ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี! – ตอนที่ 614

ตอนที่ 614

บทที่ 614 เฉินเกอค้นพบ

เฉินเกอรู้นิสัยของหม่าเสี่ยวหนานดี เธอสามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยตัวเอง ถึงแม้จะแก้ไขไม่ได้ ก็จะไม่ไปขอร้องคนอื่นอย่างง่ายๆ

ยิ่งไปกว่านั้น เงินก้อนที่ตัวเองให้เธอไปนั้น เธอก็รู้สึกละอายใจอยู่แล้ว

ดังนั้นเมื่อเกิดเรื่อง ยิ่งไม่มีทางที่จะไปหาหลี่เจิ้นกั๋ว

เจ้าเด็กโง่คนนี้

เฉินเกอขับรถ พาหม่าเสี่ยวหนานมาถึงโรงเรียนมัธยม

จอดรถไว้หน้าประตู ทั้งสองคนได้เดินเข้าไป

“สวัสดีค่ะคุณครูหม่า!”

และในเวลานี้ นักเรียนหญิงคนหนึ่งที่สะพายกระเป๋ายังไม่ได้กลับบ้าน บังเอิญเจอกับหม่าเสี่ยวหนานเข้า

เธอน่าจะเป็นนักเรียนของหม่าเสี่ยวหนาน

สวมใส่ชุดนักเรียนที่สะอาดสะอ้าน มองออก สวยใช้ได้เลย เพียงแต่บนใบหน้านั้นไม่มีความมั่นใจเลย

สนทนากับผู้อื่น ยังไม่กล้าที่จะเงยหน้าขึ้น

อีกอย่างกระเป๋าที่สะพาย ค่อนข้างที่จะเก่า

“เมิ่งซี เธอยังไม่กลับบ้านเหรอ?”

หม่าเสี่ยวหนานถามอย่างห่วงใย

และเมิ่งซีนั้นยิ่งก้มหน้าลงไปอีก

“คุณครูคะ หนู…….หนูถูกครูใหญ่กักตัวไว้ค่ะ เมื่อวันก่อนคุณครูอยู่ที่โรงเรียน ไม่ได้จากไปไหนเลย พวกเขาบอกว่า มันเป็นหลักฐานชิ้นหนึ่ง ขอโทษด้วยค่ะ หนูรู้ว่าเงินก้อนนั้นครูไม่ได้เอาไปอย่างแน่นอน!”

เมิ่งซีขอบตาแดง พูดถึงตอนสุดท้าย เสียงที่พูดเหมือนเสียงกัดของยุง

หม่าเสี่ยวหนานยิ้มเล็กน้อยแล้วพูด: “ไม่เป็นไรเมิ่งซีที่เธอพูดมันเป็นความจริง ครูไม่โทษหนู ช่วงนี้ผลการเรียนของหนูไม่ค่อยคงที่ จะสอบเอ็นทรานซ์แล้ว เธอต้องปรับสภาพจิตใจให้ดี เอาพลังทั้งหมดมาทุ่มเทกับการสอบ เย็นมากแล้ว รีบกลับบ้านเถอะ!”

หม่าเสี่ยวหนานลูบหัวของเธอ

เมิ่งซีพยักหน้า จากนั้นก็เดินออกไปจากโรงเรียน

และเวลานี้ เฉินเกอถอนสายตาออกจากร่างของเธอ เพียงแต่ไม่มีคนสังเกตเห็น สายกตาของเฉินเกอเป็นประกายแวววาว

“เธอเป็นนักเรียนที่เรียบร้อยที่สุดในห้อง และเป็นเด็กที่ตั้งใจเรียนมาก เลิกเรียนแล้วฉันก็เลยอยู่ต่อเพื่อติวให้เธอ เธอขยันมาก เพียงแต่ว่าตั้งแต่เดือนที่แล้วเป็นต้นมา ดูเธอไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ มีผลกระทบต่อการเรียนของเธอ

เวลานี้หม่าเสี่ยวหนานพูดด้วยความกังวลเล็กน้อย

“อันที่จริงเราไม่ควรที่จะสนใจแต่เรื่องการเรียนของเธอเท่านั้น หากเด็กนักเรียนคนนี้ไม่เลว คนที่เป็นครู ก็ต้องใส่ใจชีวิตความเป็นอยู่ของเธอด้วย เช่นว่าเธออาจจะมีเรื่องที่ไม่สามารถที่จะพูดได้? หรือทางบ้านเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า?”

เฉินเกอมองไปที่เสี่ยวหนานแล้วพูดอย่างยิ้มๆ

“นายเคยทำวิจัยเกี่ยวกับอาชีพครูเหรอ?”

หม่าเสี่ยวหนานถามอย่างยิ้มๆ

“แน่นอน ฉันยังเคยเป็นครูสอนชีววิทยามาช่วงหนึ่ง เป็นประเภทที่อ่านตามหนังสือ!”

“ปัดโธ่เอ๊ย!”

หม่าเสี่ยวหนานถูกเขาอำจนขำ

ทั้งสองคนก็ได้เดินมาถึงห้องครูใหญ่แล้ว

ยังไม่ได้เดินเข้าไป ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งกำลังพูดกับครูใหญ่

“ต้องเป็นเธอแน่นอน คุณตำรวจ ฉันว่าพวกคุณไม่ต้องตรวจสอบแล้ว ฉันกล้าใช้ตำแหน่งของฉันมารับประกัน นอกจากเธอ ไม่มีทางเป็นคนอื่น และตอนนี้ พยานบุคคลก็มีแล้ว และพยานวัตถุ ก็คือบ้านที่เธอเพิ่งจะซื้อมาใหม่ ฉันถึงว่าล่ะ ก่อนหน้านั้นหม่าเสี่ยวหนานทำไมถึงกล้าทุ่มเงินเยอะขนาดนี้ในการซื้อบ้าน ฉันดูแล้ว เธอน่าจะวางแผนกับเงินสองแสนนี้นานแล้ว มันคือแผนการที่เธอวางไว้อย่างละเอียด!”

“พวกคุณไม่ต้องตรวจสอบแล้ว จับตัวไปโดยตรง สมควรโดนขังก็ขังเลย สมควรยิงเป้าก็ยิงเลย!”

“ครูหยางเยี่ยน ขอความกรุณาเงียบด้วย พวกเราต้องดูตามหลักฐาน!”

เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองนายมองหยางเยี่ยนอย่างหมดคำพูด

และในเวลานี้ เฉินเกอกับหม่าเสี่ยวหนานได้เข้ามาที่ห้องครูใหญ่แล้ว

หยางเยี่ยนคนนี้ มองดูแล้วอายุประมาณยี่สิบกว่าปี ฟังจากหม่าเสี่ยวหนานเล่า พวกเธอทั้งสองเข้ามาทำงานที่โรงเรียนพร้อมกัน

เพียงแต่หม่าเสี่ยวหนานนั้นก็สอบเข้ามาอย่างเป็นทางการ

แต่หยางเยี่ยนนั้น อาศัยบารมีของสามี

ตอนที่เข้ามาใหม่ก็ได้รับความไว้วางใจไม่น้อย

แต่เวลานานเข้า ใครมีความสามารถแค่มองก็รู้

ดังนั้นหัวหน้าจึงยินดีที่จะมอบภารกิจที่สำคัญให้หม่าเสี่ยวหนานที่มีความสามารถมากกว่า

จึงทำให้หยางเยี่ยนอิจฉาริษยาขึ้นมา

ยิ่งไปกว่านั้นเธอได้ยินมาว่า

ทางโรงเรียนมีการประกวดสาวงาม ผู้ชายในโรงเรียน ต่างเทคะแนนให้หม่าเสี่ยวหนาน

นี่!

ฟังถึงตรงนี้ เกือบจะเป็นบ้าแล้ว ก็รู้สึกว่าชีวิตของตัวเอง ขอเพียงมีหม่าเสี่ยวหนานหนึ่งวัน ก็จะมืดมนไปหนึ่งวัน จะไม่มีวันได้เห็นแสงสว่าง

“โอ๊ย มาเย็นป่านนี้ ฉันนึกว่าเธอกลัวติดคุก ตกใจจนหนีไปเมื่อกลางดึกแล้ว? เห่อๆ ยังพาผู้ชายมาด้วยหนึ่งคน ทำไมเหรอ พามาข่มขู่คนเหรอ? ก็ไม่ดูเลยว่าพาผู้ชายแบบไหนมา ฮึ่ม!”

หยางเยี่ยนพูด

หม่าเสี่ยวหนานไม่ได้สนใจเธอ เดินเข้าไปเล่าเหตุการณ์ให้กับคุณตำรวจและครูใหญ่

สุดท้ายก็ไม่ได้ผลสรุปอะไร ดูแล้วพรุ่งนี้ตำรวจคงจะมาอีก ทำให้หม่าเสี่ยวหนานต้องเตรียมพร้อมตลอดเวลา เรียกเมื่อไหร่สามารถไปเมื่อนั้น

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จากไป

“ฮึ่ม เรื่องนี้ หากไม่มีข้อสรุป ก็ยังไม่นับว่าจบ ฉันจะบอกเธอให้นะหม่าเสี่ยวหนาน ก่อนหน้านั้นยังรู้สึกว่าเธอมีสง่าราศี ไม่คิดว่าเธอจะจอมปลอมเพียงนี้ กล้าเอาแม้กระทั่งทุนการศึกษาของนักเรียน จิตใจมีเมตตาเหรอ? ก็คือคนอย่างเธอเหรอ? ยังจะร่วมคัดเลือกครูดีเด่นอีก ถุย!”

หยางเยี่ยนก็ได้มองหน้าด่าหม่าเสี่ยวหนานอย่างเย็นชา

“เรื่องราวเป็นยังไงกันแน่? ใจเธอเองรู้ดีที่สุด เธอต้องระวังหน่อยนะ สุดท้ายหากก้อนหินถูกยกขึ้นความจริงปรากฏ ระวังว่ามันจะทุบจนสมองตัวเองจนเละ!”

และเฉินเกอ เวลานี้ได้มองหยางเยี่ยนแล้วยิ้มอย่างเย็นเยือก

ถูกสายตาของเฉินเกอจ้องมอง

จู่ๆหยางเยี่ยนก็กลืนน้ำลายลำบาก

หน้าซีดไปทันที

หม่าเสี่ยวหนานนั้นแปลกใจมากทำไมเฉินเกอถึงพูดคำพูดแบบนี้ออกมาได้?

เฉินเกอสงสัยว่าหยางเยี่ยนขโมย จากนั้นก็ใส่ร้ายเธอเหรอ?

แต่ว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ ช่วงก่อนหยางเยี่ยนออกไปสัมมนาตลอด และเธอก็ไม่รู้ว่าเงินทุนการศึกษานั้นถูกตัวเองถอนออกมาแล้ว

เงินทุกการศึกษานั้นได้ถอนมาเมื่อไหร่ แม้กระทั่งแม่เธอยังไม่รู้ มีเพียงแต่เธอที่รู้คนเดียว

เกิดเรื่องแล้วหยางเยี่ยนถึงได้กัดตัวเองไม่ปล่อย

นายนายนาย………..นายหมายความว่าไง? อะไรคือยกก้อนหินทุบเท้าตัวเอง ฉันจะบอกนายให้นะ เรื่องในวันนี้ หากนายไม่พูดให้มันชัดเจน กูจะไม่ให้มึงมีชีวิตออกไปจากประตูโรงเรียน

หยางเยี่ยนพูดอย่างลนลาน

“ความหมายของฉันเธอน่าจะเข้าใจดี รอพรุ่งนี้ ฉันจะเปิดเผยความจริงทั้งหมด ถึงเวลานั้น หวังว่าจะไม่มีคนร้องไห้!”

พูดจบ เฉินเกอก็พาหม่าเสี่ยวหนาน จากไปโดยตรง

และสายตาของหยางเยี่ยนนั้นเต็มไปด้วยความเกลียดชัง

ก็วิ่งออกไปโทรศัพท์

“ที่รัก ฉันเจออุปสรรคแล้ว หม่าเสี่ยวหนานนั้นไม่รู้ไปเรียกหนุ่มน้อยที่ไหนมา มันมากัดฉันไม่ปล่อยแล้ว จะทำไงดี?”

หยางเยี่ยนพูด

“วางใจเถอะ ผมจะเช็ดประวัติของนายนั่นตอนนี้เลย!”

“อืม ครั้งนี้ต้องฝังหม่าเสี่ยวหนานให้ได้ ส่วนเด็กคนนั้น คุณช่วยคิดหาวิธี ให้เธอปิดปากให้เงียบ!”

หยางเยี่ยนกล่าวอย่างชั่วร้าย

“ทุกอย่างถูกควบคุมไว้ในกำมือ!”

พูดจบ หยางเยี่ยนก็วางสาย

หลังจากที่เฉินเกอพูดออกมาแล้ว ก็ขับรถแต่ไม่ได้มุ่งหน้าไปทางไปบ้านของหม่าเสี่ยวหนาน

“เสี่ยวเกอ นายจะไปไหน?”

หม่าเสี่ยวหนานถาม

“ฉันก็กำลังจะถามเธออยู่ เด็กนักเรียนที่ชื่อเมิ่งซีบ้านเขาอยู่ที่ไหน?”

เฉินเกอถาม

“เมิ่งซี? นายจะไปหาเมิ่งซี? เขาเป็นเด็กที่ดี ถึงแม้เธอจะเป็นพยาน ก็พูดแต่สิ่งที่เป็นความจริงทั้งนั้น อีกอย่างฉันก็อยากให้เขาพูดความจริงเหล่านี้ ไม่จำเป็นต้องแต่งเรื่องอะไรเพื่อฉัน อย่างนี้แล้ว ในใจเขาก็จะได้ไม่ต้องมีแรงกดดัน!”

หม่าเสี่ยวหนานกล่าว

“ฉันรู้ว่าเขาเป็นเด็กที่ดีคนหนึ่ง แต่ตอนนี้เขาประสบปัญหา เป็นเรื่องที่ยุ่งยากทีเดียว หากเขาก้าวไปข้างหน้าอีกก้าว อาจจะตกลงไปไหนเหว บ้านเขาอยู่ไหน?

เฉินเกอถาม

ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

Status: Ongoing

เรื่องย่อ ณวันนั้น พี่สาวกับพ่อแม่ที่ทํางานอยู่ต่างประเทศบอกกับตัวเองอย่างกะทันหันว่า ตัวเองเป็นทายาทเศรษฐี ครอบครองสมบัติหลายล้าน เฉินเกอคิดในใจว่า ฉันเป็น ทายาทเศรษฐีจริงๆหรอ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท