สัญญาร้ายของประธานปีศาจ – ตอนที่ 216

ตอนที่ 216

ตอนที่ 216 สวมรองเท้าที่พอดี

ในตอนที่กลับมาถึงคฤหาสน์นั้น สีของท้องฟ้าได้มืดลงแล้ว ไป๋เสว่เอ๋อร์เปลี่ยนรองเท้า วางกระเป๋าลงอยู่บริเวณหน้าประตู ก้าวขาเตรียมตัวจะขึ้นไปชั้นบน

ป้าจางเดินเข้ามาต้อนรับ “คุณหนูไป๋ทานอะไรมาหรือยังคะ?”

ไป๋เสว่เอ๋อร์พยักหน้าเล็กน้อย “ทานแล้วค่ะ ทานมาจากข้างนอก”

ป้าจางลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเอ่ยเตือนขึ้นว่า “ใช่แล้วค่ะคุณหนูไป๋ คุณผู้ชายเพิ่งกลับมาได้ไม่นาน ดื่มเหล้ามานิดหน่อย”

ไป๋เสว่เอ๋อร์พยักหน้าเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไร ก้าวขาเดินขึ้นไปชั้นบน

ช่วงนี้บริษัทมีเรื่องมากมาย บวกกับเผยอี้มาก่อเรื่องในวันนี้อีก เรื่องซุบซิบนินทาต่างๆต่างก็แพร่กระจายไปทั่วทั้งบริษัท เขาอารมณ์ไม่ดีก็เป็นเรื่องปกติ

เดินมาถึงหน้าบันได ฝีก้าวของไป๋เสว่เอ๋อร์หยุดชะงักลง หันหลังกลับไปยังห้องครัวใหม่อีกครั้ง อุ่นนมร้อนแก้วนึง ถือโอกาสนำขึ้นไปข้างบน

พอเดินเข้ามาในห้องนอน ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็เห็นเผยลี่เชินยืนอยู่ตรงระเบียง สวมใส่ชุดคลุมอาบน้ำ บนผมยังมีหยดน้ำหยดลงมาอยู่

เธอเดินเข้าไปใกล้เล็กน้อย ถึงได้เห็นชัดว่าในมือของเผยลี่เชินถือแก้วไวน์อยู่ ชั่วพริบตา สีหน้าของเธอก็อึมครึมลงในทันที

ออกไปงานสังคมดื่มเหล้าก็พอว่า ทำไมกลับมายังจะดื่มอีก?

เธอโกรธขึ้นมาเล็กน้อย นำแก้วนมที่อยู่ในมือวางลงบนโต๊ะอย่างไม่หนักและไม่เบามากนัก จากนั้นนั่งลงบนโซฟาที่อยู่ด้านข้าง

เผยลี่เชินได้ยินเสียงการเคลื่อนไหว หันหน้ากลับมาเห็นเธอ ก็ก้าวขาเดินเข้ามา

มองเห็นแก้วนมที่อยู่บนโต๊ะนั่น เผยลี่เชินก็เลิกคิ้วเล็กน้อย “ให้ผมหรอ?”

“เปล่าค่ะ” ไป๋เสว่เอ๋อร์มีความโกรธอยู่เล็กน้อย ยกแก้วนมขึ้นมาดื่มเข้าไปคำใหญ่ สายตาไม่ได้มองไปที่เผยลี่เชินเลยแม้แต่แวบเดียว

เผยลี่เชินโน้มตัว วางแก้วไวน์ที่อยู่ในมือลง จากนั้นยื่นมือเข้ามา “ให้ผม”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ตอบปฏิเสธเสียงแข็ง “ไม่ให้”

ดูเหมือนจะรู้สึกว่าท่าทางโกรธของไป๋เสว่เอ๋อร์นั้นน่าขำ เผยลี่เชินยกมือขึ้น บีบไปบนปลายนิ้วมือที่ถือแก้วเอาไว้แน่นของไป๋เสว่เอ๋อร์เบาๆ “ยังโกรธเพราะเรื่องในเช้านี้อยู่หรอ?”

ช่วงเช้าเขาอารมณ์เสีย ท่าทีที่ปฏิบัติต่อไป๋เสว่เอ๋อร์จึงเย็นชาไปสักหน่อยอย่างยากที่จะหลีกเลี่ยงได้

ไป๋เสว่เอ๋อร์เบือนสายตาหนี ไม่ตอบอะไรออกมาสักคำ

เผยลี่เชินดึงแก้วที่อยู่ในมือของเธอออก จากนั้นแยกช่วงแขนทั้งสองข้างของเธอออกจากกัน กดไปบนที่วางมือทั้งสองข้างของโซฟาสำหรับนั่งคนเดียว จากนั้นเข้าใกล้ไป๋เสว่เอ๋อร์ไปอย่างช้าๆ

ไป๋เสว่เอ๋อร์หันหน้ากลับมาอย่างรุนแรง “คุณจะทำอะไร…”

เธอนั่งอยู่บนโซฟาสำหรับนั่งคนเดียว ถูกท่าทางนี้ของเผยลี่เชินควบคุมเอาไว้อย่างแน่นหนา จะหนีก็ไม่มีที่จะให้หนี

“ช่วยคุณกำจัดความโกรธ” เผยลี่เชินเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ ในขณะที่พูด อยู่ๆเขาก็เงยหน้าขึ้น ประกบไปบนริมฝีปากของไป๋เสว่เอ๋อร์ในทันที

ไป๋เสว่เอ๋อร์ตกตะลึงไปชั่วขณะ รู้สึกได้ถึงกลิ่นแอลกอฮอล์อ่อนๆกระจายอยู่ในปากของเธอ คละคลุ้งไปทั่ว ชั่วพริบตา คิดไม่ถึงว่าจะมีความรู้สึกล่องลอยเหมือนถูกแอลกอฮอล์ทำให้สูญเสียการรับรู้ไปยังไงอย่างงั้น

เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย ยื่นมือออกไปจะผลักเผยลี่เชินออก แต่ใครจะรู้ว่ามือทั้งสองข้างกลับถูกฝ่ามือใหญ่ของชายหนุ่มรวบเอาไว้อย่างแม่นยำ เธอจะสะบัดยังไงก็สะบัดไม่ออก

อยู่ๆ ช่วงเอวก็ตึงแน่น ทั้งตัวของเธอถูกอุ้มขึ้นมา ไป๋เสว่เอ๋อร์ยื่นมือออกไปโดยจิตใต้สำนึก โอบรอบคอของเผยลี่เชินเอาไว้แน่นในทันที

ชายหนุ่มหมุนตัวครั้งเดียว ชั่วขณะก็เปลี่ยนเป็นเขาที่นั่งลงบนโซฟา และเธอกลับนั่งอยู่บนตัวของเขา…

เผยลี่เชินโอบเธอเข้ามาไว้ในอ้อมกอด เอ่ยปากขึ้นเหมือนยิ้มแต่กลับไม่ได้ยิ้มว่า “ยังโกรธอยู่ไหม?”

ไป๋เสว่เอ๋อร์เข้าใจกลอุบายของเผยลี่เชินอย่างชัดเจนแจ่มแจ้งมาตั้งนานแล้ว รู้ว่าหากเธอพูดว่าโกรธ เขาจะต้องจูบอย่างเร่าร้อนมาอีกครั้งเพื่อบีบบังคับให้เธอยอมอ่อนข้ออย่างแน่นอน

เธอส่ายศีรษะอย่างรู้สถานการณ์ “ไม่โกรธแล้วค่ะ”

เผยลี่เชินได้ยินดังนั้น รอยยิ้มที่อยู่ในดวงตายิ่งเข้มข้นขึ้น “งั้นดีมาก ผมพาคุณไปอาบน้ำ”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ได้ฟัง สีหน้าก็ซีดเผือดขึ้นมาในทันที “คุณไม่ใช่ว่า…อาบไปแล้วหรอคะ?”

“อื้ม คราวนี้เป็นเพื่อนคุณ”

ในขณะที่พูด เขาก็ลุกยืนขึ้น อุ้มไป๋เสว่เอ๋อร์เดินไปยังห้องอาบน้ำในทันที

ในใจของไป๋เสว่เอ๋อร์ตื่นตระหนกและวุ่นวายไปหมด ดูแล้ว ไม่ว่าเธอจะพูดยังไง ต่างก็หลีกไม่พ้นกลอุบายของเผยลี่เชิน…

หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมงกว่า ไป๋เสว่เอ๋อร์อ่อนระทวยไปทั่วทั้งตัว เพิ่งกำลังจะปิดตาลง เผยลี่เชินก็แนบมาที่ข้างใบหูของเธอ เอ่ยปากขึ้นอย่างกระซิบว่า “วันนี้ท่าทีที่ปฏิบัติต่อคุณไม่ดี เป็นความผิดของผมเอง”

ความโกรธของเธอหายไปตั้งนานแล้ว สำหรับท่าทีของไป๋เสว่เอ๋อร์ในช่วงนี้นั้น เธอก็สามารถที่จะเข้าใจได้

เธอขยับตัวเล็กน้อยในผ้าห่ม ถือโอกาสขยับตัวอย่างช้าๆเข้าไปในอ้อมแขนของเขาอีกครั้ง “ฉันรู้ค่ะ”

“อื้ม” เผยลี่เชินโน้มศีรษะลงมา จูบเบาๆลงบนหน้าผากของเธอ แล้วเอ่ยขึ้นต่อไปว่า “เรื่องไฟล์จดหมายรายงาน ผมช่วยคุณติดต่อแล้ว สุดสัปดาห์นี้ผมพาคุณไปดูต้นฉบับ”

ไป๋เสว่เอ๋อร์รู้สึกดีใจขึ้นมา รีบเงยหน้าขึ้นไปมองเผยลี่เชิน “งั้นถึงเวลาพวกเราก็พอจะสามารถแน่ใจตัวคนรายงานได้แล้วสิคะ!”

“ใช่”

ปัญหาเรื่องนี้ถูกแก้ไข ก็จะไม่ต้องถูกไป๋เสว่เอ๋อร์พะว้าพะวังค์อีกต่อไป รู้ว่าใครคือคนรายงาน ย่อมดีกว่าอยู่ในกะลาครอบไม่รู้เรื่องอะไรเลย

วันถัดมา ระยะห่างจากการประกาศงานแข่งขันประมูลเหลือเวลาเพียงแค่อีกหนึ่งวัน ผู้จัดการฝ่ายวางแผนเข้าร่วมการวางแผนหนังสือการแข่งขันประมูลในครั้งนี้ ปรับปรุงแก้ไขหลายต่อหลายครั้ง ในที่สุดก็นำหนังสือแผนการที่แก้ไขจนพอใจที่สุดส่งเข้ามา

หลังจากที่เผยลี่เชินดูไปหนึ่งรอบ ก็ชี้จุดที่เพอร์เฟคไม่มากพอออกมาสองสามด้าน ให้ฝ่ายวางแผนกลับไปปรับปรุงแก้ไขต่อไป

ยุ่งมาตลอดหนึ่งวัน ในที่สุดก็ตัดสินใจยึดเอาหนังสือแผนการฉบับสุดท้าย ฝ่ายวางแผนถึงได้ถอนหายใจยาวออกมาอย่างโล่งอก

ในห้องทำงาน เผยลี่เชินสั่งไป๋เสว่เอ๋อร์ที่อยู่ด้านข้างด้วยสีหน้าที่จริงจัง “หนังสือการแข่งขันประมูลในครั้งนี้ยังไม่ถือว่าเพอร์เฟค กรณีศึกษาบนหนังสือโครงการฉบับนั้นที่ผมให้กับคุณเมื่อวานนำมาอ้างอิงสักหน่อยได้ เพิ่มเติมรายการข้อกำหนดสุดท้ายสักหน่อย”

“เข้าใจแล้วค่ะ” ไป๋เสว่เอ๋อร์พยักหน้าตอบรับ รีบนำหนังสือการแข่งขันประมูลไปทำให้เสร็จสมบูรณ์อีกครั้งในทันที”

นี่เดิมทีควรจะเป็นงานของฝ่ายวางแผน แต่เผยลี่เชินกลับนำงานแก้ไขประดับประดาตัวอักษรส่วนสุดท้ายมอบให้กับเธอ เห็นได้ว่าเขามีความไว้วางใจต่อเธอมากแค่ไหน

หลังจากที่แก้ไขเสร็จ ในขณะที่ไป๋เสว่เอ๋อร์กำลังคิดจะนำต้นฉบับสุดท้ายไปส่งให้เผยลี่เชินนั้น อยู่โทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะก็ดังขึ้นมา

เป็นรีเซฟชั่นที่โทรเข้ามา “คุณเลขาไป๋ ทางนี้มีพัสดุของคุณรอการรับค่ะ รบกวนคุณลงมาเซ็นต์ชื่อหน่อยนะคะ”

พัสดุ? ช่วงนี้เธอไม่ได้ซื้ออะไรนี่นา พัสดุมาจากไหน?

ไป๋เสว่เอ๋อร์สับสนมึนงงไปหมด ทำได้เพียงเอ่ยปากตอบรับไปก่อน “ค่ะ ฉันจะลงไปเดี๋ยวนี้”

ไป๋เสว่เอ๋อร์หยิบหนังสือการแข่งขันประมูลขึ้นมา คิดจะนำเอกสารไปส่งก่อนแล้วค่อยลงไป แต่คิดไม่ถึงว่าเผยลี่เชินจะไม่ได้อยู่ที่ห้อง เธอคิดอยู่ครู่หนึ่ง ยังไงก็หยิบหนังสือการแข่งขันประมูลกลับไปที่ห้องทำงานของตนเอง

นำหนังสือการแข่งขันประมูลวางลงในลิ้นชักแล้ว ไป๋เสว่เอ๋อร์ถึงได้ลงไปชั้นล่าง

เงาร่างของเธอเพิ่งจะหายไปจากที่สิ้นสุดระเบียงทางเดิน ทันใดนั้นประตูห้องทำงานที่อยู่ข้างๆห้องทำงานของเธอก็เปิดออก สวี่เยว่หรูเดินออกมา ในมือหอบเอกสารกองหนึ่ง เดินตรงเข้าไปในห้องทำงานของไป๋เสว่เอ๋อร์ในทันที

เอกสารที่อยู่บนโต๊ะทำงานที่สะอาดเพียงแค่แวบเดียวก็มองเห็น สวี่เยว่หรูวางเอกสารที่อยู่ในมือลง เปิดพลิกดูรอบหนึ่งอย่างรวดเร็ว

คิดไม่ถึงเลยว่าจะไม่มีหนังสือแผนการที่เธอกำลังหา!แต่เมื่อครู่นี้เธอเห็นอย่างชัดเจนว่าเธอหยิบออกจากห้องทำงานไปแล้วหยิบกลับมาใหม่อีกครั้งนี่นา!

หัวใจของสวี่เยว่หรูเต้นเร็วมากยิ่งขึ้น ในเวลานี้ด้านนึงคอยสังเกตการเคลื่อนไหวที่หน้าประตูด้วยความระมัดระวัง อีกด้านนึงเร่งเปิดหาอย่างยุ่งวุ่นวายไปหมด

ในที่สุด สายตาของเธอก็หยุดอยู่บนลิ้นชัก พอเธอยื่นมือออกไปดึงออก ในขณะที่มองเห็นเอกสารฉบับนั้นนอนแผ่หลาอยู่ด้านใน สายตาก็เปล่งประกายความตื่นเต้นดีใจออกมาในทันที

เธอรีบนำโทรศัพท์มือถือออกมา ถ่ายเนื้อหาในหนังสือการแข่งขันประมูลเอาไว้ทีละหน้า ทีละหน้า ไม่ตกหล่นแม้แต่ตัวอักษรเดียว

ทำทุกอย่างนี้เสร็จแล้ว เธอก็นำเอกสารกลับไปวางไว้ที่เดิมอีกครั้ง รีบเดินออกจากห้องทำงานด้วยท่าทางปกติในทันที

ไป๋เสว่เอ๋อร์เดินมาถึงห้องโถงใหญ่ เห็นเคาน์เตอร์วางกล่องของขวัญเอาไว้กล่องหนึ่ง พนักงานรีเซฟชั่นโบกมือให้กับไป๋เสว่เอ๋อร์ด้วยรอยยิ้ม “คุณเลขาไป๋ พัสดุของคุณค่ะ!”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ส่งยิ้มให้กับเธอเล็กน้อย ก้มศีรษะเซ็นต์ชื่อลงในใบรับของ จากนั้นถือโอกาสเปิดกล่องออก

ด้านในมีรองเท้าส้นเตี้ยสีเงินอยู่คู่หนึ่ง หัวปลายแหลมที่ประณีต ส้นรองเท้าที่เล็กแต่ละเอียดพิถีพิถัน ยังเป็นรุ่นลิมิเต็ดของแบรนด์คู่หนึ่งอีกด้วย

ในนั้นยังมีกระดาษโน้ตแผ่นนึงวางอยู่ที่มุมกล่อง ไป๋เสว่เอ๋อร์หยิบขึ้นมาดู บนนั้นเขียนว่า “สวมรองเท้าที่พอดีกับเท้า ถึงจะไม่หกล้ม”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย ทันใดนั้นก็คิดถึงเรื่องที่พบกับเสิ่นหรูเฟิงในสวนดอกไม้ใจกลางเมื่อวานนี้ขึ้นมาได้ในทันที

พนักงานรีเซฟชั่นประชิดเข้ามาอย่างสอดรู้สอดเห็น มองดูรองเท้าที่อยู่ในกล่องแวบนึง ก็ส่งเสียงอุทานออกมาในทันทีว่า “สวยเกินไปหรือเปล่าเนี่ย!คุณเลขาไป๋ ใครส่งมาให้คุณคะ? ท่านประธานเผย? หรือว่าคนมาจีบ?”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ส่งยิ้มให้กับเธอเล็กน้อย ไม่ได้ตอบอะไร แต่กลับหันหน้ามองไปยังรอบๆด้านแทน

ในที่สุด เธอก็เห็นที่หน้าประตูใหญ่ ดูเหมือนมีเงาร่างที่ค่อนข้างจะคุ้นตายืนอยู่

สวมชุดสูทสีเทาควันบุหรี่ ผู้ชายที่ใบหน้าแฝงไปด้วยรอยยิ้มมองมาทางที่เธอยืนอยู่ ไม่ใช่เสิ่นหรูเฟิงแล้วจะเป็นใคร

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

Status: Ongoing

บริษัทไป๋ซื่อเกิดเรื่องใหญ่ในด้านการเงิน พ่อของเธอถูกตำรวจพาไป แม่ของเธอก็ป่วย ร่างกายยิ่งอ่อนแอขึ้น เธอต้องการเงิน ต้องการหลักฐาน นอกจากเผยอี้แล้ว เธอนึกไม่ออกว่ายังมีใครที่จะสามารถช่วยเธอได้ แต่สุดท้าย เธอเพียงแค่ได้รับความเยาะเย้ยจากเขา ยังดีที่เผยลี่เชินออกมาช่วยเธอตอนที่เธอสิ้นหวัง ไป๋เสว่เอ๋อร์มอบตัวเองให้กับเขา แต่ความสัมพันธ์ของสองคนกลับยังไม่จบ พวกเขาจะมีเรื่องอะไรกันต่อนะ? คำแนะนำนวนิยาย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท