สัญญาร้ายของประธานปีศาจ – ตอนที่ 319

ตอนที่ 319

ตอนที่ 319 เลิกไปเป็นกว้างขวางคอคนอื่นเสียที

โจ๋วฝันนั้นเล่นกังฟูเป็น เมื่อเขาเห็นมือของหญิงสาวกำลังเคลื่อนลงมา เขาก็ใช้แขนของเขากันมือของเธอเอาไว้โดยไม่ลังเล

มือของจินจิงจิงกระแทกลงไปบนแขนอันเรียวเล็กที่แข็งแรงของชายหนุ่มอย่างรุนแรง ใบหน้าของเธอนั้นเจ็บปวดอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นเธอก็ด่าทอต่อไปและไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

ทันใดนั้น ก็มีผู้หญิงคนนั้นวิ่งเข้ามา และคว้าตัวจินจิงจิงไว้จากทางด้านหลัง พร้อมกับพูดโน้มน้าวเธอเบาๆ ว่า “พอแล้วจินจิงจิง เลิกก่อเรื่องได้แล้ว! มีหลายคนกำลังมองเธออยู่นะ!”

“ปล่อยนะ ไป๋หนิง! ไหนบอกสิว่าฉันโชคร้ายแค่ไหน ไปที่ไหนก็เจอแต่นังโสเภณีคนนี้เสมอ!”

ขณะที่ไป๋เสว่เอ๋อร์กำลังยืนอยู่ด้านหลังของโจ๋วฝันและมองดูสถานการณ์นี้อยู่นั้น สีหน้าของเธอก็ยิ่งเย็นชามากขึ้น เธอกำหมัดแน่น ความโกรธปะทุขึ้นมาภายในหัวใจของเธอ จนแทบจะไม่สามารถอดกลั้นเอาไว้ได้อีกต่อไป

เธอไม่เคยยั่วโมโหจินจิงจิงเลยสักครั้ง แต่ทว่าจินจิงจิงกลับไม่ยอมที่จะวางมือจากเธอเลย โชคดีแค่ไหนที่เธอเคยตกปากรับคำคุณพ่อเผยและยอมโน้มน้าวเผยอี้ให้จินจิงจิง สุดท้ายแล้ว กลับไม่มีประโยชน์อะไรเลยสักนิดเดียว!

“คุณจินคะ ฉันจะแนะนำอะไรให้คุณอย่างหนึ่ง แทนที่คุณจะมาระเบิดความโกรธอย่างไร้สติที่นี่ คุณน่าจะกลับไปคิดให้ดีว่าจะทำอย่างไรถึงจะสามารถมัดใจผู้ชายของตัวเองเอาไว้ได้ดีกว่าค่ะ! แต่การที่คุณมีพฤติกรรมแบบนี้ ฉันเองก็เข้าใจได้ค่ะ เพราะถ้าเกิดว่าฉันมีสามีที่อยากจะขอหย่ากับฉันทั้งเช้าและเย็นแบบนั้น ฉันเองก็คงจะนั่งไม่ติดเก้าอี้แน่นอน คงจะต้องเป็นบ้าตายก่อนแน่ค่ะ!”

หลังจากพูดจบเรียบร้อยแล้ว ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็หันหลังกลับไปอย่างไม่ลังเล จากนั้นเธอก็ดึงตัวโจ๋วฝัน และมองไปที่เจียงหวั่นหวั่น พร้อมกับพูดว่า “โจ๋วฝัน หวั่นหวั่น พวกเราไปกันเถอะ อย่ามัวมายืนขวางหูขวางตาของใครบางคน!”

ขณะที่เธอกำลังมองแผ่นหลังของทั้งสามคนเดินจากไป จินจิงจิงรู้สึกเหมือนว่าโดนใครบางคนตบเข้าให้ที่หน้าอย่างจัง “ไป๋หนิง! ปล่อยฉัน! ฉันจะต้องไปสั่งสอนยัยคนนิสัยต่ำตมนั่นให้มันรู้สำนึกเสียบ้าง!”

หลังจากที่เดินออกไปจากร้านอาหาร เสียงของจินจิงจิงที่พวกเขาได้ยินนั้นก็ค่อยๆ เบาลงและหายไป ไป๋เสว่เอ๋อร์ถอนหายใจด้วยความโล่งอกอย่างเงียบๆ ขณะที่เธอกำลังจะก้าวไปข้างหน้า ทันใดนั้น เธอก็ได้ยินเสียงหัวเราะดังขึ้นมาจากข้างลำตัว

ไป๋เสว่เอ๋อร์มองดูเจียงหวั่นหวั่นอย่างประหลาดใจ เธอเอ่ยปากถามเพื่อนสนิทของเธอไปว่า “หัวเราะอะไรน่ะ”

“เสว่เอ๋อร์! เมื่อกี้เธอหล่อมากเลยล่ะ เธอคงจะไม่เห็น แต่ว่าตอนที่เธอหันหลังเดินออกมาเมื่อครู่นี้ หน้าของจินจิงจิงเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มเหมือนเลือดหมูเลยนะ!”

ขณะที่เธอกำลังมองเจียงหวั่นหวั่นขำท้องแข็งอยู่นั้น ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็อดไม่ได้ที่จะระเบิดเสียงหัวเราะของเธอออกมาด้วย

โจ๋วฝันที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ขำไม่หยุด “ใช่ พี่เสว่เอ๋อร์ เมื่อกี้พี่จัดการจินจิงจิงซะอยู่หมัดเลย!”

ขณะที่พวกเขากำลังเดินอยู่บนถนนสายเล็กๆ ที่พาพวกเขาไปยังทิศทางตรงกันข้ามของร้านอาหาร ทั้งสามคนพลางเดินพลางหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน เมื่อย้อนกลับไปคิดถึงปฏิกิริยาของจินจิงจิงเมื่อครู่นี้แล้ว ก็ไม่สามารถที่จะหยุดเสียงหัวเราะเอาไว้ได้เลย

เมื่อโจ๋วฝันเห็นว่ามีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งกำลังเดินมาทางพวกเขาอยู่ไกลๆ เขาก็รีบหุบยิ้มในทันที พร้อมกับกระซิบเตือนไป๋เสว่เอ๋อร์เช่นกัน “พี่เสว่เอ๋อร์……”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ยังคงจดจ่อฟังเจียงหวั่นหวั่นเล่าถึงฉากการตอบโต้ของเธอเมื่อครู่นี้อยู่ ทำให้เธอไม่ได้ยินอะไรอย่างอื่นเลย และเธอเองก็ไม่ได้สังเกตเลยว่ามีคนกลุ่มหนึ่งกำลังเดินมาทางนี้ด้วย

“เสว่เอ๋อร์ เธอไม่รู้ตัวเหรอว่า เมื่อกี้จินจิงจิงเกลียดเธอมากจนแทบจะกินเธอเข้าไปทั้งตัวแล้วนะ!”

“จริงเหรอ ฉันแค่รู้ว่าตัวเองโกรธจัดจนหัวแทบจะระเบิด เลยไม่ได้สนใจมองสักนิดเลยว่าผู้หญิงคนนั้นมีท่าทียังไงบ้าง!”

“……”

“มีอะไรเหรอ หัวเราะกันใหญ่เชียว”

เมื่อได้ยินเสียงทุ้มต่ำอันคุ้นเคยดังขึ้นมา ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็ชะงักไปในทันที เมื่อเธอหันศีรษะมามอง เธอก็เห็นเผยลี่เชินที่ยืนอยู่ไม่ไกล ทันใดนั้น เธอก็ยืนช็อกไปในทันที

เขา…มาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไรกันน่ะ ทำไมเธอถึงได้ไม่สังเกตเห็นเขาเลย

ดวงตาของเผยลี่เชินเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เขาเดินเข้าไปยืนอยู่ที่หน้าของหญิงสาว เขาเลิกคิ้วขึ้น จากนั้นก็รอให้หญิงสาวตอบเขากลับมา “หืม”

“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ” ไป๋เสว่เอ๋อร์รีบตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นเธอก็รีบมองไปที่โจ๋วฝันและเจียงหวั่นหวั่นที่ยืนอยู่ข้างๆ ในทันที “พวกเราก็แค่กำลังคุยเรื่องตลกกันอยู่น่ะค่ะ”

หลังจากจับความผิดปกติเล็กน้อยบนใบหน้าของหญิงสาวได้ การที่เธอตอบเขากลับมาแบบนี้นั้น ทำให้เผยลี่เชินไม่เชื่อคำตอบของเธอขึ้นมาในทันที

เขาเลิกคิ้วขึ้น “พวกเราไปเดินดูห้องเก็บไวน์เสร็จแล้ว ก็เลยเดินมาหาพวกคุณที่นี่”

เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มไม่ได้อยากรู้อะไรมากนัก ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็รู้สึกโล่งใจอย่างเงียบๆ ถ้าเกิดเผยลี่เชินรู้เข้าว่าเมื่อกี้เธอเพิ่งทำสงครามน้ำลายฉอดตอบโต้กับจินจิงจิงมาล่ะก็ เกรงว่าเขาคงจะไม่มีความสุขเท่าไรนัก เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ อย่าบอกให้เขารู้เลยจะดีเสียกว่า

ไป๋เสว่เอ๋อร์พยักหน้า จากนั้น เธอก็เงยหน้าขึ้นมองโดยบังเอิญ และก็เห็น Sara ยืนอยู่ไม่ไกลนัก ทันใดนั้น เธอก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย “Sara คุณก็มาด้วยเหรอคะ”

Sara เดินไปหาหญิงสาวพร้อมรอยยิ้ม ที่ข้างกายของเธอนั้นยังมีหญิงสาวต่างชาติผมสีบลอนด์ตาสีฟ้ายืนอยู่ด้วย ทั้งสองคนจับมือของกันและกัน ใบหน้าของพวกเธอยิ้มแย้มร่าเริง

“ก็ท่านประธานเผยบอกว่ามันไม่ง่ายนักที่จะได้ออกมาเที่ยวแบบนี้ เขาก็เลยพาฉันมาด้วย! ส่วนฉันก็เลยพาแฟนสาวของฉันมาด้วยอีกคน!”

ขณะที่ Sara พูดอยู่นั้น เธอก็เลิกคิ้วขึ้น และมองไปที่หญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างตัวเธอ พร้อมกับยิ้มหวานออกมา

ไป๋เสว่เอ๋อร์มองไปที่พวกเขาทั้งสองคน จากนั้นก็ยิ้มออกมา “ดีออกค่ะ”

เมื่อทุกคนมารวมตัวกัน บรรยากาศก็กลับมามีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง เผยลี่เชินอาศัยจังหวะนี้ในการโอบเอวของไป๋เสว่เอ๋อร์ จากนั้น เขาก็โน้มศีรษะลงพร้อมกับกระซิบเบาๆ ว่า “พวกเราออกไปเดินเล่นกัน 2 คนเถอะ”

ไป๋เสว่เอ๋อร์มองดูเจียงหวั่นหวั่นที่ยืนอยู่ข้างเธอ เธอรู้สึกลังเลเล็กน้อย “แต่ว่าหวั่นหวั่น…….”

เผยลี่เชินโอบเอวของหญิงสาวแน่นขึ้นอีก จากนั้นก็ยิ้มและพูดอย่างเด็ดเดี่ยวว่า “ไม่มีคำว่าแต่ ผมจะให้กู้หลี่เหลียงคอยดูแลเธอเอง คุณไปกับผมก็แล้วกันนะ”

ขณะที่เขาพูดอยู่นั้น เขาก็ดึงตัวไป๋เสว่เอ๋อร์เดินไปที่ถนนสายเล็กๆ ที่อยู่ด้านข้างในทันที

เมื่อเห็นว่าพวกเขาทั้งสองคนกำลังเดินไปยังถนนเส้นนั้นเพียงลำพัง เจียงหวั่นหวั่นก็อึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นเธอก็มองไปรอบๆ นอกจากโจ๋วฝันแล้ว ดูเหมือนว่าเธอก็ไม่รู้จักคนอื่นที่ยืนอยู่ตรงนี้เลย

เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ขณะที่เธอกำลังจะเดินไปเพื่อตามสองคนนั้นให้ทัน ทันใดนั้น คอของเธอก็รู้สึกแน่นขึ้นมา หมวกของเธอถูกใครบางคนดึงจากด้านหลังเข้าให้เสียแล้ว

เมื่อเธอหันหลังกลับไป เธอก็มองเห็นกู้หลี่เหลียงกำลังยิ้มแย้มอย่างสาแก่ใจอยู่ “คู่รักหนุ่มสาวเขาจะจู๋จี๋กัน คุณจะไปทำอะไรน่ะ ไปเป็นกว้างขวางคอพวกเขางั้นเหรอ”

ภายในหัวใจของเจียงหวั่นหวั่นรู้สึกกลัวเล็กน้อย คำพูดของเธอดูไม่ค่อยปะติดปะต่อเท่าไรนัก “คุณ… คุณปล่อยฉันนะ!”

กู้หลี่เหลียงเลิกคิ้วขึ้น และยังคงไม่ปล่อยมือจากหญิงสาวเหมือนเช่นเดิม “ไม่ปล่อย! เธอต้องรู้จักเลิกไปเป็นกว้างขวางคอคนอื่นได้แล้ว!”

ขณะที่เขาพูดอยู่นั้น เขาก็จงใจดึงปีกหมวกของหญิงสาวเอาไว้โดยไม่คิดที่จะปล่อยมือ

ใบหน้าของเจียงหวั่นหวั่นเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ เมื่อเห็นว่าทั้งสองคนนั้นกำลังเดินไปไกลแล้ว เธอจึงทำได้เพียงหันไปหาโจ๋วฝันที่ยืนอยู่ข้างๆ เพื่อขอความช่วยเหลือ “โจ๋วฝัน มาช่วยฉันเร็วเข้า!”

โจ๋วฝันรู้สึกลังเลอยู่บ้าง เขามองไปที่กู้หลี่เหลียง และไม่ยอมพูดอะไร จากนั้นกู้เหลี่เหลียงก็จับคางของเขายกขึ้น “นายตาม Sara ไปเถอะ มีงานบางอย่างที่ต้องให้นายช่วยทำ”

“ครับ” โจ๋วฝันพยักหน้า เขาเดินตาม Sara ไปทางด้านข้างตามคำสั่งของกู้หลี่เหลียง

ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นดูเหมือนกับว่าพวกเขาได้รับคำสั่งอะไรบางอย่างมา ทุกคนต่างเดินตาม Sara ไปยังอีกด้านกันหมด มีเพียงเจียงหวั่นหวั่นเท่านั้นที่มืดแปดด้านและดูไม่รู้เรื่องราวอะไรเอาเสียเลย

“พวกคุณ…..คิดจะทำอะไรกันแน่” เจียงหวั่นหวั่นรู้สึกกลัวและประหลาดใจในเวลาเดียวกัน “กู้…กู้หลี่เหลียง คุณปล่อยฉันก่อนเถอะน่า!”

“ไม่ปล่อย! คุณต้องไปกับผม!” กู้หลี่เหลียงดึงปีกหมวกของหญิงสาว และพาเธอเดินไปยังอีกด้านหนึ่ง “ลี่เชินกำชับผมไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าให้ผมคอยดูแลคุณ และอย่าให้คุณทำเสียเรื่องเด็ดขาด!”

เผยลี่เชินรู้ดีว่าเจียงหวั่นหวั่นเป็นคนไม่ค่อยระมัดระวังเหมือนม้าดีดกะโหลก แถมยังเป็นคนที่พูดจาตรงไปตรงมา เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่บอกเรื่องแผนการขอแต่งงานของเขาให้เธอได้รับรู้ นอกจากนั้น เขายังกำชับสั่งให้กู้หลี่เหลียงคอบจับตาดูแลเธอเป็นอย่างดี

“ฉัน…ฉันจะทำอะไรงั้นเหรอ ฉันจะเสียเรื่องอะไรกันน่ะ” เจียงหวั่นหวั่นรู้สึกสับสน แต่กู้หลี่เหลียงก็ดึงเสื้อผ้าของเธอเอาไว้ ทำให้เธอต้องตามเขาไปอย่างช่วยไม่ได้

อีกด้านหนึ่ง เผยลี่เชินกำลังเดินโอบไป๋เสว่เอ๋อร์และเดินเล่นไปด้วยกัน ทันใดนั้น เขาก็หยุดเดิน และเอ่ยปากถามออกมาอย่างแผ่วเบาว่า “เมื่อกี้คุณทะเลาะกับจินจิงจิงมาเหรอ”

เมื่อได้ยินชายหนุ่มจู่ๆ ถามขึ้นมาแบบนี้ ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็ตกใจขึ้นมาในทันที “คุณ…รู้ได้อย่างไรคะ”

ทันทีที่เธอทะเลาะกับจินจิงจิงเสร็จแล้ว เธอก็เดินออกมาจากร้านอาหารได้ไม่ไกลนัก แล้วก็บังเอิญพบกับเขาเข้าอย่างไม่ทันตั้งตัว เพราะฉะนั้นเขาไม่น่าจะรู้เรื่องนั้นได้เร็วขนาดนี้นะ……

“ที่นี่คือคฤหาสน์ส่วนตัวของเพื่อน กู้หลี่เหลียง หากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นแล้วล่ะก็ คุณคิดว่าผมจะไม่รู้อย่างนั้นเหรอ” เผยลี่เชินยกมือขึ้นมาจับคางของหญิงสาว พร้อมกับเอ่ยปากถามเธอว่า “เดี๋ยวนี้คุณปีกกล้าขาแข็งแล้วสินะ แม้แต่ตอนนี้คุณก็รู้จักโกหกผมแล้วงั้นเหรอ”

เมื่อถูกชายหนุ่มพูดจาแบบนี้เข้า แก้มทั้งสองข้างของไป๋เสว่เอ๋อร์ก็อดไม่ได้ที่จะร้อนจี๋ขึ้นมา เดิมทีเธอคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อยเลยไม่คิดที่จะเล่าเรื่องนี้ให้ชายหนุ่มฟัง แต่เธอกลับคาดไม่ถึงว่า เขาจะรู้เรื่องราวนี้อยู่ก่อนแล้ว

หลังจากที่หยิกแก้มทั้งสองข้างของหญิงสาวอย่างเบามือแล้ว เผยลี่เชินก็เลิกคิ้วขึ้น พร้อมกับเอ่ยปากถามอย่างแผ่วเบาว่า “ไหนคุณบอกมาสิ ว่าผมควรจะลงโทษคุณยังไงดี

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

Status: Ongoing

บริษัทไป๋ซื่อเกิดเรื่องใหญ่ในด้านการเงิน พ่อของเธอถูกตำรวจพาไป แม่ของเธอก็ป่วย ร่างกายยิ่งอ่อนแอขึ้น เธอต้องการเงิน ต้องการหลักฐาน นอกจากเผยอี้แล้ว เธอนึกไม่ออกว่ายังมีใครที่จะสามารถช่วยเธอได้ แต่สุดท้าย เธอเพียงแค่ได้รับความเยาะเย้ยจากเขา ยังดีที่เผยลี่เชินออกมาช่วยเธอตอนที่เธอสิ้นหวัง ไป๋เสว่เอ๋อร์มอบตัวเองให้กับเขา แต่ความสัมพันธ์ของสองคนกลับยังไม่จบ พวกเขาจะมีเรื่องอะไรกันต่อนะ? คำแนะนำนวนิยาย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน