สัญญาร้ายของประธานปีศาจ – ตอนที่ 207

ตอนที่ 207

ตอนที่ 207 คุณจะต้องไม่เป็นอะไรแน่นอน

เมื่อชายฉกรรจ์คนนั้นได้ยินดังนั้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปในทันที ผู้คนที่อยู่รอบๆ ตัวเขาต่างก็มองไปที่เขาในทางเดียวกัน ดูเหมือนว่าเขาจะทนรับคลื่นความสงสัยจากสายตาของบรรดาเจ้าของร้านค้าไม่ไหว ผู้ชายคนนั้นจึงกำหมัดแน่น และแกล้งตะโกนพูดใส่เผยลี่เชินต่อไปว่า “ใครบอกว่าฉันไม่ใช่เจ้าของร้านค้ากัน! ฉันซื้อที่ไปตั้งสองล็อก! จะไม่ใช่เจ้าของร้านค้าได้อย่างไรกัน!”

เผยลี่เชินคาดการณ์ไว้แล้วว่าเขาจะต้องปฏิเสธอย่างแน่นอน เขาหัวเราะอย่างเย็นชาออกมา เขานิ่งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก้มองไปที่ฝูงชนพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงเข้มว่า “มีคนบางกลุ่มกำลังแฝงตัวอยู่ในฝูงชนนี้ แกล้งทำเป็นเหยื่อ อาศัยเส้นสายในการข่มขู่ผู้คน เจตนาที่จะยุยงให้ผู้คนแตกแยกกัน เจตนาที่จะสุมไฟโกรธของทุกคน ท่านเจ้าของร้านค้าทุกคนจะต้องตาสว่างและมองพวกเขาให้ออกให้ได้ พวกคุณทุกคนกำลังโดนหลอกใช้แล้วล่ะครับ!”

คำพูดที่เต็มไปด้วยความโกรธของเผยลี่เชิน ทำให้บรรดาฝูงชนอึ้งตะลึงกันไปอยู่ครู่หนึ่ง พวกเขาต่างมองหน้ากัน สายตาที่พวกเขามองคนที่ยืนอยู่ข้างกันนั้นมีแต่ความสงสัยเต็มไปหมด

เดิมทีนั้นคนที่ถูกหลอกให้ซื้อพื้นที่ร้านค้าของสแควร์หั้นต๋า ส่วนใหญ่แล้วเป็นผู้สูงอายุที่รู้ไม่เท่าทันสถานการณ์ หูของพวกเขาเชื่อคนง่าย เมื่อได้ฟังคนพูดอะไรเข้าหน่อยก็รู้สึกสนใจอย่างมาก ตอนนี้คนชั่วที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ต่างรู้เรื่องนี้ดี คนพวกนั้นจึงจัดหาคนให้มายังที่นี่เพื่อสุมไฟโกรธและยุยงสร้างปัญหาให้มากขึ้นนั่นเอง

มีเสียงดังขึ้นมาจากกลางฝูงชนอีกครั้ง “ไร้สาระ! เลิกหลอกลวงคนอื่นเสียทีเถอะ! คุณเอาเงินชดเชยที่พวกเราซื้อที่ร้านค้ามาคืนดีกว่า หรือไม่ก็อธิบายอะไรออกมาซะ! ในเมื่อตอนนี้คุณจะสร้างสแควร์ขึ้นมา แล้วร้านค้าที่เคยเป็นของพวกเราจะทำอย่างไรกันล่ะ!”

“ใช่! คืนเงินมา! คืนเงินมาให้พวกเรา!”

เมื่อได้ยินคำว่า “คืนเงิน” ทันใดนั้นบรรดาฝูงชนก็ต่างฮึกเหิมและตะโกนเรียกร้องให้บริษัทคืนเงินในทันที ในครู่นั้นเองที่ทิศทางในการโจมตีของทุกคนก็หันกลับไปที่เผยลี่เชินอีกครั้ง

ฝูงชนส่งเสียงอึกทึกคึกโครม มีบางคนใช้โอกาสนี้ทั้งดึงทั้งผลักกันอยู่ภายในกลุ่มฝูงชน บางคนนั้นอยู่ห่างเผยลี่เชินไม่ถึง 1 เมตรด้วยซ้ำ ถ้าเกิดยกท่อนไม้ที่อยู่ในมือขึ้นมา ก็สามารถที่จะทำร้ายเผยลี่เชินได้ในทันที

เผยลี่เชินไม่รู้สึกตกใจกลัวแต่อย่างใด ในขณะที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งหลายต่างรีบพากันล้อมรอบและดูแลเขาให้ดียิ่งกว่าเดิม

เผยลี่เชินหยิบโทรโข่งที่อยู่ในมือของฉีเฟิงขึ้นมา พร้อมกับตะโกนพูดออกไปว่า “พวกคุณทุกคนฟังผม! ถ้าพวกคุณยังคงประท้วงกันอยู่แบบนี้ บริษัทเผยซื่อจะไม่จ่ายเงินชดเชยอะไรเลยสักหยวนเดียว!”

ทันทีที่เขาพูดจบ บรรดาฝูงชนต่างเงียบสงบลงมากทีเดียว

เดิมทีนั้น ภายในหัวใจของเจ้าของร้านค้าต่างรู้อยู่ชัดเจนแล้ว พวกเขาไม่ได้มีอำนาจอะไรมากมาย และพวกเขาก็ไม่ใช่ศัตรูของเผยซื่อตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ตอนนี้ทุกคนกล้าที่จะมายืนขวางประตูก็เพราะอาศัยพลังมวลชน ถ้าเกิดพวกเขาคิดที่จะมาแลกเลือดกับเผยซื่อจริงๆ แล้วล่ะก็ เกรงว่าคงไม่มีฝ่ายไหนได้ประโยชน์อะไรทั้งสิ้น

เผยลื่อเชินกวาดสายตามองไปรอบๆ ฝูงชน และสายตาของเขาไปหยุดลงที่ชายฉกรรจ์ที่เป็นผู้นำในการตะโกนประท้วงเมื่อครู่ เขานิ่งไปครู่หนึ่ง และผลักเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่ตรงหน้าเขา พร้อมกับเดินตรงไปหาชายฉกรรจ์คนนั้น

เมื่อครู่นี้ ผู้ชายคนนั้นยืนอยู่ในฝูงชนด้วยความเชื่อมั่นในฝีมือของตัวเองอย่างมาก แต่เมื่อตอนนี้เขาถูกเผยลี่เชินจ้องมองอย่างไม่ลดละ เห็นได้ชัดว่าความมั่นใจของเขาลดลงไปมากทีเดียว เขาค่อยๆ ถอยหลังไป แต่ทว่าด้านหลังของเขานั้นกลับเต็มไปด้วยผู้คน แม้คิดอยากจะถอยหลังกลับ แต่ก็ไม่อาจถอยหลังกลับออกไปจากฝูงชนได้

เผยลี่เชินจ้องไปที่ผู้ชายคนนั้น พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงเข้มว่า “ในเมื่อคุณพูดแล้วว่าคุณซื้อที่ร้านค้าในสแควร์หั้นต๋าไปสองล็อก ถ้าอย่างนั้นคุณก็บอกผมหน่อยสิ ว่าร้านค้าของคุณอยู่ตรงไหน”

เห็นได้ชัดว่าผู้ชายคนนั้นคาดไม่ถึงว่าเผยลี่เชินจะกล้าถามอะไรแบบนี้ เขาอึ้งไปครู่หนึ่ง อึกอักไม่สามารถตอบได้ แต่เขาก็ยังแกล้งทำเป็นนิ่งและยังคงดื้อด้านตอบกลับไปว่า “ร้านค้าของผมอยู่ที่ไหนก็ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ! มันก็อยู่บนชั้นสูงๆ ของสแควร์หั้นต๋าที่ยังสร้างไม่เสร็จนั่นแหละ…”

เมื่อได้ยินดังนั้น เผยลี่เชินก็ยิ้มออกมา จากนั้นเขาก็มองไปที่ผู้ชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ข้างๆ เขา พร้อมกับเอ่ยปากถามเขาว่า “ร้านค้าของคุณอยู่บริเวณไหน ยังพอจำได้ไหมครับ”

ชายวัยกลางคนคนนั้นลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ตอบกลับมาว่า “อยู่ที่บล็อกบี มุมตึกชั้นสาม หมายเลข 276”

เผยลี่เชินพยักหน้า สายตาของเขาย้ายกลับไปมองที่ชายฉกรรจ์คนที่ก่อเรื่องอีกครั้ง “คุณจ่ายเงินไปแล้ว แต่กลับจำที่อยู่ร้านค้าของตัวเองไม่ได้ ทั้งนี้ทั้งนั้น นั่นก็เป็นเพราะว่า…”

เผยลี่เชินลากเสียงของเขา สายตาของเขามองคมเข้มมากขึ้น “คุณไม่ใช่เจ้าของร้านค้าแต่แรกแล้ว แต่คุณถูกใครบางคนส่งมาสร้างความวุ่นวายที่นี่!”

เมื่อเผยลี่เชินพูดจบลง เจ้าของร้านค้าที่ยืนอยู่ข้างๆ ต่างพากับมองตรงไปที่ผู้ชายคนนั้นทีละคนๆ ครั้งนี้กลับไม่มีใครพยายามยุยงให้เกิดความโกลาหลขึ้นมาอีกแล้ว

ถ้าเกิดว่าเขาได้ซื้อที่ร้านค้าจริง เขาจะต้องจำที่อยู่และหมายเลขของร้านค้าได้อย่างแน่นอน การที่เขาพยายามตอบปัดแบบนี้ แสดงว่าเขาต้องมีปัญหาอย่างแน่นอน

“ผมเปล่าสักหน่อย!” ชายคนนั้นยังคงพยายามปั้นน้ำเป็นตัว แต่ทว่าในสายตาของบรรดาฝูงชนที่อยู่ตรงข้ามนั้น ทุกคำอธิบายนั้นต่างไม่มีน้ำหนักและไร้ความน่าเชื่อถือโดยสิ้นเชิง

เผยลี่เชินรีบหันไปมองเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่ด้านหลัง เพียงแค่เขามองมา บรรดาเจ้าหน้าที่ก็เข้าใจในทันที และรีบเดินมายังข้างหน้า และจับตัวคนที่น่าสงสัยคนนั้นออกไปจากกลุ่มฝูงชน

ทันใดนั้นสถานการณ์ก็วุ่นวายขึ้นในทันที เมื่อกลุ่มคนที่น่าสงสัยพวกนั้นเห็นว่าไม่สามารถแสร้งทำต่อไปได้แล้ว และพวกเขาเองก็ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยล้อมรอบจนไม่สามารถหนีไปได้ จากนั้นพวกเขาจึงหยิบท่อนไม้หน้าสามที่อยู่ในมือขึ้นมากวัดแกว่งและเหวี่ยงมันในทันที

เมื่อเจ้าของร้านค้าเห็นว่าสถานการณ์กลายเป็นเช่นนี้แล้ว ความตั้งใจอันแน่วแน่และความมุ่งมั่นเมื่อครู่ก็หายไปมากทีเดียว ค่อยๆ หลบไปซ่อนตัวที่ด้านข้างกันทีละคน มีชายผู้ต้องสงสัยคนหนึ่งยืนอยู่ใกล้เผยลี่เชินมาก เมื่อเห็นว่าเผยลี่เชินอยู่คนเดียว เขาจึงคว้าท่อนไม้ขึ้นมา และเดินไปทางเผยลี่เชิน เผยลี่เชินยกมือขึ้นมาและใช้แขนอันเพรียวบางของเขาเพื่อป้องกันท่อนไม้ท่อนนั้น และยกเท้าของเขาขึ้นมาและเตะชายคนนั้นให้ล้มลงไปอย่างกราดเกรี้ยว

ไป๋เสว่เอ๋อร์ถูกคนขับรถแท็กซี่มาปล่อยลงตรงสี่แยก เธอรีบเดินอย่างกังวลใจอยู่สักพัก ไม่ช้าเธอก็เห็นกลุ่มฝูงชนที่ยืนจอแจกันอยู่ที่หน้าประตูทางเข้าของเผยซื่อจากระยะไกล หัวใจของเธอก็จุกแน่นขึ้นมาในลำคอทันที

เธอรีบสาวเท้าเดินเข้าไปใกล้ ครั้งนี้เธอจึงเห็นว่าในกลุ่มฝูงชนนั้นมีทั้งคนที่กำลังหาทางหนี ในขณะที่บางส่วนก็กำลังต่อสู้วุ่นอยู่กับกลุ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ทั้งเตะต่อยตะลุมบอนกันทั้งสองฝ่าย

สายตาของไป๋เสว่เอ๋อร์มองไปยังกลุ่มฝูงชน ในที่สุดเธอก็มองเห็นเผยลี่เชิน เมื่อเธอเห็นว่ามีใครบางคนกำลังคว้าท่อนไม้มาต่อสู้กับเขาอยู่นั้น หัวใจของเธอก็รู้สึกบีบแน่นขึ้นมาในทันที เธอรีบวิ่งเข้าไปกลางฝูงชนโดยไม่คิดถึงสิ่งใดทั้งนั้น

เธอรู้ดีว่าตัวเองไม่ควรโกรธเขาเพราะเรื่องของคุณแม่ไป๋เอาเสียเลย และยิ่งไม่ควรหนีไปไม่อยู่ข้างกายเขาในกรณีฉุกเฉินและสำคัญเท่าชีวิตแบบนี้ด้วย

ไป๋เสว่เอ๋อร์รู้สึกเจ็บปวด เธอคิดแต่เพียงว่าจะต้องไปอยู่ข้างกายเขาให้เร็วที่สุด ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเขานั้นไม่บาดเจ็บตรงไหน ทุกอย่างยังเรียบร้อยและสบายดีทั้งหมด

เผยลี่เชินเพิ่งจัดการคว่ำชายคนหนึ่งไปนอนกองอยู่ที่พื้นได้ เขาใช้เท้าข้างหนึ่งของเขากระทืบมือของชายคนนั้น และดึงเอาท่อนไม้ที่อยู่ในมือของชายคนนั้นออกมา และก่อนที่เขาจะยืนขึ้นตั้งตัวตรงได้นั้น เขาก็ได้ยินเสียงเสียงหนึ่งที่คุ้นหูเขามากเหลือเกิน

“ระวังค่ะ!”

ไม่กี่วินาทีต่อมา เขาก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่บริเวณหลังของเขา ราวกับว่าเขากำลังถูกใครบางคนกอดอยู่ที่ด้านหลังของเขา

“ปั้ก!”

เมื่อเผยลี่เชินได้ยินเสียงเสียงหนึ่งดังขึ้นใกล้ตัว เสียงนั้นคล้ายกับว่ามีคนเพิ่งถูกท่อนไม้ฟาดเข้าใส่ แผ่นหลังของเขาสั่นสะเทือนเล็กน้อย แต่กลับไม่รู้สึกเจ็บปวดแต่อย่างใด

เผยลี่เชินรีบหันหลังกลับมาในทันที เมื่อเขาได้เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยนั้น ทันใดนั้น ใบหน้าที่เคยเรียบเฉยของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วในทันที “ไป๋เสว่เอ๋อร์!”

เมื่อเขาหันกลับมา ไป๋เสว่เอ๋อร์กลับขมวดคิ้วแน่น และร่างของเธอก็ค่อยๆ อ่อนแรงลง เผยลี่เชินรีบเอื้อมมือของเขาออกไปประคองร่างของเธอเอาไว้

เมื่อชายฉกรรจ์ที่กำลังถือท่อนไม้และอยู่ห่างออกไป 1 เมตรเห็นว่าตัวเองทำร้ายคนผิดนั้น เขาก็ตะลึงงันไปชั่วครู่หนึ่ง

ทันใดนั้น ความโกรธของเผยลี่เขินก็ปะทุขึ้นมาภายในตัวทันที เขายกเท้าขึ้น และเตะอัดเข้าไปที่ลำตัวของผู้ชายคนนั้นอย่างรุนแรงโดยไม่มีการเบามือแต่อย่างใดเลยสักนิดเดียว

ชายคนนั้นครวญครางเพราะความเจ็บปวด เขาถอยหลังไป 2-3 ก้าว จากนั้นก็ล้มลงฟาดกับพื้นอย่างรุนแรง

เผยลี่เชินไม่ได้สนใจเขามากนัก เมื่อเขาก้มลงและมองเห็นว่าใบหน้าของไป๋เสว่เอ๋อร์ค่อยๆ ซีดเผือดไร้สีเลือด ขณะที่เขากำลังจะโน้มตัวลงไปอุ้มเธอขึ้นมา ใครจะไปคาดคิดว่าตอนที่เขาสัมผัสเข้าที่ด้านหลังศีรษะของเธอ เขาก็รู้สึกได้ถึงเลือดอุ่นๆ ที่ไหลออกมานองเต็มมือ

เขาอึ้งไปครู่หนึ่ง หัวใจของเขาเริ่มตกใจกลัว “ไป๋เสว่เอ๋อร์! ไม่ต้องกลัวนะ! ผมจะพาคุณไปโรงพยาบาลเอง!”

ไป๋เสว่เอ๋อร์เจ็บจนไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ไหว ไม่มีเสียงใดลอดผ่านริมฝีปากของหญิงสาวออกมาได้เลย

เผยลี่เชินรีบอุ้มเธอขึ้นมา และรีบเดินออกไปข้างนอกในทันที เมื่อเขาเห็นว่าบรรดาชายฉกรรจ์ทั้งหลายที่ก่อความวุ่นวายถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจับกุมเรียบร้อยแล้ว สายตาที่แดงก่ำของเขาจ้องมองไปที่ชายกลุ่มนั้น พร้อมกับพูดด้วยความโกรธจัดว่า “จับตัวพวกมันเอาไว้ให้เรียบร้อย! อย่าให้รอดไปได้แม้แต่คนเดียว! ฉันจะกลับมาสอบสวนมันด้วยตัวเอง!”

เมื่อเขาพูดจบ เขาก็อุ้มไป๋เสว่เอ๋อร์ขึ้นมาและรีบเดินฝ่าฝูงชนไปขึ้นรถที่จอดรออยู่ในทันที

เขาเอามือข้างหนึ่งห้ามเลือดที่ด้านหลังศีรษะของไป๋เสว่เอ๋อร์เอาไว้ แต่เลือดกลับไหลออกมาไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลยสักนิดเดียว น้ำเสียงของเขาเครียดขึ้นอย่างมาก “ไป๋เสว่เอ๋ฮร์ คุณจะต้องไม่เป็นอะไรแน่นอน!”

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

Status: Ongoing

บริษัทไป๋ซื่อเกิดเรื่องใหญ่ในด้านการเงิน พ่อของเธอถูกตำรวจพาไป แม่ของเธอก็ป่วย ร่างกายยิ่งอ่อนแอขึ้น เธอต้องการเงิน ต้องการหลักฐาน นอกจากเผยอี้แล้ว เธอนึกไม่ออกว่ายังมีใครที่จะสามารถช่วยเธอได้ แต่สุดท้าย เธอเพียงแค่ได้รับความเยาะเย้ยจากเขา ยังดีที่เผยลี่เชินออกมาช่วยเธอตอนที่เธอสิ้นหวัง ไป๋เสว่เอ๋อร์มอบตัวเองให้กับเขา แต่ความสัมพันธ์ของสองคนกลับยังไม่จบ พวกเขาจะมีเรื่องอะไรกันต่อนะ? คำแนะนำนวนิยาย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท