ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ – ตอนที่ 102

ตอนที่ 102

ตอนที่ 102 รอเธอเลิกเรียน

หยวนซ่าวส่ายหน้าอีกครั้ง “ไม่อยาก”

จะว่าไปแล้ว ตอนเขาเรียนอยู่อนุบาล เขาก็เป็นที่ชื่นชมของเด็กผู้หญิงมาเสมอ

หลายปีมานี้ ตั้งแต่ประถมต้นจนถึงมหาวิทยาลัย เขาได้รับความวุ่นวายจากผู้หญิงมากที่สุด

ดังนั้นตอนนี้เมื่อเขาเจอผู้หญิงเขาก็มักจะหลบหลีกอยู่เสมอ

แค่ผู้หญิงทั้งหมดภายในรั้วมหาวิทยาลัยแห่งนี้ จดหมายรักเอย ข้อความเอย วีแชทเอย ทักแชททาง Weibo เอย ก็แทบจะหลั่งไหลเข้ามาอย่างบ้าคลั่งแล้ว

นอกรั้วมหาวิทยาลัยยิ่งไม่ต้องพูดถึง

ดังนั้น หยวนซ่าวจึงเอาแต่เล่นบาสต่อไป โดยไม่ได้สนใจที่จะไปมุงดูแต่อย่างใด

ข่าวคราวในรั้วมหาวิทยาลัยมักจะแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว มีคนไปตั้งกระทู้วิจารณ์ในกลุ่มของมหาวิทยาลัยด้วย

นอกจากนี้ก็ยังมีคนนำเรื่องนี้ไปโพสแบบโอเวอร์เกินจริงลงบน Weibo อีกด้วย

เมื่อมันมากเรื่อย ๆ ในที่สุด ก็สร้างความตื่นตระหนกให้กับแซ่จื๋อจ้วนจนได้

เขากำลังอยากเจอหวาเหวินอยู่พอดี แต่ยังหาทางเจอไม่ได้

เมื่อได้ยินว่าเธอไปเรียน เขาก็รีบขับรถไปยังมหาวิทยาลัยหมินจูด้วยใบหน้าตื่นเต้นดีใจทันที

จากนั้นก็มาจอดยังโรงจอดรถของมหาวิทยาลัยที่เต็มไปด้วยรถหรูนับพันคัน

ก่อนจะพุ่งตรงไปยังสาขาวิชาประวัติศาสตร์ทันที………

แต่น่าเสียดาย ที่หวาเหวินไม่ได้อยู่ในห้องเรียน

“สุดหล่อ นายมาหาใคร?”

เมื่อผู้หญิงในสาขาวิชาประวัติศาสตร์เห็นผู้ชายรูปร่างสูงหน้าตาหล่อเหลา กำลังเดินวนไปมาอยู่ตรงประตู เธอก็รีบเข้ามาสอบถามในทันใด

“เอ่อ……ห้องพวกเธอมีผู้หญิง……”

“นายหมายถึงเสี่ยวเหวินใช่ไหม?”

“อ่า ใช่ เธอนั้นแหละ”

“เธอไม่อยู่”

“ไปไหน?”

“น่าจะไปกินข้าว”

“งั้นเธอจะกลับมาเมื่อไหร่?”

“บอกไม่ได้ ช่วงบ่ายไม่มีเรียนแล้ว บางทีเธออาจจะไปห้องสมุด ไม่ก็กลับบ้านก่อน……นายเป็นอะไรกับเธอ?”

ผู้หญิงคนนั้นถามขึ้นด้วยความอยากรู้ แซ่จื๋อจ้วนไม่มีเวลามาตอบคำถาม

เขาเริ่มทำการค้นหาไปรอบ ๆ ด้าน

โฉมหน้าของหวาเหวินได้แพร่สะพัดออกไป เธอต้องไปไม่กล้าไปโรงอาหารแน่ ๆ

คนจำนวนมากมายขนาดนั้น หากถูกมุงดูเข้าละก็ คงจะ……ไม่ดีเอามาก ๆ อย่างแน่นอน

ดังนั้นเธอจึงออกไปกินข้าวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆกับประตูข้างของมหาวิทยาลัย เธอกินก๋วยเตี๋ยวจีนไปถ้วยหนึ่ง กับน้ำเปล่าขวดหนึ่ง

ในตอนที่กลับเข้าไปในรั้วมหาวิทยาลัยอีกครั้ง ก็ตรงไปยังห้องสมุดทันที

ช่วงพักกลางวัน ห้องสมุดมักไม่มีคนพลุกพล่าน

เธอนั่งหลบอยู่ในมุม แล้วยกหนังสือขึ้นมาปิดหน้าไว้ และอ่านอย่างสงบ

แซ่จื๋อจ้วนมาตามหาอยู่ในห้องสมุดเป็นครึ่งวัน ในตอนที่เขาจะถอดใจนั้น

เขากลับเห็นผู้หญิงที่หลบอยู่ในมุมห้องคนหนึ่งอย่างฉับพลัน

หลังจากนั้นใบหน้าก็แสดงสีหน้าดีใจออกมาทันใด………

เหมือนกับเด็กวัยรุ่นหนุ่มที่เตรียมจะมีความรักครั้งแรกอย่างไรอย่างนั้น

เขาเดินเข้ามาอย่างระมัดระวัง

“เหวินเหวิน” เขาพูด

เมื่อได้ยินเสียงเรียกนี้ หวาเหวินก็ปวดหัวขึ้นมาทันใด

เธอหยิบหนังสือออก แล้วก็พบกับแซ่จื๋อจ้วน

“มีอะไร?”

“เหวินเหวิน ฉันซื้อแมวการ์ฟีลด์มาตัวหนึ่ง แต่เลี้ยงไม่ค่อยเป็น เธอช่วยบอกเทคนิคการเลี้ยงหน่อยกับฉันได้ไหม?”

ข้ออ้างที่คิดเอาไว้นานแล้ว ในที่สุดก็ได้ใช้ออกไปอย่างไร้ยางอาย

หวาเหวินหยิบกระดาษและปากกาขึ้นมา จากนั้นก็เขียนเบอร์โทรศัพท์หนึ่งให้เขา

“ฉันเองก็เลี้ยงไม่ค่อยเป็น นี่เป็นเบอร์โทรศัพท์ร้านสัตว์เลี้ยง นายโทรไปถามเถ้าแก่เองแล้วกัน”

แซ่จื๋อจ้วน : ………..

“เหวินเหวิน ทำไมเธอถึงได้มาเรียนละ? ฮ่า…..เพราะอยากหาประสบการณ์ภายในรั้วมหาวิทยาลัยใช่ไหม?”

“ไม่ใช่ ฉันแค่อยากเรียนรู้เพิ่มเติมเท่านั้น”

“งั้นเธอถามฉันได้นะ ฉันเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนต่างประเทศ ถือว่ามีความรู้ความสามารถพอสมควร เธอถามฉันได้นะ ฉันสอนให้”

แซ่จื๋อจ้วนอาสาสมัคร

หวาเหวินเม้มปาก แล้วถามเขาไปว่า “ดีเลย งั้นนายช่วยเล่าเรื่อง 5 ราชวงศ์ 10 ประเทศในสาขาประวัติศาสตร์ให้ฉันฟังหน่อยสิ ในช่วงที่จักรพรรดิเหล่านั้นถูกฝัง พวกเขาได้ทิ้งเครื่องหยก เครื่องลายครามที่ล่ำค่าที่สุดชิ้นไหนไว้บ้าง หลุมฝังศพไหนที่มีสมบัติมากที่สุด? หลุมฝังศพของพวกเขาอยู่ที่ไหน? เสื้อผ้าที่เขาสวมใส่เป็นแบบไหน แล้วก็จอกเหล้าที่พวกเขาใช้ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่อ่า มีจำนวนเท่าไหร่?”

แซ่จื๋อจ้วน : ……

เมื่อถูกหวาเหวินเค้นถาม คุณชายแซ่ก็ไม่กล้าพูดว่าตัวเองเก่งอีกแต่อย่างใด

ทำได้เพียงเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “เหวินเหวิน เธอฟังเพลงใหม่ของโจว เจี๋ยหลุนแล้วรึยัง? เดี๋ยวเธอเลิกเรียน ฉันจะร้องไห้เธอฟังดีไหม?”

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

Status: Ongoing

ลือกันว่าหวาเหวิน คุณหนูห้าของตระกูหวาที่เป็นตระกูลใหญ่นั้นเป็นคนที่พูดติดอ่างและหน้าตาอัปลักษณ์ ตั้งแต่เด็ก เธอก็ไปทำสมาธิบนเขากับคุณย่า จนถึงที่บ้านหมั้นหมายผู้ชายให้ เธอจึงกลับมา ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวก็หนีงานแต่งไปนอนกับดาราหญิงไก่กา เรื่องนี้แพร่กระจายออกไปให้คนรู้กันทั่วในงานแต่ง หวาเหวินที่โดนคนหัวเราะเยาะนั้นใช้นิ้วชี้ไปผู้ชายคนหนึ่ง ลากเขาขึ้นมาดำเนินงานแต่งต่อ สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจนั้นคือชายหนุ่มที่หวาเหวินสุ่มลากไปแต่งงานนั้นเป็นเจียงหยู่ ลูกชายคนเดียวของตระกูลใหญ่สุดตั้งแต่นั้นมา หวาเหวินโดนเขาทรมานทุกคืน จนถึงเธอทนต่อไปไม่ได้อีก“เจียงหยู่ ไอ้คนเลว เราคุยกันดีแล้วไม่ใช่หรือ ว่านี่มันเป็นแค่การแต่งงานปลอมๆ” เจียงหยู่ทำหน้าไร้เดียงสา“ใช่ ฉันกำลังใช้ร่างกายเพื่อรักษาคู่ชีวิตของเราอยู่….”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท