ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ – ตอนที่ 192

ตอนที่ 192

ตอนที่ 192 คืนเงินให้เขา

ชุนเถารู้ว่าคุณหนูนั้นเดิมทีเป็นคนที่หยิ่งผยองเข้ากระดูกอยู่แล้ว จะทำอะไรก็ค่อนข้างเชื่อมั่นในการกระทำของตัวเองมาก ไม่ค่อยแคร์ความคิดของผู้อื่นสักเท่าไหร่

แต่ในสายตาของเธอและหยินซิ่งนั้น คุณผู้ชายไม่ใช่คนอื่น เขาเป็นสามีของคุณหนู เป็นคนที่สนิทมากที่สุด

“คุณผู้ชายต้องหึงอย่างแน่นอนค่ะ ถึงเขาจะดีก็ตาม แต่พวกเราก็ต้องพยายามทำให้เขาไม่สบายใจน้อยที่สุดนะคะ”

หวาเหวินไม่ได้ส่งเสียงใด ๆ ออกมา เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเจียงหยู่ ความจริงแล้วมีบางสิ่งบางอย่างที่เธอเองก็พูดไม่ถูกเหมือนกัน

เดิมทีเธอตั้งใจว่าระหว่างเธอกับเจียงหยู่เราจะไม่ก้าวก่ายกันและกัน และถ้าเจียงหยู่ไม่กลับมาอยู่ที่นี่ด้วยมันก็เป็นอะไรที่ดีมากทีเดียว

แต่ผลสุดท้ายกลับตรงกันข้าม ไม่ว่าเจียงหยู่จะทำงานเลิกดึกแค่ไหน เขาก็ยังขับรถกลับมาเฟิงหวาหลี่ตลอด

ตราบใดที่ยังมาทัน ก็จะคอยกินอาหารเช้าเป็นเพื่อนเธอเสมอ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคืนนั้น คืนที่เธอฝันร้าย เจียงหยู่ก็ถลันตัวเข้ามา กอดเธอไว้ แล้วอยู่กับเธอทั้งคืน

ถึงแม้ว่าทั้งสองคนจะไม่ได้ทำอะไรเกินเลยก็ตาม แต่ ก็มีบางอย่างที่เปลี่ยนไป นั้นก็คือเธอไม่ได้รู้สึกกับเจียงหยู่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว

หลังจากวันนั้น หวาฟ้านก็ไม่ได้เจอกับป๋ายห้าวอีกเลย และยังคงทำการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัยต่อไป

จนกระทั่งมีคนตามจีบเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานใหม่ของเธอ เขาเพิ่งกลับมาจากเมืองนอก และก็เป็นนักเรียนดีเด่นด้วย แต่สอนวิชาปรัชญา

เป็นคนที่ลึกซึ้งมากคนหนึ่ง ห้องทำงานของเขาอยู่ห่างจากหวาฟ้านไม่ไกลนัก ดังนั้นจึงมักจะเจอกันอยู่บ่อย ๆ

เมื่อเลิกเรียน หวาฟ้านได้ถือกระเป๋าเดินออกมา

“อาจารย์หวาครับ”

“อ่า อาจารย์ฉาย สวัสดีค่ะ”

“มีเวลาว่างไหมครับ? เราไปดูหนักกันไหม? ได้ยินมาว่าช่วงนี้มีหนังเรื่อง ‎Green Book เข้าใหม่ ไม่เลวเลยนะครับ ผมเห็นคะแนนในเว็บ Douban สูงมากเลยครับ ผมรู้สึกว่าคุณน่าจะชอบ” อาจารย์ฉายอายุมากกว่าหวาฟ้าน 2 ปี การพูดและกิริยาท่าทางจึงเหมาะสมกับอาจารย์ในระดับมหาวิทยาลัยมากทีเดียว และได้รับความชื่นชอบจากนักศึกษาและเพื่อนร่วมงานเป็นอย่างมาก เพียงแต่…….หวาฟ้านมีคนในใจอยู่แล้วเท่านั้น

“เดี๋ยวฉันมีธุระต้องไปทำต่ออ่าค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ”

“ไม่เป็นไรครับ วันหน้าก็ได้” เมื่อถูกปฏิเสธ อาจารย์ฉายก็ไม่ได้รู้สึกลำบากใจแต่อย่างใด แต่กลับพูดคุยกันอีกสองสามประโยคแล้วเดินจากไป

หวาฟ้านรู้สึกหดหู่เล็กน้อย เธอถือกระเป๋ามาถึงหน้าสถานีตำรวจของป๋ายห้าวโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว

ความจริงแล้วเธอรู้ การเลิกกันเป็นเรื่องที่ปกติมาก ในโลกใบนี้ก็ยังมีคู่รักที่ต้องเลิกรากันไปไม่รู้เท่าไหร่ในทุก ๆ วัน ความรู้สึกก็คงจะเต็มไปด้วยความผิดหวังไม่น้อย

เพียงแต่เธอยังไม่ตัดใจ พูดง่ายก็คือ ถ้าเป็นเพราะว่าป๋าวห้าวนอกใจ หรือเป็นเพราะว่าเธอคบซ้อน เลิกก็คือเลิกแน่นอน

รู้อยู่ว่ามันไม่ใช่ปัญหาเรื่องความรู้สึก แต่เป็นเพราะเรื่องครอบครัว ดังนั้นเธอจึงคิดมาตลอดว่ามันไม่น่าจะต้องจบลงแบบนี้

“เอ๊ะ? เพื่อนของเห้าจื่อ ใช่ไหม? ทำไมเธอมาอยู่ที่นี่ละ?” ตำรวจที่เพิ่งเดินออกมาเห็นเธอเข้า ก็เลยนึกออก

“ฉัน……คือว่าฉันอยากถามสักหน่อย เรื่องผู้ต้องสงสัยคนนั้นในครั้งที่แล้ว”

หวาฟ้านพูดเรื่องนี้ออกมาด้วยความลังเลเล็กน้อย ตำรวจคนนั้นเองก็เป็นคนซื่อ ๆ เลยพูดออกมาประโยคหนึ่งว่า “เรื่องนั้นไม่ใช่ว่าจบไปแล้วเหรอ? เห้าจื่อเอาของให้คืนให้เธอแล้วไม่ใช่เหรอ? ความจริงเธอโชคดีมากเลยนะ นอกจากเงินสดกว่าสองพันหยวนที่มันหายไป เพราะถูกเด็กคนนั้นเอาไปใช้แล้ว อย่างอื่นก็อยู่ครบหมด ไม่มีอะไรหายสักอย่าง”

“อ่า? เงินสดสองพันกว่าก็หายหมดเลยเหรอคะ?” เมื่อหวาฟ้านได้ยินเรื่องสำคัญนี้

“ใช่นะสิ เด็กคนนั้นขโมยไปเพราะไม่มีเงินไปเล่นเกมส์ออนไลน์ ต้องเอาไปเติมเงินอย่างแน่นอน ในตอนที่พวกเราจับเขามาได้ เงินสดกว่าสองพันก็หายหมดเกลี้ยงแล้ว ว่ากันว่าเอาไปเติมเกมส์ไปจำนวนไม่น้อยเลย เด็กสมัยนี้อ่า ไม่น่าช่วยเลยจริง ๆ เล่นเกมส์จนเสียคน” ตำรวจคนนั้นยังทอดถอนใจออกมา

ตอนนี้หวาฟ้านเข้าใจทุกอย่างแล้ว เงินของตัวเองเดิมทีนั้นถูกขโมยไปหมดแล้ว แต่ตอนที่ได้กระเป๋ากลับคืนมานั้น จำนวนเงินกลับไม่หายไปแม้แต่แดงเดียว

พูดแบบนี้ แสดงว่าเงินเหล่านี้ก็น่าจะเป็นของป๋ายห้าวที่ใส่คืนกลับไปให้ตัวเอง? เมื่อคิดได้ถึงตรงนี้ ในใจของหวาฟ้านก็ไม่ได้รู้สึกลังเลอีกต่อไป

“ป๋ายห้าวอยู่ข้างในไหมคะ?”

“เขาอยู่ คืนนี้เขาต้องเข้าเวรพอดี เธอรีบเข้าไปเถอะ”

หวาฟ้านพยักหน้า พร้อมกับถือกระเป๋าเดินเข้าไปในสถานีตำรวจด้วยความรู้สึกที่สับสน

เมื่อป๋ายห้าวเห็นหวาฟ้าน ก็ตื่นตกใจเล็กน้อย เขาลุกขึ้นยืน ด้วยสีหน้าที่ไม่เป็นธรรมชาติ “หวาฟ้าน เธอมาได้ยังไง?”

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

Status: Ongoing

ลือกันว่าหวาเหวิน คุณหนูห้าของตระกูหวาที่เป็นตระกูลใหญ่นั้นเป็นคนที่พูดติดอ่างและหน้าตาอัปลักษณ์ ตั้งแต่เด็ก เธอก็ไปทำสมาธิบนเขากับคุณย่า จนถึงที่บ้านหมั้นหมายผู้ชายให้ เธอจึงกลับมา ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวก็หนีงานแต่งไปนอนกับดาราหญิงไก่กา เรื่องนี้แพร่กระจายออกไปให้คนรู้กันทั่วในงานแต่ง หวาเหวินที่โดนคนหัวเราะเยาะนั้นใช้นิ้วชี้ไปผู้ชายคนหนึ่ง ลากเขาขึ้นมาดำเนินงานแต่งต่อ สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจนั้นคือชายหนุ่มที่หวาเหวินสุ่มลากไปแต่งงานนั้นเป็นเจียงหยู่ ลูกชายคนเดียวของตระกูลใหญ่สุดตั้งแต่นั้นมา หวาเหวินโดนเขาทรมานทุกคืน จนถึงเธอทนต่อไปไม่ได้อีก“เจียงหยู่ ไอ้คนเลว เราคุยกันดีแล้วไม่ใช่หรือ ว่านี่มันเป็นแค่การแต่งงานปลอมๆ” เจียงหยู่ทำหน้าไร้เดียงสา“ใช่ ฉันกำลังใช้ร่างกายเพื่อรักษาคู่ชีวิตของเราอยู่….”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท