สัญญาร้ายของประธานปีศาจ – ตอนที่ 100

ตอนที่ 100

ตอนที่ 100 ทำไมจะต้องบังคับตัวเองด้วย

เมื่อไป๋เสว่เอ๋อร์ทานมื้อเช้าเสร็จเรียบร้อย เธอก็กลับไปที่ห้องเพื่อเก็บข้าวของของเธอ เธอไม่กล้าที่จะใช้เวลามากนัก และรีบกลับไปในทันที

ช่วงที่ผ่านมา เธอมาอาศัยอยู่ที่นี่ตลอด ปล่อยให้แม่ของเธออยู่ที่บ้านตามลำพัง เธอจึงรู้สึกไม่สบายใจทีเดียว ดังนั้น เธอจึงไปที่ร้านขนมที่แม่ของเธอชอบมาก และต่อแถวเพื่อซื้อขนมแสนอร่อยกลับไปให้แม่ของเธอ

เมื่อใกล้ถึงเวลาอาหารเย็น ทันทีที่เธอกลับถึงบ้าน ก็เห็นคุณแม่ไป๋กำลังยุ่งอยู่ในครัว ซุปซี่โครงหมูตุ๋นได้ที่แล้ว คุณแม่กำลังเตรียมวัตถุดิบสำหรับอาหารจานอื่นอยู่

“แม่คะ แม่สุดยอดไปเลย ทำไมจู่ๆ ถึงทำอาหารได้เก่งขนาดนี้ล่ะคะ”

คุณแม่ไป๋หันมาหาเธอพร้อมกับกวักมือเรียก “เสว่เอ๋อร์ ลูกไปจัดโต๊ะอาหารให้เรียบร้อยทีสิ อีกเดี๋ยวแขกก็จะมากันแล้วล่ะ”

“ได้ค่ะ” เมื่อไป๋เสว่เอ๋อร์ได้ยินดังนั้น เธอก็นำถ้วยชามและเครื่องใช้ต่างๆ ที่ตั้งอยู่ด้านข้าง ซึ่งผ่านการล้างสะอาดเรียบร้อยแล้วถือออกไป ทั้งหมดมี 3 ชุดด้วยกัน ดูเหมือนว่าจะมีแขกมาที่บ้านเพียงแค่คนเดียว

หลังจากจัดโต๊ะอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอก็กลับมาที่ห้องครัวอีกครั้ง หวังที่จะล้วงความลับจากปากของคุณแม่ไป๋ “แม่คะ แม่ยังไม่บอกหนูเลยว่าแขกเป็นใคร”

“ไม่ต้องถามแล้ว เดี๋ยวอีกแปปเดียวก็ได้เจอแล้วล่ะ แขกคนนี้จะต้องทำให้ลูกประหลาดใจแน่นอน!”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ยิ้ม เธอคิดว่าไม่ถามอะไรอีกจะดีกว่า และเริ่มเป็นลูกมือช่วยคุณแม่ไป๋ทำอาหาร

หลังจากผ่านกว่าครึ่งชั่วโมง ในที่สุด อาหาร 4 จานพร้อมด้วยน้ำซุป 1 หม้อใหญ่ก็เสร็จเรียบร้อย ทั้งหมดเป็นเมนูอาหารทำเองที่บ้านแบบง่ายๆ แต่สำหรับคุณแม่ไป๋ที่ไม่เคยเข้าครัวมาก่อนเลยนั้น ก็ถือว่าไม่ง่ายที่จะปรุงให้สำเร็จทีเดียว

หลังจากนำอาหารมาจัดวางบนโต๊ะอาหารเรียบร้อยแล้ว ขณะที่ไป๋เสว่เอ๋อร์กำลังล้างคราบน้ำมันออกจากมือ ก็ได้ยินเสียงกริ่งประตูดังขึ้น

คุณแม่ไป๋กำลังตักข้าวอยู่ และเมื่อเธอได้ยินเสียงกริ่งประตูดังขึ้น เธอก็รีบเรียกไป๋เสว่เอ๋อร์ให้ไปเปิดประตูในทันที “เสว่เอ๋อร์ ไปเปิดประตูหน่อยลูก”

เมื่อไป๋เสว่เอ๋อร์เดินออกมาจากห้อง เธอก็เดินผ่านบริเวณสวนเล็กในบ้าน เพื่อไปเปิดประตู เมื่อเธอเปิดประตูออก เธอก็เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยยืนอยู่ตรงหน้า

“ทำไมถึงเป็นคุณล่ะ!” เธอผงะถอยไปด้านหลังหนึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัว

เผยอี้ถือกล่องของขวัญ 2-3 กล่องเอาไว้ในมือ เมื่อเขาได้ยินเธอพูดแบบนั้น เขาก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแน่น “เธอนึกว่าเป็นใครกันล่ะ”

ไป๋เสว่เอ๋อร์กำมือของเธอเอาไว้แน่น ครู่ต่อมาเธอถึงเข้าใจในทันที ต้องเป็นคุณแม่ไป๋ที่เป็นคนวางแผนแน่นอน!

ช่วงนี้ คุณแม่เอาแต่โน้มน้าวให้เธอกับเผยอี้คืนดีกัน แถมยังถือวิสาสะเป็นคนเรียกเผยอี้มากินข้าวที่บ้านอีก นั่นก็เพราะแม่จะทำหน้าที่เป็นคนกลางแนะนำให้ทั้งสองคนคืนดีกันแน่นอน!

นึกไม่ถึงว่าเผยอี้ก็จะมาตามคำเชิญกับเขาด้วย

เผยอี้ก้าวเข้าไปหาเธออย่างสุภาพ เมื่อเห็นว่าสีหน้าของเธอดูประหลาดใจอย่างมาก เขาก็ยิ้มขึ้นที่มุมปาก “เธอคงไม่คิดว่าฉันจะมาสินะ ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นแก่หน้าของคุณแม่ล่ะก็ เธอก็คงไม่มาแน่นอน”

ตอนที่เธอกับเผยอี้ยังคบกันนั้น พ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายต่างรู้เรื่องราวของพวกเขาเป็นอย่างดี แถมเผยอี้ยังเคยมาที่บ้านของเธอเพื่อทานข้าวหลายครั้ง และยังติดต่อกับพ่อแม่ของเธอด้วย

ดังนั้น การที่คุณแม่ไป๋จะเชิญเผยอี้มาทานข้าวที่บ้านนั้น ก็ไม่เห็นจะแปลกเลยสักนิด

“ถ้าฉันไม่อยากมา ฉันก็จะไม่มา ทำไมฉันจะต้องบังคับตัวเองให้มาด้วย” ไป๋เสว่เอ๋อร์พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น พร้อมหมุนตัวสาวเท้าเดินเข้าไปในบ้าน

ไป๋เสว่เอ๋อร์เก็บอารมณ์เอาไว้ เมื่อเธอเดินเข้าไปในบ้านแล้ว เธอก็เห็นคุณแม่ไป๋รีบลุกขึ้นมาหาเธอ คุณแม่ไป๋เห็นว่าสีหน้าของเธอไม่ค่อยดี จึงรีบถามในทันที “มีอะไรเหรอ”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ไม่ตอบและเดินแยกจากคุณแม่ไป๋ไป

คุณแม่ไป๋ถอนหายใจ และรีบเดินไปที่ประตูทันที เมื่อคุณแม่เห็นเผยอี้ ทันใดนั้น ดวงตาของคุณแม่ก็เปล่งประกายขึ้นในทันที “เผยอี้! ในที่สุดเธอก็มาแล้ว แหมยังซื้อของมาฝากด้วย เธอนี่สุภาพเกินไปแล้วนะจ๊ะ!”

ใบหน้าของเผยอี้อ่อนโยนขึ้นต่างจากปกติอย่างมาก “คุณป้าครับ ไม่ได้มาเสียนานเลย ไม่ว่ายังไงผมก็ต้องมาหาคุณป้าสิครับ”

ขณะที่คุณแม่ไป๋มองเขาอยู่นั้น เธอก็ยิ้มแก้มแทบปริ และรีบพาเขาไปยังห้องทานอาหาร “มาๆ เผยอี้ กับข้าวเพิ่งทำเสร็จพอดีเลย”

เมื่อคุณแม่ไป๋พาเผยอี้มานั่งที่โต๊ะ ไป๋เสว่เอ๋อร์ที่นั่งอยู่ตรงข้ามก็เริ่มมีสีหน้าจริงจังขึ้นเล็กน้อย เธอไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมามองเขาเลยสักนิดเดียว

เมื่อคุณแม่ไป๋เห็นว่าเธอไม่ยอมพูดคุยด้วย คุณแม่ไป๋ก็โกรธขึ้นมาเล็กน้อย “เสว่เอ๋อร์! มีแขกมาทั้งทีไม่คิดจะพูดอะไรหน่อยเหรอ ทำไมถึงไม่รู้หน้าที่เอาเสียเลย ทำเป็นคนแปลกหน้าไปเสียได้!”

เผยอี้ยิ้มพร้อมกับพูดว่า “ไม่เป็นไรครับ คุณป้า ครั้งนี้ผมมาเพื่อมาหาคุณป้าครับ”

การที่เขาพูดแบบนี้ก็แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเขาไม่ได้มาเพื่อมาหาไป๋เสว่เอ๋อร์

คุณแม่ไป๋ได้แต่สั่นหัวอย่างไร้หนทาง เธอมองไปที่เผยอี้ และเริ่มไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบกับเขา หลังจากนั้นเธอก็เริ่มตักอาหารให้เขา “เผยอี้ กับข้าวจานนี้แม่ลงมือเข้าครัวทำเองเลยนะ เธอลองชิมดู แล้วดูสิว่ารสชาติฝีมือแม่จะเป็นอย่างไร!”

เมื่อไป๋เสว่เอ๋อร์ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามได้ยินพวกเขาสองคนคุยกันอย่างออกรส เธอก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมาไปทั่วทั้งร่างกาย เธอรู้ดีอยู่เต็มอกว่าเหตุใดแม่ของเธอถึงได้นัดเผยอี้มาทานข้าวที่บ้าน

ไม่ทันไร คุณแม่ไป๋ก็พูดแนะนำด้วยความจริงใจในทันที “เผยอี้ ครั้งนี้ที่แม่เรียกเธอมาที่นี่ ก็เพราะแม่มีเรื่องอยากจะขอร้องเธอหน่อย”

เมื่อเผยอี้ได้ยินดังนั้น เขาก็วางตะเกียบลง สีหน้าของเขาดูจริงจังขึ้นเล็กน้อย “คุณป้าครับ มีเรื่องอะไรทำไมคุณป้าถึงพูดแบบนี้ล่ะครับ ถ้าเกิดมีอะไรที่ผมสามารถช่วยได้ ผมจะช่วยอย่างเต็มที่เลยครับ”

“โอ๊ย อย่าหัวเราะแม่เลยนะ” คุณแม่ไป๋ถอนหายใจยาว “แต่เดิมตอนที่เธอกับไป๋เสว่เอ๋อร์ยังรักกัน แม่ก็คิดมาตลอดว่าเธอสองคนจะต้องแต่งงานกันแน่นอน แต่ตอนนี้แม่ไม่คิดเลยว่า…”

เมื่อไป๋เสว่เอ๋อร์ได้ยินคุณแม่ไป๋พูดถึงตอนที่พวกเธอทั้งสองคนยังคงคบกันอยู่ เธอก็รู้สึกสับสนขึ้นมา เธอขมวดคิ้วแน่นและมองไปทางคุณแม่ไป๋ “แม่คะ…”

เมื่อคุณแม่ไป๋ได้ยินดังนั้น เธอก็ส่ายหัว และอาศัยโอกาศนั้นในการเปลี่ยนหัวข้อเรื่องที่กำลังพูดคุย “ช่างเถอะ เราจะไม่พูดถึงเรื่องในอดีตกันแล้ว ทุกวันนี้ตระกูลไป๋ของเราไม่ได้มีฐานะเหมือนเมื่อก่อน เสว่เอ๋อร์ไปทำงานอยู่ที่บริษัทเผยซื่อของพวกเธอ แม่ยากที่จะทำใจให้สงบได้ เมื่อเปรียบเทียบกับคนรอบตัวในนั้นแล้ว พวกลูกสองคนมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เธอก็คอยดูแลเสว่เอ๋อร์แทนแม่ด้วยแล้วกันนะ นี่คือความปรารถนาจากใจของแม่”

เผยอี้เหลือบมองไปที่ไป๋เสว่เอ๋อร์ เขาตอบกลับด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยว่า “คุณป้าวางใจเถอะครับ ผมจะดูแลเธอเอง”

“ถ้าอย่างนั้ แม่ก็ขอบคุณเธอมากนะ!” คุณแม่ไป๋รู้สึกประทับใจอย่างมาก เธอเอื้อมมือไปกุมมือของเผยอี้เอาไว้ และโน้มตัวเข้าไปหาเผยอี้เล็กน้อย พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงอันแผ่วเบาว่า “ถ้าเกิดเธอกับเสว่เอ๋อร์คืนดีกันได้แล้วล่ะก็ แม่ก็คงจะ…”

“พอได้แล้ว!” ไป๋เสว่เอ๋อร์ขมวดคิ้วแน่น “หนูก็บอกกับแม่ไปแล้วนี่คะ!” ระหว่างเธอกับเผยอี้นั้น มันจบไปแล้ว

“ก็ได้ๆ พวกเราสองคนกำลังคุยกันอยู่ ลูกอย่าเข้ามาขัดจังหวะสิ” คุณแม่ไป๋ขมวดคิ้ว และหันกลับไปมองเผยอี้ต่อในทันที “เผยอี้ ทานกับข้าวเยอะๆ สิลูก”

มื้อค่ำในวันนี้ดำเนินไปได้อย่างน่าอึดอัดใจยิ่งนัก ตั้งแต่ต้นจนจบ ไป๋เสว่เอ๋อร์ทนข้าวด้วยหน้าตาที่บูดบึ้ง ไม่พูดอะไรสักคำ ในขณะที่คุณแม่ไป๋กลับแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเธออยากให้ทั้งสองคนคืนดีกัน

เมื่อทานอาหารไปได้สักพักแล้ว คุณแม่ไป๋ก็เห็นว่าทั้งสองคนไม่เอ่ยปากคุยกันเสียเลย ในใจของเธอก็เกิดกังวลขึ้นมา “พวกลูกสองคนคุยกันไปก่อนนะ เดี๋ยวแม่ไปปอกผลไม้มาให้กิน”

ขณะที่คุณแม่ไป๋กำลังพูดอยู่นั้น ก็ยังไม่วายที่จะขยิบตาให้กับไป๋เสว่เอ๋อร์ พร้อมกับหมุนตัวและเดินไปที่ห้องครัว

เมื่อคุณแม่ไป๋เดินเข้าไปแล้ว บรรยากาศบนโต๊ะอาหารกลับเย็นยะเยือกขึ้นไปอีก ขณะที่ไป๋เสว่เอ๋อร์เงยหน้ามองโดยบังเอิญนั้น สายตาของเธอก็ไปปะทะเข้ากับสายตาของชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงข้ามและกำลังจ้องมาที่เธอพอดิบพอดี

“ไป๋เสว่เอ๋อร์ ช่างเรื่องที่คุณจะมาขอผมคืนดีไปเสียเถอะ ผมเองก็ไม่เห็นด้วยหรอก ที่ผมมาในวันนี้ก็เพราะเห็นแก่หน้าแม่คุณเท่านั้น”

เมื่อได้ยินน้ำเสียงของชายหนุ่มกำลังเยาะเย้ยเธอ ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็ยิ้มขึ้นมา “ขอโทษนะคะ ฉันไม่เคยคิดแบบนั้นเลยด้วยซ้ำ”

ใบหน้าของเผยอี้เข้มขึ้นในทันที และดูไม่น่ามองเอาเสียเลย

“ถ้าครั้งหน้าแม่ของฉันยังเชิญคุณมาที่นี่อีก คุณก็แค่หาข้ออ้างไม่ต้องมาก็ได้แล้วนี่คะ เพื่อที่เราสองคนจะได้ไม่ต้องรู้สึกอึดอัดใจแบบนี้อีก”

เมื่อไป๋เสว่เอ๋อร์พูดจบ เธอก็ลุกขึ้นและสาวเท้าเดินไปยังห้องครัวในทันที

ขณะที่เผยอี้กำลังมองดูแผ่นหลังของหญิงสาวที่เดินจากไปด้วยความหนักแน่น สายตาของเขาก็มืดมนมากขึ้น ผู้หญิงคนนี้ ช่างไม่รู้ว่าจักที่ต่ำที่สูงเอาเสียเลย!

เมื่อทานผลไม้เสร็จเรียบร้อย เผยอี้ก็หาข้ออ้างเพื่อขอตัวกลับก่อน “คุณป้าครับ ตอนนี้ก็ค่ำมากแล้ว พอดีผมยังมีธุระเมื่อตอนบ่ายค้างอยู่ ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”

“จะกลับแล้วเหรอ” คุณแม่ไป๋รีบลุกขึ้นยืน เธอหันมามองไป๋เสว่เอ๋อร์ที่นั่งอยู่ข้างๆ และพูดด้วยน้ำเสียงเข้มว่า “เสว่เอ๋อร์ ยังไม่รีบเดินมาส่งเผยอี้อีกเหรอ”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ลุกขึ้นมาอย่างไม่เต็มใจนัก เธอเดินไปส่งเผยอี้พร้อมกับคุณแม่ไป๋ รถยนต์ของเผยอี้จอดอยู่ที่หน้าประตูบ้าน คุณแม่ไป๋จึงรบเร้าและลากไป๋เสว่เอ๋อร์ไปส่งเผยอี้ที่หน้าประตูบ้าน

“หลังจากนี้ ถ้าเธอไม่มีธุระอะไรก็มาที่นี่หาแม่บ่อยๆ ก็ได้นะจ๊ะ อีกอย่างเราก็ยกเสว่เอ๋อร์ของบ้านเราให้เธอไปแล้ว ในเมื่อพวกลูกทั้งสองคนทำงานอยู่ที่บริษัทเดียวกัน ปกติแล้ว เวลากินข้าวด้วยกันก็ต้องมากินด้วยกันที่….”

คุณแม่ไป๋พูดเล็กพูดน้อยไม่ยอมหยุด โดยที่เธอไม่ได้สังเกตเห็นความรู้สึกของไป๋เสว่เอ๋อร์เอาเสียเลย

ในขณะเดียวกัน ไม่ไกลจากบริเวณต้นไม้ที่ปลูกเรียงรายอยู่ตามท้องถนนนั้น ก็ปรากฏให้เห็นภาพของรถยนต์หรูหราอย่างไมบัคกำลังจอดอยู่ ขณะที่เผยลี่เชินกำลังจะเอื้อมมือคว้าโทรศัพท์มือถือเพื่อโทรหาไป๋เสว่เอ๋อร์นั้น เขาก็เงยหน้าขึ้นโดยบังเอิญ และเห็นใครคนหนึ่งที่กำลังยืนอยู่หน้าประตูทางเข้าคฤหาสน์

เขาชะงักไปชั่วครู่ คิ้วของเขาขมวดแน่นขึ้นในทันที

เผยอี้… ทำไมนายถึงมาอยู่ที่นี่ได้

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

Status: Ongoing

บริษัทไป๋ซื่อเกิดเรื่องใหญ่ในด้านการเงิน พ่อของเธอถูกตำรวจพาไป แม่ของเธอก็ป่วย ร่างกายยิ่งอ่อนแอขึ้น เธอต้องการเงิน ต้องการหลักฐาน นอกจากเผยอี้แล้ว เธอนึกไม่ออกว่ายังมีใครที่จะสามารถช่วยเธอได้ แต่สุดท้าย เธอเพียงแค่ได้รับความเยาะเย้ยจากเขา ยังดีที่เผยลี่เชินออกมาช่วยเธอตอนที่เธอสิ้นหวัง ไป๋เสว่เอ๋อร์มอบตัวเองให้กับเขา แต่ความสัมพันธ์ของสองคนกลับยังไม่จบ พวกเขาจะมีเรื่องอะไรกันต่อนะ? คำแนะนำนวนิยาย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท