ตอนที่ 301 เป็นเพียงแค่หมากเกมส์ของเขาเท่านั้น
“จริงเหรอ!” ไป๋เสว่เอ๋อทั้งตกใจทั้งดีใจจนเกือบจะตกจากเก้าอี้ “เป็นพวกเราจริงๆงั้นเหรอ!”
“ใช่ ตอนบ่ายผมจะไปพบผู้รับผิดชอบโครงการก่อสร้างกับฝ่ายอสังหาริมทรัพย์หลินวู่”
“เยี่ยมไปเลย!” ไป๋เสว่เอ๋อปลาบปลื้มดีใจ จนน้ำตาเกือบปริ่มล้นออกมา
ช่วงเวลาที่ผ่านมา หล่อนทุ่มเทพยายามให้กับการประมูลครั้งนี้มาก หล่อนต้องรับมือกับความกดดันจากคู่แข่ง อีกทั้งยังต้องแบกรับความกดดันจากผู้ถือหุ้นในบริษัท ทุกคืนหล่อนต้องข่มตานอนหลับอย่างไม่สบายใจ มาวันนี้คิดไม่ถึงเลยว่า พวกเขาจะชนะการประมูลครั้งนี้!
คู่สายมีน้ำเสียงอันอบอุ่นของฝ่ายชายดังขึ้น “ตอนบ่ายคุณพักผ่อนอยู่ที่บ้านเถอะ ผมคงต้องไปงานเลี้ยงตอนกลางคืน ไว้ผมจะหาเวลาไปอยู่กับคุณวันอื่นนะ”
“ตอนบ่ายฉันจะไปบริษัท อยู่บ้านฉันก็ว่างจนไม่รู้จะทำอะไร” ไป๋เสว่เอ๋อขำเล็กน้อย “คุณไม่ต้องเป็นห่วงฉัน คุณไปงานเลี้ยงเถอะค่ะ” หลังจากวางสาย ไป๋เสว่เอ๋อรีบทานอาหารเช้าให้เสร็จ พักสักครู่หนึ่ง จากนั้นก็ออกเดินทางตรงไปที่บริษัท
ข่าวการชนะประมูลแพร่สะพัดไปทั่วบริษัท ไป๋เสว่เอ๋อเพิ่งเดินไปถึงห้องทำงานของประธานบริหาร เสี่ยวจางก็ออกมาต้อนรับทันที “พี่เสว่เอ๋อ ประธานเผยไปงานเลี้ยงข้างนอกแล้วค่ะ น่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับโครงการก่อสร้าง”
“ฉันรู้แล้ว ตอนนี้ยังมีงานอะไรที่ฉันต้องจัดการอีก ส่งมาให้ฉันได้เลย”
“โอเคค่ะ รอสักครู่นะคะ ฉันจะส่งให้เดี๋ยวนี้เลย”
ไป๋เสว่เอ๋อกลับไปที่ห้องทำงานด้วยสีหน้าที่อารมณ์ดีเป็นพิเศษ มองดูภายในห้องทำงานที่ถูกจัดระเบียบอย่างเรียบร้อย หล่อนถอดเสื้อคลุมออกและแขวนไว้ จากนั้นก็หยิบมือถือเปิดขึ้นมาอ่านข้อความ จู่ๆลู่เหยาก็โทรเข้ามา ไป๋เสว่เอ๋อไม่ได้คิดอะไรมาก จึงกดปุ่มรับสายทันที
“รุ่นพี่”
เสียงของลู่เหยาฟังดูมีความสุข “เสว่เอ๋อ เรื่องการชนะประมูล เธอรู้รึยัง?”
ไป๋เสว่เอ๋อยิ้ม “ฉันทราบแล้วค่ะ ยินดีด้วยนะคะรุ่นพี่”
“การประมูลครั้งนี้เธอช่วยได้เยอะเลย รอให้ผมจัดการเรื่องทางนี้ให้เรียบร้อยก่อน แล้วพวกเราจัดงานเลี้ยงฉลองกันสักครั้ง”
“งานเลี้ยงฉลองต้องจัดแน่นอนค่ะ ถึงตอนนี้พวกเราจะจัดเตรียมงานอย่างละเอียด….”
ขณะที่ไป๋เสว่เอ๋อกำลังพูด ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงบางอย่างจากด้านนอก หล่อนรีบลุกขึ้นทันที เดินออกไปหน้าประตู
เมื่อลู่เหยาไม่ได้ยินเสียงของไป๋เสว่เอ๋อ เขารีบถามขึ้นทันที “เสว่เอ๋อ? เป็นอะไรรึเปล่า?”
ไป๋เสว่เอ๋อยืนอยู่ด้านหน้าของหน้าต่าง เมื่อมองออกไปด้านนอกเห็นเผยอี้กำลังโต้เถียงบางอย่างกับเสี่ยวจางอยู่
เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ผิดปกติ หล่อนสูดหายใจเข้าลึก รีบพูดกับคู่สายทันที “รุ่นพี่คะ แค่นี้ก่อนนะ ทางนี้มีเรื่องที่ฉันต้องไปจัดการ”
หลังจากพูดจบ หล่อนก็วางสายลงทันที จากนั้นเดินไปที่ประตู เปิดประตูห้องทำงานออก
“เกิดอะไรขึ้น?”
สีหน้าของเสี่ยวจางแดงฉาด ในมือของหล่อนกอดเอกสารอยู่กองหนึ่ง กันเผยอี้ไว้ไม่ให้เขาเดินเข้ามา
สีหน้าของเผยอี้นิ่งขรึม เมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาเงยหน้าหันมาทางหล่อน เมื่อเห็นไป๋เสว่เอ๋อ เขาขมวดคิ้วขึ้น พูดด้วยเสียงนิ่งขรึม
“ไป๋เสว่เอ๋อ ฉันมีเรื่องต้องคุยกับเธอ”
ไป๋เสว่เอ๋อเดินเข้าไปรับเอกสารในมือของเสี่ยวจาง พูดขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา “เสี่ยวจาง เธอกลับไปทำงานก่อน เรื่องทางนี้ฉันจัดการเอง”
เสี่ยวจางลังเลสักพัก แต่สุดท้ายก็ยอมพยักหน้าตอบรับ “โอเคค่ะ”
เมือเสี่ยวจางกลับไป เผยอี้จองไปที่ใบหน้าของไป๋เสว่เอ๋อ พูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “พวกเธอช่างเลวไร้ศีลธรรม!”
จู่ๆก็ถูกด่าโดยไม่มีสาเหตุ ไป๋เสว่เอ๋อรู้สึกมึนงงไปหมด หล่อนขมวดคิ้วขึ้น ย้อนถามเผยอี้ “ฉันทำอะไรเหรอ?”
เผยอี้พูดย้ำอีกครั้ง “เพื่อที่จะชนะประมูล เผยลี่เชินช่างเลวยิ่งนัก! ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีหรือต้องทำอะไรก็ช่างกล้าทำออกมาได้!”
“การประมูลคือการแข่งขันโดยใช้ความสามารถของตัวเอง นายบอกว่าพวกเราเลวไม่มีศีลธรรม งั้นนายไม่เลวหรือไง? รองประธานเผย นายไม่ใช่เด็กเล็กๆแล้วนะ ตัวเองไม่มีความสามารถมากพอแล้วจะมาต่อว่าใส่ร้ายคนอื่น ไร้สาระสิ้นดี”
ไป๋เสว่เอ๋อทิ้งท้ายคำพูดไว้เช่นนั้น พร้อมกับเดินหันหลังกลับไปที่ห้องทำงานโดยไม่คิดลังเลเลยแม้แต่น้อย
เผยอี้หัวเราะเยาะ เดินตามหล่อนเข้าไปในห้องทำงาน “ไป๋เสว่เอ๋อ เธอรู้ความจริงเรื่องการชนะประมูลรึเปล่า? ต้องให้ฉันเล่าเบื้องหลังของเรื่องนี้ให้ฟังไหม?”
ไป๋เสว่เอ๋อปฏิเสธเขาอย่างไร้เยื่อใย ไม่หันไปมองเขาสักนิด “ไม่ต้อง ฉันไม่สนใจ”
เผยอี้ฟึดฟัดโมโห จากนั้นพูดต่อ “แต่ฉันจำเป็นต้องให้เธอรู้! เดิมทีฉันกับเสิ่นหรูเฟิงได้การช่วยเหลือจากประธานเฝิง เขาให้ความสำคัญกับเอกสารการประมูลของพวกเรามาก ทั้งยังแนะนำคนรู้จักให้เป็นพิเศษ ไม่ว่าใครฝ่ายไหน เราได้ทำความรู้จักกันหมดเรียบร้อย! ทุกคนต่างมั่นใจว่าพวกเราจะชนะประมูลครั้งนี้ แต่ท้ายสุด เรื่องทั้งหมดก็กลับตาลปัตร!”
เผยอี้เดินไปที่หน้าโต๊ะทำงานของหล่อน มือทั้งสองค้ำลงบนโต๊ะ ก้มมองไป๋เสว่เอ๋อลงมา จากนั้นเริ่มพูดต่อ “เหตุผลทั้งหมดเป็นเพราะเผยลี่เชิน เขาให้จินจิงจิงไปดื่มแทนฉัน นำรูปที่ฉันทำความรู้จักกับบุคคลต่างๆไปส่งให้กลับประธานฉินของรัฐวิสาหกิจ ทำให้รายชื่อของบุคคลที่ชนะการประมูลตอนแรกเกิดการเปลี่ยนแปลง! เธอคิดว่าเขาเลวไหมล่ะ?”
ได้ยินเช่นนั้น ไป๋เสว่เอ๋อขมวดคิ้วขึ้น รู้สึกสับสนไปหมด
“ฉันกับเสิ่นหรูเฟิงไปทำความรู้จักกับบุคคลที่เกี่ยวข้องในตอนแรก แต่สุดท้าย เขามาทำให้ชะตาฉันขาด เขาทำลายความพยายามที่ฉันทุ่มเทมาตั้งแต่ต้นจนไม่เหลืออะไร! หวังผลจากคนอื่นโดยไม่ทำอะไร! ” เผยอี้ยิ้มเย้ย “สิ่งที่น่าขันไปมากกว่านั้น ฉัน เสิ่นหรูเฟิง และ จินจิงจิง เป็นเพียงแค่หมากเดินเกมส์ของเขาเท่านั้น พอเขาเดินเกมส์ทั้งหมดเสร็จ ก็รอให้พวกเราเดินออกไปเอง!”
“เป็นไปไม่ได้” ไป๋เสว่เอ๋อบอกปัดทันที “เขาไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้แน่นอน!”
“ไป๋เสว่เอ๋อ เธอประเมินเขาต่ำไปจริงๆ! เพียงแต่…..”
เผยอี้ลากเสียงยาว มองดูสายตาของไป๋เสว่เอ๋อที่สับสนมากขึ้น “สิ่งที่ทำให้ฉันคิดไม่ถึงที่สุดก็คือ เขาโกหกเธอด้วย!”
คำพูดทิ้งท้ายของเขาราวกับเข็มแหลมคมที่ทิ่มแทงลงไปในใจหล่อน หล่อนรู้สึกวูบวาบขึ้นมาทันที คิดจนสับสนไปหมด
เผยอี้ลุกขึ้น หัวเราะเยาะใส่หล่อน “พี่ชายของฉันคนนี้ ร้ายกว่าที่ฉันคิดไว้เยอะ! ทุกคนที่อยู่ในกำมือของเขา ก็เหมือนหมากเดินเกมส์ตัวหนึ่งแค่นั้น เธอเป็นแฟนของเขา ทำไมจะไม่ใช่หนึ่งในหมากในเกมส์ของเขาล่ะ?”
เมื่อพูดจบ เผยอี้ก็หันหลังเดินออกจากห้องทำงานไป
ไป๋เสว่เอ๋อนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน ในหัวของหล่อนครุ่นคิดถึงคำพูดของเผยอี้ไม่หยุด
สิ่งที่เขาพูดมาเป็นเรื่องจริงงั้นเหรอ?
ก่อนหน้านี้ เผยลี่เชินไม่ค่อยได้ไปทำความรู้จักกลับใครจริงๆ แต่เมื่อผลออกมาวันนี้ สำหรับหล่อนแล้ว เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมาก
เมื่อนึกย้อนไปถึงคำพูดพวกนั้นของเฝิงชิ่งหมิง จู่ๆ ไป๋เสว่เอ๋อก็รู้สึกสับสนมากขึ้นไปอีก
ถ้าเป็นแบบที่เผยอี้พูดจริงๆ การที่เผยลี่เชินทำแบบนี้ จะไปต่างอะไรกับพวกเสิ่นหรูเฟิงล่ะ? เผยลี่เชินเป็นเช่นนี้ ทำให้หล่อนรู้สึกหวาดกลัวจนขนลุกไปทั้งตัว
“ปั้งๆ”
เสียงเคาะประตูทำให้ไป๋เสว่เอ๋อได้สติขึ้นมา หล่อนเงยหน้าขึ้นมองไปที่เจียงหวั่นหวั่นที่อยู่หน้าประตู รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “หวั่นหวั่น เธอมาได้ไงเนี่ย?”
“เสว่เอ๋อ!” ตาของเจียงหวั่นหวั่นแดงก่ำ สีหน้าอันยิ้มแย้มของหล่อนในทุกๆวัน กลับเปลี่ยนเป็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาอันโศกเศร้าเดินเข้ามาในห้องทำงาน “คนที่ฉันเจอ มันเป็นผู้ชายเลวทราม….”
เมื่อเห็นเจียงหวั่นหวั่นร้องไห้ฟูมฟาย ไป๋เสว่เอ๋อจึงรีบลุกขึ้นไปหา เอ่ยปากถาม “เกิดอะไรขึ้น?”
“เซียววี่ หมอนั่นเป็นผู้ชายเลวทราม! เจอกันกับฉันครั้งแรกก็บอกว่าจะคบกับฉัน ตอนแรกฉันดีใจมาก แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะบังเอิญไปเห็นวีแชทของเขาที่กำลังคุยหยอกล้อกับผู้หญิงคนอื่นอีกสี่ห้าคน! ฉันตกใจจนหนีออกมาเลย! ”
เมื่อได้ฟังเช่นนั้น ไป๋เสว่เอ๋อเบิกตากว้างถามต่อ “ว่างไงนะ? นี่มันทำกันเกินไปขนาดนี้เลยเหรอ?”
ไม่รีรอให้เจียงหวั่นหวั่นตอบ ไป๋เสว่เอ๋อก็นึกอะไรขึ้นมาได้ ถามหล่อนต่อ “เขาล่วงเกินอะไรเธอรึเปล่า!”