ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ – ตอนที่ 144

ตอนที่ 144

ตอนที่ 144 ไร้ความรู้สึก

“ถ้ารู้สึกลำบากใจ แกก็ไม่ต้องทำ แล้วก็กลับไปทำบริษัทจัดหาเงินทุนนั้นต่อก็เท่านั้น”

แซ่หยานดูออก หลายปีมานี้เขาได้ให้คำแนะนำแก่ลูกชายคนที่สองที่ชอบหมกหมุ่นในสิ่งที่รักโดยไม่แสวงหาความก้าวหน้านี้มาโดยตลอด

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องงานแต่งงานที่จัดขึ้นให้แก่เขาเมื่อไม่นานมานี้ ทุกอย่างก็เหลวเป๋วไปหมด สุดท้ายตระกูลเจียงก็ได้ยึดครองตำแหน่งเทพธิดาคนนี้ไปโดยปริยาย

เรื่องนี้ ทำให้แซ่หยานไม่พอใจกับลูกชายคนนี้มาก

“พ่อ บริษัทซินเซฺ่งเป็นกิจการที่ไม่สามารถช่วยได้แล้ว แล้วทำไมพ่อถึงให้จื๋อจ้วนไปลำบากอีกละครับ?” แซ่เฟยโม่อดกลั้นไม่ได้อีกต่อไป เขาไม่อยากให้น้องชายต้องไปเจอกับขั้นตอนการสร้างที่ค่อนข้างปวดหัวแบบนั้น

“ถ้าไม่ทำแบบนี้ จะพิสูจน์ได้ยังไงว่าเขาทำได้ละ?” แซ่หยานโต้กลับไปด้วยความเคร่งขรึม

คุณนายแซ่ก็ได้แต่นิ่งเฉย ทำได้เพียงป้อนอาหารหลานสาวตัวน้อยเท่านั้น โดยไม่เข้าร่วมวงสนทนานี้แต่อย่างใด

เรื่องของบริษัท ผู้หญิงอย่างเธอจะไม่ยุ่งเกี่ยวและจะไม่เข้าไปถาม

“พ่อ ไม่งั้นก็ให้น้องสองกลับมาก่อน แล้วพวกเราก็ให้โอกาสเขาสักครั้งดีไหม?”เฝิงหยู่เองก็เอ่ยปากขอร้องด้วย

ตระกูลแซ่เป็นตระกูลที่เข้ากันได้ดีกว่าตระกูลหวา อย่างน้อยสมาชิกในครอบครัวก็ไม่ได้แสดงความไม่พอใจออกมา ไม่พลิกหน้ามือเป็นหลังมือเพราะได้รับผลประโยชน์เงินทองไม่เท่ากัน

แซ่เฟยโม่เป็นคนที่ซื่อตรง เฝิงหยู่เองก็เป็นผู้หญิงที่เข้าใจเรื่องราว และให้ความเคารพตระกูลแซ่เป็นอย่างมาก

ไม่ทันรอให้แซ่หยานเอ่ยปาก แซ่จื๋อจ้วนก็ตบไปบนโต๊ะทันที

“พ่อ งั้นก็เอาตามนี้นะครับ ถ้าผมสามารถช่วยทำให้บริษัทซินเซฺ่งฟื้นตัวกลับมาได้ภายในหนึ่งเดือน พ่อต้องให้ผมเข้าไปเป็นกรรมการบริหารบริษัทเสมือนเป็นซีอีโอเหมือนกับพี่ ๆ ”

“ไม่มีปัญหา” แซ่หยานแสดงสีหน้าเรียบเฉย

ถึงอย่างไรเขาก็ดูออก นี่ไม่ใช่ภาระหน้าที่ที่จะสามารถทำออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ

หลังจากที่แซ่จื๋อจ้วนทานอาหารเสร็จ เขาก็รีบขับรถไปตรวจสอบสถานที่จริงอย่างบริษัทซินเซฺ่งทันที

แต่การตรวจสอบในครั้งนี้ เกือบทำให้เขาแทบจะบ้าตาย

บริษัทซินเซฺ่งตั้งอยู่ในเขตพัฒนาอุตสาหกรรมทางตอนเหนือสุดของเมืองเจียง อาคารค่อนข้างเก่าผุพัง พนักงานก็ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน คนแก่ คนป่วย คนพิการ คนท้องต่างก็ปะปนอยู่รวมกัน เมื่อดูรายงานบัญชีแล้วก็ยิ่งปวดหัวเข้าไปใหญ่ บริษัทแห่งนี้ขาดทุนกว่า 1.5 พันล้านติดต่อกันสามปี ตอนนี้ไม่เพียงแต่ไม่มีกำไรแล้วเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นหนี้เงินกู้ธนาคารอีกกว่า 300 ล้านหยวน ทำยังไงละเนี่ย? นี่มันโคลนตมชัดๆ หรือว่าพ่อต้องการให้เขามา

“เวรเอ๊ย” แซ่จื๋อจ้วนเท้าสะเอว พร้อมกับด่าทอด้วยคำที่ไม่สมควรกับตัวเองด้วยเสียงเบา ๆ

“ประธานแซ่ อิอิ สถานการณ์ในตอนนี้มันก็เป็นแบบนี้แหละครับ คุณมีแผนการอะไรบ้างไหม?” ผู้จัดการในตอนนี้ของบริษัทซินเซฺ่งหานตงหลินเป็นชายอ้วนที่ชอบพูดจาโผงผาง เพราะเขาถูกจ้างมาจากข้างนอก ดังนั้นขอแค่เพียงให้เขาได้รับเงินเดือนที่สอดคล้องกันในทุก ๆ ปีก็พอแล้ว สำหรับเรื่องอื่น ๆ เขาไม่สน รอให้บริษัทล้มละลาย แล้วเขาก็จะสะบัดก้นเดินจากไปทันที

“ขอคิดก่อนนะ” แซ่จื๋อจ้วนแสดงสีหน้าสลดใจ

ภายในรั้วมหาวิทยาลัยหมินจู

หวาเหวินต้องลาป่วยเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์เต็ม ในตอนที่เธอกลับมาเรียนอีกครั้ง ภายในมหาวิทยาลัยก็เกิดเรื่องฮือฮาขึ้นมาอีกครั้ง

จนกระทั่งสร้างความตกใจไปถึงนอกรั้วมหาวิทยาลัยเลยทีเดียว นักศึกษาชายภายในมหาลัยจำนวนไม่น้อยต่างโดดเรียนมาหาเธอ

ในช่วงพักกลางวัน เธอยังคงเดินออกไปทางประตูข้าง และตั้งใจจะไปทานอาหารข้างนอก

ซึ่งก็มีหยวนซ่าวยืนรออยู่ที่นั่นก่อนแล้ว ในตอนที่เธอมาถึง เขาก็ตะโกนเรียกเธอ

“เสี่ยวเหวิน” เขาไม่รู้ชื่อจริงของเธอ รู้เพียงแค่ทุกคนภายในมหาลัยเรียกเธอแบบนี้ ไม่ก็เรียกว่าเทพธิดา นางฟ้าอะไรเทือกนั้น

แต่คำเรียกเหล่านั้นดูโอ้เว่อร์เกินไป หยวนซ่าวไม่ชอบ

“มีอะไร?” หวาเหวินมองไปทางเขา ด้วยสายตาเรียบเฉยเช่นเดิม

หยวนซ่าวทนการแสดงออกอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรมแบบนี้ไม่ไหวแล้ว เขาเดินเข้าไปใกล้หวาเหวินด้วยความลำบากใจ

“ไม่เจอกันตั้งนาน ทำไมเธอถึงโดดเรียนตั้งหนึ่งสัปดาห์เชียวละ? มีเรื่องที่บ้านเหรอ?” เขาถามขึ้น

หวาเหวินมองไปทางเขา ด้วยแววตาที่ไม่เปลี่ยน “ฉันรู้สึกว่าระหว่างเราไม่ได้ถึงขั้นสนิทกันจนสามารถถามเรื่องส่วนตัวกันได้นะ อีกอย่างฉันเองก็ไม่จำเป็นต้องบอกเรื่องนี้กับนาย ถูกไหม?”

“เธอมักจะชอบทำตัวเย็นชาแบบนี้กับทุกคนเลยรึไง?” หยวนซ่าวทนไม่ไหว จึงถามเธอด้วยความโกรธเคือง

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

Status: Ongoing

ลือกันว่าหวาเหวิน คุณหนูห้าของตระกูหวาที่เป็นตระกูลใหญ่นั้นเป็นคนที่พูดติดอ่างและหน้าตาอัปลักษณ์ ตั้งแต่เด็ก เธอก็ไปทำสมาธิบนเขากับคุณย่า จนถึงที่บ้านหมั้นหมายผู้ชายให้ เธอจึงกลับมา ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวก็หนีงานแต่งไปนอนกับดาราหญิงไก่กา เรื่องนี้แพร่กระจายออกไปให้คนรู้กันทั่วในงานแต่ง หวาเหวินที่โดนคนหัวเราะเยาะนั้นใช้นิ้วชี้ไปผู้ชายคนหนึ่ง ลากเขาขึ้นมาดำเนินงานแต่งต่อ สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจนั้นคือชายหนุ่มที่หวาเหวินสุ่มลากไปแต่งงานนั้นเป็นเจียงหยู่ ลูกชายคนเดียวของตระกูลใหญ่สุดตั้งแต่นั้นมา หวาเหวินโดนเขาทรมานทุกคืน จนถึงเธอทนต่อไปไม่ได้อีก“เจียงหยู่ ไอ้คนเลว เราคุยกันดีแล้วไม่ใช่หรือ ว่านี่มันเป็นแค่การแต่งงานปลอมๆ” เจียงหยู่ทำหน้าไร้เดียงสา“ใช่ ฉันกำลังใช้ร่างกายเพื่อรักษาคู่ชีวิตของเราอยู่….”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท