สัญญาร้ายของประธานปีศาจ – ตอนที่ 158

ตอนที่ 158

บทที่ 158 ปลูกไว้ในมือเขา

กลับมาถึงห้อง เผยลี่เชินก็เปลี่ยนชุดเสร็จพอดี ไป๋เสว่เอ๋อร์ลังเลนิดหน่อยก่อนจะถามขึ้น “ วันนี้ฉันไม่เข้าบริษัทได้ไหมคะ? ”

เผยลี่เชินนิ่งไปพักหนึ่ง “ ได้สิ ”

เขาติดกระดุมเสื้อสูทก่อนจะมองเธอด้วยสายตาที่สงสัย “ เกิดเรื่องอะไรขึ้น? ”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ตอบแบบปัดๆไป “ ก็ไม่มีอะไรมากหรอก แค่ไม่ได้กลับบ้านนานแล้ว อยากจะกลับไปหาแม่สักหน่อย ” เผยลี่เชินได้ยินแล้วขมวดคิ้วเล็กๆเหมือนอยากจะพูดอะไรแต่ก็ไม่ได้พูดออกมา

พอเห็นว่าเขามีสีหน้าที่เปลี่ยนไป ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็รีบถามขึ้น “ มีอะไรหรือเปล่าคะ? ”

สีหน้าของเผยลี่เชินกลับมาเป็นเหมือนเดิมก่อนจะพูดออกมาเสียงเรียบ “ เปล่า ผมจะให้เจิงหงไปส่ง ”

ไป๋เสว่เอ๋อร์รีบเอ่ยปากปฏิเสธ “ ไม่เป็นไรค่ะ ฉันกลับไปคนเดียวได้ คุณมีงานที่ต้องทำคงจะห่างจากคนขับรถไม่ได้ ”

คงจะเป็นเพราะเธอดูตื่นเต้นจนเกินไป เผยลี่เชินเลยมองไปหาเธออย่างสงสัย ไป๋เสว่เอ๋อร์เลยหัวเราะออกมา “ เมื่อกี้ฉันเรียกรถแล้วล่ะค่ะ สะดวกแน่จะตายไป ”

“ ก็ดี มีอะไรก็บอกผมละกัน ” พูดจบเขากำลังจะเดินไปแต่ตอนเดินผ่านข้างเธอก็หยุดฝีเท้าลง พอเห็นว่าผู้ชายหยุดมองชุดของตัวเองไป๋เสว่เอ๋อร์ก็รู้สึกกังวลนิดหน่อย “ มีอะไรหรอคะ? ”

เผยลี่เชินเลิกคิ้วเล็กๆก่อนจะออกคำสั่งเสียงเย็น “ อย่าใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นแบบนี้ออกไปข้างนอก วันนี้อากาศเย็น ใส่เสื้อผ้าหนาๆหน่อย ”

ไป๋เสว่เอ๋อร์พยักหน้าอย่างช้าๆ ก่อนจะมองชายตรงหน้าเดินออกจากห้องไป

มองตามแผ่นหลังของเขาไปแล้วเธอก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ นี่มันเป็นการแสดงความเป็นห่วงแบบไม่อ้อมค้อมเลยสักนิด แต่เขากลับพยายามทำสีหน้าให้ดูเคร่งขรึม

หลังจากที่เผยลี่เชินออกไปแล้ว ไป๋เสว่เอ๋อร์ถึงได้เริ่มแต่งตัวแล้วออกไป

สองวันก่อนเฉียวเจิ้นออกไปทำงานข้างนอก เพิ่งกลับมาวันนี้ รอทนรอไม่ได้ที่จะคุยกับเขาเรื่องจดหมายรายงานแล้ว เรื่องนี้อัดอั้นอยู่ในใจเธอจนนอนหลับไม่สบายต้องรีบรู้ความจริงให้ได้เร็วๆ นัดสถานที่พบเจอกับเฉียวเจิ้นที่ร้านกาแฟคนน้อย บรรยากาศดีแถมเป็นส่วนตัว เก้าอี้แต่ละตัวก็จัดวางด้วยระยะที่ห่างมากพอที่จะคุยกันได้อย่างสบายใจ

พอถึงร้านกาแฟ เธอสั่งมอคค่าหนึ่งแก้วเพิ่งจะดื่มได้ไม่กี่คำก็เห็นเฉียวเจิ้นเดินออกมาจากห้องลิฟต์แล้วตรงเข้ามา รอให้เฉียวเจิ้นนั่งลงไป๋เสว่เอ๋อร์ก็ถามขึ้นเสียงเบา “ อยากดื่มอะไรคะ? ”

“ อเมริกาโน่เย็น ”

สั่งของเสร็จ เฉียวเจิ้นก็เอาเอกสารที่ติดตัวออกมา ไป๋เสว่เอ๋อร์ชะงักไปก่อนจะถามเสียงเบา “ นี่คุณพกออกมาด้วยจริงๆหรอ? ”

พูดไปตามหลัก พวกนี้ล้วนแต่เป็นเอกสารลับทั้งนั้นไม่สามารถเอาออกมาเผยแพร่เองได้ ถ้าเกิดเฉียวเจิ้นเอาออกมาจริงๆ แสดงว่าต้องฝ่าอันตรายของการลงโทษเมื่อโดนจับได้

“ เปล่า ผมไปดูที่ห้องเอกสารแล้วก็เห็นว่าจดหมายร้องเรียนนั่นมีเอกสารอยู่สองสามใบ น่าจะเป็นบัญชีทางการเงิน ผมดูไม่ค่อยเข้าใจก็เลยท่องจำตัวเลขกับรายการออกมาทำเป็นกราฟประมาณนี้แหละ เธอลองดู ”

ในตอนที่เรียนอยู่ด้วยกัน เพื่อนๆต่างก็รู้กันดีว่าเฉียวเจิ้นมีความจำที่ดี แต่ไป๋เสว่เอ๋อร์คิดไม่ถึงว่าเขาดูเอกสารแล้วยังสามารถท่องจำเนื้อหาในนั้นได้ ถึงแม้ว่าเรื่องนี้ไม่ถือว่าเป็นการเปิดเผยความลับของเอกสาร แต่จะยังไงเขาก็เสี่ยงอันตรายอยู่ดี ไป๋เสว่เอ๋อร์รู้สึกอุ่นวาบเข้ามาในอกก่อนจะมองหน้าเฉียวเจิ้นแล้วพูดออกมา “ ขอบคุณนะเฉียวเจิ้น ”

เฉียวเจิ้นมองเธอแล้วยิ้ม “ ผมก็ไม่อยากจะให้เธอเป็นอะไรไป ผมเลยยินยอมที่จะช่วย แต่ว่าครั้งหน้ากลัวว่าจะไม่ได้แล้วล่ะ ”

ไป๋เสว่เอ๋อร์เข้าใจแล้วพยักหน้าอย่างจริงจัง

เฉียวเจิ้นผลักเอกสารมาตรงหน้าเธอ “ เธอรีบดูว่าจริงๆแล้วมันมีเงื้อนงำอะไรกันแน่ ”

ไป๋เสว่เอ๋อร์มองดูพักหนึ่งก็รู้ได้ทันทีว่านี่เป็นสมุดบัญชีของบริษัท ถึงแม้จะดูออกว่าเฉียวเจิ้นใช้ความจำเขียนมันออกมาไม่ได้เหมือนทุกอย่างแต่ดูคร่าวๆแล้วเธอก็สามารถคาดเดาได้

ว่านี่ไม่ใช่บัญชีทางการเงินที่เปิดเผยของไป๋ซื่อแต่เป็นสมุดบัญชีลับ เป็นพวกบัญชีสนธิสัญญารายรับรายจ่ายที่ขนาดว่าเธอเองยังไม่รู้ เกี่ยวกับบัญชีของบริษัทถึงแม้ว่าเธอไม่ใช่คนที่ชำนาญการเรื่องนี้แต่ก็รู้ว่าบริษัทใหญ่ขนาดนี้การเงินเข้าๆออกๆจะต้องซับซ้อนพอสมควร การที่รายรับกับรายจ่ายจะเท่ากันนั่นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว แต่ขอแค่เพียงตัวเลขไม่เคลื่อนกันไปมากก็ไม่เป็นไร

แต่เธอเห็นรายการที่ขาดไปของบัญชีแล้วก็รู้ได้เลยว่ามีปัญหาไม่น้อย การตกหล่นต่างๆที่ไม่มีการชดเชย ปัญหาทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัยดังนั้นเธอเดาว่านี่เป็นบัญชีจริงๆของบริษัทและบันทึกข้อมูลที่จริงที่สุด

ไป๋เสว่เอ๋อร์มองเฉียวเจิ้นแล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ ยังมีอันอื่นอีกหรือเปล่า? ”

“ มี ยังมีรูปสองสามใบ ที่ถ่ายรายการเงินฝากในธนาคาร เป็นภาพของเงินและเวลาเงินทั้งหมดโอนไปหาบัญชีนอกประเทศ ”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ได้ยินก็เข้าใจทันทีว่าภาพพวกนั้นเป็นหลักฐานที่มัดตัวพ่อของเธอเกี่ยวกับการทำผิดเรื่องการเงิน

พอเห็นไป๋เสว่เอ๋อร์ที่อยู่ๆก็เงียบไป เฉียวเจิ้นก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้น “ มีเบาะแสอะไรหรือเปล่า? ”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะเอ่ยปากพูดขึ้น “ พวกนี้ล้วนแล้วแต่เป็นหลักฐานที่หนักแน่น แต่ก็ยังหาไม่ได้ว่าคนรายงานเป็นใคร ”

“ แต่ว่า ….” อยู่ๆเธอก็คิดอะไรออกก่อนจะมองไปที่เฉียวเจิ้น “ เอกสารพวกนี้ล้วนแล้วแต่เป็นความลับ เมื่อก่อนฉันก็ทำงานอยู่ที่บริษัทกับคุณพ่อ แต่กลับไม่เคยเห็นพวกนี้มาก่อน ….หรือจะพูดอีกอย่างก็คือ คนที่สามารถเอาเอกสารนี้ออกมาได้ จะต้องเป็นคนใกล้ตัวคุณพ่อนั่นเอง ! ”

เฉียวเจิ้นได้ยินก็พยักหน้า “ น่าจะเป็นแบบนั้น รูปภาพพวกนั้นเหมือนกับว่าจะถ่ายมาอย่างเร่งด่วน แสงก็สลัวๆ ตัวเลขบางอย่างยังมองไม่ชัด ”

ไป๋เสว่เอ๋อร์นวดคิ้วตัวเองแล้วเงียบอยู่พักใหญ่

คนที่สามารถรู้ความลับและอยู่ข้างกายของคุณพ่อได้ จะต้องเป็นคนที่คุณพ่อไว้วางใจมากๆหรือจะเป็นคนตำแหน่งสูงในบริษัท หรือเป็นลูกน้องคนเก่งของคุณพ่อ?

ไป๋เสว่เอ๋อร์คิดไม่ออกแต่ที่สามารถมั่นใจได้ก็คือ วันนี้เธอมีจุดมุ่งหมายแล้วและทำให้วงล้อมของคนที่รายงานพ่อของตัวเองดูเล็กลง

เธอได้สติก็มองไปยังเฉียวเจิ้นก่อนจะยิ้มให้เขา “ เฉียวเจิ้น ไม่ว่าจะยังไงเรื่องนี้ต้องขอบคุณนายมากจริงๆ ทำให้ตอนนี้ฉันก็มีความมั่นใจอยู่บ้าง ”

เฉียวเจิ้นยิ้มแล้วเอาเอกสารทั้งหมดรวบรวมไว้ในแฟ้มก่อนจะผลักมาด้านหน้าของเธอ “ ฉันควรทำอยู่แล้วล่ะ ”

พวกเขาดื่มกาแฟ แล้วก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อย ผ่านไปสักพักเฉียวเจิ้นก็เป็นคนบอกลาก่อน “ นี่ก็มานานแล้ว ก็ว่าจะไปแล้วล่ะตอนบ่ายมีภารกิจต่ออยู่นานไม่ได้ ”

ไป๋เสว่เอ๋อร์พยักหน้าแล้วพูดพร้อมกับยิ้ม “ ได้สิ ฉันก็จะไปแล้วล่ะ ”

เดินออกมาจากร้านกาแฟ รถของเฉียวเจิ้นก็จอดอยู่ด้านหน้า เนื่องจากไม่ใช่ทางเดียวกัน พวกเขาก็เลยแยกกันตรงนั้น

พอคิดถึงที่เฉียวเจิ้นเสี่ยงอันตรายที่เอาเนื้อหาของเอกสารมาให้เธอขนาดนี้ ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็รู้สึกไม่สบายใจแปลกๆ “ เฉียวเจิ้น ขอบคุณนะ ”

เฉียวเจิ้นได้ยินก็ปัดๆมือ “ ไม่เป็นไรวันหลังถ้าเกิดมีอะไรให้ช่วยอีกก็อย่าลืมบอกผมละกัน ”

ไป๋เสว่เอ๋อร์รู้สึกอุ่นวาบในใจก่อนจะยิ้มแล้วพยักหน้า

เพื่อนที่ไม่ได้เจอกันหลายปีมาถึงวันนี้ก็ยังต้องจากกันอีก โอกาสหน้าที่จะได้เจอกันอีกก็เมื่อไหร่ไม่รู้ ไป๋เสว่เอ๋อร์แสดงอาการซาบซึ้งออกทางสีหน้าอ้าแขนออกแล้วเข้าไปกอดเฉียวเจิ้น “ แล้วเจอกันใหม่นะ ”

และในเวลาเดียวกัน บนทางที่อยู่ไม่ไกลก็มีรถ GMC สีเงินจอดอยู่ จินจิงจิงนั่งอยู่บนรถ เมื่อครู่ยังโทษเลขาที่ยังไม่มาส่งกาแฟสักที แต่ในตอนนี้เธอกลับจับโทรศัพท์ข้างตัวขึ้นมาแล้วรีบกดชัตเตอร์อย่างรวดเร็ว

เมื่อก่อนเธอเคยได้ยินเรื่องความสัมพันธ์ของเผยลี่เชินกับไป๋เสว่เอ๋อร์จากเผยอี้มาบ้าง คิดไม่ถึงว่าตอนนี้เธอกลับแอบมาโอบๆกอดๆกับผู้ชายคนอื่นลับหลังเผยลี่เชิน

จินจิงจิงจับโทรศัพท์แน่น พร้อมกับความสุขในใจ เธอแอบด่าในใจ ครั้งนี้ไป๋เสว่เอ๋อร์จะได้ตกอยู่ในกำมือขอเธอสักที

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

Status: Ongoing

บริษัทไป๋ซื่อเกิดเรื่องใหญ่ในด้านการเงิน พ่อของเธอถูกตำรวจพาไป แม่ของเธอก็ป่วย ร่างกายยิ่งอ่อนแอขึ้น เธอต้องการเงิน ต้องการหลักฐาน นอกจากเผยอี้แล้ว เธอนึกไม่ออกว่ายังมีใครที่จะสามารถช่วยเธอได้ แต่สุดท้าย เธอเพียงแค่ได้รับความเยาะเย้ยจากเขา ยังดีที่เผยลี่เชินออกมาช่วยเธอตอนที่เธอสิ้นหวัง ไป๋เสว่เอ๋อร์มอบตัวเองให้กับเขา แต่ความสัมพันธ์ของสองคนกลับยังไม่จบ พวกเขาจะมีเรื่องอะไรกันต่อนะ? คำแนะนำนวนิยาย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท