สัญญาร้ายของประธานปีศาจ – ตอนที่ 50

ตอนที่ 50

ตอนที่ 50: ก็แค่คนปอดแหกแค่นั้นแหละ

เผยลี่เชินขมวดคิ้วแน่น แต่ก็ยังคงล้วงโทรศัพท์ออกมา เขามองหน้าจอโทรศัพท์ผ่าน ๆ แล้วสีหน้าเข้มขรึมขึ้นมา “พวกเราออกมาแล้ว ไม่มีอะไรแล้วครับ”

“ก็แค่คนปอดแหกที่ดีแต่ปากแค่นั้นแหละ คุณวางมือได้แล้ว”

เขาพูดสั้น ๆ แล้ววางโทรศัพท์ไป

ไป๋เสว่เอ๋อร์ที่ได้ยินแล้วพอจะนึกได้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เผยลี่เชินเองก็ไม่ใช่มาตัวเปล่า ก่อนที่เขาจะไปห้องวีไอพีก็ได้หาทางแก้กรณีเลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้นได้แล้ว แถมยังหาคนมาเตรียมตัวไว้แล้วด้วย

เธอต่างหากที่มองทุกอย่างง่ายดายเกินไป

เผยลี่เชินเก็บโทรศัพท์แล้วชำเลืองมองไปทางผู้หญิงที่สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล เอ่ยปากไปว่า “ที่ดินนี้พวกเราใกล้จะได้แล้วหละ”

ไป๋เสว่เอ๋อร์เงยหน้ามองไปทางเขาด้วยความสงสัย ไม่เข้าใจจึงถามไปว่า “ยังไงหรอคะ”

เกมเมื่อกี้ลู่ชิงอวี่แพ้ก็จริง แต่เขาทำตัวขี้โกงผิดคำพูด แน่นอนว่าพูดไม่เป็นคำพูดแน่นอน และตอนนี้เขาทั้งสองคนก็แตกหักไปเรียบร้อย ถ้าตามนิสัยของเขา แน่นอนว่าไม่ปล่อยพวกเขาไปง่าย ๆ

เผยลี่เชินเอนตัวพิงเบาะ ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ “เหตุผลที่ที่ดินนี้ถูกกักไว้นาน ก็เพราะว่าอาของเขาเป็นรองนายอำเภอ ตอนนี้เขาแตกหักกับผม ไม่ยอมแพ้แถมไม่คุยกันด้วยเหตุผล เขาขี้โกง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าอาเขาจะทำตัวขี้โกงได้เหมือนกัน”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ รู้ตัวอีกทีรถใกล้จะถึงหน้าประตูโรงแรมแล้ว แต่ความสงสัยภายในใจก็ยังไม่ได้เอ่ยปากถามไป เมื่อรถจอดสนิทแล้วไป๋เสว่เอ๋อร์รีบลงจากรถ เหนื่อยจนถึงสุดขีด ส้นสูงเจ็ดแปดเซ็นใส่มานานสามสี่ชั่วโมง ขาทั้งสองข้างของเธอล้าจนแทบจะหัก

เธอเพิ่งจะก้าวลงจากรถ ขาอ่อนแรงจนเกือบจะล้มลง ยังดีที่เธอมือไวคว้าจับตัวรถไว้ทัน

เธอทรงตัวได้แล้วหันหลังเห็นเผยลี่เชินอยู่มองเธออยู่ข้าง ๆ เธอสูบลมหายใจเข้าลึก แกล้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น

สายตาของเผยลี่เชินก็ไม่ได้หยุดบนตัวเธอนาน หันหลังไปแล้วมุ่งไปทางบันได ไป๋เสว่เอ๋อร์ทนความเมื่อนล้าแล้วเดินตามเขาไปติด ๆ

แต่เขาขายาวก้าวก็ยาว ก้าวเดียวของเขาเท่ากับสองก้าวของเธอ ถึงแม้เธอจะพยายามเร่งฝีเท้าแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถตามผู้ชายได้ทัน

เธอกัดฟันแน่น ขณะกำลังลังเลว่าจะตามขึ้นไปหรือไม่ จู่ ๆ เห็นว่าเขาหยุดรออยู่หน้าประตูกระจกตรงล็อบบี้

ไป๋เสว่เอ๋อร์ใจกระตุก มีความตื่นเต้นเบา ๆ

นี่เขากำลังรอเธออยู่งั้นหรือ?

ไป๋เสว่เอ๋อร์เร่งเท้าตามไป แต่เมื่อเดินเข้าใกล้แล้วถึงเห็นว่าผู้ชายกำลังดูโทรศัพท์ในมืออยู่อย่างเหม่อลอย ที่แท้ไม่ได้รอเธอ

ความตื่นเต้นที่รู้สึกในใจหายไปในพริบตา เธอรู้สึกน้อยใจอย่างบอกไม่ถูก เธอเดินตามเผยลี่เชินผ่านล็อบบี้แล้วขึ้นลิฟท์ไป

พวกเขาพักอยู่ชั้นสูง ในลิฟท์มีเพียงเขาสองคนอยู่เงียบนิ่งไร้เสียง ไป๋เสว่เอ๋อร์ได้แต่จ้องมองตัวเลขในลิฟท์ที่เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ด้วยอารมณ์เฉยชา

ฉากที่เขาปกป้องเธอในห้องวีไอพียังติดตาอยู่ แต่พอออกจากที่นั่นไป เขากลับกลายเป็นเผยลี่เชินที่เย็นชาห่างเหินเหมือนเดิม ทำให้เธอรับไม่ค่อยได้เท่าไหร่

เมื่อออกจากลิฟท์ เธอเดินไปหน้าห้องเธอ ถอดเสื้อสูทบนตัวออกแล้วยื่นให้เผยลี่เชิน

“ประธานเผย ขอบคุณนะคะ”

เธอเลื่อนสายตาลงต่ำ พยายามกดอารมณ์ไว้ คำพูดคำจาดูห่างเหิน สร้างระยะระหว่างเขาสองคนอื่นไม่รู้ตัว

เผยลี่เชินขมวดคิ้วเข้ม มองดูไป๋เสว่เอ๋อร์ที่ก้มหน้าถือเสื้อไว้ในมือ ไม่ได้ยื่นมือไปรับ

เมื่อกี้เธอยังดี ๆ อยู่เลย ทำไมเปลี่ยนเป็นคนละคนไปในพริบตาหละ

เผยลี่เชินก้าวขึ้นหน้าครึ่งก้าว จ้องน้าผากที่เนียนใสอวบอิ่ม ครุ่นคิดสักพักแล้วเอ่ยปากถามด้วยความเย็นชา “เป็นอะไรไป”

ไป๋เสว่เอ๋อร์เงยหน้าสบตาเขา แล้วเบี่ยงสายตาอย่างนิ่งเฉย “เปล่าค่ะประธานเผย ฉันขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะคะ”

พูดจบเธอยัดเสื้อให้เขา หันหลังแล้วจะเดินไป แต่ยังไม่ทันได้หันตัวกลับก็ถูกดึงตัวเอาไว้

“ไปห้องผม ดื่มเป็นเพื่อนผมสักหน่อย ผมมีเรื่องจะคุยกับคุย”

ไม่ใช่ประโยคบอกเล่า แต่เป็นคำสั่ง

ไป๋เสว่เอ๋อร์ทำหน้ามุ่ย แต่ไม่ได้ปฏิเสธไป เธอลังเลไปพักหนึ่งแล้วตอบตกลง

เดินตามเผยลี่เชินเข้าห้องของเขา ไป๋เสว่เอ๋อร์นั่งลงบนโซฟา มองดูเผยลี่เชินแขวนเสื้อสูทให้เรียบร้อยแล้วแกะกระดุมเสื้อต่อหน้าเธอ

ถึงแม้ทั้งคู่ไม่มีอะไรจะปิดบังกันแล้ว แต่ตอนนี้เห็นเขาถอดเสื้อต่อหน้าตัวเองก็ยังรู้สึกกะไรอยู่

เผยลี่เชินสังเกตถึงสายตาที่เบี่ยงหนีไปของเธอ แสยะยิ้มขึ้นเงียบ ๆ แล้วเดินไปหน้าตู้เสื้อผ้าเปลี่ยน เป็นแขนสั้น จากนั้นเดินไปที่เลือกเหล้าที่ข้างบาร์

เขาถือขวดเหล้าและแก้วเดินมาเทให้ไป๋เสว่เอ๋อร์ครึ่งแก้ว “เหล้าโซดา ไม่เมาหรอก”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ยื่นมือรับไว้ ได้ยินเขาพูดแบบนี้ทำให้นึกย้อนไปถึงวันก่อนที่เธอเมาเหล้า รู้สึกร้อนวูบขึ้นมา

เผยลี่เชินนั่งลงโซฟาตรงข้ามเธอ ดื่มเหล้าไปคำหนึ่งแล้วเอ่ยปาก “ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง พรุ่งนี้เรามีนัดกับรองนายอำเภอเมืองไห่หนานลู่ผิงชวนนะ ผมบอกคุณล่วงหน้าเพื่อให้คุณเตรียมตัวเตรียมใจไว้”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ได้ยินแล้วอดที่จะถามไม่ได้ “ทำไมหละคะ”

วันนี้เขาแตกหักกับลู่ชิงอวี่ ส่วนลู่ผิงชวนเป็นอาแท้ ๆ ของเขา ทำไมถึงนัดพวกเขาหละ

เผยลี่เชินโยกแก้วในมือเบา ๆ “วันนี้เรื่องมาถึงขนาดนี้ ลู่ผิงชวนต้องรู้อยู่แล้ว ส่วนเรื่องของการเดิมพันเขาแพ้แล้วก็ต้องทำตามที่พูด แต่นี่เขาไม่ยอม ถ้าลู่ผิงชวนจะกักที่ดินนี้ต่อไปเพียงเพราะจะปกป้องเขา ก็แค่จะทำให้ชื่อเสียงของตัวเองเสื่อมเสียไปแค่นั้นแหละ ต่อให้เขาจะรักหลานขนาดไหน ก็คงจะไม่เอาอนาคตตัวเองไปเสี่ยงหรอก แค่มีจดหมายร้องเรียนนิรนามเป็นหลักฐาน เขาก็จนปัญญาแล้ว เพราะฉะนั้นเขาต้องทำในสิ่งที่ถูกต้อง”

ไป๋เสว่เอ๋อร์เข้าใจทันที ไม่น่าเมื่อกี้ตอนเผยลี่เชินคุยโทรศัพท์พูดว่าลู่ชิงอวี่เป็นแค่คนปอดแหกที่ดีแต่ปากเท่านั้น ถ้าเป็นอย่างงี้ก่อนหน้านั้นเขาให้อาตัวเองแอบกักที่ดินไว้ ก็เพื่อให้เผยซื่อรอไปเรื่อย ๆ อย่างไม่สามารถทำอะไรได้ แต่เขาทำตัวแบบนี้ทำให้กลายเป็นเรื่องที่เอาไปพูดต่อกันได้ ถือว่าหมดความได้เปรียบไปทันที

เท่ากับว่าลู่ชิงอวี่ทำให้อาแท้ ๆ ของตัวเองตกอยู่ในชะตากรรมยากลำบาก ที่ดินนี้ไม่ว่าเขาจะอนุมัติหรือไม่ ตอนนี้ก็ถึงคราวต้องปล่อยมือแล้วหละ

การเดินหมากของเผยลี่เชินยกนี้ถือว่าฉลาดมาก ถ้าเขาไม่อธิบายเพิ่มเติม ให้เธอคิดเองคงจะไม่มีทางเข้าใจแน่นอน

ไป๋เสว่เอ๋อร์มองไปทางเผยลี่เชินด้วยความตื่นเต้น “เท่ากับว่าที่ดินนี้เราได้แล้วใช่มั้ยคะ”

แววตาเผยลี่เชินเปล่งประกาย “จบเกมแล้วหละ”

“เยี่ยมไปเลย” ไป๋เสว่เอ๋อร์หลุดปากอุทาน มองผู้ชายด้วยสายตาแพรวพราว หน้าที่มุ่ยเป็นก้อนจากความเหนื่อยล้าแลดูผ่อนคลายลงทันที

เห็นหน้าตาตื่นเต้นของผู้หญิงทำให้เผยลี่เชินรู้สึกว้าวุ่น ฉากบนรถเมื่อสักครู่ผ่านเข้ามาในหัวอย่างรวดเร็ว

“แค่มีคุณอยู่ข้าง ๆ ก็ไม่รู้สึกกลัว….”

ประโยคที่เธอพูดบนรถราวกับคาถาต้องมนต์วนเวียนอยู่ในหัวเขา ไม่ยอมไปไหนสักที

จู่ ๆ เผยลี่เชินวางแก้วลงบนโต๊ะด้วยน้ำหนักที่ไม่หนักไม่เบา ทำให้ไป๋เสว่เอ๋อร์หยุดชะงักไป มองไปทางเขาด้วยความสังสย

เผยลี่เชินลุกขึ้นด้วยสีหน้าเรียบเฉย เขาโน้มตัวไปโดยมีโต๊ะขวางอยู่ระหว่างเขา ยื่นสองมือออกไปจับหัวของเธอไว้ จูบเธออย่างไม่สนใจใด ๆ

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

Status: Ongoing

บริษัทไป๋ซื่อเกิดเรื่องใหญ่ในด้านการเงิน พ่อของเธอถูกตำรวจพาไป แม่ของเธอก็ป่วย ร่างกายยิ่งอ่อนแอขึ้น เธอต้องการเงิน ต้องการหลักฐาน นอกจากเผยอี้แล้ว เธอนึกไม่ออกว่ายังมีใครที่จะสามารถช่วยเธอได้ แต่สุดท้าย เธอเพียงแค่ได้รับความเยาะเย้ยจากเขา ยังดีที่เผยลี่เชินออกมาช่วยเธอตอนที่เธอสิ้นหวัง ไป๋เสว่เอ๋อร์มอบตัวเองให้กับเขา แต่ความสัมพันธ์ของสองคนกลับยังไม่จบ พวกเขาจะมีเรื่องอะไรกันต่อนะ? คำแนะนำนวนิยาย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท