สัญญาร้ายของประธานปีศาจ – ตอนที่ 103

ตอนที่ 103

ตอนที่ 103 เอกสารหายไป

ช่วงเช้าหลังจากประชุมเสร็จแล้ว ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็เข้าออฟฟิศตัวเองจัดการเอกสารบันทึกการประชุมเสร็จพอดี อานโหรวก็โทรศัพท์เข้ามา

“ฮัลโหล เลขาไป๋ หนังสือสัญญาภาษาเยอรมันที่คุณแปลเสร็จไปถึงไหนแล้ว มะรืนฉันต้องใช้ พรุ่งนี้คุณช่วยส่งต้นฉบับภาษาจีนให้ฉันด้วยนะ”

“แปลเสร็จไปแล้วส่วนหนึ่ง ไม่มีปัญหาอะไร พรุ่งนี้ตอนบ่ายฉันจะส่งให้คุณคะ”

“โอเค ขอบคุณมาก”

หลังจากวางโทรศัพท์ไป๋เสว่เอ๋อร์เปิดไฟล์เอกสารที่อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์แล้วเริ่มลงมือแปลต่อ

แม้ว่าการแปลหนังสือสัญญาจะไม่ใช่งานที่ง่าย แต่ในเมื่อเธอรับปากอานโหรวแล้ว ก็ต้องใช้ความพยายามเต็มที่ทำงานให้ได้รับมอบหมายให้สำเร็จเป็นที่พอใจ

ครึ่งชั่วโมงผ่านไปโทรศัพท์ที่โต๊ะดังขึ้น ไป๋เสว่เอ๋อร์เห็นว่าเป็นโทรศัพท์ท่านประธานจึงรีบรับทันที

ชายที่อยู่ในสายโทรศัพท์พูดด้วยเสียงเรียบๆ “ไปที่ห้องเก็บเอกสารเอาเอกสารมาส่งที่ออฟฟิศ…..”

ไป๋เสว่เอ๋อร์สูดหายใจแล้วตอบรับ “คะ”

สองวันที่ผ่านมาท่าทางของเผยลี่เชินที่มีต่อเธอเย็นชายิ่งนัก วันนี้ตอนทำงานก็เหมือนกันนอกจากพูดคุยเรื่องงานแล้วพวกเขาทั้งสองก็ไม่คุยเรื่องอื่นเลย

ไป๋เสว่เอ๋อร์เดาว่า วันนั้นตอนที่เธอกับเผยอี้อยู่ที่ประตูบ้าน เผยลี่เชินเห็นเธอเข้า ดังนั้นเขาถึงเย็นชากับเธอแบบนี้

เธอถอนหายใจลุกขึ้นเดินจากออฟฟิศไปห้องเก็บเอกสาร เดินไปไม่กี่นาที สวี่เยว่หรูเดินถือเอกสารออกมาส่วนหนึ่ง ไม่ทันได้เห็นไป๋เสว่เอ๋อร์ก็วางเอกสารไว้บนโต๊ะ

เธอกำลังจะไปสายตาเหลือบไปเห็นจอคอมพิวเตอร์สว่างขึ้น เธอจึงขยับตัวไปมองบนจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งแสดงเอกสารสองส่วน ส่วนหนึ่งเป็นภาษาต่างประเทศ อีกส่วนเป็นภาษาจีน

ด้านข้างคอมพิวเตอร์ยังมีบันทึกช่วยจำติดอยู่ เขียนว่า : แปลหนังสือสัญญาเยอรมันแล้ว พรุ่งนี้ตอนบ่ายส่งให้อานโหรวด้วย

สวี่เยว่หรูขมวดคิ้ว

วันนั้นเธอไม่ได้ตั้งใจแอบฟังผู้ช่วยของรองประธานฟางพูดชมเชยไป๋เสว่เอ๋อร์เกี่ยวกับความสามารถด้านภาษาต่างประเทศของเธอ และยังให้เธอช่วยแปลหนังสือสัญญาแก่พวกเขา เธอเก่งมาก

ตอนนั้นเธอได้ยินแบบนี้รู้สึกเหยียดหยามดูถูกไป๋เสว่เอ๋อร์ คิดว่าเธอไม่ได้เก่งกาจอะไรหรอก คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะได้เจอไป๋เสว่เอ๋อร์โดยบังเอิญ ได้เห็นเธอแปลหนังสือสัญญาภาษาต่างประเทศ

ครู่หนึ่ง สวี่เยว่หรูแสดงสายตาที่รู้สึกอิจฉา ใช้น้ำเสียงเย้ยหยัน “แสร้งทำเป็นคนดี”

สักพักหลังจากนั้นเธอก็ละสายตาของคอมพิวเตอร์แล้วเดินออกจากออฟฟิศ…

…………….

หลังจากหยิบเอกสารจากห้องเอกสารไป๋เสว่เอ๋อร์ก็นำเอกสารไปส่งให้เผยลี่เชิน

“ประธานเผย นี่คือเอกสารที่คุณต้องการ”

เผยลี่เชินยังคงทำงานในมือต่อไป ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามาองแต่ก็พูดขึ้นว่า “วางลง”

ไป๋เสว่เอ๋อร์วางเอกสารลงที่โต๊ะ เห็นว่าเผยลี่เชินไม่ได้สั่งอะไรอีก ขณะเดินก้าวออกไปไม่กี่ก้าว ก็ได้ยินเสียงดังมาจากด้านหลัง “รอเดี๋ยว”

ไป๋เสว่เอ๋อร์หันกลับไป เห็นดวงตาที่ลึกล้ำของชายหนุ่ม

“เข้ามานี่”

ไป๋เสว่เอ๋อร์สูดหายใจ เดินกลับเข้าไป “ประธานเผย มีเรื่องอะไรจะสั่งคะ?”

“วันนี้ตอนค่ำฉันจะไปกินข้าวกับลู่อี้หลิง คุณช่วยจองโต๊ะให้ที เอาที่บรรยากาศดีหน่อยนะ”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ตกตะลึงแต่ก็รับปากออกไป “ได้คะ”

เหมือนมีอะไรบางอย่างค้างคาอยู่ในใจ ทำให้เธอรู้สึกหายใจติดขัด

เมื่อวานเผยลี่เชินก็อยู่กับลู่อี้หลิงทั้งวันแล้ว วันนี้ตอนค่ำยังต้องไปกินอาหารค่ำกับเธออีก หรือว่าทั้งสองกำลังดูๆ กันอยู่?

ความคิดนี้แวบเข้ามาในใจของเธอ เธอกำหมัดแน่นรู้สึกอึดอัดแต่ก็ต้องฝืนยิ้มออกไป

“ประธานเผย มีอะไรอื่นอีกไหมคะ ต้องการให้ฉันจองห้องด้วยรึเปล่าคะ?”

เผยลี่เชินได้ยินคำพูดนี้ ดวงตาเคร่งขรึม สีหน้าเย็นชาทันที

ไป๋เสว่เอ๋อร์ยิ้มราวกับทุกอย่างไม่สำคัญกับเธอ เธอไม่เพียงไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบเรื่องเขากินข้าวกับลู่อี้หลิง แต่ยังถามอีกว่าให้จองห้องด้วยไหม

เขาลุกขึ้นเดินเข้าไปหาเธอทันที

เผยลี่เชินตัวสูงกว่าเธอ จึงก้มหน้ามองเธอ “ไป๋เสว่เอ๋อร์เธอหวังให้ฉันมีอะไรกับผู้หญิงอื่นหรือ?”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ไม่รู้ว่าตัวเองเอาความกล้ามาจากไหน เงยหน้ามองเขาพร้อมรอยยิ้มกับคำพูด

“อันนี้ก็แล้วแต่ประธานเผยจะคิด ถ้าประธานเผยต้องการฉันก็คงห้ามอะไรไม่ได้”

ดวงตาของเผยลี่เชินเปล่งประกายอย่างรวดเร็ว จ้องมองไป๋เสว่เอ๋อร์เป็นเวลานาน

“ไป๋เสว่เอ๋อร์ขอเพียงเธอทำตามที่ฉันบอกก็พอ ส่วนเรื่องอื่นไม่ต้องสนใจ”

คำพูดทิ้งท้ายทำให้ระยะห่างระหว่างพวกเขาเพิ่มมากขึ้น ไป๋เสว่เอ๋อร์รู้สึกอึดอัดใจ แต่ยังคงยิ้มและพยักหน้ารับ “คะ ฉันทราบแล้ว”

สีหน้าดุจดั่งน้ำแข็งของเผยลี่เชินทำให้คนรอบๆ รู้สึกหนาวจับใจ เขาหันกลับไปทำงานที่โต๊ะตามเดิม

ไป๋เสว่เอ๋อร์สูดหายใจ รีบก้าวเท้าออกจากห้อง

ทั้งสองอยู่ในอารมณ์ต่างกัน แต่กลับไม่มีใครยอมอ่อนข้อให้ใครก่อน

เผยลี่เชินมองดูเงาของไป๋เสว่เอ๋อร์ที่เดินจากไป ดวงตาแอบซ่อนความโกรธไว้เล็กน้อย เขาอยากจะดูว่า ไป๋เสว่เอ๋อร์ต้องใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะอธิบายเรื่องต่างๆ ให้เขาฟัง

ในช่วงบ่ายของวันถัดไป อานโหรวโทรศัพท์ถามไป๋เสว่เอ๋อร์เกี่ยวกับการแปลหนังสือสัญญา

ช่วงเช้าไป๋เสว่เอ๋อร์ไม่ค่อยยุ่งจึงรีบแปลเอกสาร เนื้อหาโดยส่วนใหญ่แปลเสร็จแล้วจะเหลือก็แต่เพียงส่วนท้ายเพราะว่าไปกินข้าวเที่ยวจึงยังไม่ได้แปลต่อ

“เหลือครึ่งหน้าสุดท้าย ขอเวลายี่สิบนาที แล้วฉันจะส่งให้คุณคะ”

อานโหรวได้ยินดังนี้ จึงพูดพร้อมเสียงหัวเราะ “โอเค ขอบคุณมาก วันหลังฉันขอเลี้ยงข้าวคุณตอบแทนนะ”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ตอบพร้อมรอยยิ้ม : “ไม่ต้องเกรงใจคะ เป็นเพื่อนร่วมงานควรช่วยเหลือซึ่งกันและกัน”

หลังจากวางโทรศัพท์ เธอเปิดคอมพิวเตอร์บนโต๊ะเพื่อแปลเอกสาร แต่คาดไม่ถึงพอเปิดไฟล์กลับเจอแต่ความว่างเปล่า

ไป๋เสว่เอ๋อร์เครียดขึ้นมาทันที เธอรีบกลับมามีสติ เปิดไฟล์ขึ้นมาใหม่ รีเฟรชสองสามครั้ง แต่ไฟล์นั้นว่างเปล่า

เกิดอะไรขึ้นเธอจำได้ว่าเซฟไว้แล้ว ทำไมเอกสารถึงว่างเปล่า?

เธอลองทำดูหลายเที่ยว หาไฟล์งานในโฟลเดอร์ แต่ก็หาไม่เจอเหมือนถูกลบออกจากโฟลเดอร์

จะทำอย่างไรดี? เธอจะบอกกับอานโหรวอย่างไรดี อานโหรวเชื่อมั่นในตัวเธอถึงได้มอบหมายงานนี้ให้เธอ แต่เธอกลับทำงานสะเพร่า

ฝ่ามือทั้งสองของไป๋เสว่เอ๋อร์เย็นจนเหงื่อออก ไม่รู้ว่าเวลาไหนเหมาะที่จะบอกอาโหรว พอดีโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

เสียงในโทรศัพท์คือเผยลี่เชิน “เธอเข้ามาหน่อยซิ”

ในหัวของเธอตอนนี้เหมือนมีมดไต่เต็มหัว ไป๋เสว่เอ๋อร์กังวลใจ เธอสูดลมหายใจพยายามสงบจิตสงบใจ แสร้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นเดินเข้าไปในออฟฟิศข้างๆ พอถึงออฟฟิศเผยลี่เชินแสดงท่าทางให้เธอเดินเข้ามาหา “วันนี้ประกาศให้แต่ละแผนกทราบว่า ให้แต่ละแผนกสรุปข้อมูลสิ้นเดือนในช่วงสามเดือนที่ผ่านมาพร้อมนำส่งด้วย”

ขณะที่เผยลี่เชินกำลังพูด สังเกตเห็นความผิดปกติของไป๋เสว่เอ๋อร์ที่หน้าซีดเหงื่อออกที่หน้าผาก สายตาดูเหม่อลอย ใจไม่อยู่กับตัว

เผยลี่เชินขมวดคิ้วยกมือตบโต๊ะ “ไป๋เสว่เอ๋อร์ เธอเป็นอะไรไป?”

เผยลี่เชินตอบโต้และพุดว่า “ขอโทษคะ ประธานเผย ฉันไม่ได้เป็นอะไรคะ”

“ไม่เป็นอะไร?”

เผยลี่เชินจับตามองเธอ “ท่าทางของเธอตอนนี้มันฟ้องว่าเธอกำลังมีเรื่อง”

สองมือของไป๋เสว่เอ๋อร์กำแน่น ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี

เผยลี่เชินเห็นสิ่งผิดปกติ จึงพูดด้วยเสียงแข็งกร้าว “ไป๋เสว่เอ๋อร์ เธอเป็นอะไรกันแน่?”

เธอกันริมฝีปากในใจสับสนวุ่นวาย คิดอยู่นานจึงพูดว่า “หนังสือสัญญาเยอรมันที่ฉันแปลไว้ มันไม่อยู่แล้ว”

เผยลี่เชินลุกขึ้นและพูดแบบแยกแยะ “พาฉันไปดูซิ”

พอไปถึงออฟฟิศของไป๋เสว่เอ๋อร์ เผยลี่เชินก็ลองหาไฟล์ดูอีกครั้งก็ไม่เจอ

เขาลุกขึ้นพูดด้วยเสียงเคร่งขรึม “หากแยกแยะปัญหาของตัวเองออกมา ก็จะเหลือความเป็นไปได้อีกหนึ่งอย่าง”

“ความเป็นไปได้อะไรคะ?”

ใจไป๋เสว่เอ๋อร์ติดอยู่ที่ลำคอ

ชายหนุ่มหันไปมองเธอด้วยสายตาคมชัด “ถูกคนลบไป”

เป็นไปได้อย่างไร วันนี้เธอก็นั่งทำงานอยู่ที่นี่ตลอด นอกจากตอนไปกินข้าวกลางเท่านั้นเองที่ไม่อยู่ อาจจะเป็นตอนช่วงนั้นก็ได้

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

Status: Ongoing

บริษัทไป๋ซื่อเกิดเรื่องใหญ่ในด้านการเงิน พ่อของเธอถูกตำรวจพาไป แม่ของเธอก็ป่วย ร่างกายยิ่งอ่อนแอขึ้น เธอต้องการเงิน ต้องการหลักฐาน นอกจากเผยอี้แล้ว เธอนึกไม่ออกว่ายังมีใครที่จะสามารถช่วยเธอได้ แต่สุดท้าย เธอเพียงแค่ได้รับความเยาะเย้ยจากเขา ยังดีที่เผยลี่เชินออกมาช่วยเธอตอนที่เธอสิ้นหวัง ไป๋เสว่เอ๋อร์มอบตัวเองให้กับเขา แต่ความสัมพันธ์ของสองคนกลับยังไม่จบ พวกเขาจะมีเรื่องอะไรกันต่อนะ? คำแนะนำนวนิยาย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท