีชื่นชมออกมา วนไปรอบตัวเขา ยิ้มด้วยท่าทางเลียแข้งเลียขาเป็นอย่างยิ่ง
เฟิงเฉินมองเธอและยิ้มอย่างไม่จริงใจ และหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่ริมโต๊ะอาหารขึ้นมาดูข้อความหักเงินที่ส่งเข้ามา “เอาเงินของฉันไปสร้างความสัมพันธ์ นางหญิงเฟิงช่างเป็นผู้เป็นคน”
“ยังไงก็เป็นน้องชายและหลานชายของคุณ เป็นความดีความชอบของคุณ ฉันไม่แย่ง”
“เกรงว่าคุณเพิ่งจะเอาเงินให้คนไป เงินในธนาคารนั่นก็คนโอนไปหมดแล้ว มือเท้าเร็วพอตัว กลัวแค่คุณจะทำให้เช็คกลายเป็นขยะไป”
ดูเวลาโอนเงิน มั่นใจว่าเป็นช่วงเวลาไล่เลี่ยกันกับที่เธอออกจากโรงพยาบาล แต่ลั่วมั่นคิดว่าเฟิงเซิ่งไม่คิดอะไรมาก กลัวว่าเขาที่อ่อนโยนโดนยุยงแล้วแทบจะรีบโอนเงินออกมา
คิดถึงตรงนี้เธอก็ถอนหายใจอีกครั้ง
“บนโลกใบนี้มีบางคนมองใครก็ไม่ดีไปหมด คนอย่างนี้มีชีวิตค่อนข้างเหนื่อย”
เฟิงเฉิน/มองเธออย่างตลกๆ และมองเธอที่ขนลุกไปทั้งตัว
“คุณมองฉันอย่างนั้นทำไม? ฉัน…ฉันเหนื่อยจะตายแล้ว ฉันจะขึ้นไปอาบน้ำแล้ว”
เฟิงเฉินดึงคอเสื้อของเธอไว้จากด้านหลังในทันที “อย่าเปลี่ยนเรื่อง นางหญิงเฟิงเงินหนึ่งล้านนี้ให้ไปง่ายๆ สบายๆ ไม่คิดจะจ่ายอะไรคืนกลับมาให้ฉันหน่อยหรือไง?”
“อ๋า?” สีหน้าลั่วมั่นเปลี่ยน ประคองตัวขึ้นมา แน่นอนเธอรู้ว่าเฟิงเฉินพูดอะไร แต่พรุ่งนี้เธอยังต้องคุยเรื่องสัญญา จนถึงตอนนี้สัญญายังแก้ไขไม่เสร็จ ตอนนี้จะไปมีกะจิตกะใจคิดอะไรไร้สาระ เธอพยายามขอร้อง
“พรุ่งนี้ฉันมีธุระ”
“อุ๊ป” ยังพูดไม่ทันจบ ริมฝีปากก็โดนปิดไว้แล้ว มือคู่นั่นเลื่อนขึ้นลงอย่างอิสระและปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของเธอทั้งหมดออกอย่างรวดเร็วและเบามือ เผยให้เห็นผิวขาวนุ่มราวหิมะ เฟิงเฉินมือแต่ละข้างของเฟิงเฉินสัมผัสนับครั้งไม่ถ้วน ทำให้หัวใจของลั่วมั่นลุกเป็นไฟและร้องครวญครางไม่หยุด
เขาดึงเอวของเธอวางไว้บนโต๊ะอาหาร ถอดเสื้อผ้าทั้งตัวของเธอออกอย่างเคยชินและรวดเร็ว เหลือเพียงแค่ร่างเปลือยเปล่านั่งอยู่บนกระดานไม้กว้าง ร่างขาวราวหิมะปกคลุมไปด้วยแป้ง อยากจะปฏิเสธแต่ก็ยังยินดีด้วยกับตีหน้าอกเขา
“เฟิงเฉิน คุณ…คุณขี้โกง…”
เพราะตอนนี้ในบ้านไม่มีคนรับใช้สักคน ไม่ว่าที่ไหน ก็กล้าทำอย่างนี้
เฟิงเฉินกัดหูและไม่ฟังเสียงของเธอ และสูดหายใจเข้า
“บะหมี่ที่คุณใช้ร่างกายสร้างขึ้นมา น่าจะอร่อยมาก”
ลั่วมั่นเขินจนหน้าแดงไปหมด หลังจากนี้เธอจะกล้ามองบะหมี่ที่ทำบนกระดานผืนนี้ได้ยังไง
ในเมื่อสถานที่โดนเปิดเผยอย่างน่าหลงใหล จนแทบไม่ต้องสนใจเกมก่อนหน้า ลั่วมั่นทนไม่ไหว ยื่นมือทั้งสองข้างออกไปคล้องคอของเฟิงเฉินไว้ แม้ว่าร่างกายขอเขายังไม่เข้ามา หลังจากกัดฟันส่งเสียงฮึดฮัด ก็ยิ่งยากจะควบคุมเสียงที่เหมือนออกพ่นไฟออกจากลำคอได้
“ชอบไหม?”
“อืม…ชอบ เฉิน…ช้าหน่อย ช้าๆ หน่อย”
“แบบนี้?”
“อ่า…เร็ว เร็ว…”
ราวกับลั่วมั่นเป็นวาทยกรของวงดนตรี คอยบังคับทิศทางอย่างวุ่นวายภายใต้ความเคยชินของเฟิงเฉิน ปล่อยให้ม้าป่าวิ่งชนในตัวเองตรงๆ พาเธอถึงจุดสูงสุดหลายครั้ง
หม้อตุ๋นส่งเสียงร้อง “เดือดปุ๊ดๆ” ออกมาผสมรวมกับเสียง “ปั๊บปั๊บ” เป็นเสียงเดียวกัน น้ำและแสงสว่างส่องตามอำเภอใจ ทั้งห้องเต็มไปด้วยความอบอุ่น
หลังจากเสร็จธุระ ฟ้าก็มืดสนิทแล้ว พระจันทร์เต็มดวงลอยเด่นอยู่ด้านนอก
เฟิงเฉินประคองลั่วมั่นที่เหนื่อยจนหลับสนิทอยู่บนเตียงมากอดไว้ในอ้อมอกตัวเอง ป้อนซุปขณะสะลึมสะลือให้เธอหนึ่งถ้วย นี้ทำให้เธอหลับสบาย