ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี! – ตอนที่ 689

ตอนที่ 689

บทที่ 689 ในที่สุดคุณก็ปรากฎตัว

“นี่เป็นไปได้ยังไง?”ต้วนเฟยตะลึง

“ผมบอกแล้ว ว่าของพวกนี้ที่อยู่ต่อหน้าผมมันก็เป็นแค่ของเล่นเท่านั้น คนพวกนี้ที่อยู่ต่อหน้าผมก็เป็นเพียงแค่ตุ๊กตา ! คุณไม่ควรจะใจร้อนขนาดนี้เลย ทำร้ายเพื่อนของผม นี่คุณรนหาที่ตายเอง!”เฉินเกอพูดพลันยิ้มอย่างเรียบเฉย

“ฉันไม่เชื่อหรอกว่านายจะเก่งกาจขนาดนี้ พวกเราทุกคนจัดการมัน ฆ่าเขาซะ!”ต้วนเฟยกัดฟันพูดด้วยความเกลียดชัง ที่คนอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ทำไมถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้ได้!

ในตอนนี้บอดี้การ์ดหลายสิบคนก็รับรู้ได้ถึงความเสี่ยง ซึ่งความอันตรายนี้ทำให้พวกเขานิ่งทื่อ อย่างกับมีหนามตำอยู่บนหลัง เหมือนว่าชีวิตของตัวเองพร้อมจะตายเมื่อไหร่ก็ได้ แต่เพราะความหวังในการมีชีวิตรอด จึงทำให้บอดี้การ์ดกลุ่มนี้หยิบกริชออกมาด้วยพลังในการสังหาร พุ่งตรงมายังเฉินเกอ

“ไอ้สวะ!”พูดไปก็เห็นเฉินเกอตวัดมือจนคนเกือบสิบถูกขอบเขตพลังลมปราญณ์จัดการ จนเลือดพุ่งออกมา แล้วลอยออกไป พร้อมจัดการทุกคนที่อยู่บริเวณลานนั้นจนเกลื่อนกราดไปหมด ส่วนที่เหลือสิบกว่าคนก็อึ้ง และตกใจจนรีบวางมือ

“พี่ใหญ่!”กริชในมือของหัวหน้าชายวัยกลางคนคนเมื่อกี้นี้ก็ตกไปยังพื้น

พลืบ!

ทันทีที่กริชของเขาตกสู่พื้น สิบกว่าคนที่เหลือก็ทิ้งมีดที่อยู่ในมือลงบนพื้นไป แล้วเฉินเกอก็เอามือทั้งสองไขว้หลังเอาไว้โดยไม่ทำอะไร

“ถอย ทุกคนถอยให้หมด!”

ชายวัยกลางคนกลืนน้ำลายอย่างหนัก เขารับรู้ได้ถึงรังสีสังหาร กี่ครั้งแล้วที่เขาต้องเผชิญกับความเป็นความตาย แต่เขาไม่เคยรู้สึกว่าสัญญาณแห่งความตายมันจะชัดเจนขนาดนี้มาก่อน แม้ว่าชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าจะไม่ได้ทำอะไร แต่เขาเชื่อได้เลยว่าไม่ว่าจะเป็นกริชที่อยู่ในมือ หรือปืนที่อยู่บนพื้น ในสายตาของเขาคนนั้นแล้วมันเป็นดั่งของเล่นจริงๆ และพวกเขาก็คงจะเป็นแค่ตุ๊กตาเท่านั้น

คนนับสิบเดินถอยออกไปด้านข้างทันที

“พวกคุณฉลาดมาก ดังนั้นเป็นเพราะพวกคุณฉลาด เลยไม่ต้องมาตายเหมือนกับคนโง่สองคนนี้ พวกคุณไปได้แล้ว!”เฉินเกอพูดด้วยรอยยิ้มอันเรียบเฉย

“ขอบคุณพี่ใหญ่ พวกเรากลับ!”ชายวัยกลางคนโค้งคำนับอย่างสุดซึ้งและจากไปพร้อมกับคนของเขา

ส่วนซีเหมินหยู่และต้วนเฟยก็ต่างพากันยืนนิ่ง

“พี่ต้วนเฟย พวกเราจะทำอย่างไรดี?”

ซีเหมินหยู่ตกใจจนเสียงสั่น

“หื้ม เฉินเกอ นายอย่าเข้ามานะ ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าผู้หญิงคนนี้ซะ นายก็รู้ทักษะของฉันดีนี่ เพียงแค่มีดเดียวเธอก็ตายได้แล้ว!”

ต้วนเฟยชักกริชออกมาพร้อมกับจี้มันไว้ที่คอของสุ่ยเสีย

“คุณมั่นใจขนาดนั้นเชียว ที่จริงเมื่อกี้ผมกะว่าจะปล่อยให้พวกคุณหนีไปแล้วนะ แต่ในเมื่อคุณอยากจะเล่นกับผม ผมก็จะให้คุณตายอย่างทรมาน!”เฉินเกอพูดพลันเดินมาข้างหน้าหนึ่งก้าว

“นาย!”ใจของต้วนเฟยถึงกับหล่นวูบ เมื่อกี้ เมื่อกี้นี้เขาสามารถหนีรอดได้ ?

“นายอย่ามาเล่นแง่ ฉันรู้ว่านายเป็นคนรักษาสัจจะ ในเมื่อเป็นแบบนี้ ฉันจะปล่อยผู้หญิงคนนี้ แล้วนายก็ปล่อยฉันไปซะ?”

ต้วนเฟยพูดอย่างตื่นตระหนก

“ปล่อย?คุณไม่มีโอกาสนั้นแล้ว!”เฉินเกอส่ายหน้า

ทันทีที่พูดจบ เฉินเกอก็ดีดนิ้วแล้วพลังก็พุ่งออกไป ตรงเข้ากับแขนของต้วนเฟยอย่างจัง ทันใดนั้นเลือดก็ไหลออกมาแล้วแขนของเขาก็ลดลงมา

“นาย!ทำไมนายถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้ นายมันเป็นปีศาจ!”ต้วนเฟยเริ่มคลั่ง

เขาโง่จริงๆ เฉินเกอพูดถูก ถ้าเกิดตัวเองไม่มาหาเรื่อง ตั้งใจฝึกฝนให้วิทยายุทธก้าวหน้า ซึ่งในอนาคตอันใกล้ด้วยความสามารถของตัวเอง ก็อาจจะได้เป็นนายกสมาคมงานประลองวิทยายุทธก็เป็นได้ แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันจบแล้ว!ตัวเองดันไปหาเรื่องกับคนที่เขาไม่มีวันต่อกรได้

ต้วนเฟยต้องการที่จะดิ้นรนเป็นครั้งสุดท้าย ด้วยการกุมแขนของตัวเองไว้ แล้วพยายามที่จะหนีข้ามกำแพงไปอย่างสุดชีวิต

แต่อย่างที่เฉินเกอกล่าว เขาถูกตัดสินประหารชีวิตแล้ว

เพียงชี้นิ้วครั้งเดียว เลือดสดๆก็พุ่งออกมาจากปากของต้วนเฟย แล้วตกลงกระแทกกับพื้นดิน

“อ๊า!”ซีเหมินหยู่กำผมของเธอด้วยความตกใจ

พลืบ!เธอคุกเข่าลงตรงหน้าเฉินเกอ

“ไว้ชีวิตฉันเถอะนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ไว้ชีวิตฉันเถอะ!”ซีเหมินหยู่อ้อนวอนร้องขอชีวิต

“ไม่มีประโยชน์แล้ว โอกาสมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ดังนั้นคุณเองก็ต้องตายเหมือนกัน!”

เฉินเกอส่ายหน้า แล้วชี้นิ้วออกไปอีกครั้ง แล้วมีดไร้เงาก็พุ่งออกไปทะลุผ่านคอของซีเหมินหยู่โดยตรง จากนั้นเธอก็ค่อยๆล้มหลงไปกองกับพื้น จนลมหายใจแห่งชีวิตหายไปจนหมดสิ้น

“เวลานิดเดียวคุณฆ่าคนได้เยอะขนาดนี้ คุณนี่น่ากลัวจริงๆ!”ซูโร่ซีก็ขนลุกซู่ไปหมด

“คนพวกนี้สมควรตาย และผมก็ฆ่าแค่คนที่สมควรตายเท่านั้น!”

เฉินเกอพูดอย่างเรียบนิ่ง ค่อยๆเหลือบมองไปด้านหลัง พร้อมกับเปลือกตาของเขากระตุก

เขาก็พูด“สุ่ยเกินสุ่ยเสีย พวกคุณพาคุณปู่และคุณซูเข้าไปข้างในก่อน ผมยังมีเรื่องที่ต้องทำ จำเอาไว้ไม่ว่าจะได้ยินเสียงอะไรห้ามออกมาเด็ดขาด!”พูดจบเฉินเกอก็กลับหลังหัน แล้วกระโดดออกจากลานไป

บินไปตลอดทางจนถึงแม่น้ำสายหนึ่งในหมู่บ้าน ซึ่งในแม่น้ำตอนนี้ก็เกลื่อนกลาดไปด้วยศพหลายสิบร่าง และพวกเขาก็คือคนที่เขาเพิ่งจะปล่อยตัวไปเมื่อสักครู่นี้

พวกเขาถูกสังหารโดยการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว ก่อนที่จะตายก็ไม่ได้แม้แต่จะได้ดิ้นรน

“ผมรู้นานแล้วว่าคุณมาที่นี่ ปรากฏตัวออกมาเถอะ!”เฉินเกอหายใจเข้าอย่างลึกๆ

“สมกับที่เป็นคุณ ไม่ได้เจอกันแค่ไม่นาน พลังของคุณก็ก้าวหน้าขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด ดูแล้วเมื่อก่อนคุณคงจะหลอกฉันอยู่ตลอดเวลา จนบางทีฉันก็คิดว่าคุณไม่ใช่เขาคนนั้นคนที่ฉันรัก แต่ว่าตอนนี้ เห็นได้ชัดเลยว่าคุณนั้นมีวิชาศุภรวิเศษ และท่าทางนิสัยของคุณก็ยิ่งเหมือนกับตัวคุณในเมื่อก่อนมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น คุณจะยอมรับได้หรือยัง?”

เสียงลมไหวพัดต้นไม้วูบหนึ่ง แล้วจึงปรากฏร่างของอันน่าหลงใหลที่ยากจะอธิบายได้ของหญิงสาวขึ้นมาทันที

เธอยิ้มอย่างมีเสน่ห์มากมาย พลันจ้องไปยังเฉินเกอ

และผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ใครอื่นแต่คือ หยุนฉิง

“ผมก็คิดว่าคุณหายตัวไปแล้ว ช่วงไม่นานมานี้เกิดเรื่องราวมากมายแต่ก็ไม่เห็นคุณปรากฏตัวมาเลยสักครั้ง!”เฉินเกอมองไปที่เธอ

“คุณยังไม่ตอบคำถามฉันเลยนะ ว่าแท้จริงแล้วคุณใช่เขาหรือเปล่า?คุณยอมรับไหม?”

หยุนฉิงมองไปยังเฉินเกอด้วยความคาดหวัง

ดวงตาของเฉินเกอหรี่ลงเล็กน้อย:

“ตอนนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ก็มีบางอย่างที่สามารถแน่ใจได้ก็คือ ไม่ว่าจะชาติที่แล้วหรือจะเป็นชาตินี้ท่านพี่เทพเขาก็ไม่ได้รักคุณ ผมว่าในใจของเขามีเพียงแค่หญิงสาวชุดขาวเท่านั้น!”

“คุณ……คุณพูดอะไร!”

ความโกรธอย่างรุนแรงปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหยุนฉิง

“ผมพูดอะไร ใจของคุณคงจะรู้ดีอยู่แล้ว!”

“เฉินเกอ อย่าคิดว่าคุณฝึกฝนวิชาศุภรวิเศษ แล้ว ก็จะสามารถทำนองตนเช่นนี้ คุณไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉัน ! และครั้งนี้ที่กลับมาก็เพื่อที่จะจับคุณ คุณอยู่ในกำมือของฉันย่อมดีกว่าตกไปอยู่ในกำมือของจิ่วโล๋หวาง!”

ตอนนี้คนที่กำลังโกรธอย่างหยุนฉิงไม่อยากที่จะต่อบทสนทนาอีกแล้ว เธอลงมือโดยตรงพร้อมกบโจมตีเฉินเกอ

เฉินเกอเองก็ใช้เจินชี่สวนเทียนต่อสู้กลับ

บูม!

เกิดเสียงดังสนั่น แล้วคลื่นพลังทั้งสองก็เข้าปะทะกัน จนส่งเสียงดังออกมาอย่างรุนแรง ต้นไม้ที่แข็งแรงมากมายรอบ ๆ ตอบสนองด้วยการสั่นไหวจากเสียงนี้ โดยที่ตรงกลางนั้นก็ราวกับระเบิดขนาดใหญ่ปะทะกับพื้นดิน แล้วฝุ่นก็ฟุ้งกระจายว่อนไปหมด

เฉินเกอถอยหลังไปสิบกว่าก้าวติดต่อกัน ส่วนหยุนฉิง เองก็ก้าวถอยหลังไปสามก้าว

“วิชาศุภรวิเศษอันสุดยอด พลังปราญณ์ของคุณ ที่แท้ก็ก้าวหน้ามาถึงขั้นนี้แล้ว ถ้าเกิดฉันมาจับคุณช้ากว่านี้ ฉันก็คงจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคุณอีกแล้ว,!”

หยุนฉิงมองไปยังเฉินเกอที่พลังจิตก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ใบหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ……

ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

Status: Ongoing

เรื่องย่อ ณวันนั้น พี่สาวกับพ่อแม่ที่ทํางานอยู่ต่างประเทศบอกกับตัวเองอย่างกะทันหันว่า ตัวเองเป็นทายาทเศรษฐี ครอบครองสมบัติหลายล้าน เฉินเกอคิดในใจว่า ฉันเป็น ทายาทเศรษฐีจริงๆหรอ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท